สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิกทุกท่านครับ วันนี้ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ขอนำเสนอ อบรมออนไลน์รับเกียรติบัตร ขอเชิญลงทะเบียนฝึกอบรมโครงการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษสําหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาตามกรอบมาตรฐานความสามารถทางภาษาอังกฤษ (CEFR) และแบบทดสอบวัดระดับทักษะภาษาอังกฤษ (Placement Test)
อบรมออนไลน์รับเกียรติบัตร ขอเชิญลงทะเบียนฝึกอบรมโครงการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษสําหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาตามกรอบมาตรฐานความสามารถทางภาษาอังกฤษ (CEFR) และแบบทดสอบวัดระดับทักษะภาษาอังกฤษ (Placement Test)

การยกระดับมาตรฐานการศึกษาไทยด้วยโครงการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษสำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาตามกรอบ CEFR และการทดสอบวัดระดับความสามารถ
ในยุคโลกาภิวัตน์ที่การสื่อสารข้ามวัฒนธรรมมีความสำคัญมากขึ้น ความสามารถทางภาษาอังกฤษได้กลายเป็นทักษะสำคัญที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศและการเตรียมคนไทยให้พร้อมรับมือกับความท้าทายในศตวรรษที่ 21 การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของครูและบุคลากรทางการศึกษาจึงเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศไทยอย่างยั่งยืน
ความสำคัญของการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษสำหรับครู
การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษสำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาไม่ได้เป็นเพียงการเพิ่มพูนความรู้ด้านภาษา แต่เป็นการลงทุนในอนาคตของเยาวชนไทยและความแข่งขันของประเทศ ครูที่มีความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ดีจะสามารถถ่ายทอดความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เข้าถึงแหล่งข้อมูลและองค์ความรู้ที่ทันสมัยจากทั่วโลก และสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
ความสามารถทางภาษาอังกฤษของครูยังส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การสื่อสาร และการแก้ปัญหาของนักเรียน เมื่อครูมีความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษ พวกเขาจะสามารถนำเอาวิธีการสอนที่หลากหลายและทันสมัยมาใช้ในห้องเรียน รวมถึงการบูรณาการเทคโนโลยีและสื่อการสอนที่เป็นภาษาอังกฤษเข้าในกระบวนการเรียนการสอน
นอกจากนี้ การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของครูยังเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงของระบบการศึกษาในอนาคต ที่อาจมีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางในการสื่อสารมากขึ้น หรือการเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนทางการศึกษาระหว่างประเทศ ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานการศึกษาไทยให้เทียบเท่ากับนานาชาติ
กรอบมาตรฐานความสามารถทางภาษาอังกฤษ CEFR คืออะไร
Common European Framework of Reference for Languages หรือ CEFR เป็นกรอบมาตรฐานสากลที่ใช้วัดและอธิบายความสามารถทางภาษาต่างประเทศ ซึ่งได้รับการยอมรับและใช้งานอย่างแพร่หลายทั่วโลก กรอบ CEFR แบ่งระดับความสามารถทางภาษาออกเป็น 6 ระดับหลัก ได้แก่ A1, A2, B1, B2, C1, และ C2 โดยแต่ละระดับมีการกำหนดความสามารถที่ชัดเจนในด้านการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน
ระดับ A1 และ A2 ถือเป็นระดับผู้เริ่มต้น (Basic User) ที่ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์พื้นฐานได้ สามารถเข้าใจและใช้คำศัพท์ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน สร้างประโยคสั้นๆ และสื่อสารในเรื่องที่คุ้นเคยได้ ในขณะที่ระดับ B1 และ B2 เป็นระดับผู้ใช้อิสระ (Independent User) ที่สามารถเข้าใจเนื้อหาที่ซับซ้อนมากขึ้น แสดงความคิดเห็น อธิบายประเด็นต่างๆ และสื่อสารกับเจ้าของภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว
สำหรับระดับ C1 และ C2 เป็นระดับผู้ใช้ที่เชี่ยวชาญ (Proficient User) ที่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์ เข้าใจเนื้อหาที่ซับซ้อนและมีนัยยะลึกซึ้ง สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างชัดเจนและมีโครงสร้าง รวมถึงใช้ภาษาได้อย่างยืดหยุ่นและเหมาะสมกับบริบทต่างๆ
การใช้กรอบ CEFR ในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษสำหรับครูจะช่วยให้การวางแผนการฝึกอบรมมีความชัดเจนและตรงจุด ครูสามารถทราบระดับความสามารถปัจจุบันของตนเองและกำหนดเป้าหมายการพัฒนาที่เป็นรูปธรรม ขณะเดียวกัน ผู้บริหารการศึกษาก็สามารถวางแผนการพัฒนาบุคลากรได้อย่างเป็นระบบและมีมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
การทดสอบวัดระดับทักษะภาษาอังกฤษ Placement Test
Placement Test หรือการทดสอบจัดระดับเป็นเครื่องมือสำคัญในการประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษก่อนเริ่มโครงการฝึกอบรม การทดสอบนี้จะช่วยให้ทราบระดับความสามารถที่แท้จริงของผู้เข้าร่วมอบรม เพื่อจัดกลุ่มและกำหนดหลักสูตรที่เหมาะสมกับระดับของแต่ละบุคคล
การทดสอบจัดระดับที่มีคุณภาพจะต้องครอบคลุมทักษะทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน โดยข้อสอบจะมีความหลากหลายในรูปแบบ เช่น การเลือกตอบ การเติมคำ การเขียนประโยค การสนทนา และการนำเสนอ ซึ่งจะช่วยให้ได้ภาพรวมความสามารถที่ครอบคลุมและแม่นยำ
ผลจากการทดสอบจัดระดับจะช่วยให้ผู้จัดโครงการสามารถออกแบบหลักสูตรที่มีความเหมาะสมและท้าทายในระดับที่เหมาะสม ไม่ยากเกินไปจนทำให้ผู้เรียนท้อแท้ และไม่ง่ายเกินไปจนขาดแรงจูงใจในการเรียนรู้ การจัดกลุ่มตามระดับความสามารถยังช่วยให้การฝึกอบรมมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะผู้เรียนสามารถพัฒนาไปด้วยกันในจังหวะที่เหมาะสม
นอกจากนี้ การทดสอบจัดระดับยังเป็นเครื่องมือในการติดตามผลการพัฒนาของผู้เข้ารับการฝึกอบรม โดยสามารถนำมาเปรียบเทียบกับผลการทดสอบหลังการฝึกอบรมเพื่อวัดความก้าวหน้าและประสิทธิผลของโครงการ ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงและพัฒนาโครงการในอนาคต
องค์ประกอบสำคัญของโครงการฝึกอบรม
โครงการฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพจะต้องมีองค์ประกอบสำคัญหลายด้านที่ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ การออกแบบหลักสูตรเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ โดยต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน เนื้อหาที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และวิธีการสอนที่หลากหลาย หลักสูตรควรมีการบูรณาการทักษะทั้ง 4 ด้าน และเน้นการใช้ภาษาในสถานการณ์จริงที่ครูจะต้องเผชิญในการปฏิบัติงาน
การคัดเลือกและพัฒนาวิทยากรเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่ง วิทยากรที่ดีจะต้องมีความเชี่ยวชาญทางภาษาอังกฤษ มีประสบการณ์ในการสอน และเข้าใจบริบทการศึกษาไทย การมีวิทยากรที่หลากหลาย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จะช่วยให้ผู้เข้าอบรมได้รับมุมมองที่กว้างขึ้นและสามารถปรับตัวกับการใช้ภาษาอังกฤษในบริบทที่แตกต่างกัน
สื่อการเรียนการสอนและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำให้การฝึกอบรมน่าสนใจและมีประสิทธิภาพ การใช้แอปพลิเคชันการเรียนภาษา เกมการศึกษา ระบบการเรียนออนไลน์ และสื่อมัลติมีเดีย จะช่วยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมมากขึ้นและสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองนอกเวลาการฝึกอบรม
วิธีการสอนและกิจกรรมการเรียนรู้
การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษสำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องใช้วิธีการสอนที่หลากหลายและเหมาะสมกับผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์การทำงาน Communicative Language Teaching เป็นแนวทางที่เน้นการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร ผู้เรียนจะได้ฝึกใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมการทำงาน เช่น การประชุม การนำเสนอ การเขียนรายงาน และการสื่อสารกับนักเรียนและผู้ปกครอง
Task-Based Learning เป็นอีกวิธีการที่มีประสิทธิภาพ โดยให้ผู้เรียนทำงานร่วมกันในโครงการหรือกิจกรรมที่มีเป้าหมายชัดเจน เช่น การวางแผนการสอน การเตรียมสื่อการสอน หรือการแก้ไขปัญหาในห้องเรียน กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้ผู้เรียนได้ใช้ภาษาอังกฤษในการคิด วิเคราะห์ และแก้ปัญหา ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นในการทำงาน
การใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอนเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ในยุคปัจจุบัน Blended Learning ที่ผสมผสานระหว่างการเรียนในห้องเรียนและการเรียนออนไลน์ จะให้ความยืดหยุ่นและสะดวกสบายกับผู้เข้าอบรม ระบบ Learning Management System สามารถช่วยติดตามความก้าวหน้า จัดเก็บผลงาน และให้ข้อมูลป้อนกลับที่เป็นประโยชน์
การใช้ Project-Based Learning ในบริบทการศึกษาจะช่วยให้ครูสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ได้ทันที เช่น การพัฒนาแผนการสอนที่บูรณาการภาษาอังกฤษ การสร้างสื่อการสอนภาษาอังกฤษ หรือการจัดกิจกรรมพิเศษสำหรับนักเรียน โครงการเหล่านี้จะทำให้การเรียนรู้มีความหมายและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
การประเมินผลและการติดตาม
ระบบการประเมินผลที่มีประสิทธิภาพเป็นส่วนสำคัญของโครงการฝึกอบรม การประเมินควรทำอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนเริ่มโครงการ ระหว่างดำเนินโครงการ และหลังสิ้นสุดโครงการ การประเมินก่อนเริ่มโครงการจะใช้ Placement Test และการสำรวจความต้องการ เพื่อทราบพื้นฐานและความคาดหวังของผู้เข้าร่วม
การประเมินระหว่างดำเนินโครงการจะเป็นการประเมินแบบ Formative Assessment ที่มุ่งเน้นการให้ข้อมูลป้อนกลับเพื่อปรับปรุงการเรียนการสอน การใช้แบบทดสอบย่อย การสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ และการรับฟังความคิดเห็นของผู้เรียน จะช่วยให้สามารถปรับปรุงวิธีการสอนได้ทันท่วงที
การประเมินหลังสิ้นสุดโครงการหรือ Summative Assessment จะวัดผลสำเร็จของโครงการโดยรวม โดยอาจใช้การทดสอบมาตรฐาน การนำเสนอผลงาน การสัมภาษณ์ และการสำรวจความพึงพอใจ ผลการประเมินจะช่วยให้ทราบว่าโครงการบรรลุวัตถุประสงค์หรือไม่ และส่วนใดต้องปรับปรุง
การติดตามผลระยะยาวเป็นสิ่งสำคัญที่มักถูกมองข้าม การติดตามว่าผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถนำความรู้ไปใช้ในการทำงานได้หรือไม่ มีการพัฒนาตนเองต่อไปหรือไม่ และส่งผลต่อคุณภาพการสอนของตนเองอย่างไร ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงโครงการในรุ่นต่อไป
ความท้าทายและแนวทางแก้ไข
การดำเนินโครงการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษมีความท้าทายหลายประการ ความท้าทายที่สำคัญที่สุดคือเวลาที่จำกัดของครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งมักมีภาระงานที่หนักและต้องเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ มากมาย แนวทางแก้ไขคือการออกแบบโครงการให้มีความยืดหยุ่น สามารถเรียนในเวลาที่เหมาะสมกับผู้เข้าร่วม และใช้รูปแบบ Blended Learning ที่ให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเองได้
ความแตกต่างของระดับความสามารถเริ่มต้นเป็นอีกความท้าทายหนึ่ง การใช้ Placement Test ที่มีคุณภาพและการจัดกลุ่มตามระดับความสามารถจะช่วยแก้ไขปัญหานี้ นอกจากนี้ การออกแบบกิจกรรมที่สามารถปรับระดับความยากได้ตามความสามารถของผู้เรียนแต่ละคนจะช่วยให้ทุกคนสามารถพัฒนาได้อย่างเหมาะสม
การขาดแรงจูงใจและความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย แนวทางแก้ไขคือการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่เป็นมิตร ไม่มีการตัดสิน และให้ความสำคัญกับกระบวนการเรียนรู้ นอกจากนี้ครูผู้สอนควรใช้กิจกรรมที่เน้นการมีส่วนร่วม เช่น การเรียนรู้ผ่านบทบาทสมมติ การทำงานกลุ่ม หรือการเล่นเกมภาษา เพื่อให้นักเรียนรู้สึกสนุกและกล้าแสดงออกมากขึ้น อีกทั้งควรมีการให้กำลังใจและชื่นชมความพยายามของผู้เรียนทุกครั้ง แม้จะมีข้อผิดพลาดก็ตาม เพราะการผิดพลาดถือเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้
การสอดแทรกเนื้อหาที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันหรือความสนใจของผู้เรียนก็ช่วยเพิ่มแรงจูงใจได้ดี นอกจากนี้การสร้างโอกาสให้ผู้เรียนได้ฝึกใช้ภาษาอังกฤษนอกห้องเรียน เช่น การสนทนากับเพื่อนต่างชาติ การเข้าร่วมกิจกรรมออนไลน์ หรือการฟังเพลงและดูภาพยนตร์ภาษาอังกฤษ ก็เป็นวิธีที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดความคุ้นเคยและมั่นใจมากขึ้นเมื่อใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์จริง
คำชี้แจง อบรมโครงการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษสําหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาตามกรอบมาตรฐานความสามารถทางภาษาอังกฤษ (CEFR) และแบบทดสอบวัดระดับทักษะภาษาอังกฤษ (Placement Test)
เปิดรับสมัครผู้ที่มีความสนใจพัฒนาศักยภาพตนเอง โครงการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษสําหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาตามกรอบมาตรฐานความสามารถทางภาษาอังกฤษ (CEFR) และแบบทดสอบวัดระดับทักษะภาษาอังกฤษ (Placement Test)
หมายเหตุ อบรมฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมรับวุฒิบัตรหลังจากอบรมผ่านเกณฑ์ที่กำหนด

สพฐ.เปิดอบรมฟรี พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ CEFR ระดับ A1-A2 รับเกียรติบัตร สพฐ. หลังอบรมผ่านเกณฑ์ที่กำหนด 10

ขั้นตอนการอบรม
1.เข้าใช้งานครั้งแรก กรอกวัน เดือน ปีพ.ศ.เกิด เข้าสู่ระบบ (เช่น 01012531)

2.เรียนแต่ละคลิปให้ครบ 80% ขึ้นไป แล้วปุ่มแบบฝึกหัดจะแสดงขึ้นมาให้ทำ ทำแบบฝึกหัดท้ายบทให้ได้ 80% ขึ้นไปจึงจะผ่าน

3.หากสถานะการเรียนทุกคลิปไม่ใช่ 80% หรือไม่เป็นสีเขียว ปุ่มแบบฝึกหัดจะไม่แสดงขึ้นมาให้เห็น ตรวจสอบสถานะการเรียนที่ : https://learning-obec.com/status/

4. ในส่วนของ Grammatical Practice และ Skill Practice จะไม่นำคะแนนที่ทำมาเช็คว่าผ่านหรือไม่ผ่านนะคะ จะเช็คว่าทำครบแล้วหรือไม่เท่านั้น จะเก็บเป็น % การเรียนครับ

5. บันทึกเสียงเพื่อตอบคำถาม ดังนี้
- 1) กดปุ่มไมโครโฟนเพื่ออัดเสียง 2) อัดเสียงเสร็จแล้วกดปุ่ม Stop ทุกครัง
- ทำตามข้อ 1) และ 2) จนครบทั้ง 5 ข้อ ปุ่มส่งคำตอบจึงจะขึ้นมาให้กดส่ง

ดาวน์โหลดคู่มือการอบรม

ตัวอย่างเกียรติบัตร

สวัสดีค่ะ อบรมเสร็จแล้ว ดาวน์โหลดวุฒิบัตร ไม่ได้ ต้องทำอย่างไรคะ