สวัสดีคุณครูทุกท่านครับ วันนี้ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ขอนำเสนอ กิจกรรมลงนามถวายพระพร สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๘ รอบ วันที่ 26 มิถุนายน 2566 ระหว่างวันที่ 25-27 มิถุนายน 2566 เพื่อรับเกียรติบัตรผ่านออนไลน์ ผ่านทาง e-mail
กิจกรรมลงนามถวายพระพร สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๘ รอบ วันที่ 26 มิถุนายน 2566 ระหว่างวันที่ 25-27 มิถุนายน 2566 เพื่อรับเกียรติบัตรผ่านออนไลน์ ผ่านทาง e-mail

กิจกรรมลงนามถวายพระพรสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุครบ 8 รอบ แห่งความจงรักภักดีและศรัทธาอันแรงกล้าของพุทธศาสนิกชนชาวไทย
ในยุคสมัยที่สังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์และความทันสมัยที่หลั่งไหลเข้ามา พุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติและรากฐานทางจิตใจของคนไทยกว่าร้อยละ 90 ของประชากรทั้งประเทศ ยังคงเป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นหลักยึดเหนี่ยวทางศีลธรรมจริยธรรมที่สำคัญยิ่งของสังคม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ผู้ดำรงตำแหน่งสูงสุดแห่งคณะสงฆ์ไทย ทรงเป็นบุคคลสำคัญที่ทรงเป็นที่เคารพนับถือและเป็นที่พึ่งทางใจของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ การที่สมเด็จพระสังฆราชทรงมีพระชนมายุครบ 8 รอบ หรือ 96 พรรษา จึงเป็นเหตุการณ์อันมีความสำคัญยิ่งที่พุทธศาสนิกชนทั้งหลายต่างแสดงความจงรักภักดีและความกตัญญูกตเวทีด้วยการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา และสังฆบูชา
กิจกรรมลงนามถวายพระพรสมเด็จพระสังฆราชในโอกาสมหามงคลครั้งนี้ ได้รับการจัดขึ้นทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ตั้งแต่วัดในชนบทไปจนถึงวัดใหญ่ในเมืองหลวง ทั้งยังมีการจัดกิจกรรมในสถานศึกษา หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรเอกชนต่างๆ ที่ต้องการร่วมแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระสังฆราชที่ทรงมีต่อพระพุทธศาสนาและประเทศชาติ การลงนามถวายพระพรนี้ไม่ใช่เพียงการลงชื่อธรรมดาทั่วไป แต่เป็นการแสดงออกถึงความเคารพนับถือและความปรารถนาดีที่ส่งตรงจากหัวใจของผู้คนนับล้านที่มีต่อพระสงฆ์ผู้ทรงคุณวุฒิสูงสุดในคณะสงฆ์ไทย
ประวัติและพระประวัติของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจและเป็นแรงบันดาลใจแก่พุทธศาสนิกชนทั่วไป พระองค์ทรงเป็นพระสงฆ์ที่มีความรู้ความสามารถทางพระปริยัติธรรมอย่างลึกซึ้ง ทรงศึกษาพระธรรมวินัยมาอย่างเป็นระบบและมีพระปัญญาเฉียบแหลมในการตีความและอธิบายพระธรรมคำสอนให้ประชาชนเข้าใจได้ง่าย พระชีวิตของพระองค์เต็มไปด้วยความเรียบง่าย ทรงดำรงพระวินัยอย่างเคร่งครัด และทรงอุทิศพระองค์เพื่อการพัฒนาพระพุทธศาสนาและสังคมมาโดยตลอด ตั้งแต่วัยหนุ่มจนกระทั่งปัจจุบันที่ทรงมีพระชนมายุสูง พระองค์ยังคงทรงพระวิริยะอุทิศในการปฏิบัติหน้าที่และเป็นที่พึ่งทางใจของพุทธศาสนิกชนชาวไทย
การเดินทางสู่ตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชของพระองค์เป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นในการศึกษาและปฏิบัติธรรม พระองค์ทรงผ่านการศึกษาพระปริยัติธรรมขั้นสูงและทรงได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญต่างๆ ในคณะสงฆ์มาตามลำดับ จนกระทั่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดในคณะสงฆ์ไทย ตำแหน่งนี้มิใช่เพียงแค่ตำแหน่งทางการปกครอง แต่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นผู้นำทางจิตใจของพุทธศาสนิกชนทั้งชาติ พระองค์ทรงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายและทิศทางการพัฒนาพระพุทธศาสนาในประเทศไทย รวมถึงการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยังต่างประเทศ
ความสำคัญของกิจกรรมลงนามถวายพระพรในครั้งนี้มีหลายมิติที่ควรค่าแก่การพิจารณา ในมิติทางศาสนา การลงนามถวายพระพรเป็นการแสดงความเคารพและกตัญญูกตเวทีต่อพระรัตนตรัย โดยเฉพาะต่อพระสังฆรัตนะซึ่งเป็นหนึ่งในรัตนตรัยที่พุทธศาสนิกชนนับถือ สมเด็จพระสังฆราชทรงเป็นผู้แทนสูงสุดของพระสงฆ์ทั้งหมดในประเทศไทย การแสดงความเคารพต่อพระองค์จึงเท่ากับเป็นการแสดงความเคารพต่อพระสงฆ์สาวกทั้งหมด และเป็นการรักษาไว้ซึ่งประเพณีอันดีงามของสังคมไทยที่มีมาแต่โบราณ พุทธศาสนาสอนให้คนเป็นผู้มีกตัญญู รู้จักระลึกถึงพระคุณและตอบแทนพระคุณของผู้มีพระคุณ สมเด็จพระสังฆราชทรงเป็นผู้มีพระคุณต่อพระพุทธศาสนาและสังคมไทยอย่างประมาณมิได้ การลงนามถวายพระพรจึงเป็นหนึ่งในวิธีการแสดงความกตัญญูกตเวทีที่สมควร
ในมิติทางสังคมและวัฒนธรรม กิจกรรมลงนามถวายพระพรเป็นเครื่องมือสำคัญในการรวมพลังและสร้างความสามัคคีในหมู่พุทธศาสนิกชน การที่ประชาชนจากทุกหมู่เหล่า ทุกอาชีพ ทุกสถานภาพทางสังคม มาร่วมกันในกิจกรรมเดียวกัน แสดงให้เห็นถึงพลังของศาสนาในการเป็นสื่อกลางที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือคนจน คนมีการศึกษาสูงหรือต่ำ ทุกคนต่างก็มีความเคารพและศรัทธาในพระพุทธศาสนาและพระสงฆ์เหมือนกัน กิจกรรมเช่นนี้จึงช่วยเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นและความสามัคคีในสังคมไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่มีคุณค่ายิ่งในยุคที่สังคมมีความหลากหลายและบางครั้งก็แตกแยกเพราะความแตกต่างทางความคิดเห็นหรือผลประโยชน์
การจัดกิจกรรมลงนามถวายพระพรในแต่ละพื้นที่มีรูปแบบที่หลากหลายตามบริบทและความพร้อมของแต่ละชุมชน วัดขนาดใหญ่ในเมืองอาจจัดพิธีอย่างเป็นทางการ มีการตกแต่งสถานที่อย่างสวยงาม จัดทำป้ายไวนิลขนาดใหญ่ติดหน้าวัด เตรียมโต๊ะและเก้าอี้สำหรับผู้มาลงนามจำนวนมาก บางวัดอาจจัดให้มีพิธีสวดมนต์ภาวนาหมู่และพิธีถวายภัตตาหารเพล แล้วจึงเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนเข้าลงนามถวายพระพร สำหรับวัดในชนบทหรือวัดขนาดเล็ก การจัดกิจกรรมอาจเรียบง่ายกว่า แต่ความจริงใจและความศรัทธาของผู้คนก็ไม่แตกต่างกัน บางวัดอาจใช้วิธีการเรียบง่ายโดยเตรียมสมุดลงนามหรือกระดาษขนาดใหญ่ไว้หน้าอุโบสถหรือศาลาการเปรียญ ให้พุทธศาสนิกชนที่มาวัดสามารถเขียนชื่อและข้อความถวายพระพรได้ตลอดเวลา
สถานศึกษาต่างๆ ทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัยก็มีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้อย่างกว้างขวาง โรงเรียนหลายแห่งจัดให้มีการสวดมนต์ไหว้พระหมู่และเปิดโอกาสให้นักเรียนลงนามถวายพระพร กิจกรรมเช่นนี้นอกจากจะเป็นการแสดงความเคารพต่อสมเด็จพระสังฆราชแล้ว ยังเป็นโอกาสดีในการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมและความกตัญญูกตเวทีให้แก่เยาวชน การให้เยาวชนได้เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาตั้งแต่เล็กจะช่วยสร้างรากฐานที่ดีทางจิตใจและทำให้พวกเขาเติบโตเป็นพลเมืองที่ดีของสังคมในอนาคต มหาวิทยาลัยต่างๆ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยของรัฐที่มีนักศึกษาจำนวนมากก็จัดกิจกรรมในลักษณะคล้ายคลึงกัน บางมหาวิทยาลัยอาจจัดเป็นกิจกรรมใหญ่โดยเชิญพระสงฆ์มาเป็นประธานในพิธี มีการบรรยายธรรมเพื่อให้ความรู้แก่นักศึกษาเกี่ยวกับความสำคัญของสมเด็จพระสังฆราชและบทบาทของพระองค์ต่อพระพุทธศาสนาและสังคม
หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจหลายแห่งก็ได้จัดกิจกรรมลงนามถวายพระพรสมเด็จพระสังฆราชเช่นกัน ทั้งนี้เพราะการแสดงความเคารพต่อพระพุทธศาสนาและสถาบันสงฆ์เป็นหนึ่งในค่านิยมหลักของสังคมไทยและเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กรที่ดี หน่วยงานเหล่านี้มักจะจัดพิธีลงนามในวันทำการปกติ โดยอาจจัดในเวลาเช้าก่อนเริ่มงานหรือในช่วงพักกลางวัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่และพนักงานสามารถเข้าร่วมได้สะดวก บางหน่วยงานอาจเชิญพระสงฆ์มาประกอบพิธีสวดมนต์เจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล และเปิดโอกาสให้ทุกคนในองค์กรได้ร่วมลงนามถวายพระพร การมีส่วนร่วมของภาครัฐในกิจกรรมเช่นนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะศาสนาประจำชาติและความผูกพันระหว่างรัฐกับศาสนาที่มีมาแต่โบราณในสังคมไทย
องค์กรเอกชนและบริษัทเอกชนต่างๆ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ หลายองค์กรได้จัดกิจกรรมลงนามถวายพระพรสำหรับพนักงานและผู้บริหารภายในองค์กร นอกจากนี้ยังมีบริษัทที่เห็นความสำคัญของกิจกรรมนี้จึงเปิดโอกาสให้ลูกค้าและประชาชนทั่วไปเข้ามาลงนามถวายพระพรที่สำนักงานหรือสาขาของบริษัทด้วย การกระทำเช่นนี้นอกจากจะเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและความเคารพต่อศาสนาแล้ว ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรและเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับชุมชนและสังคม ในยุคที่ความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นสิ่งสำคัญ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมเป็นอีกวิธีหนึ่งที่องค์กรเอกชนสามารถแสดงให้เห็นถึงความห่วงใยและความมีส่วนร่วมในสังคม
รูปแบบการลงนามถวายพระพรมีความหลากหลาย บางแห่งใช้สมุดลงนามทั่วไปที่มีหน้ากระดาษเรียงกันเป็นเล่ม ผู้เข้าร่วมสามารถเขียนชื่อของตนเองและข้อความสั้นๆ ถวายพระพรได้ บางแห่งใช้กระดาษขนาดใหญ่หรือผ้าขนาดใหญ่ที่มีการพิมพ์ภาพพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระสังฆราชหรือตราสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้อง และมีพื้นที่ว่างสำหรับให้ผู้คนลงนามและเขียนข้อความ กระดาษหรือผ้าขนาดใหญ่เหล่านี้มักจะถูกนำไปเก็บรักษาหรือถวายยังสถานที่สำคัญภายหลัง เพื่อเป็นเครื่องบันทึกถึงความจงรักภักดีและศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในยุคสมัยนั้น นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย เช่น การสร้างเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันสำหรับลงนามถวายพระพรออนไลน์ เพื่อให้ผู้คนที่อยู่ห่างไกลหรือไม่สะดวกในการเดินทางก็สามารถร่วมแสดงความจงรักภักดีได้
ข้อความที่ผู้คนเขียนในการลงนามถวายพระพรมักจะเป็นข้อความที่แสดงถึงความเคารพ ความกตัญญู และความปรารถนาดี ส่วนใหญ่จะขอพรให้สมเด็จพระสังฆราชทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ ปราศจากพระโรคาพาธทั้งหลาย และทรงดำรงมั่นคงในพระสัทธรรม บางคนอาจเขียนถึงพระคุณของสมเด็จพระสังฆราชที่ทรงมีต่อพระพุทธศาสนาและสังคม บางคนอาจเขียนถึงแรงบันดาลใจที่ได้รับจากพระธรรมเทศนาหรือพระธรรมคำสอนของพระองค์ ข้อความเหล่านี้แม้จะสั้นและเรียบง่าย แต่ก็เต็มไปด้วยความจริงใจและความศรัทธาอันแรงกล้า เป็นการแสดงออกทางอารมณ์และความรู้สึกที่มาจากส่วนลึกของจิตใจ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของความสัมพันธ์ระหว่างพุทธศาสนิกชนกับพระสงฆ์ในสังคมไทย
ความหมายของการฉลองพระชนมายุ 8 รอบหรือ 96 พรรษานั้นมีนัยสำคัญในหลายด้าน ในทางพุทธศาสนา การมีอายุยืนยาวเป็นผลแห่งการทำความดีและบำเพ็ญบารมีในอดีต การที่สมเด็จพระสังฆราชทรงมีพระชนมายุสูงถึง 96 พรรษาแสดงให้เห็นถึงบุญบารมีและกุศลกรรมอันยิ่งใหญ่ที่พระองค์ได้ทรงสั่งสมมา การฉลองพระชนมายุจึงไม่ใช่เพียงการเฉลิมฉลองวันเกิดธรรมดา แต่เป็นการน้อมรำลึกถึงพระคุณและบุญญาบารมีของพระสงฆ์ผู้ทรงคุณวุฒิ ในทางวัฒนธรรมไทย การฉลองอายุครบรอบที่สำคัญโดยเฉพาะอายุที่เป็นเลขคู่หรือเลขมงคลถือเป็นประเพณีที่ดีงามมาแต่โบราณ การฉลองพระชนมายุ 8 รอบจึงเป็นโอกาสพิเศษที่พุทธศาสนิกชนต้องการร่วมกันแสดงความยินดีและถวายพระพร
นอกจากกิจกรรมลงนามถวายพระพรแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสนี้ เช่น การจัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จำนวนมาก การจัดพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน การจัดงานเลี้ยงอาหารเพลแก่พระสงฆ์ การจัดพิธีปล่อยนกปล่อยปลา การจัดงานบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ต่างๆ เช่น การบริจาคโลหิต การบริจาคสิ่งของให้แก่ผู้ด้อยโอกาส การทำความสะอาดวัดและชุมชน กิจกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นการทำบุญและสร้างกุศลเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่สมเด็จพระสังฆราช และเป็นการปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนาที่สอนให้มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
สื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศก็ให้ความสนใจกับกิจกรรมในครั้งนี้เป็นอย่างมาก หนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์ต่างลงข่าวและบทความเกี่ยวกับกิจกรรมลงนามถวายพระพรและกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โทรทัศน์หลายช่องถ่ายทำสารคดีพิเศษเกี่ยวกับพระประวัติและพระกรณียกิจของสมเด็จพระสังฆราช รวมถึงการรายงานสดจากสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆ การให้ความสำคัญของสื่อมวลชนช่วยเผยแผ่ข่าวสารและสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับความสำคัญของเหตุการณ์นี้ และเป็นการเชิญชวนให้ผู้คนมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้น นอกจากนี้สื่อสังคมออนไลน์ก็มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ข้อมูลและสร้างกระแสความสนใจ
รายละเอียด กิจกรรมลงนามถวายพระพร สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๘ รอบ
ห้องสมุดประชาชนอำเภอหัวหิน ขอเชิญประชาชนทั่วไปร่วมกิจกรรมลงนามถวายพระพรผ่านออนไลน์สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 8 รอบ วันที่ 26 มิถุนายน 2566 กับทางห้องสมุดประชาชนอำเภอหัวหิน ประจำปีงบประมาณ 2566 เพื่อรับเกียรติบัตรผ่านออนไลน์ ผ่านทาง e-mail

คำชี้แจง กิจกรรมลงนามถวายพระพร สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๘ รอบ
กิจกรรมลงนามถวายพระพรสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๘ รอบ วันที่ 26 มิถุนายน 2566 ระหว่างวันที่ 25-27 มิถุนายน 2566
จำกัดผู้เข้าร่วมกิจกรรมวันละ 100 e-mail
ตัวอย่างเกียรติบัตร

ลิงก์สำหรับเข้าลงนามถวายพระพร
กิจกรรมลงนามถวายพระพร สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ ๘ รอบ
วันที่ 26 มิถุนายน 2566 ระหว่างวันที่ 25-27 มิถุนายน 2566
โดย ห้องสมุดประชาชนอำเภอหัวหิน