แจกฟรี แผนการสอนทุกวิชา ทุกระดับชั้น จากอักษรเจริญทัศน์ (อจท.)

เปิดเทอมแล้ว ให้อักษรช่วยครูเตรียมแผนการจัดการเรียนรู้เทอมใหม่ ดาวน์โหลดเลย! แผนฯ ทุกวิชา ทุกระดับชั้น ที่ครบครันจากอักษร! ได้มาตรฐาน ลดภาระ เพิ่มเวลาพักผ่อน

เพราะแผนฯ ของเรา
– ตรงตามตัวชี้วัด และสาระการเรียนรู้แกนกลาง
– มาพร้อมคำอธิบายรายวิชา และโครงสร้างแผนการเรียนรู้ได้มาตรฐาน
– แนวทางการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และจัดรูปแบบการสอน 5Es CIPPA Model
– ครบทั้งใบงาน เอกสารประกอบการสอน
– แบบทดสอบก่อน-หลังเรียน
– แบบประเมินท้ายหน่วย ช่วยครูวัดและประเมินผู้เรียนได้ทันทีหลังเรียนจบ

คลังสมองครูไทย คู่มือสร้างและค้นหาแผนการสอนที่ดีที่สุด ครบทุกวิชา ทุกระดับชั้น

สำหรับผู้ประกอบวิชาชีพครู คงไม่มีเอกสารใดที่จะมีความสำคัญและสะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพได้เท่ากับ “แผนการสอน” หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า “แผนการจัดการเรียนรู้” อีกแล้ว มันไม่ใช่เป็นเพียงกระดาษที่ต้องจัดทำเพื่อส่งผู้บริหารหรือรับการประเมินตามวาระ แต่แผนการสอนคือหัวใจ คือเข็มทิศ และคือพิมพ์เขียวที่นำทางการเดินทางในแต่ละชั่วโมงของครูและนักเรียน หากปราศจากแผนการสอนที่ดี การเดินทางในห้องเรียนก็อาจเปรียบได้กับการล่องเรือออกทะเลโดยไม่มีแผนที่ อาจจะถึงฝั่งฝันได้ แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะหลงทาง เสียเวลา และไม่สามารถนำพานักเรียนทุกคนไปสู่เป้าหมายการเรียนรู้ได้อย่างเต็มศักยภาพ ในโลกของการศึกษาที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การสร้างแผนการสอนที่ทรงพลังและตอบโจทย์ผู้เรียนยุคใหม่จึงเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่ครูทุกคนต้องใส่ใจ บทความนี้จะเป็นเสมือนคลังสมองและคู่มือฉบับสมบูรณ์ ที่จะพาคุณครูไปเจาะลึกทุกแง่มุมของการสร้างและค้นหาแผนการสอนที่ดีที่สุดสำหรับทุกวิชาและทุกระดับชั้น เพื่อลดภาระงานและเพิ่มประสิทธิภาพการสอนให้สูงสุด

ก่อนที่จะไปถึงเทคนิคและแหล่งข้อมูล เราต้องปรับมุมมองที่มีต่อแผนการสอนกันก่อน แผนการสอนไม่ใช่แค่การเขียนลำดับขั้นว่า “ครูจะทำอะไร” แต่คือการออกแบบประสบการณ์ทั้งหมดโดยมี “ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง” โดยต้องตอบคำถามสำคัญให้ได้ว่า “เราจะทำอย่างไรให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้และบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้” ดังนั้น แผนการสอนที่ดีจึงเป็นเครื่องมือที่ยืดหยุ่น มีชีวิตชีวา และสะท้อนภาพจริงของห้องเรียน มันคือเอกสารที่บ่งบอกถึงความเข้าใจในเนื้อหา ความเข้าใจในธรรมชาติของผู้เรียน และความสามารถในการออกแบบกิจกรรมที่สร้างสรรค์ของครูผู้สอนได้อย่างชัดเจนที่สุด

องค์ประกอบสำคัญของแผนการสอนยุคใหม่ ที่ทำให้แผนการสอนเป็นมากกว่าแค่ตารางสอน แต่เป็นเครื่องมือพัฒนาผู้เรียนอย่างแท้จริงนั้น ประกอบด้วยส่วนต่างๆ ที่ทำงานเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ

สาระสำคัญ หรือ ความคิดรวบยอด (Main Idea/Concept) นี่คือแก่นของบทเรียน เป็นประโยคสรุปสั้นๆ ที่บอกว่าเมื่อเรียนจบบทนี้แล้ว นักเรียนจะได้ “ความคิดใหญ่” อะไรติดตัวไป เช่น ในวิชาวิทยาศาสตร์ อาจจะเป็น “สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต้องมีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด” หรือในวิชาภาษาไทย อาจจะเป็น “การใช้ภาพพจน์ในวรรณคดีทำให้ผู้อ่านเกิดจินตภาพและอารมณ์ร่วม” การกำหนดส่วนนี้ให้ชัดเจนจะช่วยให้ครูไม่หลงประเด็นและทำกิจกรรมได้ตรงเป้า

มาตรฐานการเรียนรู้ และ ตัวชี้วัด (Learning Standards/Indicators) ส่วนนี้คือการเชื่อมโยงแผนการสอนของเราเข้ากับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่เราสอนนั้นสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาผู้เรียนในระดับชาติ การระบุตัวชี้วัดที่ชัดเจนจะทำให้เรารู้ว่ากำลังพานักเรียนเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง

จุดประสงค์การเรียนรู้ (Learning Objectives) นี่คือหัวใจของการวางแผนทั้งหมด โดยจะระบุสิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียนอย่างชัดเจนและวัดผลได้ ควรครอบคลุม 3 ด้าน คือ ด้านความรู้ (K – Knowledge) นักเรียนรู้อะไร ด้านทักษะ/กระบวนการ (P – Process/Skill) นักเรียนทำอะไรได้ และด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์/เจตคติ (A – Attitude) นักเรียนรู้สึกหรือมีคุณค่าอย่างไร เช่น นักเรียนสามารถอธิบายขั้นตอนการสังเคราะห์ด้วยแสงได้ (K) สามารถออกแบบการทดลองเรื่องการสังเคราะห์ด้วยแสงได้ (P) และตระหนักถึงความสำคัญของพืชต่อระบบนิเวศ (A)

สาระการเรียนรู้ (Learning Content) คือเนื้อหาความรู้ที่จำเป็นต่อการบรรลุจุดประสงค์การเรียนรู้ ซึ่งครูผู้สอนต้องคัดเลือกและจัดลำดับให้เหมาะสมกับวัยและเวลา ไม่จำเป็นต้องใส่ทุกอย่างที่มีในตำรา แต่ต้องเลือกเฉพาะส่วนที่สำคัญและจำเป็นจริงๆ

กิจกรรมการเรียนรู้ (Learning Activities) ส่วนนี้คือส่วนที่สนุกและท้าทายที่สุด เป็นการออกแบบกระบวนการที่ครูและนักเรียนจะทำร่วมกัน ซึ่งควรเน้นกิจกรรมแบบ Active Learning ที่ให้นักเรียนได้ลงมือทำ คิด วิเคราะห์ และสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง รูปแบบที่นิยมใช้กันมากคือกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5Es (Engage, Explore, Explain, Elaborate, Evaluate) หรืออาจใช้เทคนิคอื่นๆ เช่น การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL), การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based) หรือการเรียนรู้ร่วมกัน (Cooperative Learning) การออกแบบกิจกรรมที่ดีจะทำให้ห้องเรียนมีชีวิตชีวาและนักเรียนจดจำเนื้อหาได้ยาวนาน

สื่อและแหล่งการเรียนรู้ (Media and Learning Resources) คือเครื่องมือทั้งหมดที่จะช่วยสนับสนุนให้กิจกรรมการเรียนรู้ดำเนินไปอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นใบงาน ใบความรู้ สื่อของจริง สื่อดิจิทัล วิดีโอ เพลง เกม หรือแม้แต่การเชิญวิทยากรภายนอก ครูควรเลือกสื่อที่หลากหลายและเหมาะสมกับกิจกรรมและผู้เรียน

การวัดและประเมินผล (Measurement and Evaluation) เพื่อตรวจสอบว่านักเรียนบรรลุจุดประสงค์การเรียนรู้หรือไม่ การประเมินผลที่ดีต้องสอดคล้องกับจุดประสงค์และกิจกรรม ควรมีทั้งการประเมินระหว่างเรียน (Formative Assessment) เช่น การสังเกตพฤติกรรม การตรวจใบงาน การถามตอบ เพื่อให้ข้อมูลป้อนกลับในการพัฒนา และการประเมินเมื่อสิ้นสุดการเรียน (Summative Assessment) เช่น การทดสอบ การประเมินชิ้นงาน เพื่อตัดสินผลการเรียนรู้ การประเมินควรหลากหลาย ไม่ใช่แค่การสอบเพียงอย่างเดียว อาจใช้การประเมินจากแฟ้มสะสมงาน หรือการประเมินภาคปฏิบัติก็ได้

บันทึกหลังสอน (Post-Teaching Reflection) ส่วนนี้มักถูกมองข้าม แต่กลับสำคัญที่สุดต่อการพัฒนาความเป็นครูมืออาชีพ ครูควรบันทึกว่าแผนที่วางไว้สำเร็จตามเป้าหรือไม่ มีปัญหาอุปสรรคอะไรเกิดขึ้น นักเรียนคนไหนต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ และจะปรับปรุงแผนการสอนนี้ให้ดีขึ้นได้อย่างไรในครั้งต่อไป

การปรับแผนการสอนสำหรับแต่ละระดับชั้น คือกุญแจสำคัญอีกดอกหนึ่ง เพราะธรรมชาติและพัฒนาการของผู้เรียนในแต่ละช่วงวัยนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ระดับปฐมวัย (Early Childhood) แผนการสอนต้องเน้น การเรียนรู้ผ่านการเล่น (Play-Based Learning) เป็นหลัก กิจกรรมต้องสั้น กระชับ และหลากหลายเพื่อดึงดูดความสนใจ เน้นการพัฒนาประสาทสัมผัสทั้งห้า กล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่ ทักษะทางสังคม และการช่วยเหลือตนเอง การประเมินผลจะเน้นการสังเกตพฤติกรรมเป็นสำคัญ ไม่ใช่การทดสอบความรู้

ระดับประถมศึกษา (Primary School) ช่วงวัยนี้คือการวางรากฐานความรู้ที่สำคัญ แผนการสอนต้องมีความสมดุลระหว่างการเล่นและการเรียนที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ควรมีกิจกรรมที่ให้นักเรียนได้เคลื่อนไหวร่างกาย (Kinesthetic) ได้ลงมือทำ (Hands-on) และเชื่อมโยงกับประสบการณ์ในชีวิตประจำวันของพวกเขา การใช้เกม นิทาน และสื่อที่น่าสนใจจะช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ได้ดี แผนการสอนควรเริ่มมีโครงสร้างที่ชัดเจนขึ้น แต่ยังคงความยืดหยุ่นไว้

ระดับมัธยมศึกษา (Secondary School) ผู้เรียนในวัยนี้สามารถคิดเชิงนามธรรมและวิเคราะห์เรื่องที่ซับซ้อนได้ดีขึ้น แผนการสอนควรมุ่งเน้นการส่งเสริม การคิดขั้นสูง (Higher-Order Thinking) ท้าทายให้นักเรียนได้อภิปรายถกเถียงในประเด็นต่างๆ ทำโครงงานวิจัยที่ตนเองสนใจ และเชื่อมโยงเนื้อหาในห้องเรียนเข้ากับปัญหาสังคมและแนวทางอาชีพในอนาคต การให้อิสระและความรับผิดชอบในการเรียนรู้แก่ผู้เรียนมากขึ้นจะเป็นการเตรียมความพร้อมสู่การเรียนในระดับอุดมศึกษาและการทำงาน

แหล่งขุมทรัพย์แผนการสอนออนไลน์ ที่จะช่วยคุณครูประหยัดเวลาและได้ไอเดียใหม่ๆ มีอยู่มากมายในปัจจุบัน

เว็บไซต์หน่วยงานภาครัฐ เช่น คลังความรู้ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หรือ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) มักจะมีแผนการสอนและสื่อประกอบที่ได้มาตรฐานและอ้างอิงตามหลักสูตรแกนกลาง

ชุมชนครูออนไลน์ บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น กลุ่มเฟซบุ๊กต่างๆ เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ชั้นยอด ที่คุณครูจากทั่วประเทศนำแผนการสอนและสื่อที่ตนเองสร้างขึ้นมาแบ่งปันกันอย่างอิสระ เป็นคลังไอเดียที่ทันสมัยและนำไปปรับใช้ได้จริง

แพลตฟอร์มเพื่อการศึกษาโดยเฉพาะ เช่น เว็บไซต์ Inskru, Starfish Labz หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ เป็นพื้นที่ที่รวบรวมนวัตกรรมการสอนและแผนการสอนที่สร้างสรรค์จากเพื่อนครูทั่วประเทศ มีการจัดหมวดหมู่ที่ค้นหาง่ายและมักจะมีไอเดียกิจกรรม Active Learning ที่น่าสนใจมากมาย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องย้ำเตือนเสมอคือ ไม่มีแผนการสอนสำเร็จรูปใดที่ดีที่สุด แผนการสอนที่ดาวน์โหลดมาเป็นเพียง “ต้นแบบ” หรือ “แรงบันดาลใจ” เท่านั้น ครูผู้สอนคือคนที่รู้จักนักเรียนของตนเองดีที่สุด จึงจำเป็นต้องนำแผนเหล่านั้นมา ปรับแก้ (Adapt) ให้เข้ากับบริบทของโรงเรียน ความสามารถและความสนใจของนักเรียน และข้อจำกัดด้านเวลาและทรัพยากรของตนเองเสมอ การคัดลอกมาใช้โดยไม่ปรับเปลี่ยนอาจทำให้การสอนไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

สุดท้ายนี้ การเขียนแผนการสอนไม่ใช่ภาระ แต่คือโอกาสในการสร้างสรรค์และออกแบบการเรียนรู้ที่ดีที่สุดสำหรับลูกศิษย์ของเรา มันคือกระบวนการที่ทำให้ครูได้ทบทวนเป้าหมาย ไตร่ตรองวิธีการ และเติบโตในสายวิชาชีพอยู่เสมอ ขอเพียงเราเปิดใจ มองมันเป็นเครื่องมือคู่กายที่ทรงพลัง และไม่หยุดที่จะเรียนรู้และพัฒนาแผนการสอนของเราให้ดีขึ้นในทุกๆ วัน การเดินทางในห้องเรียนของคุณครูและนักเรียนก็จะเต็มไปด้วยความหมาย ความสุข และความสำเร็จอย่างแน่นอน

รวมแผนการสอนทุกวิชา ทุกระดับชั้น พร้อมแนวทางการจัดการเรียนรู้แบบครบวงจร

ในการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับเป้าหมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน การมีแผนการสอนที่มีคุณภาพ ครบถ้วน และสามารถนำไปใช้ได้จริงในบริบทของผู้เรียนจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง แผนการสอนเปรียบเสมือนพิมพ์เขียวของกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ครูสามารถใช้เป็นแนวทางในการเตรียมการสอน ประเมินผล และพัฒนาผู้เรียนอย่างเป็นระบบ ทั้งในด้านความรู้ ทักษะ กระบวนการคิด และคุณลักษณะอันพึงประสงค์

แผนการสอนที่ดีควรมีการวางโครงสร้างชัดเจนโดยประกอบด้วยข้อมูลพื้นฐาน เช่น รายวิชา ชั้นเรียน หน่วยการเรียนรู้ สาระสำคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ ตัวชี้วัด/ค่าระดับผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อและแหล่งเรียนรู้ วิธีการวัดและประเมินผล รวมถึงการบูรณาการคุณธรรมจริยธรรม ทักษะชีวิต และเทคโนโลยีสารสนเทศตามความเหมาะสม

ในระดับชั้นอนุบาล การจัดแผนการสอนจะเน้นกระบวนการเรียนรู้ผ่านการเล่น การลงมือปฏิบัติจริง และกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม และสติปัญญา เช่น การเรียนรู้ผ่านบทเพลง นิทาน เกมการศึกษา และกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ ที่ช่วยกระตุ้นพัฒนาการตามวัย

ระดับประถมศึกษา แผนการสอนจะเชื่อมโยงการเรียนรู้จากประสบการณ์ใกล้ตัวเด็กไปสู่โลกกว้าง โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เช่น กระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่มย่อย การสืบค้นข้อมูล การเรียนรู้เชิงบูรณาการข้ามกลุ่มสาระ และการนำสถานการณ์จริงมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ เช่น การเรียนรู้เรื่องเวลาในวิชาคณิตศาสตร์ผ่านตารางกิจกรรมประจำวัน หรือการจัดกิจกรรมตลาดนัดนักเรียนเพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตในวิชาสังคมศึกษาและสุขศึกษา

ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น แผนการสอนจะมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น โดยจะเน้นทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การสื่อสาร การทำงานร่วมกัน รวมถึงการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เช่น การเขียนรายงาน การนำเสนอข้อมูล การทำโครงงาน และการใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ ซึ่งสามารถปรับใช้กับวิชาต่างๆ ได้ เช่น การเขียนบทความในวิชาภาษาไทย การทดลองทางวิทยาศาสตร์ในกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ หรือการวิเคราะห์เหตุการณ์ข่าวสารในวิชาสังคมศึกษา

ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย แผนการสอนจะเน้นความลึกและการเตรียมความพร้อมสำหรับการศึกษาต่อหรือการประกอบอาชีพ โดยอาจบูรณาการหลักสูตรแกนกลางกับหลักสูตรท้องถิ่นหรือหลักสูตรเพิ่มเติมที่ตอบสนองความสนใจของผู้เรียน เช่น การจัดการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์โดยเน้นแนวข้อสอบ O-NET หรือ GAT PAT การเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษแบบสื่อสารเพื่อการเดินทาง การเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์เพื่อแข่งขันในระดับประเทศ หรือการจำลองสถานการณ์ธุรกิจในวิชาอาชีพและเทคโนโลยี

แผนการสอนควรมีการวางแผนการใช้สื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย ทั้งสื่อดิจิทัล สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อปฏิบัติการ และสื่อจากธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้แบบลงมือทำจริง เช่น การใช้คลังสื่อดิจิทัลของ สพฐ OBEC Content การใช้ YouTube เพื่อชมสารคดี หรือการใช้ Google Classroom, Canva และ Kahoot ในการมีส่วนร่วมของนักเรียนในชั้นเรียน

ครูสามารถนำแนวคิดของ Active Learning หรือการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติจริงมาใช้ในแผนการสอนทุกระดับชั้นเพื่อเพิ่มคุณภาพการเรียนรู้ เช่น การจัดกิจกรรม Think-Pair-Share การตั้งคำถามปลายเปิด การเรียนรู้แบบโครงงาน (Project-Based Learning) และการสอนแบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning) ซึ่งสามารถปรับใช้ได้ทุกกลุ่มสาระและทุกช่วงชั้นอย่างยืดหยุ่น

ตัวอย่างกิจกรรมที่สามารถนำไปใช้ในทุกระดับชั้น เช่น การสร้าง Mind Map เพื่อสรุปความรู้ การจัดกิจกรรมแข่งขันตอบคำถาม การวาดภาพประกอบเรื่อง การแสดงบทบาทสมมติ การเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียน การเชิญวิทยากรมาให้ความรู้ หรือการจัดนิทรรศการแสดงผลงานของนักเรียน เป็นต้น

ในด้านการวัดและประเมินผล ครูควรระบุวิธีการประเมินที่หลากหลายเพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ เช่น การประเมินผลจากชิ้นงาน แบบทดสอบ แบบสังเกตพฤติกรรม แบบประเมินตนเองและประเมินกันเอง การให้คะแนนจากการนำเสนอหน้าชั้นเรียน และการสะท้อนผลหลังการเรียนรู้ (Reflection) ทั้งหมดนี้จะช่วยให้การวัดผลไม่ยึดติดเฉพาะคะแนนสอบแต่สามารถประเมินพัฒนาการโดยรวมของนักเรียนได้อย่างแท้จริง

แผนการสอนควรมีความยืดหยุ่นเพื่อให้ครูสามารถปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์จริง โดยเฉพาะกรณีเรียนออนไลน์หรือรูปแบบการเรียนแบบผสมผสาน (Blended Learning) ครูควรมีแผนสำรอง เช่น แบบฝึกออนไลน์ ใบงานที่สามารถส่งผ่านระบบ LMS หรือกิจกรรมที่ทำได้ที่บ้าน พร้อมแนวทางการติดตามประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน

การมีคลังแผนการสอนที่รวบรวมไว้ทุกกลุ่มสาระวิชา ทุกระดับชั้น ทั้งในรูปแบบไฟล์ .doc .pdf หรือ .ppt ช่วยให้ครูประหยัดเวลาในการเตรียมการสอนและสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนครูคนอื่นๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญสำหรับครูใหม่หรือครูฝึกประสบการณ์วิชาชีพในการวางแนวทางการสอนในระยะแรกเริ่ม

สุดท้าย แผนการสอนที่มีคุณภาพย่อมไม่สามารถเขียนขึ้นได้โดยปราศจากการสังเคราะห์ข้อมูลจากประสบการณ์ตรงของครูผู้สอน การนำข้อเสนอแนะจากผู้เรียนไปปรับปรุง และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องของครู ดังนั้นการส่งเสริมให้ครูมีโอกาสพัฒนาแผนการสอนผ่านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การอบรมสัมมนา และการศึกษาดูงานจึงเป็นสิ่งสำคัญในการยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศ

รอช้าไม่ได้แล้ว ดาวน์โหลดเลยจ้า


แผนฯ ระดับประถมศึกษา


ภาษาไทย: https://bit.ly/3lVE5dq
คณิตศาสตร์: https://bit.ly/3CH1ciB
วิทยาศาสตร์ฯ: https://bit.ly/3lU2fF1
สังคมศึกษาฯ: https://bit.ly/39xZKm1
ภาษาอังกฤษ: https://bit.ly/3lTbhST
สุขศึกษาและพลศึกษา: https://bit.ly/3u9QluE
ศิลปะ: https://bit.ly/3zCehrx

แผนฯ ระดับมัธยมศึกษา


ภาษาไทย: https://bit.ly/3i2MxGz
คณิตศาสตร์: https://bit.ly/3ubmX7g
วิทยาศาสตร์ฯ: https://bit.ly/3zGDvoC
สังคมศึกษาฯ: https://bit.ly/3lVETis
ภาษาอังกฤษ: https://bit.ly/3AHrrEX
สุขศึกษาและพลศึกษา: https://bit.ly/3u9fBBd
ศิลปะ: https://bit.ly/3ubnd6e

ให้ครูใช้ง่ายแบบฟรี ๆ เพียงเป็นสมาชิก Aksorn One Account แล้วดาวน์โหลดในเว็บไซต์ www.aksorn.com/download

สามารถดูวิธีการยืนยันการสมัครได้ที่คลิปวิดีโอนี้ครับ >> https://youtu.be/PICigDrWvHg

ขอบคุณแหล่งที่มา : www.aksorn.com

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ห้ามพลาด