
บทความนี้ สื่อฟรีออนไลน์.com
ขอแนะนำไฟล์ แผนการจัดการเรียนรู้ด้วย
กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน
เครดิต : คุณครูสายบัว พิมพ์มหา
แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอนเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียนอย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดการเรียนการสอนในยุคปัจจุบันต้องการความเป็นระบบและมีกระบวนการที่ชัดเจนเพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาทักษะและความรู้ได้อย่างเต็มศักยภาพ แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการ 5 ขั้นตอนจึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ครูและผู้สอนควรนำมาใช้ในการออกแบบบทเรียนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอนนี้ได้รับการพัฒนามาจากทฤษฎีการเรียนรู้ต่างๆ และได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในระบบการศึกษาไทยอย่างแพร่หลาย ช่วยให้การเรียนการสอนเป็นไปอย่างเป็นระบบและมีความต่อเนื่อง
กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอนประกอบด้วยขั้นตอนที่สำคัญคือ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ขั้นสำรวจและค้นหา ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป ขั้นขยายความรู้ และขั้นประเมินผล แต่ละขั้นตอนมีความสำคัญและเชื่อมโยงกันเป็นวงจรการเรียนรู้ที่สมบูรณ์ ช่วยให้ผู้เรียนได้พัฒนาทั้งด้านความรู้ ทักษะ และเจคติที่ดีต่อการเรียนรู้ การวางแผนการจัดการเรียนรู้ตามกระบวนการนี้จะช่วยให้ครูสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายและเหมาะสมกับผู้เรียน
ความสำคัญของการวางแผนการจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ
การวางแผนการจัดการเรียนรู้เป็นหัวใจสำคัญของการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ เพราะแผนการสอนที่ดีจะช่วยให้ครูมีทิศทางที่ชัดเจนในการดำเนินการสอน สามารถกำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม และเลือกใช้วิธีการสอนที่สอดคล้องกับเนื้อหาและระดับความสามารถของผู้เรียน แผนการสอนที่ดีจะต้องคำนึงถึงหลักการของการเรียนรู้ที่ว่าผู้เรียนแต่ละคนมีความแตกต่างกัน มีรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลาย และต้องการการส่งเสริมที่เหมาะสมกับศักยภาพของแต่ละบุคคล
ครูที่มีการวางแผนการสอนอย่างเป็นระบบจะสามารถบริหารจัดการเวลาในชั้นเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เตรียมสื่อการสอนและอุปกรณ์ที่จำเป็นได้ล่วงหน้า และสามารถคาดการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการสอนได้ นอกจากนี้การวางแผนยังช่วยให้ครูสามารถออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายและท้าทายความสามารถของผู้เรียนในระดับที่เหมาะสม ทำให้ผู้เรียนเกิดแรงจูงใจในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ การมีแผนการสอนที่ชัดเจนยังช่วยให้การประเมินผลการเรียนรู้เป็นไปอย่างเป็นธรรมและสามารถวัดผลได้จริง
ขั้นตอนที่ 1 การนำเข้าสู่บทเรียนและการกระตุ้นความสนใจ
ขั้นตอนแรกของกระบวนการเรียนรู้คือการนำเข้าสู่บทเรียนซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการสร้างแรงจูงใจและความสนใจให้กับผู้เรียน ในขั้นตอนนี้ครูจะต้องออกแบบกิจกรรมที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้เรียนและเชื่อมโยงกับประสบการณ์เดิมของพวกเขา การเริ่มต้นบทเรียนที่ดีอาจใช้คำถามที่กระตุ้นความคิด การนำเสนอสถานการณ์จริงที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน การใช้สื่อมัลติมีเดียที่น่าสนใจ หรือการเล่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่จะเรียน
การนำเข้าสู่บทเรียนที่มีประสิทธิภาพควรใช้เวลาประมาณ 5 ถึง 10 นาที และต้องสามารถทำให้ผู้เรียนเห็นความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่จะเรียนกับชีวิตจริงของพวกเขา ครูอาจเริ่มต้นด้วยการถามคำถามเปิดเพื่อให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็นหรือแบ่งปันประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง การใช้กิจกรรมกระตุ้นความคิดเช่นการแสดงภาพหรือวิดีโอสั้นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาบทเรียนก็เป็นวิธีที่ดีในการสร้างความอยากรู้อยากเห็น นอกจากนี้ครูควรแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ให้ผู้เรียนทราบอย่างชัดเจนว่าจะเรียนอะไรและเพื่ออะไร เพื่อให้ผู้เรียนมีเป้าหมายในการเรียนรู้ที่ชัดเจน
การสร้างบรรยากาศในชั้นเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ก็เป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนนำเข้าสู่บทเรียน ครูควรสร้างความรู้สึกปลอดภัยทางจิตใจให้กับผู้เรียน ทำให้พวกเขากล้าที่จะแสดงความคิดเห็นและถามคำถามโดยไม่กลัวการถูกตัดสิน การใช้กิจกรรม Ice breaking หรือกิจกรรมอุ่นเครื่องที่สนุกสนานก็สามารถช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดและทำให้ผู้เรียนพร้อมที่จะเรียนรู้ได้ ครูที่มีความชำนาญจะสามารถอ่านบรรยากาศในชั้นเรียนได้และปรับเปลี่ยนวิธีการนำเข้าสู่บทเรียนให้เหมาะสมกับสภาวะจิตใจและความพร้อมของผู้เรียนในแต่ละวัน
ขั้นตอนที่ 2 การสำรวจและค้นหาความรู้ด้วยตนเอง
หลังจากที่ผู้เรียนมีความสนใจและพร้อมเรียนรู้แล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการให้ผู้เรียนได้สำรวจและค้นหาความรู้ด้วยตนเองผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่ครูออกแบบไว้ ในขั้นตอนนี้ครูจะทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกมากกว่าการเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้โดยตรง ผู้เรียนจะได้ลงมือปฏิบัติ ทดลอง สังเกต และค้นคว้าข้อมูลด้วยตนเอง ซึ่งจะช่วยให้เกิดการเรียนรู้ที่ลึกซึ้งและยั่งยืนมากกว่าการรับฟังการบรรยายเพียงอย่างเดียว
กิจกรรมในขั้นตอนการสำรวจนี้อาจเป็นการทำงานเป็นกลุ่มเพื่อแก้ปัญหาที่ครูมอบหมาย การทำการทดลองเพื่อค้นหาคำตอบของปรากฏการณ์ต่างๆ การค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย หรือการวิเคราะห์กรณีศึกษาต่างๆ ครูควรเตรียมคำถามนำหรือแนวทางการสำรวจที่ชัดเจนเพื่อให้ผู้เรียนสามารถดำเนินการได้อย่างมีทิศทาง อย่างไรก็ตามครูควรให้อิสระแก่ผู้เรียนในการเลือกวิธีการค้นหาคำตอบและแสดงความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา การให้ผู้เรียนได้ลองผิดลองถูกในขั้นตอนนี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา
ในระหว่างที่ผู้เรียนกำลังสำรวจและค้นหาความรู้ ครูควรเดินสังเกตการณ์และให้คำแนะนำเมื่อจำเป็น โดยไม่ควรให้คำตอบโดยตรงแต่ควรใช้คำถามชวนคิดเพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนคิดหาคำตอบด้วยตนเอง ครูควรจดบันทึกพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละคนหรือแต่ละกลุ่มเพื่อนำมาใช้ในการประเมินผลและปรับปรุงการสอนในครั้งต่อไป การสังเกตการณ์นี้จะช่วยให้ครูเข้าใจกระบวนการคิดของผู้เรียนและสามารถให้การสนับสนุนที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละคน นอกจากนี้ครูควรจัดเตรียมสื่อและอุปกรณ์ที่เพียงพอและปลอดภัยสำหรับการสำรวจและทดลอง
ขั้นตอนที่ 3 การอธิบายและสร้างความเข้าใจร่วมกัน
หลังจากที่ผู้เรียนได้มีโอกาสสำรวจและค้นหาความรู้ด้วยตนเองแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการให้ผู้เรียนได้อธิบายสิ่งที่พวกเขาค้นพบและสร้างความเข้าใจร่วมกันในชั้นเรียน ในขั้นตอนนี้ครูจะให้แต่ละกลุ่มหรือแต่ละคนนำเสนอผลการสำรวจ สิ่งที่พวกเขาค้นพบ และกระบวนการคิดที่ใช้ในการแก้ปัญหา การแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ระหว่างผู้เรียนด้วยกันเองนี้จะช่วยให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันและผู้เรียนได้เห็นมุมมองที่หลากหลาย
ครูมีบทบาทสำคัญในขั้นตอนนี้ในการเชื่อมโยงสิ่งที่ผู้เรียนค้นพบเข้ากับแนวคิดหรือทฤษฎีที่เป็นทางการ ครูควรใช้คำถามกระตุ้นความคิดเพื่อให้ผู้เรียนวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลที่ได้มา อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างแนวคิดต่างๆ และสรุปหลักการสำคัญ ครูอาจใช้เทคนิคการอภิปรายกลุ่มใหญ่ การใช้แผนภาพความคิด หรือการเขียนสรุปร่วมกันบนกระดาน การให้ผู้เรียนได้อธิบายความเข้าใจของตนเองด้วยคำพูดของตนเองจะช่วยให้ครูสามารถตรวจสอบความเข้าใจที่ถูกต้องและแก้ไขความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนได้ทันที
ในขั้นตอนการอธิบายนี้ครูควรสร้างบรรยากาศที่เปิดกว้างและยอมรับความคิดเห็นที่หลากหลาย ทำให้ผู้เรียนรู้สึกปลอดภัยในการแสดงความคิดเห็นและถามคำถาม แม้ว่าความเข้าใจของพวกเขาอาจจะยังไม่สมบูรณ์หรือถูกต้องทั้งหมด ครูควรให้ข้อเสนอแนะเชิงบวกและชี้แนะอย่างสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาความเข้าใจของผู้เรียนให้ถูกต้องและลึกซึ้งยิ่งขึ้น การใช้เทคนิคการสอนแบบโต้ตอบและการยกตัวอย่างที่หลากหลายจะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจแนวคิดที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ครูควรสรุปประเด็นสำคัญและเชื่อมโยงกับจุดประสงค์การเรียนรู้ที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นบทเรียน
ขั้นตอนที่ 4 การขยายความรู้และการประยุกต์ใช้
เมื่อผู้เรียนมีความเข้าใจพื้นฐานที่ถูกต้องแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการขยายความรู้และฝึกฝนการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ใหม่ๆ ขั้นตอนนี้มีความสำคัญมากเพราะจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถถ่ายโอนการเรียนรู้ไปใช้ในบริบทที่แตกต่างกันและพัฒนาทักษะการคิดขั้นสูง ครูควรออกแบบกิจกรรมที่ท้าทายและซับซ้อนกว่าในขั้นตอนการสำรวจ โดยผู้เรียนจะต้องนำความรู้ที่ได้มาบูรณาการกับความรู้เดิมและประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาใหม่ๆ
กิจกรรมในขั้นตอนการขยายความรู้อาจเป็นการทำโครงงาน การแก้ปัญหาในสถานการณ์จริง การสร้างสรรค์ผลงานหรือนวัตกรรมใหม่ หรือการวิเคราะห์กรณีศึกษาที่ซับซ้อน ครูควรเลือกกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับชีวิตจริงของผู้เรียนและท้าทายความสามารถของพวกเขาในระดับที่เหมาะสม การให้ผู้เรียนได้ทำงานในโครงการที่มีความหมายและเห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมจะช่วยเพิ่มแรงจูงใจและความภาคภูมิใจในการเรียนรู้ นอกจากนี้ครูควรส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายและพัฒนาทักษะการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
ในขั้นตอนนี้ครูควรให้โอกาสผู้เรียนได้ทำงานทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่มเพื่อพัฒนาทั้งความรับผิดชอบต่อตนเองและทักษะการทำงานเป็นทีม การทำงานเป็นกลุ่มจะช่วยให้ผู้เรียนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เรียนรู้จากเพื่อน และพัฒนาทักษะทางสังคม ขณะที่การทำงานเดี่ยวจะช่วยให้ผู้เรียนได้พัฒนาความมั่นใจและความสามารถในการแก้ปัญหาด้วยตนเอง ครูควรให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะอย่างต่อเนื่องระหว่างที่ผู้เรียนทำกิจกรรม โดยเน้นการให้กำลังใจและชี้แนะแนวทางการพัฒนามากกว่าการชี้ข้อผิดพลาด การส่งเสริมให้ผู้เรียนได้สะท้อนคิดเกี่ยวกับกระบวนการเรียนรู้ของตนเองก็เป็นสิ่งสำคัญในขั้นตอนนี้
แนวทางการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ สร้างพื้นฐานการศึกษาอย่างยั่งยืน
การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการเตรียมการสอน เพื่อให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพและสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียนได้ โดยทั่วไปแล้วแผนการจัดการเรียนรู้ควรประกอบด้วยส่วนสำคัญดังนี้
- ชื่อหน่วยการเรียนรู้ : ระบุชื่อหน่วยหรือหัวข้อที่ต้องการสอน
- วัตถุประสงค์การเรียนรู้ : กำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนว่าเมื่อเรียนจบแล้วผู้เรียนจะต้องมีความรู้หรือทักษะอะไรบ้าง
- เนื้อหาสาระ : ระบุเนื้อหาที่จะสอนในหน่วยการเรียนรู้ รวมถึงเรื่องราวหรือทักษะที่สำคัญ
- วิธีการสอน : ระบุวิธีการหรือกลยุทธ์ในการสอน เช่น การบรรยาย การทำกิจกรรมกลุ่ม การใช้สื่อการสอน เป็นต้น
- สื่อการสอน : ระบุสื่อหรืออุปกรณ์ที่จะใช้ในการสอน เช่น สไลด์ว Presentation, วิดีโอ, แบบฝึกหัด หรือสื่อออนไลน์
- การประเมินผลการเรียนรู้ : ระบุวิธีการประเมินผล เช่น แบบทดสอบ การสังเกตพฤติกรรม หรือการประเมินจากผลงาน
- เวลาในการจัดการเรียนรู้ : ระบุระยะเวลาในการสอนและกิจกรรมต่างๆ
- กิจกรรมเสริม : กิจกรรมเพิ่มเติมที่จะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ เช่น กิจกรรมการเรียนรู้นอกห้องเรียน
การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้เป็นกระบวนการที่สำคัญเพื่อให้การสอนมีความชัดเจนและมีประสิทธิภาพ นี่คือแนวทางในการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ที่คุณอาจพิจารณา
1. การวิเคราะห์ผู้เรียน
- รู้จักผู้เรียน : ศึกษาความต้องการ ความสนใจ และพื้นฐานความรู้ของผู้เรียนแต่ละคน
- กำหนดเป้าหมาย : กำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้ที่ชัดเจนและสอดคล้องกับความสามารถของผู้เรียน
2. การกำหนดเนื้อหา
- เลือกหัวข้อ : กำหนดเนื้อหาที่จะสอนซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์
- จัดเรียงลำดับ : จัดเรียงเนื้อหาในลำดับที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจได้ง่าย
3. การวางแผนกิจกรรมการเรียนการสอน
- กิจกรรมที่หลากหลาย : ออกแบบกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การทำงานกลุ่ม การอภิปราย การทดลอง และการศึกษานอกห้องเรียน
- เทคนิคการสอน : ใช้เทคนิคการสอนที่หลากหลายเพื่อกระตุ้นการเรียนรู้ เช่น การใช้สื่อการสอน เทคนิคการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม
4. การประเมินผล
- กำหนดวิธีการประเมิน : วางแผนการประเมินผลการเรียนรู้ทั้งในระหว่างการเรียนและหลังการเรียน
- เกณฑ์การประเมิน : กำหนดเกณฑ์การประเมินที่ชัดเจนและสามารถวัดผลได้
5. การปรับปรุงแผน
- ฟีดแบ็ก : รับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้เรียนและเพื่อนครูเพื่อนำมาปรับปรุงแผนการเรียนรู้
- ปรับเปลี่ยน : พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนแผนตามสถานการณ์และความต้องการของผู้เรียน
6. การจัดทำเอกสารแผนการเรียนรู้
- รูปแบบเอกสาร : จัดทำแผนการเรียนรู้ให้อยู่ในรูปแบบเอกสารที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย รวมถึงรายละเอียดต่าง ๆ เช่น วัตถุประสงค์ กิจกรรมการเรียนรู้ เวลาและแหล่งข้อมูล
การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ที่ดีจะช่วยให้การสอนมีระบบและประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีความสุขและบรรลุเป้าหมายการเรียนรู้ที่ตั้งไว้ครับ
การพัฒนาการเรียนรู้ด้วยกระบวนการ 5E สร้างทักษะที่ยั่งยืนในนักเรียน
แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน หรือที่เรียกว่า “5E Model” ประกอบด้วยขั้นตอนหลัก ๆ 5 ขั้น ที่ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจและเชื่อมโยงความรู้ได้อย่างลึกซึ้ง โดยขั้นตอนทั้งห้าประกอบด้วย
- ขั้นสร้างความสนใจ (Engage)
จุดประสงค์คือเพื่อกระตุ้นความสนใจและทำให้ผู้เรียนอยากเรียนรู้ อาจใช้คำถามเริ่มต้น เรื่องเล่าหรือสถานการณ์ปัญหา ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่จะเรียน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้คิด และสงสัย โดยครูอาจตั้งคำถามปลายเปิดเพื่อให้ผู้เรียนได้คิดตาม - ขั้นสำรวจ (Explore)
ให้ผู้เรียนมีโอกาสในการค้นคว้าหรือทดลองกับหัวข้อที่เกี่ยวข้องด้วยตนเอง ผ่านกิจกรรมที่ส่งเสริมการสังเกตและการคิดวิเคราะห์ เช่น การทดลองทางวิทยาศาสตร์ การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ หรือการค้นคว้าเชิงลึกในหัวข้อที่สนใจ ขั้นตอนนี้ผู้เรียนจะได้ฝึกทักษะการคิดและได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรง - ขั้นอธิบาย (Explain)
ในขั้นนี้ ผู้เรียนจะได้อธิบายหรือสรุปความรู้จากที่ได้สำรวจมา หรือครูอาจเสริมความรู้เพิ่มเติมในสิ่งที่ผู้เรียนค้นพบ เพื่อให้เข้าใจและเชื่อมโยงเนื้อหาที่เรียนรู้ได้ชัดเจนมากขึ้น ขั้นนี้เน้นการใช้ทักษะการสื่อสารในการแสดงความเข้าใจอย่างชัดเจน - ขั้นขยายความรู้ (Elaborate)
ให้ผู้เรียนใช้ความรู้ที่ได้มาในสถานการณ์ใหม่ ๆ หรือเชื่อมโยงความรู้ไปสู่บริบทที่กว้างขึ้น ผ่านกิจกรรมเพิ่มเติม เช่น การแก้โจทย์ปัญหาขั้นสูง การประยุกต์ใช้ความรู้ในสถานการณ์จริง หรือการสร้างสรรค์ชิ้นงานที่แสดงถึงความเข้าใจในหัวข้อ ขั้นนี้จะช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาความรู้ให้ลึกซึ้งและสามารถนำไปใช้จริง - ขั้นประเมินผล (Evaluate)
เป็นขั้นที่ครูจะประเมินความเข้าใจและความสามารถของผู้เรียนจากสิ่งที่ผู้เรียนได้เรียนรู้ ผ่านวิธีการต่าง ๆ เช่น การสอบถาม การประเมินชิ้นงาน การสนทนา หรือการใช้แบบทดสอบ เพื่อให้ครูได้เห็นถึงการพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ และทักษะที่ได้จากกระบวนการเรียนรู้
การใช้ 5E Model ในการจัดการเรียนรู้จะช่วยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้มากขึ้น และสร้างเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์และการประยุกต์ใช้ความรู้
สรุปรายละเอียดเป็นรูปภาพได้ดังนี้ครับ























ขอแนะนำไฟล์ แผนการจัดการเรียนรู้ด้วย
เครดิต : คุณครูสายบัว พิมพ์มหา
เป็นไฟล์ PDF