สวัสดีคุณครูทุกท่านครับ วันนี้ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ขอแนะนำทำแบบทดสอบออนไลน์รับเกียรติบัตร แบบทดสอบความรู้ความเข้าใจหลักสูตรโปรแกรม Canva เพื่อประเมินความรู้ ความเข้าใจ ความรู้ความเข้าใจ หลักสูตรโปรแกรม Canva ผู้เข้ารับการอบรมเรียนรู้จากเนื้อหาให้ครบทุกบท เมื่อเรียนรู้ครบทุกบทเสร็จสิ้นแล้ว สามารถทำแบบทดสอบวัดความรู้ จำนวน 30 ข้อ และต้องผ่าน 80 เปอร์เซนต์ จึงจะได้รับวุฒิบัตร
ขอแนะนำทำแบบทดสอบรับเกียรติบัตร ทดสอบความรู้ความเข้าใจหลักสูตรโปรแกรม Canva
ขอบคุณแหล่งที่มา : สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1
Canva หลักสูตรเดียวจบ ครบทุกการออกแบบ
ในยุคดิจิทัลที่ทุกคนคือผู้สร้างคอนเทนต์ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก นักการตลาด ฟรีแลนซ์ นักเรียนนักศึกษา หรือแม้แต่คนที่ต้องการสร้างสรรค์ผลงานส่วนตัว การมีทักษะด้านการออกแบบกราฟิกติดตัวไว้นั้นเปรียบเสมือนการมีพลังพิเศษที่สามารถเปลี่ยนไอเดียในหัวให้กลายเป็นภาพที่จับต้องได้และสื่อสารออกไปได้อย่างทรงพลัง แต่หลายคนอาจรู้สึกท้อแท้เมื่อนึกถึงโปรแกรมออกแบบที่ซับซ้อน ต้องใช้เวลาเรียนรู้นาน และมีค่าใช้จ่ายสูง ปัญหานี้จะหมดไปเมื่อคุณได้รู้จักกับ Canva แพลตฟอร์มการออกแบบกราฟิกออนไลน์ที่เปรียบเสมือนสตูดิโอออกแบบมืออาชีพในมือคุณ ที่สำคัญคือเริ่มต้นใช้งานได้ฟรีและง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ บทความนี้ไม่ใช่แค่การสอนใช้เครื่องมือธรรมดา แต่คือหลักสูตรฉบับสมบูรณ์ที่จะพาคุณไปเจาะลึกทุกซอกทุกมุมของ Canva เปลี่ยนคุณจากมือใหม่ที่ไม่เคยมีพื้นฐานให้กลายเป็นมือโปรที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างมั่นใจและต่อยอดไปสู่การสร้างรายได้ได้จริง
Canva คืออะไร ทำไมถึงปฏิวัติวงการออกแบบ? ลองจินตนาการถึงกล่องเครื่องมือวิเศษที่รวบรวมทุกสิ่งที่คุณต้องการสำหรับงานออกแบบไว้ในที่เดียว นั่นคือคำจำกัดความของ Canva แพลตฟอร์มนี้ทำงานบนเบราว์เซอร์และแอปพลิเคชัน ทำให้คุณสามารถออกแบบได้ทุกที่ทุกเวลาเพียงแค่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หัวใจสำคัญที่ทำให้ Canva ได้รับความนิยมไปทั่วโลกคือหลักการทำงานแบบ “ลากแล้ววาง” (Drag-and-Drop) คุณไม่จำเป็นต้องวาดเส้นเองหรือใช้คำสั่งที่ซับซ้อน เพียงแค่เลือกองค์ประกอบที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรง ข้อความ รูปภาพ แล้วลากมาวางบนพื้นที่ทำงานของคุณได้อย่างอิสระ สิ่งนี้ได้ทลายกำแพงความยากในการเข้าถึงการออกแบบลงอย่างสิ้นเชิง เมื่อเทียบกับโปรแกรมรุ่นใหญ่อย่าง Adobe Photoshop หรือ Illustrator ที่ต้องอาศัยการเรียนรู้และฝึกฝนอย่างหนัก Canva ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนเป็นนักออกแบบได้ ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือ Canva มีคลังเทมเพลต (Template) หรือแม่แบบสำเร็จรูปนับแสนล้านชิ้นที่ออกแบบโดยมืออาชีพครอบคลุมทุกความต้องการ ตั้งแต่โพสต์โซเชียลมีเดีย, พรีเซนเทชัน, เรซูเม่, นามบัตร, โปสเตอร์, ไปจนถึงวิดีโอและเว็บไซต์ขนาดเล็ก ทำให้แม้แต่วันที่คุณไม่มีไอเดีย ก็สามารถเริ่มต้นจากเทมเพลตสวยๆ แล้วปรับแก้เล็กน้อยให้เป็นสไตล์ของตัวเองได้ทันที นอกจากนี้ Canva ยังมีเวอร์ชันฟรีที่ทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งเพียงพอต่องานออกแบบส่วนใหญ่ และมีเวอร์ชัน Pro สำหรับผู้ที่ต้องการฟีเจอร์ขั้นสูงในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย
เริ่มต้นการเดินทางสู่ความเป็นมือโปร ขั้นตอนแรกสู่การใช้งาน Canva นั้นง่ายดายอย่างยิ่ง เพียงเข้าไปที่เว็บไซต์ Canva.com หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันลงบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของคุณ คุณสามารถสมัครสมาชิกได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้บัญชี Google, Facebook, Apple ID หรืออีเมลส่วนตัว ซึ่งใช้เวลาไม่ถึงนาที เมื่อเข้าสู่ระบบครั้งแรก คุณจะพบกับหน้าแดชบอร์ด (Dashboard) ที่เป็นมิตรและเข้าใจง่าย นี่คือศูนย์บัญชาการของคุณ ลองใช้เวลาสำรวจหน้าจอนี้สักครู่ ตรงกลางหน้าจอ คุณจะเห็นแถบค้นหาขนาดใหญ่ที่เขียนว่า “คุณจะออกแบบอะไร” (What will you design?) นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทรงพลังที่สุด คุณสามารถพิมพ์สิ่งที่ต้องการสร้างลงไปได้เลย เช่น “Instagram Post”, “YouTube Thumbnail”, “Resume” หรือแม้แต่ “โลโก้ร้านกาแฟ” Canva ก็จะแสดงเทมเพลตและขนาดที่เหมาะสมกับงานนั้นๆ ขึ้นมาให้ทันที ด้านล่างแถบค้นหาจะเป็นหมวดหมู่ยอดนิยม เช่น Docs, Whiteboards, Presentations, Social Media, Videos ซึ่งช่วยให้คุณเข้าถึงประเภทงานที่ต้องการได้เร็วขึ้น เมนูด้านซ้ายมือคืออีกส่วนที่สำคัญ ประกอบไปด้วย “Projects” ที่เก็บงานออกแบบทั้งหมดของคุณ, “Templates” คลังแม่แบบทั้งหมด, “Brand” (สำหรับเวอร์ชัน Pro) ที่ให้คุณเก็บโลโก้ สี และฟอนต์ของแบรนด์ไว้ใช้ได้สะดวก และ “Apps” ที่เชื่อมต่อกับเครื่องมืออื่นๆ อีกมากมาย
สำรวจพื้นที่ทำงาน สตูดิโอออกแบบส่วนตัวของคุณ เมื่อคุณเลือกประเภทงานออกแบบหรือเทมเพลตแล้ว คุณจะเข้าสู่หน้าต่างการทำงานหลัก หรือที่เรียกว่า “Editor” ซึ่งเปรียบเสมือนผืนผ้าใบดิจิทัลของคุณ ตรงกลางคือพื้นที่ทำงานหลัก (Canvas) ที่คุณจะสร้างสรรค์ผลงาน ด้านบนเป็นแถบเมนูหลักสำหรับตั้งค่าไฟล์ การบันทึก และฟังก์ชันพิเศษต่างๆ แต่หัวใจของการทำงานจะอยู่ที่แถบเครื่องมือด้านซ้ายมือ ซึ่งเป็นคลังสมบัติที่คุณต้องทำความรู้จักอย่างละเอียด
แถบเครื่องมือด้านซ้าย แหล่งขุมทรัพย์ของนักออกแบบ
Design (ดีไซน์): แท็บแรกที่คุณจะเจอเมื่อเข้ามาในหน้า Editor ที่นี่จะแบ่งเป็นสองส่วนหลักคือ Templates (แม่แบบ) และ Styles (สไตล์) คุณสามารถค้นหาเทมเพลตใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโปรเจกต์ของคุณได้เสมอ หรือถ้าคุณมีเทมเพลตที่ชอบแล้ว แต่ต้องการเปลี่ยนชุดสีและฟอนต์ทั้งหมดในคลิกเดียว ก็สามารถใช้ฟังก์ชัน “Styles” ได้เลย Canva จะแนะนำชุดสีและฟอนต์ที่เข้ากันอย่างมืออาชีพมาให้เลือกใช้
Elements (องค์ประกอบ): นี่คือแท็บที่คุณจะใช้งานบ่อยที่สุด มันคือคลังวัตถุดิบมหาศาลที่ประกอบไปด้วย Lines & Shapes (เส้นและรูปทรง) พื้นฐาน, Graphics (กราฟิก) ที่มีทั้งสติกเกอร์ ไอคอน ภาพวาดมากมาย, Photos (ภาพถ่าย) สต็อกคุณภาพสูง, Videos (วิดีโอ) สำหรับงานเคลื่อนไหว, Audio (เสียง) สำหรับใส่เพลงประกอบหรือซาวด์เอฟเฟกต์, Charts (แผนภูมิ) สำหรับการนำเสนอข้อมูล, Tables (ตาราง), Frames (กรอบรูป) ที่เมื่อลากรูปใส่เข้าไป รูปจะถูกตัดตามทรงของกรอบอัตโนมัติ, และ Grids (ตารางจัดวาง) สำหรับการจัดวางรูปภาพหลายๆ รูปให้เป็นระเบียบ เคล็ดลับสำคัญคือการใช้คำค้นหา (Keyword) ที่เฉพาะเจาะจงในช่องค้นหาของ Elements ยิ่งคุณค้นหาได้ดีเท่าไหร่ คุณก็จะเจอกับองค์ประกอบที่ตรงใจมากเท่านั้น
Uploads (อัปโหลด): หากคุณมีรูปภาพ โลโก้ วิดีโอ หรือไฟล์เสียงของตัวเองที่ต้องการนำมาใช้ในงานออกแบบ คุณสามารถอัปโหลดผ่านแท็บนี้ได้อย่างง่ายดาย เพียงลากไฟล์จากคอมพิวเตอร์มาวาง หรือกดปุ่ม “Upload files”
Text (ข้อความ): ทุกงานออกแบบต้องการการสื่อสารด้วยตัวอักษร แท็บนี้ให้คุณเพิ่มหัวเรื่อง (Heading), หัวเรื่องรอง (Subheading), และเนื้อหา (Body text) ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมี “Font Combinations” หรือชุดฟอนต์ที่นักออกแบบจับคู่มาให้แล้วว่าสวยงามและเข้ากัน ทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลาเลือกเอง และที่สำคัญคือ “Text Effects” ที่ให้คุณใส่เงา, ทำให้ตัวอักษรเรืองแสง, ทำขอบ, หรือแม้แต่ดัดข้อความให้โค้งตามรูปทรงที่ต้องการได้
Draw (วาด): สำหรับคนที่อยากเพิ่มลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ฟีเจอร์นี้ให้คุณเลือกประเภทปากกา สี และขนาดเส้น แล้ววาดลงไปบนงานออกแบบได้โดยตรง เหมาะสำหรับการทำไฮไลท์หรือเพิ่มลายเซ็นส่วนตัว
Projects (โปรเจกต์): หากคุณต้องการนำองค์ประกอบจากงานออกแบบชิ้นเก่ามาใช้ในงานชิ้นใหม่ แท็บนี้จะช่วยให้คุณค้นหาและดึงไฟล์เก่าๆ ของคุณมาดูหรือใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องออกจากหน้า Editor
Apps (แอป): นี่คือส่วนที่เพิ่มพลังให้ Canva ไปอีกระดับ คุณสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันอื่นๆ ได้มากมาย เช่น สร้าง QR Code, ใช้ AI สร้างภาพจากข้อความ (Magic Media), ดึงรูปจาก Google Drive หรือ Dropbox, หรือแม้แต่ใส่ Bitmoji ของคุณเองลงไปในงานออกแบบได้
เทคนิคการออกแบบอย่างมืออาชีพด้วย Magic Studio เมื่อคุณเข้าใจเครื่องมือพื้นฐานทั้งหมดแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะยกระดับการออกแบบของคุณด้วยฟีเจอร์กลุ่ม “Magic Studio” ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือ AI อัจฉริยะของ Canva ที่จะช่วยให้คุณทำงานได้เร็วขึ้นและสร้างสรรค์ผลงานที่น่าทึ่งยิ่งขึ้น
Magic Write (นักเขียนวิเศษ): เคยไหมที่คิดงานออกแบบสวยๆ ออก แต่คิดแคปชันหรือข้อความไม่ออก? Magic Write คือผู้ช่วยนักเขียนส่วนตัวของคุณ เพียงแค่พิมพ์คำสั่งง่ายๆ เช่น “เขียน 5 ไอเดียแคปชันสำหรับโปรโมตสินค้ากาแฟ” AI ก็จะสร้างข้อความมาให้คุณเลือกใช้และปรับแก้ได้ทันที
Magic Design (ดีไซน์วิเศษ): นี่คือฟีเจอร์เปลี่ยนเกมอย่างแท้จริง คุณสามารถอัปโหลดรูปภาพหนึ่งรูป แล้ว Magic Design จะวิเคราะห์รูปภาพนั้นและสร้างเทมเพลตที่สวยงามหลากหลายสไตล์ขึ้นมาให้คุณเลือกใช้โดยอัตโนมัติ หรือแม้กระทั่งการพิมพ์ข้อความบรรยายสิ่งที่คุณต้องการ เช่น “โปสเตอร์โปรโมตคอนเสิร์ตเพลงแจ๊สในสวน” มันก็จะสร้างดีไซน์เริ่มต้นมาให้คุณทันที
Magic Switch (สลับร่างวิเศษ): ฟีเจอร์นี้เดิมชื่อ Magic Resize เป็นสิ่งที่นักการตลาดและคนทำคอนเทนต์จะต้องหลงรัก ลองจินตนาการว่าคุณออกแบบภาพสำหรับ Instagram Post (สี่เหลี่ยมจัตุรัส) เสร็จแล้ว แต่อยากได้ภาพเดียวกันนี้ไปลงใน Instagram Story (แนวตั้ง) และ Facebook Cover (แนวนอน) ด้วย แทนที่จะต้องสร้างใหม่ทั้งหมด Magic Switch จะช่วยแปลงดีไซน์ของคุณไปยังขนาดอื่นๆ ที่ต้องการได้ในไม่กี่คลิก โดยพยายามจัดวางองค์ประกอบให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ ช่วยประหยัดเวลาไปได้อย่างมหาศาล
Magic Edit, Magic Grab, Magic Eraser (เครื่องมือแก้ไขภาพวิเศษ): กลุ่มเครื่องมือนี้จะทำให้การแต่งภาพของคุณสนุกและง่ายขึ้น Magic Eraser ช่วยให้คุณลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากภาพได้อย่างแนบเนียน Magic Edit ให้คุณระบายส่วนที่ต้องการแก้ไขในภาพแล้วพิมพ์คำสั่งเพื่อเปลี่ยนสิ่งนั้น เช่น ระบายที่เสื้อแล้วสั่งให้ “เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน” และ Magic Grab ที่น่าทึ่งคือสามารถ “หยิบ” วัตถุหลักในภาพถ่ายออกมาจากพื้นหลัง ทำให้คุณสามารถย้ายตำแหน่ง ปรับขนาด หรือลบวัตถุนั้นทิ้งไปได้เลย ราวกับมีเวทมนตร์
Magic Animate (ภาพเคลื่อนไหววิเศษ): หากคุณต้องการเพิ่มความน่าสนใจให้กับงานออกแบบของคุณ Magic Animate จะช่วยใส่การเคลื่อนไหวให้กับองค์ประกอบทั้งหมดในหน้าดีไซน์ของคุณโดยอัตโนมัติด้วยคลิกเดียว มีสไตล์แอนิเมชันให้เลือกหลากหลาย ช่วยเปลี่ยนภาพนิ่งธรรมดาให้กลายเป็นวิดีโอสั้นๆ หรือ GIF ที่ดึงดูดสายตาได้ทันที
จากผืนผ้าใบสู่โลกความจริง การบันทึกและแบ่งปันผลงาน เมื่อคุณสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกของคุณเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือการนำมันออกไปใช้งาน ปุ่ม “Share” (แชร์) ที่มุมขวาบนคือประตูสู่โลกภายนอก เมื่อคลิกแล้วคุณจะพบกับตัวเลือกมากมาย ที่สำคัญที่สุดคือ “Download” (ดาวน์โหลด) ซึ่งคุณจำเป็นต้องเข้าใจประเภทไฟล์ต่างๆ เพื่อเลือกให้เหมาะสมกับงาน
JPG: เหมาะสำหรับภาพถ่ายทั่วไป มีขนาดไฟล์เล็ก แต่ไม่รองรับพื้นหลังโปร่งใส
PNG: เหมาะสำหรับโลโก้ ไอคอน หรือกราฟิกที่ต้องการพื้นหลังโปร่งใส (Transparent Background) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ของ Canva Pro ให้คุณภาพของภาพที่คมชัดกว่า JPG
PDF Standard: เหมาะสำหรับเอกสารทั่วไป เช่น เรซูเม่, E-book ที่เน้นการส่งต่อและอ่านง่าย
PDF Print: เหมาะสำหรับงานที่ต้องการส่งโรงพิมพ์ เช่น โปสเตอร์, นามบัตร, แผ่นพับ ไฟล์จะมีความละเอียดสูงและใช้โปรไฟล์สีที่เหมาะสมกับการพิมพ์
MP4 Video: สำหรับบันทึกงานออกแบบที่มีการเคลื่อนไหวหรือมีวิดีโอและเสียงประกอบ
GIF: สำหรับสร้างภาพเคลื่อนไหวสั้นๆ แบบวนลูป เหมาะสำหรับใช้ในโซเชียลมีเดียหรือแชท
นอกจากการดาวน์โหลดแล้ว คุณยังสามารถแชร์ลิงก์ให้คนอื่นเข้ามาดู (View-only link) หรือเข้ามาแก้ไขร่วมกัน (Collaborate link) ได้ ซึ่งเหมาะกับการทำงานเป็นทีมอย่างยิ่ง และสำหรับผู้ใช้ Canva Pro ยังสามารถใช้ฟีเจอร์ “Content Planner” เพื่อตั้งเวลาโพสต์ผลงานของคุณลงบนโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้โดยตรงจาก Canva เลยทีเดียว
เปลี่ยนทักษะ Canva ให้กลายเป็นรายได้ นี่คือส่วนที่หลายคนรอคอย การเรียนรู้ Canva ไม่ได้จบแค่การสร้างสรรค์ผลงานสวยงามเพื่อความสุขส่วนตัว แต่มันสามารถเป็นเครื่องมือทำเงินที่ทรงพลังได้อย่างไม่น่าเชื่อ มีหลากหลายเส้นทางที่คุณสามารถต่อยอดทักษะนี้ไปสู่การสร้างรายได้ได้
การเป็นฟรีแลนซ์รับออกแบบกราฟิก: นี่คือเส้นทางที่ตรงที่สุด แพลตฟอร์มอย่าง Fastwork, Upwork, หรือกลุ่ม Facebook ต่างๆ เต็มไปด้วยผู้ประกอบการที่ต้องการนักออกแบบสำหรับงานด่วน เช่น กราฟิกสำหรับโพสต์ลงโซเชียลมีเดียรายวัน/รายสัปดาห์, ภาพปก YouTube, ภาพโฆษณา, หรือแม้กระทั่งสไลด์พรีเซนเทชันสำหรับเสนอผู้บริหาร คุณสามารถใช้ Canva เพื่อสร้างสรรค์ผลงานเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วและเป็นมืออาชีพ ทำให้รับงานได้มากขึ้นในเวลาที่น้อยลง
การขายเทมเพลต Canva: หากคุณมีสไตล์การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และรู้ว่าตลาดต้องการอะไร คุณสามารถสร้างเทมเพลต Canva แล้วนำไปขายบนแพลตฟอร์มอย่าง Etsy, Creative Market หรือแม้แต่บนเว็บไซต์ของคุณเองได้ ตลาดนี้กำลังเติบโตอย่างมาก เพราะมีผู้ใช้งาน Canva จำนวนมหาศาลที่ต้องการทางลัดในการออกแบบให้สวยงาม ลองคิดถึงการสร้างชุดเทมเพลตสำหรับ Instagram, เทมเพลต E-book, หรือเทมเพลต Planner แล้วขายมันซ้ำๆ สร้างเป็นรายได้แบบ Passive Income
การออกแบบสำหรับธุรกิจ Print-on-Demand (POD): ธุรกิจ POD คือการที่คุณออกแบบลายกราฟิก แล้วนำไปวางบนสินค้าต่างๆ เช่น เสื้อยืด, แก้วน้ำ, เคสมือถือ, กระเป๋าผ้า ผ่านเว็บไซต์ตัวกลาง เมื่อมีคนสั่งซื้อสินค้า ตัวกลางจะทำการพิมพ์และจัดส่งให้ลูกค้าโดยที่คุณไม่ต้องสต็อกของเอง คุณสามารถใช้ Canva ในการสร้างสรรค์ลวดลายและ Mockup สินค้าสวยๆ เพื่อโปรโมตได้อย่างง่ายดาย
การเป็นผู้ช่วยส่วนตัวเสมือน (Virtual Assistant – VA) ที่เชี่ยวชาญด้านการตลาด: ผู้ประกอบการจำนวนมากไม่มีเวลาดูแลโซเชียลมีเดียของตัวเอง คุณสามารถเสนอบริการเป็น VA ที่ดูแลการสร้างและจัดตารางโพสต์คอนเทนต์โดยใช้ Canva เป็นเครื่องมือหลัก
การสร้างสื่อการสอนและคอร์สออนไลน์: เมื่อคุณเชี่ยวชาญ Canva ในระดับลึกแล้ว คุณสามารถสร้างรายได้จากการสอนผู้อื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง E-book “คู่มือการใช้ Canva สำหรับผู้เริ่มต้น”, การสร้างคอร์สวิดีโอออนไลน์สอนเทคนิคขั้นสูง, หรือการจัดเวิร์กชอปออนไลน์แบบสดๆ
การสนับสนุนธุรกิจของตัวเอง: ท้ายที่สุดแล้ว ทักษะ Canva คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณเอง คุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างนักออกแบบได้มหาศาล ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโลโก้, นามบัตร, แผ่นพับ, เมนูอาหาร, คอนเทนต์การตลาด, หรือแม้แต่เว็บไซต์เบื้องต้น ทั้งหมดนี้คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองผ่าน Canva
Canva เป็นมากกว่าแค่โปรแกรมออกแบบ มันคือประตูสู่โลกแห่งความคิดสร้างสรรค์ที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน บทความนี้ได้มอบแผนที่และเข็มทิศให้คุณแล้วในการเดินทางสำรวจดินแดนอันกว้างใหญ่ของ Canva ตั้งแต่การทำความรู้จักเครื่องมือพื้นฐาน การใช้เทคนิคขั้นสูงด้วย AI ไปจนถึงการมองเห็นลู่ทางในการสร้างรายได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงคือการลงมือทำ ลองเปิด Canva ขึ้นมาตอนนี้ เลือกเทมเพลตที่คุณชอบ ลองเปลี่ยนสี เปลี่ยนฟอนต์ ลองใส่รูปของคุณเข้าไป ลองใช้เครื่องมือ Magic Studio ที่น่าตื่นตาตื่นใจ อย่ากลัวที่จะทดลอง อย่ากลัวที่จะทำผิดพลาด เพราะทุกการคลิกคือการเรียนรู้ ยิ่งคุณใช้เวลาอยู่กับมันมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งค้นพบศักยภาพที่ซ่อนอยู่ทั้งในตัวโปรแกรมและในตัวของคุณเอง โลกกำลังรอชมผลงานสร้างสรรค์ของคุณอยู่ เริ่มต้นการเดินทางของคุณกับ Canva ได้แล้ววันนี้
รายละเอียดการทำแบบทดสอบ เรื่องความรู้ความเข้าใจหลักสูตรโปรแกรม Canva

คำชี้แจง
เมื่อเรียนรู้ครบทุกบทเสร็จสิ้นแล้ว สามารถทำแบบทดสอบวัดความรู้ จำนวน 30 ข้อ และต้องผ่าน 80 เปอร์เซนต์ จึงจะได้รับวุฒิบัตร
เข้าศึกษาความรู้ :: https://sites.google.com/ratchaburi1.go.th/canva/หนาแรก%3Fauthuser=0
ช่องทางเข้าทำแบบทดสอบ
ขอบคุณแหล่งที่มา : สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1