แจกไฟล์งานฟรี รายงานการเลื่อนเงินเดือนตาม ว23/2564 ส่งแบบฟอร์มการเลื่อนเงินเดือนและตัวอย่างการเขียนรายงาน 15 ตัวชี้วัดและประเด็นท้าทาย วPA

Byadmin

ก.พ. 26, 2023 #วPA, #เลื่อนเงินเดือน

Post Views: 603

บทความนี้ สื่อฟรีออนไลน์.com

ขอแนะนำบทความเรื่อง แจกไฟล์งานฟรี รายงานการเลื่อนเงินเดือนตาม ว23/2564 ส่งแบบฟอร์มการเลื่อนเงินเดือนและตัวอย่างการเขียนรายงาน 15 ตัวชี้วัดและประเด็นท้าทาย วPA

คู่มือครบครันการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการตาม ว23/2564 แบบฟอร์มและตัวอย่างรายงาน 15 ตัวชี้วัดพร้อมแนวทางแก้ไขปัญหา

การเลื่อนเงินเดือนข้าราชการเป็นกระบวนการสำคัญที่ส่งผลต่อความก้าวหน้าในสายงานและคุณภาพชีวิทของบุคลากรภาครัฐ ตามระเบียบ ว23/2564 ที่ออกโดยสำนักงาน ก.พ. ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติราชการใหม่ที่เน้นผลสัมฤทธิ์และการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งข้าราชการทุกคนจำเป็นต้องเข้าใจและปฏิบัติตามเพื่อให้ได้รับการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนอย่างเป็นธรรม

ระบบการประเมินใหม่นี้มุ่งเน้นการสร้างความโปร่งใสและเป็นธรรมในกระบวนการพิจารณา โดยใช้ตัวชี้วัดที่ชัดเจนและสามารถวัดผลได้จริง ข้าราชการจึงควรเตรียมความพร้อมด้วยการศึกษาข้อมูลให้ละเอียดและจัดทำเอกสารประกอบการพิจารณาให้ครบถ้วน การมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องจะช่วยให้กระบวนการดำเนินไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่ดี

หลักเกณฑ์การเลื่อนเงินเดือนตาม ว23/2564 ได้เปลี่ยนแปลงจากเดิมที่เน้นอายุราชการและคุณวุฒิเป็นหลัก มาเป็นการประเมินผลการปฏิบัติราชการที่เน้นผลสัมฤทธิ์ของงานและการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ข้าราชการต้องมีผลการปฏิบัติราชการในระดับดีขึ้นไปเป็นระยะเวลาติดต่อกัน และต้องผ่านการประเมินตัวชี้วัดต่างๆ ที่กำหนดไว้ในระเบียบ

การพิจารณาเลื่อนเงินเดือนจะใช้หลักการประเมินแบบองค์รวมที่ครอบคลุมทั้งผลงาน พฤติกรรม และการพัฒนาตนเอง ข้าราชการจึงต้องเตรียมตัวในทุกด้านไม่ใช่เพียงแค่การทำงานให้สำเร็จเท่านั้น แต่ต้องแสดงให้เห็นถึงการเรียนรู้และพัฒนาที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงาน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมขององค์กร และการสร้างนวัตกรรมในการทำงาน

ระยะเวลาในการพิจารณาจะต้องครบตามที่กำหนดในแต่ละขั้นเงินเดือน โดยจะต้องมีผลการปฏิบัติราชการระดับดีขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง หากมีผลการประเมินต่ำกว่าเกณฑ์ในปีใดปีหนึ่ง อาจส่งผลต่อการเลื่อนเงินเดือนในรอบถัดไป ดังนั้นข้าราชการจึงต้องมีการวางแผนและติดตามผลการปฏิบัติงานของตนเองอย่างสม่ำเสมอ

แบบฟอร์มการขอเลื่อนเงินเดือนประกอบด้วยส่วนสำคัญหลายส่วนที่ข้าราชการต้องกรอกให้ครบถ้วนและถูกต้อง ส่วนแรกคือข้อมูลส่วนบุคคลและประวัติการทำงาน ซึ่งต้องระบุชื่อ-สกุล ตำแหน่ง ระดับ วันที่บรรจุ และข้อมูลเงินเดือนปัจจุบัน ข้อมูลเหล่านี้ต้องตรงกับทะเบียนประวัติส่วนบุคคลและเอกสารหลักฐานอื่นๆ

ส่วนที่สองเป็นการรายงานผลการปฏิบัติราชการตามตัวชี้วัดที่กำหนด ข้าราชการต้องระบุผลงานที่สำคัญ เป้าหมายที่ได้รับมอบหมาย ผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้น และการพัฒนาที่เกิดขึ้นในระหว่างปีที่ขอเลื่อนเงินเดือน การเขียนส่วนนี้ต้องใช้ข้อมูลที่เป็นจริงและสามารถตรวจสอบได้ พร้อมทั้งแนบเอกสารหลักฐานประกอบ

ส่วนที่สามคือการรายงานการพัฒนาตนเองและการเรียนรู้ ซึ่งรวมถึงการอบรม การศึกษาต่อ การเข้าร่วมสัมมนา การทำงานเป็นทีม และการสร้างนวัตกรรม ข้าราชการต้องแสดงให้เห็นว่าได้มีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องและสามารถนำความรู้ที่ได้มาใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนสุดท้ายเป็นการประเมินตนเองและแผนการพัฒนาในอนาคต ข้าราชการต้องวิเคราะห์จุดแข็งและจุดที่ต้องพัฒนาของตนเอง พร้อมทั้งวางแผนการทำงานและการพัฒนาตนเองในปีถัดไป การเขียนส่วนนี้จะแสดงให้เห็นถึงความรู้ความเข้าใจในงานและวิสัยทัศน์ในการทำงาน

ตัวอย่างการเขียนรายงานการปฏิบัติราชการสำหรับตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน เริ่มจากการระบุผลงานที่สำคัญในรอบปีที่ผ่านมา เช่น การจัดทำแผนยุทธศาสตร์องค์กร การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการติดตามประเมินผลการดำเนินงาน

ในการรายงานผลงานแต่ละเรื่อง ควรระบุรายละเอียดดังนี้ วัตถุประสงค์และเป้าหมายของงาน ขั้นตอนการดำเนินงาน ปัญหาและอุปสรรคที่พบ วิธีการแก้ไขปัญหา ผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้น และบทเรียนที่ได้รับ การเขียนในลักษณะนี้จะแสดงให้เห็นถึงกระบวนการคิดและการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ

สำหรับงานการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ ควรระบุถึงการรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์สภาพแวดล้อม การกำหนดทิศทางและกลยุทธ์ การจัดทำแผนปฏิบัติการ และการนำเสนอต่อผู้บริหาร รวมทั้งผลการนำแผนไปใช้และผลกระทบเชิงบวกที่เกิดขึ้นกับองค์กร

การรายงานงานวิเคราะห์ข้อมูลควรเน้นถึงเทคนิคและเครื่องมือที่ใช้ ความน่าเชื่อถือของข้อมูล การตีความผลการวิเคราะห์ และข้อเสนอแนะที่เกิดขึ้น ตลอดจนการนำผลการวิเคราะห์ไปใช้ในการปรับปรุงงานหรือกำหนดนโยบาย

ตัวชี้วัดที่ 1 คือผลสัมฤทธิ์ของงานตามเป้าหมายที่กำหนด ข้าราชการต้องแสดงให้เห็นว่างานที่ปฏิบัติสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ มีคุณภาพและเสร็จตามกำหนดเวลา การวัดผลในส่วนนี้จะใช้ตัวเลขหรือเกณฑ์ที่ชัดเจน เช่น ร้อยละของงานที่เสร็จตามกำหนด ระดับความพึงพอใจของผู้รับบริการ หรือการลดต้นทุนหรือเวลาในการดำเนินงาน

ตัวชี้วัดที่ 2 คือคุณภาพของงานและความถูกต้องครบถ้วน งานที่ส่งมอบต้องมีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด ไม่มีข้อผิดพลาดที่สำคัญ และสามารถใช้งานได้จริง การประเมินจะพิจารณาจากการตรวจสอบโดยผู้บังคับบัญชา ผู้รับบริการ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตัวชี้วัดที่ 3 คือการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ข้าราชการต้องแสดงให้เห็นว่าสามารถใช้งบประมาณ เวลา และทรัพยากรบุคคลอย่างคุ้มค่า ไม่สูญเปล่า และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่องค์กร การวัดผลอาจใช้อัตราส่วนต้นทุนต่อผลผลิต หรือการเปรียบเทียบกับช่วงเวลาที่ผ่านมา

ตัวชี้วัดที่ 4 คือการทำงานเป็นทีมและการประสานงาน ข้าราชการต้องแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น การแบ่งปันความรู้ การช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน และการสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี การประเมินจะพิจารณาจากการสังเกตพฤติกรรมและข้อมูลป้อนกลับจากเพื่อนร่วมงาน

ตัวชี้วัดที่ 5 คือการให้บริการที่เป็นเลิศ โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับประชาชนหรือหน่วยงานอื่น ข้าราชการต้องแสดงถึงการให้บริการที่รวดเร็ว ถูกต้อง และเป็นมิตร การสร้างความพึงพอใจและความเชื่อมั่นของผู้รับบริการ และการแก้ไขปัญหาหรือข้อร้องเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวชี้วัดที่ 6 คือการปรับตัวและยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลง ข้าราชการต้องแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ใหม่ นโยบายใหม่ หรือเทคโนโลยีใหม่ การเรียนรู้และนำความรู้ใหม่มาใช้ในการปฏิบัติงาน และการสร้างวิธีการทำงานใหม่ที่เหมาะสมกับสถานการณ์

ตัวชี้วัดที่ 7 คือการคิดวิเคราะห์และแก้ไขปัญหา ข้าราชการต้องแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการวิเคราะห์ปัญหาอย่างเป็นระบบ การหาสาเหตุที่แท้จริง การคิดแนวทางแก้ไขหลายทางเลือก และการตัดสินใจเลือกแนวทางที่เหมาะสมที่สุด

ตัวชี้วัดที่ 8 คือการสื่อสารและนำเสนอ ข้าราชการต้องมีความสามารถในการสื่อสารทั้งการเขียนและการพูด สามารถอธิบายแนวคิดหรือข้อมูลที่ซับซ้อนให้ผู้อื่นเข้าใจได้ง่าย และสามารถนำเสนอผลงานหรือข้อเสนอแนะอย่างชัดเจนและน่าเชื่อถือ

ตัวชี้วัดที่ 9 คือการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ข้าราชการต้องแสดงให้เห็นถึงการแสวงหาความรู้ใหม่ การเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนา การศึกษาเพิ่มเติม และการนำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้ในการทำงานให้เกิดประโยชน์

ตัวชี้วัดที่ 10 คือความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ข้าราชการต้องแสดงให้เห็นถึงการคิดนอกกรอบ การสร้างแนวทางการทำงานใหม่ การปรับปรุงกระบวนการทำงาน หรือการพัฒนาเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

ตัวชี้วัดที่ 11 คือจริยธรรมและความซื่อสัตย์ ข้าราชการต้องปฏิบัติตนตามหลักจริยธรรมของข้าราชการ ความซื่อสัตย์สุจริต การไม่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว และการเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติงาน การประเมินจะพิจารณาจากพฤติกรรมและการตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆ

ตัวชี้วัดที่ 12 คือความรับผิดชอบและความน่าเชื่อถือ ข้าราชการต้องแสดงให้เห็นถึงการรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย การทำงานให้เสร็จสมบูรณ์ การไม่ผลักความรับผิดชอบให้ผู้อื่น และการยอมรับผลที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจของตนเอง

ตัวชี้วัดที่ 13 คือความเป็นผู้นำและการมีส่วนร่วม ข้าราชการต้องแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเป็นผู้นำในบางสถานการณ์ การริเริ่มโครงการหรือกิจกรรม การชักชวนผู้อื่นให้เข้าร่วม และการสร้างขวัญกำลังใจในการทำงานเป็นทีม

ตัวชี้วัดที่ 14 คือการมีวิสัยทัศน์และการวางแผน ข้าราชการต้องแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการมองภาพรวม การวางแผนการทำงานระยะยาว การคาดการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และการเตรียมแผนรองรับสถานการณ์ต่างๆ

ตัวชี้วัดที่ 15 คือการมีส่วนร่วมในการพัฒนาองค์กร ข้าราชการต้องแสดงให้เห็นถึงการเข้าร่วมกิจกรรมขององค์กร การให้ข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุง การแบ่งปันความรู้ประสบการณ์ และการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี

ประเด็นท้าทายที่สำคัญประการแรกคือการจัดเก็บและรวบรวมหลักฐานการปฏิบัติงาน ข้าราชการหลายคนมักไม่ได้เก็บบันทึกการทำงานอย่างเป็นระบบ ทำให้เมื่อถึงเวลาเขียนรายงานจึงหาหลักฐานไม่ได้หรือจำรายละเอียดไม่ได้ การแก้ไขปัญหานี้ต้องเริ่มจากการสร้างนิสัยการบันทึกงานเป็นประจำ การถ่ายภาพผลงาน การเก็บรักษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง และการจดบันทึกผลการประชุมหรือกิจกรรมต่างๆ

ประเด็นท้าทายที่สองคือการเขียนรายงานให้สอดคล้องกับตัวชี้วัด ข้าราชการบางคนอาจเขียนรายงานเป็นเรื่องราว แต่ไม่ได้เชื่อมโยงกับตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ การแก้ไขต้องศึกษาตัวชี้วัดให้เข้าใจ แล้วจึงเลือกผลงานที่เหมาะสมมาเขียนใต้แต่ละตัวชี้วัด พร้อมทั้งอธิบายให้เห็นความเชื่อมโยงอย่างชัดเจน

ประเด็นท้าทายที่สามคือการประเมินตนเองให้เป็นวัตถุวิสัย ข้าราชการบางคนอาจประเมินตนเองสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป ทั้งสองกรณีล้วนไม่เหมาะสม การประเมินที่ดีต้องใช้ข้อมูลจริงเป็นฐาน มีการเปรียบเทียบกับมาตรฐานหรือเป้าหมายที่กำหนดไว้ และยอมรับทั้งจุดแข็งและจุดที่ต้องพัฒนา

ประเด็นท้าทายที่สี่คือการได้รับความร่วมมือจากเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา บางครั้งการประเมินต้องอาศัยข้อมูลป้อนกลับจากผู้อื่น แต่อาจได้รับความร่วมมือไม่เต็มที่ การแก้ไขต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในการทำงานปกติ การให้ความช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อมีโอกาส และการสื่อสารขอความช่วยเหลือในลักษณะที่เหมาะสม

ประเด็นท้าทายที่ห้าคือการจัดการเวลาในการเตรียมเอกสาร การเขียนรายงานที่มีคุณภาพต้องใช้เวลาไม่น้อย แต่ข้าราชการส่วนใหญ่มีภาระงานประจำที่หนัก การแก้ไขต้องวางแผนล่วงหน้า เริ่มเตรียมเอกสารก่อนกำหนด