อบรมออนไลน์รับเกียรติบัตร หลักสูตรการเขียนโปรแกรมภาษา Python (Coding Online for Teacher Plus: C4T Plus-Python)รับเกียรติบัตรฟรี 16 ชั่วโมง โดย สสวท. สมัครอบรมได้ถึง 31 กรกฎาคม 2566

สสวท. ขอเชิญครูประถมศึกษาและมัธยมศึกษา อบรมออนไลน์ออนไลน์รับเกียรติบัตร “หลักสูตร การเขียนโปรแกรมภาษา Python (Coding Online for Teacher Plus: C4T Plus-Python) รุ่นที่ 4

พลิกโฉมการสอนสู่ยุคดิจิทัล หลักสูตร C4T Plus-Python สุดยอดคอร์สเรียนเขียนโปรแกรมสำหรับครู

ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกมิติของชีวิต การศึกษาเป็นอีกหนึ่งแวดวงที่ต้องปรับตัวเพื่อสร้างพลเมืองที่พร้อมสำหรับอนาคต ทักษะการเขียนโปรแกรมหรือโค้ดดิ้ง (Coding) ได้กลายเป็นหนึ่งในทักษะพื้นฐานที่จำเป็นอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่สำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ แต่ยังรวมถึงบุคลากรในทุกสาขาอาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ครู” ผู้เป็นแม่พิมพ์ของชาติ การมีความรู้ความเข้าใจในด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ จะช่วยเปิดโลกทัศน์และสร้างสรรค์กระบวนการเรียนรู้รูปแบบใหม่ๆ ให้กับผู้เรียนได้อย่างมหาศาล สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญนี้ จึงได้พัฒนา หลักสูตรการเขียนโปรแกรมภาษา Python (Coding Online for Teacher Plus: C4T Plus-Python) ขึ้น เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับศักยภาพครูไทยให้ก้าวทันโลกแห่งเทคโนโลยี

หลักสูตร C4T Plus-Python ไม่ใช่เป็นเพียงคอร์สเรียนเขียนโปรแกรมออนไลน์ธรรมดาทั่วไป แต่เป็นหลักสูตรที่ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน โดยมุ่งเน้นที่กลุ่มเป้าหมายคือ “คุณครู” โดยเฉพาะ เนื้อหาจึงไม่ได้ซับซ้อนหรือเน้นไปที่การสร้างโปรแกรมเมอร์มืออาชีพ แต่เป็นการปูพื้นฐานความเข้าใจในหลักการคิดเชิงคำนวณ (Computational Thinking) และตรรกะการทำงานของคอมพิวเตอร์ผ่านภาษาไพทอน (Python) ซึ่งเป็นภาษาโปรแกรมที่ได้รับความนิยมสูง มีโครงสร้างไม่ซับซ้อน ง่ายต่อการเรียนรู้ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างกว้างขวาง ตั้งแต่การวิเคราะห์ข้อมูล การสร้างเว็บแอปพลิเคชัน ไปจนถึงการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำให้ครูผู้สอนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดและบูรณาการเข้ากับการเรียนการสอนในวิชาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สังคมศาสตร์ หรือแม้แต่ศิลปะ

หัวใจสำคัญของหลักสูตรนี้คือการเรียนรู้แบบออนไลน์ 100% ผ่านแพลตฟอร์มที่ทันสมัยของ สสวท. ซึ่งเปิดโอกาสให้คุณครูทั่วประเทศสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ได้อย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาและสถานที่ สามารถจัดสรรเวลาเรียนได้ตามความสะดวกของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาหลังเลิกเรียน วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือช่วงปิดภาคเรียน ทำให้ไม่กระทบต่อภาระงานสอนประจำ การเรียนรู้ประกอบด้วยวิดีโอการสอนที่อัดแน่นด้วยคุณภาพ ถ่ายทอดโดยคณาจารย์และผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ตรง เนื้อหาถูกแบ่งออกเป็นหน่วยการเรียนรู้ย่อยๆ ที่เข้าใจง่าย มีการยกตัวอย่างที่ใกล้ตัวและเห็นภาพได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังมีเอกสารประกอบการเรียนรู้ที่สามารถดาวน์โหลดเก็บไว้อ่านทบทวนได้ตลอดเวลา

สิ่งที่ทำให้หลักสูตร C4T Plus-Python มีความพิเศษและแตกต่างจากคอร์สเรียนออนไลน์อื่นๆ คือการมีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ที่หลากหลายและเน้นการลงมือปฏิบัติจริง ผู้เรียนไม่ได้เป็นเพียงผู้รับสารทางเดียว แต่จะได้ฝึกฝนทักษะการเขียนโค้ดผ่านแบบฝึกหัดและใบงานท้ายบทเรียน ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อทบทวนความเข้าใจและช่วยให้ผู้เรียนคุ้นเคยกับการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการคิดเชิงตรรกะ นอกจากนี้ ยังมีแบบทดสอบย่อย (Quiz) และแบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) เพื่อวัดผลความก้าวหน้าในการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญที่สุดคือการมี “วิทยากรที่ปรึกษา” หรือ Mentor ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำแนะนำ ตอบข้อซักถาม และให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เรียนตลอดหลักสูตร ผ่านช่องทางการสื่อสารออนไลน์ต่างๆ เช่น เว็บบอร์ด หรือกลุ่มสนทนา ทำให้ผู้เรียนรู้สึกอุ่นใจ ไม่โดดเดี่ยว และสามารถก้าวข้ามอุปสรรคในการเรียนรู้ไปได้อย่างราบรื่น เปรียบเสมือนมีโค้ชส่วนตัวคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

เนื้อหาในหลักสูตร C4T Plus-Python ครอบคลุมตั้งแต่พื้นฐานที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์การเขียนโปรแกรมมาก่อน เริ่มต้นด้วยการแนะนำให้รู้จักกับวิทยาการคอมพิวเตอร์และแนวคิดเชิงคำนวณ ซึ่งเป็นทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ อันเป็นรากฐานสำคัญของการเขียนโปรแกรมทุกภาษา จากนั้นจึงเข้าสู่การเรียนรู้ภาษา Python โดยเริ่มจากการติดตั้งโปรแกรมและเครื่องมือที่จำเป็น ทำความเข้าใจกับโครงสร้างและไวยากรณ์พื้นฐานของภาษา เช่น ตัวแปร (Variables) ชนิดของข้อมูล (Data Types) ตัวดำเนินการ (Operators) ไปจนถึงคำสั่งควบคุมทิศทางการทำงานของโปรแกรม เช่น คำสั่งเงื่อนไข (Conditional Statements) อย่าง if-else และคำสั่งวนซ้ำ (Looping) อย่าง for และ while ซึ่งเป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ทรงพลังในการสร้างโปรแกรมให้ทำงานตามที่เราต้องการได้

เมื่อผู้เรียนมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งแล้ว หลักสูตรจะนำเสนอหัวข้อที่ซับซ้อนและท้าทายมากยิ่งขึ้น เช่น การทำงานกับโครงสร้างข้อมูล (Data Structures) ประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ลิสต์ (List), ทูเพิล (Tuple), เซต (Set), และดิกชันนารี (Dictionary) ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดเก็บและจัดการข้อมูลจำนวนมากอย่างมีประสิทธิภาพ การเรียนรู้เรื่องฟังก์ชัน (Functions) จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถสร้างชุดคำสั่งที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ ทำให้โค้ดมีความเป็นระเบียบและง่ายต่อการแก้ไข นอกจากนี้ หลักสูตรยังสอดแทรกเนื้อหาเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ (Object-Oriented Programming: OOP) เบื้องต้น ซึ่งเป็นแนวคิดการเขียนโปรแกรมที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ช่วยให้สามารถสร้างโปรแกรมขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนได้อย่างเป็นระบบ

ความโดดเด่นของหลักสูตรนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่การสอนเขียนโค้ด แต่ยังเน้นย้ำถึงการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนจริง ในช่วงท้ายของหลักสูตร จะมีหัวข้อพิเศษที่ว่าด้วยการบูรณาการโค้ดดิ้งเข้ากับสาระวิชาต่างๆ หรือที่เรียกว่า “Coding in Content Area” มีการยกตัวอย่างโครงงานที่น่าสนใจ เช่น การใช้ Python เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติในวิชาคณิตศาสตร์ การสร้างแบบจำลองการแพร่กระจายของเชื้อโรคในวิชาวิทยาศาสตร์ การพัฒนาโปรแกรมแปลภาษาอย่างง่ายในวิชาภาษาอังกฤษ หรือแม้กระทั่งการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะดิจิทัล (Digital Art) ผ่านการเขียนโค้ดในวิชาศิลปะ แนวทางเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้การเรียนการสอนในห้องเรียนมีความน่าสนใจและทันสมัยมากขึ้น แต่ยังเป็นการปลูกฝังทักษะที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 ให้กับนักเรียนได้อย่างเป็นรูปธรรม ช่วยให้นักเรียนมองเห็นความเชื่อมโยงระหว่างความรู้ในตำรากับโลกแห่งความเป็นจริง และสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาสนใจในเทคโนโลยีและนวัตกรรมมากยิ่งขึ้น

เมื่อจบหลักสูตรและผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ ผู้เรียนจะได้รับ วุฒิบัตร (Certificate) จาก สสวท. ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความรู้ความสามารถและศักยภาพที่เพิ่มขึ้น วุฒิบัตรนี้สามารถนำไปใช้ประกอบการพิจารณาความดีความชอบ หรือเป็นส่วนหนึ่งของแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องของครูผู้สอน แต่สิ่งที่ล้ำค่าไปกว่าวุฒิบัตร คือองค์ความรู้และทักษะที่ติดตัว ซึ่งจะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้เกิดขึ้นในห้องเรียนและในวงการศึกษาไทย ครูที่ผ่านหลักสูตรนี้จะมีความมั่นใจในการใช้เทคโนโลยี สามารถออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่ท้าทายและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนได้อย่างเต็มศักยภาพ

โดยสรุป หลักสูตรการเขียนโปรแกรมภาษา Python (Coding Online for Teacher Plus: C4T Plus-Python) โดย สสวท. ถือเป็นโอกาสอันดีเยี่ยมสำหรับครูไทยทุกท่านที่ต้องการพัฒนาตนเองและก้าวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก เป็นหลักสูตรที่ไม่ได้มุ่งสร้างโปรแกรมเมอร์ แต่มุ่งสร้าง “ครูยุคใหม่” ที่มีความเข้าใจในเทคโนโลยี สามารถคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ และนำทักษะการเขียนโปรแกรมไปใช้เป็นเครื่องมือในการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ที่เปี่ยมด้วยความหมายและแรงบันดาลใจให้กับนักเรียน การลงทุนด้านเวลาเพื่อศึกษาในหลักสูตรนี้ จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ไม่เพียงแต่สำหรับตัวของคุณครูเอง แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของเด็กไทยและอนาคตของชาติอย่างแท้จริง หากคุณเป็นครูที่กำลังมองหาหนทางในการยกระดับการสอนของตนเองและเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนสำหรับโลกอนาคต หลักสูตร C4T Plus-Python คือคำตอบที่คุณไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด

***หลักสูตรผ่านการรับรองจาก ก.ค.ศ. แล้ว*** 

สมัครและอบรมได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2566 ที่เว็บไซต์ https://teacherpd.ipst.ac.th

เกี่ยวข้องกับหลักสูตร

เป็นหลักสูตรสำหรับผู้สอนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษา

  1. แนะนำหลักสูตรการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณสำหรับครูขั้นสูง (C4TPlus)
  2. กิจกรรมที่ 1 เริ่มต้นแก้ปัญหาด้วยภาษาไพทอน
  3. กิจกรรมที่ 2 การทำงานแบบมีทางเลือก วนซ้ำ และฟังก์ชัน
  4. กิจกรรมที่ 3 ลิสต์
  5. กิจกรรมที่ 4 การประยุกต์ใช้งานไพทอน
  6. กิจกรรมที่ 5 การพัฒนาแอปพลิเคชันเครื่องคิดเลขด้วย tkInter

จำนวนชั่วโมงเรียน

16 ชั่วโมง

เกณฑ์การผ่านการอบรม

เกณฑ์การผ่านมีคะแนนรวมแบบฝึกหัดและแบบทดสอบ 80% ขึ้นไป

-แบบฝึกหัดกิจกรรม 80% (ทำแบบฝึกหัดได้ 2 ครั้ง)

-แบบทดสอบประจำวิชา 20% (ทำแบบทดสอบได้ 2 ครั้ง)

คุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรม

  1. เป็นครูผู้สอนที่ได้รับมอบหมายให้สอนสาระเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในสถานศึกษาทุกสังกัด ทั่วประเทศ
  2. ศึกษานิเทศก์ หรือบุคลากรทางการศึกษา ที่สนใจศึกษาหาความรู้ด้านวิทยาการคำนวณและโค้ดดิ้ง
  3. มีความพร้อมในการเข้าร่วมศึกษาและทำกิจกรรมต่าง ๆ ในระบบการอบรม จนจบหลักสูตร
  4. ผ่านการทดสอบก่อนเรียน 50% ขึ้นไป (สามารถทำแบบทดสอบได้ 3 ครั้ง)

ข้อกำหนดเบื้องต้น

ผู้ที่จะเข้าศึกษาเนื้อหานี้ได้ต้องผ่านการทำแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) โดยทำได้จำนวน 3 ครั้ง และต้องได้คะแนนมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ จึงจะสามารถเข้าศึกษาในบทเรียนได้

ช่องทางเข้าอบรม

ขอบคุณแหล่งที่มา : สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 2

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ห้ามพลาด