สวัสดีคุณครูทุกท่านครับ วันนี้ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ขอนำเสนอ อบรมออนไลน์รับเกียรติบัตร เชิญชวนครู บุคลากรทางการศึกษา และผู้ที่สนใจ เข้าอบรมเพื่อพัฒนานวัตกรรมสู่ Best practice ตามทฤษฎีพหุปัญญา เกียรติบัตร Online ฟรี
อบรมออนไลน์รับเกียรติบัตร เชิญชวนครู บุคลากรทางการศึกษา และผู้ที่สนใจ เข้าอบรมเพื่อพัฒนานวัตกรรมสู่ Best practice ตามทฤษฎีพหุปัญญา เกียรติบัตร Online ฟรี

ก้าวสู่ความเป็นเลิศทางการศึกษา พัฒนานวัตกรรมสู่ Best Practice ด้วยทฤษฎีพหุปัญญาของฮาวาร์ด การ์ดเนอร์
ในยุคที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การศึกษาไทยต้องปรับตัวเพื่อให้ทันกับความต้องการของสังคมและตลาดแรงงานที่หลากหลายมากขึ้น การพัฒนานวัตกรรมทางการศึกษาจึงไม่ใช่แค่เรื่องของการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในห้องเรียน แต่ยังรวมถึงการเข้าใจธรรมชาติของความฉลาดและศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียนแต่ละคน ทฤษฎีพหุปัญญาหรือ Multiple Intelligences Theory ที่นำเสนอโดยศาสตราจารย์ฮาวาร์ด การ์ดเนอร์ จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เป็นกรอบความคิดที่สำคัญที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และนำไปสู่การสร้าง Best Practice ที่เหมาะสมกับบริบทของสังคมไทย
ทฤษฎีพหุปัญญาเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1983 เมื่อการ์ดเนอร์ตีพิมพ์หนังสือ Frames of Mind ที่ท้าทายแนวคิดแบบดั้งเดิมเกี่ยวกับสติปัญญาที่วัดได้ด้วยค่า IQ เพียงอย่างเดียว เขาเสนอว่าความฉลาดของมนุษย์มีหลายมิติและแต่ละคนมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน โดยเริ่มต้นระบุไว้ 7 ประเภทและต่อมาได้เพิ่มเป็น 8 ประเภท ได้แก่ ปัญญาด้านภาษา ปัญญาด้านตรรกะคณิตศาสตร์ ปัญญาด้านมิติสัมพันธ์ ปัญญาด้านดนตรี ปัญญาด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว ปัญญาด้านมนุษยสัมพันธ์ ปัญญาด้านการเข้าใจตนเอง และปัญญาด้านธรรมชาติวิทยา การเข้าใจว่าผู้เรียนแต่ละคนมีจุดแข็งที่แตกต่างกัน จะช่วยให้ครูผู้สอนสามารถออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายและตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียนได้อย่างแท้จริง
ความหมายและความสำคัญของทฤษฎีพหุปัญญา
ทฤษฎีพหุปัญญาเป็นมากกว่าแนวคิดทางวิชาการ แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการปฏิวัติระบบการศึกษา เมื่อเรายอมรับว่าเด็กแต่ละคนมีความสามารถพิเศษที่แตกต่างกัน เราจะหยุดการเปรียบเทียบและการจัดอันดับที่อาจทำลายความมั่นใจของเด็กบางคน แทนที่จะบอกว่าเด็กคนใดเก่งหรือไม่เก่ง เราจะเริ่มถามว่าเด็กแต่ละคนเก่งในด้านใด และเราจะพัฒนาศักยภาพเหล่านั้นได้อย่างไร ในสังคมไทยที่เคยเน้นการสอบและการท่องจำเป็นหลัก การนำทฤษฎีนี้มาใช้จะช่วยให้เด็กที่ไม่ชอบหรือไม่เก่งวิชาคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ ได้มีโอกาสพัฒนาตนเองในด้านอื่นที่พวกเขามีความถนัด เช่น ดนตรี กีฬา ศิลปะ หรือทักษะด้านสังคม ซึ่งล้วนมีคุณค่าและความสำคัญเท่าเทียมกัน
ปัญญาด้านภาษาหรือ Linguistic Intelligence หมายถึงความสามารถในการใช้ภาษาทั้งการพูด การเขียน การฟัง และการอ่านอย่างมีประสิทธิภาพ เด็กที่มีพหุปัญญาด้านนี้สูงมักชอบอ่านหนังสือ เล่าเรื่อง เขียนเรื่องราว หรือแต่งบทกวี พวกเขาจดจำคำศัพท์ได้ดีและสามารถสื่อสารได้อย่างชัดเจน ครูสามารถพัฒนาพหุปัญญาด้านนี้ได้โดยการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวกับการอ่าน การเขียนเชิงสร้างสรรค์ การแสดงละคร การอภิปราย และการนำเสนอหน้าชั้นเรียน ในบริบทไทย การส่งเสริมภาษาไทยควบคู่ไปกับภาษาต่างประเทศจะช่วยเสริมสร้างความสามารถด้านนี้ได้เป็นอย่างดี
ปัญญาด้านตรรกะคณิตศาสตร์หรือ Logical-Mathematical Intelligence เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา คิดเชิงตรรกะ และทำงานกับตัวเลขและสมการ เด็กที่มีจุดเด่นด้านนี้มักชอบแก้ปริศนา คำนวณ จัดหมวดหมู่ และหาความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งต่างๆ พวกเขาชอบความเป็นระเบียบและชอบค้นหาเหตุผล ครูสามารถส่งเสริมพหุปัญญาด้านนี้ผ่านกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ การแก้โจทย์คณิตศาสตร์ที่ท้าทาย เกมกลยุทธ์ และการสอนให้คิดเป็นขั้นตอน การเชื่อมโยงคณิตศาสตร์กับชีวิตจริงจะช่วยให้เด็กเห็นคุณค่าและความสำคัญของทักษะด้านนี้มากขึ้น
ปัญญาด้านมิติสัมพันธ์หรือ Spatial Intelligence คือความสามารถในการมองเห็นและจินตนาการภาพในสามมิติ รวมถึงการจัดการกับพื้นที่และทิศทาง เด็กที่มีพหุปัญญาด้านนี้สูงมักชอบวาดรูป ออกแบบ สร้างสรรค์งานศิลปะ หรือเล่นเลโก้ พวกเขามีความสามารถในการอ่านแผนที่ จดจำเส้นทาง และจินตนาการภาพได้ดี ครูสามารถพัฒนาพหุปัญญาด้านนี้ผ่านกิจกรรมศิลปะ การสร้างโมเดล การใช้กราฟิกและแผนภูมิ การถ่ายภาพ และการออกแบบโครงงาน ในยุคดิจิทัลการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการออกแบบกราฟิกหรือโมเดล 3 มิติก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีในการส่งเสริมพหุปัญญาด้านนี้
การประยุกต์ใช้ในห้องเรียนไทย
ปัญญาด้านดนตรีหรือ Musical Intelligence หมายถึงความสามารถในการรับรู้ สร้างสรรค์ และแสดงออกทางดนตรี เด็กที่มีพหุปัญญาด้านนี้สูงมักมีความไวต่อจังหวะ ทำนอง และเสียงดนตรี พวกเขาชอบร้องเพลง เล่นเครื่องดนตรี หรือแต่งเพลง บางคนสามารถจดจำเพลงได้ดีและเรียนรู้ผ่านดนตรีได้ง่าย ครูสามารถบูรณาการดนตรีเข้ากับการเรียนการสอนในวิชาต่างๆ เช่น การใช้เพลงช่วยจำสูตรคณิตศาสตร์ การสอนภาษาผ่านเพลง หรือการใช้เสียงและจังหวะในการสอนวิทยาศาสตร์ ในบริบทไทยที่มีดนตรีพื้นบ้านและดนตรีไทยที่หลากหลาย การนำมาใช้ในการเรียนการสอนจะช่วยอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไปพร้อมกับการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน
ปัญญาด้านร่างกายและการเคลื่อนไหวหรือ Bodily-Kinesthetic Intelligence เป็นความสามารถในการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายและการใช้มือหรือร่างกายในการสร้างสรรค์หรือแก้ปัญหา เด็กที่มีพหุปัญญาด้านนี้สูงมักเก่งกีฬา ชอบเคลื่อนไหว ชอบทำงานประดิษฐ์ หรือแสดงออกทางร่างกาย พวกเขาเรียนรู้ได้ดีที่สุดเมื่อได้ลงมือทำด้วยตนเอง ครูสามารถส่งเสริมพหุปัญญาด้านนี้โดยการจัดกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนได้เคลื่อนไหว เช่น การแสดงบทบาทสมมติ การทำโครงงานที่ต้องใช้มือ กีฬา การเต้นรำ หรือการทำการทดลอง การเรียนรู้แบบ Learning by Doing จะเหมาะกับเด็กกลุ่มนี้มาก และในวัฒนธรรมไทยที่มีศิลปะการแสดงพื้นบ้านมากมาย การนำมาประยุกต์ใช้จะทำให้การเรียนรู้สนุกและมีความหมาย
ปัญญาด้านมนุษยสัมพันธ์หรือ Interpersonal Intelligence คือความสามารถในการเข้าใจและทำงานร่วมกับผู้อื่น เด็กที่มีพหุปัญญาด้านนี้สูงมักเป็นคนเข้าสังคมได้ดี มีความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของผู้อื่น และเป็นผู้นำที่ดี พวกเขาชอบทำงานเป็นกลุ่ม ชอบช่วยเหลือเพื่อน และมักจะเป็นคนที่สามารถไกล่เกลี่ยข้อขัดแย้งได้ ครูสามารถพัฒนาพหุปัญญาด้านนี้ผ่านกิจกรรมกลุ่ม โครงงานร่วม การอภิปราย การเล่นเกมที่ต้องใช้ความร่วมมือ และการทำกิจกรรมบริการสังคม ในสังคมไทยที่เน้นความสัมพันธ์และความกตัญญู การพัฒนาพหุปัญญาด้านนี้จะช่วยสร้างคนที่มีคุณภาพทั้งด้านความรู้และด้านจิตใจ
ปัญญาด้านการเข้าใจตนเองหรือ Intrapersonal Intelligence เป็นความสามารถในการเข้าใจตัวเอง รู้จักจุดแข็ง จุดอ่อน ความรู้สึก และแรงจูงใจของตนเอง เด็กที่มีพหุปัญญาด้านนี้สูงมักชอบอยู่คนเดียว มีความคิดสร้างสรรค์ มีเป้าหมายชัดเจน และสามารถควบคุมตนเองได้ดี พวกเขารู้ว่าตัวเองเรียนรู้ได้ดีที่สุดอย่างไร และสามารถประเมินความก้าวหน้าของตนเองได้ ครูสามารถส่งเสริมพหุปัญญาด้านนี้โดยการให้ผู้เรียนเขียนบันทึกประจำวัน ไตร่ตรองการเรียนรู้ของตนเอง ตั้งเป้าหมายส่วนบุคคล และประเมินตนเอง การสร้างพื้นที่ส่วนตัวในห้องเรียนที่ให้เด็กได้คิดและทำงานคนเดียวบ้างก็สำคัญเช่นกัน ในบริบทการศึกษาไทยที่เริ่มให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตและการดูแลตนเอง การพัฒนาพหุปัญญาด้านนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
ปัญญาด้านธรรมชาติวิทยาหรือ Naturalist Intelligence เป็นพหุปัญญาที่การ์ดเนอร์เพิ่มเข้ามาในภายหลัง หมายถึงความสามารถในการรับรู้ จำแนก และเข้าใจสิ่งมีชีวิตและธรรมชาติ เด็กที่มีพหุปัญญาด้านนี้สูงมักสนใจพืช สัตว์ ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม พวกเขาชอบสำรวจธรรมชาติ สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม และมีความรับผิดชอบต่อโลก ครูสามารถส่งเสริมพหุปัญญาด้านนี้ผ่านการเรียนรู้นอกห้องเรียน การทำโครงงานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม การเลี้ยงพืชหรือสัตว์ การจัดหมวดหมู่สิ่งมีชีวิต และการทำกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติ ในประเทศไทยที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง การพัฒนาพหุปัญญาด้านนี้จะช่วยสร้างคนรุ่นใหม่ที่รักและดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
การออกแบบนวัตกรรมการเรียนรู้
การนำทฤษฎีพหุปัญญามาพัฒนาเป็นนวัตกรรมการเรียนการสอนต้องเริ่มจากการประเมินพหุปัญญาของผู้เรียน ครูควรสังเกตพฤติกรรม ความสนใจ และความถนัดของนักเรียนแต่ละคนอย่างใกล้ชิด อาจใช้แบบสอบถามหรือกิจกรรมต่างๆ เพื่อช่วยในการประเมิน เมื่อรู้ว่านักเรียนแต่ละคนมีจุดเด่นด้านใด ครูสามารถวางแผนการสอนที่หลากหลายและครอบคลุมพหุปัญญาทั้ง 8 ด้าน การออกแบบบทเรียนควรมีกิจกรรมที่ให้นักเรียนได้เรียนรู้ผ่านช่องทางที่แตกต่างกัน เช่น หากสอนเรื่องประวัติศาสตร์ อาจให้นักเรียนอ่านเอกสาร เขียนเรียงความ วาดภาพประกอบ แสดงละครย้อนยุค ทำแผนที่ ร้องเพลงประวัติศาสตร์ ทำงานกลุ่มวิเคราะห์เหตุการณ์ และสะท้อนความคิดส่วนบุคคล เพื่อให้นักเรียนทุกคนได้เรียนรู้ในแบบที่เหมาะกับตนเอง
นวัตกรรมการเรียนรู้ที่ดีควรส่งเสริมให้นักเรียนได้ใช้พหุปัญญาหลายด้านร่วมกัน เพราะในชีวิตจริงการแก้ปัญหาหรือทำงานต่างๆ ต้องใช้ความสามารถหลายอย่างประสานกัน การออกแบบโครงงานที่ครอบคลุมหลายศาสตร์หรือ Interdisciplinary Project จะช่วยให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะรอบด้าน ตัวอย่างเช่น โครงงานเรื่องการอนุรักษ์แม่น้ำในชุมชน นักเรียนต้องใช้ปัญญาด้านภาษาในการสัมภาษณ์ชาวบ้านและเขียนรายงาน ใช้ปัญญาด้านตรรกะคณิตศาสตร์ในการวิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพน้ำ ใช้ปัญญาด้านมิติสัมพันธ์ในการวาดแผนที่และออกแบบป้ายรณรงค์ ใช้ปัญญาด้านธรรมชาติวิทยาในการศึกษาระบบนิเวศ ใช้ปัญญาด้านมนุษยสัมพันธ์ในการทำงานร่วมกันและรณรงค์ชักชวน และใช้ปัญญาด้านร่างกายในการลงมือทำกิจกรรมทำความสะอาดแม่น้ำ โครงงานแบบนี้จะช่วยให้นักเรียนเห็นคุณค่าของความสามารถที่หลากหลายและเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับคนที่มีจุดเด่นต่างกัน
การใช้เทคโนโลยีก็เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่สามารถสนับสนุนการเรียนรู้ตามทฤษฎีพหุปัญญา แอปพลิเคชันและโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆ สามารถปรับให้เหมาะกับการเรียนรู้แบบต่างๆ ได้ ตัวอย่างเช่น โปรแกรมสร้างหนังสือการ์ตูนดิจิทัลเหมาะสำหรับผู้เรียนที่มีพหุปัญญาด้านมิติสัมพันธ์และภาษา แอปเรียนรู้ผ่านเพลงและเกมเหมาะสำหรับผู้เรียนที่มีพหุปัญญาด้านดนตรีและร่างกาย โปรแกรมจำลองสถานการณ์ทางวิทยาศาสตร์เหมาะสำหรับผู้เรียนที่มีพหุปัญญาด้านตรรกะคณิตศาสตร์และธรรมชาติวิทยา แพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันออนไลน์เหมาะสำหรับผู้เรียนที่มีพหุปัญญาด้านมนุษยสัมพันธ์ และแอปบันทึกไดอารี่หรือการสะท้อนความคิดเหมาะสำหรับผู้เรียนที่มีพหุปัญญาด้านการเข้าใจตนเอง
รายละเอียด การอบรมออนไลน์ เพื่อพัฒนานวัตกรรมสู่ Best practice ตามทฤษฎีพหุปัญญา เกียรติบัตร Online ฟรี
การอบรมเพื่อพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ปีงบประมาณ พ.ศ.2566
การพัฒนาปัญญาด้านการเข้าใจตนเอง (Intrapersonal Intelligence)
วันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน 2566
คือ ความสามารถในการรู้จัก ตระหนักรู้ในตนเอง สามารถเท่าทันตนเอง ควบคุมการแสดงออกอย่างเหมาะสมตามกาลเทศะ และสถานการณ์ รู้ว่าเมื่อไหร่ควรเผชิญหน้า เมื่อไหร่ควรหลีกเลี่ยง เมื่อไหร่ต้องขอความช่วยเหลือ มองภาพตนเองตามความเป็นจริง รู้ถึงจุดอ่อน หรือข้อบกพร่องของตนเอง ในขณะเดียวกันก็รู้ว่าตนมีจุดแข็ง หรือความสามารถในเรื่องใด
มีความรู้เท่าทันอารมณ์ ความรู้สึก ความคิด ความคาดหวัง ความปรารถนา และตัวตนของตนเองอย่างแท้จริง เป็นปัญญาด้านที่จำเป็นต้องมีอยู่ในทุกคนเช่นกัน เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอย่างมีคุณค่า และมีความสุข สำหรับผู้ที่มีปัญญาด้านนี้โดดเด่น มักจะเป็นนักคิด นักปรัชญา หรือนักวิจัย
การพัฒนาปัญญาด้านมนุษยสัมพันธ์ (Interpersonal Intelligence)
วันเสาร์ที่ 17มิถุนายน 2566
คือ ความสามารถในการเข้าใจผู้อื่น ทั้งด้านความรู้สึกนึกคิด อารมณ์ และเจตนาที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน มีความไวในการสังเกต สีหน้า ท่าทาง น้ำเสียง สามารถตอบสนองได้อย่างเหมาะสม สร้างมิตรภาพได้ง่าย เจรจาต่อรอง ลดความขัดแย้ง สามารถจูงใจผู้อื่นได้ดี เป็นปัญญาด้านที่จำเป็นต้องมีอยู่ในทุกคน แต่สำหรับผู้ที่มีปัญญาด้านนี้โดดเด่น มักจะเป็นครูบาอาจารย์ ผู้ให้คำปรึกษา นักการฑูต เซลแมน พนักงานขายตรง พนักงานต้อนรับ ประชาสัมพันธ์ นักการเมือง หรือนักธุรกิจ
ลิงก์สำหรับลงทะเบียนเข้าอบรม
การอบรมออนไลน์ เพื่อพัฒนานวัตกรรมสู่ Best practice
ตามทฤษฎีพหุปัญญา เกียรติบัตร Online ฟรี
โดยสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดกรุงเทพมหานคร ในรูปแบบ Online