สื่อฟรีออนไลน์.com
ขอแนะนำไฟล์ แบบรายงานผลการปฏิบัติงานตามข้อตกลงในการพัฒนางาน(PA) สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา รอบการประเมินครั้งที่ 1
เจาะลึกแนวทางการเขียนรายงานผลการปฏิบัติงาน (PA) รอบที่ 1 (1 ต.ค. 65 – 31 มี.ค. 66)
สวัสดีเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน เมื่อถึงช่วงเวลาสิ้นสุดรอบการประเมิน หลายท่านคงกำลังเตรียมจัดทำเอกสารสำคัญ นั่นคือ แบบรายงานผลการปฏิบัติงานตามข้อตกลงในการพัฒนางาน หรือ PA (Performance Agreement) ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการสะท้อนผลการทำงานและการพัฒนาตนเองตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา สำหรับรอบการประเมินครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึง 31 มีนาคม 2566 นี้ เพื่อให้ทุกท่านสามารถจัดทำรายงานได้อย่างสมบูรณ์ ครบถ้วน และสะท้อนผลงานของท่านได้อย่างดีที่สุด บทความนี้จึงได้รวบรวมแนวทางการเขียนโดยละเอียดในทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่ส่วนข้อตกลงไปจนถึงผลการปฏิบัติงาน และประเด็นท้าทาย เพื่อเป็นคู่มือและแนวทางให้ท่านสามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดทำรายงาน PA นั้น ควรเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจภาพรวมของแบบรายงาน ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ ส่วนที่ 1 ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตำแหน่ง และ ส่วนที่ 2 ผลการปฏิบัติงานตามข้อตกลงในการพัฒนางานที่เสนอไว้ การเขียนในแต่ละส่วนต้องมีความสอดคล้องกันอย่างเป็นเหตุเป็นผล กล่าวคือ สิ่งที่ท่านได้ตกลงไว้ในส่วนที่ 1 จะต้องถูกนำมาแสดงผลลัพธ์การดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมในส่วนที่ 2 ดังนั้น การวางแผนและตั้งเป้าหมายตั้งแต่ต้นจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
เริ่มต้นที่ส่วนที่ 1 ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตำแหน่ง ส่วนนี้คือการระบุภาระงานและสิ่งที่เราตั้งใจจะทำตลอดรอบการประเมิน ประกอบด้วย ภาระงาน ที่จะแสดงถึงภาระงานด้านการสอนและงานอื่นๆ ที่นอกเหนือจากการสอน และส่วนของงานที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานตำแหน่ง ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ด้านหลัก ในส่วนของภาระงาน ท่านต้องระบุชั่วโมงการสอนตามตารางสอนจริง โดยแยกระบุรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้ และจำนวนชั่วโมงต่อสัปดาห์ให้ชัดเจน รวมถึงภาระงานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ เช่น งานชุมนุม งานลูกเสือ-เนตรนารี งานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน การเป็นครูที่ปรึกษา ซึ่งควรระบุจำนวนชั่วโมงให้สอดคล้องกับภาระงานจริง ต่อมาคืองานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา เช่น การเป็นหัวหน้ากลุ่มสาระฯ หัวหน้างานฝ่ายต่างๆ หรือคณะทำงานในโครงการของโรงเรียน และสุดท้ายคืองานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น ซึ่งเป็นงานที่สอดคล้องกับนโยบายของเขตพื้นที่การศึกษาหรือกระทรวงศึกษาธิการ การระบุข้อมูลส่วนนี้อย่างครบถ้วนจะแสดงให้เห็นถึงบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบทั้งหมดของท่านในสถานศึกษา
ถัดมาคือหัวใจสำคัญของส่วนที่ 1 คือ งานที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานตำแหน่ง ซึ่งเป็นการบรรยายถึงสิ่งที่เราจะทำเพื่อพัฒนาผู้เรียนและตนเอง แบ่งเป็น 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการจัดการเรียนรู้ ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ และด้านการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ ในส่วนนี้ท่านต้องเขียนอธิบายถึงตัวชี้วัดและผลลัพธ์การเรียนรู้ที่คาดหวัง (Expected Outcome) ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียนอย่างชัดเจนและสามารถวัดผลได้
ด้านที่ 1 ด้านการจัดการเรียนรู้ จะมีตัวชี้วัดย่อย 8 ข้อ ท่านต้องอธิบายการดำเนินงานในแต่ละข้อให้เห็นภาพ เริ่มจาก 1.1 การสร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร ท่านต้องอธิบายว่าได้นำหลักสูตรแกนกลางมาวิเคราะห์และจัดทำหน่วยการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษาและผู้เรียนอย่างไร มีการปรับประยุกต์เนื้อหาให้ทันสมัยหรือไม่ 1.2 การออกแบบการจัดการเรียนรู้ เน้นการอธิบายวิธีการออกแบบหน่วยการเรียนรู้และแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีกิจกรรมที่หลากหลาย ใช้วิธีการสอนแบบ Active Learning หรือไม่ อย่างไร 1.3 การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ อธิบายถึงวิธีการสอนจริงในชั้นเรียน ว่าท่านได้อำนวยความสะดวก สร้างปฏิสัมพันธ์ และใช้เทคนิคการสอนอะไรบ้างที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ 1.4 การสร้างและหรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้ ท่านต้องระบุสื่อที่ท่านสร้างขึ้น เช่น ใบงาน คลิปวิดีโอ เกมการศึกษา หรือการใช้แอปพลิเคชันต่างๆ และระบุว่าสื่อเหล่านั้นสอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้และช่วยให้ผู้เรียนบรรลุวัตถุประสงค์ได้อย่างไร 1.5 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ควรอธิบายถึงวิธีการวัดผลที่หลากหลาย ไม่ใช่แค่การสอบ เช่น การสังเกตพฤติกรรม การตรวจผลงาน การประเมินตามสภาพจริง และมีการนำผลการประเมินมาใช้ในการพัฒนาผู้เรียนต่ออย่างไร 1.6 การศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนาการเรียนรู้ อธิบายถึงกระบวนการที่ท่านได้ศึกษาปัญหาในชั้นเรียน เช่น ปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ แล้วนำมาวิเคราะห์หาสาเหตุและสังเคราะห์เป็นแนวทางแก้ไข ซึ่งอาจนำไปสู่การทำวิจัยในชั้นเรียน 1.7 การจัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน อธิบายว่าท่านสร้างบรรยากาศในชั้นเรียนให้เป็นอย่างไร เช่น การสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัย อบอุ่น เป็นกันเอง มีการจัดมุมการเรียนรู้ที่น่าสนใจหรือไม่ 1.8 การอบรมและพัฒนาคุณลักษณะที่ดีของผู้เรียน ระบุถึงการสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ดีงามในระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ทั้งในและนอกห้องเรียน
ด้านที่ 2 ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย 4 ตัวชี้วัดย่อย เริ่มจาก 2.1 การจัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและรายวิชา อธิบายว่าท่านได้รวบรวมข้อมูลนักเรียนเป็นรายบุคคลอย่างไร มีการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปใช้ในการส่งเสริมหรือช่วยเหลือนักเรียนหรือไม่ และมีเอกสารประจำชั้นเรียนหรือประจำวิชาที่สมบูรณ์เป็นปัจจุบันเพียงใด 2.2 การดำเนินการตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน อธิบายกระบวนการทำงานของท่าน ตั้งแต่การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคลผ่านการเยี่ยมบ้าน การคัดกรองนักเรียน การให้คำปรึกษา และการส่งต่อหากเป็นกรณีที่ต้องการความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ 2.3 การปฏิบัติงานวิชาการและงานอื่นๆ ของสถานศึกษา ระบุถึงบทบาทของท่านในงานฝ่ายวิชาการหรืองานอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมายเพื่อร่วมพัฒนาคุณภาพของโรงเรียน เช่น การเป็นคณะกรรมการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา หรือการร่วมพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายใน 2.4 การประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคีเครือข่าย และหรือสถานประกอบการ อธิบายถึงช่องทางและวิธีการสื่อสารกับผู้ปกครอง เช่น การตั้งกลุ่มไลน์เพื่อแจ้งข่าวสาร การจัดประชุมผู้ปกครอง และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อพัฒนาผู้เรียน
ด้านที่ 3 ด้านการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ มี 3 ตัวชี้วัดย่อย ได้แก่ 3.1 การพัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง อธิบายว่าท่านได้เข้ารับการอบรม สัมมนา หรือศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในเรื่องใดบ้าง และนำความรู้ที่ได้มาปรับใช้กับการจัดการเรียนการสอนอย่างไร ควรระบุจำนวนชั่วโมงการพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกับเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กำหนด 3.2 การมีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) อธิบายถึงบทบาทของท่านในกลุ่ม PLC ว่าได้ร่วมกันค้นหาปัญหา วางแผนแก้ไข และนำผลไปใช้อย่างไร มีการสะท้อนผลการทำงานร่วมกันหรือไม่ 3.3 การนำความรู้ความสามารถ ทักษะที่ได้จากการพัฒนาตนเองและวิชาชีพมาใช้ในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ อธิบายอย่างเป็นรูปธรรมว่า จากการอบรมเรื่อง “การสอนแบบโครงงานเป็นฐาน” ท่านได้นำความรู้มาออกแบบหน่วยการเรียนรู้และจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้ทำโครงงานจริง และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนเป็นอย่างไร
เมื่อเสร็จสิ้นส่วนที่ 1 แล้ว ก็มาถึง ส่วนที่ 2 ผลการปฏิบัติงานตามข้อตกลงในการพัฒนางาน ส่วนนี้คือการนำเสนอ “หลักฐาน” และ “ผลลัพธ์” ที่เกิดขึ้นจริงจากการดำเนินงานตามที่ได้ตกลงไว้ในส่วนที่ 1 การเขียนในส่วนนี้จะต้องบรรยายให้เห็นถึงกระบวนการ (Process) และผลลัพธ์ (Outcome) ที่เป็นรูปธรรม สอดคล้องกับตัวชี้วัดในแต่ละด้าน สำหรับแต่ละตัวชี้วัดในทั้ง 3 ด้าน ท่านจะต้องอธิบาย “ผลการปฏิบัติงาน” โดยละเอียด พร้อมทั้งระบุ “ผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน” ที่เกิดขึ้น และแนบ “เอกสาร/หลักฐานอ้างอิง” ที่เกี่ยวข้อง
ตัวอย่างเช่น ในด้านที่ 1 ตัวชี้วัดที่ 1.4 การสร้างและพัฒนาสื่อ ท่านอาจอธิบายผลการปฏิบัติงานว่า “ข้าพเจ้าได้ดำเนินการสร้างและพัฒนาสื่อการสอน Power Point ประกอบการสอนทุกหน่วยการเรียนรู้ และสร้างคลิปวิดีโอการทดลองวิทยาศาสตร์อย่างง่าย จำนวน 5 เรื่อง เผยแพร่ผ่านช่องทาง YouTube เพื่อให้นักเรียนสามารถทบทวนได้ด้วยตนเอง” จากนั้นระบุผลลัพธ์ที่เกิดกับผู้เรียนว่า “จากการใช้สื่อดังกล่าว ผู้เรียนร้อยละ 80 มีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้มากขึ้น และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนเฉลี่ยร้อยละ 25” และสุดท้ายคือการระบุหลักฐานอ้างอิง เช่น “ไฟล์ Power Point, ลิงก์ YouTube, แผนการจัดการเรียนรู้, ผลการวิเคราะห์คะแนนสอบ” การเขียนในลักษณะนี้ต้องทำให้ครบทุกตัวชี้วัด
ส่วนที่สำคัญและมักจะเป็นที่กังวลของหลายท่านคือ การเขียนข้อตกลงในประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน ประเด็นท้าทายนี้ควรเป็นเรื่องที่ท่านต้องการจะแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาผู้เรียนในชั้นเรียนของท่านอย่างจริงจัง ควรเป็นเรื่องที่สอดคล้องกับปัญหาที่พบเจอและนโยบายของสถานศึกษา การเขียนควรมีโครงสร้างที่ชัดเจน เริ่มจาก 1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ท่านต้องระบุให้ชัดเจนว่าปัญหาคืออะไร มีข้อมูลอะไรสนับสนุน เช่น จากการทดสอบก่อนเรียน พบว่านักเรียนร้อยละ 60 ไม่สามารถแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์เรื่องบัญญัติไตรยางศ์ได้ 2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล ท่านต้องอธิบายขั้นตอนการดำเนินงานอย่างละเอียด ว่าจะใช้นวัตกรรมหรือวิธีการสอนแบบใดในการแก้ปัญหา เช่น “จะใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ร่วมกับการใช้สถานการณ์จำลองในชีวิตประจำวัน” โดยอธิบายขั้นตอนการสร้างนวัตกรรมและการนำไปใช้ให้ชัดเจน 3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง ซึ่งต้องระบุทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ในเชิงปริมาณอาจระบุว่า “ผู้เรียนร้อยละ 75 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมนี้ มีคะแนนทดสอบหลังเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70” ส่วนในเชิงคุณภาพอาจระบุว่า “ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์แก้ปัญหาโจทย์ได้ดีขึ้น และสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างสร้างสรรค์”
การจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงาน (PA) ไม่ใช่เพียงการทำเอกสารเพื่อส่งตามกำหนดเวลา แต่เป็นโอกาสอันดีที่ท่านจะได้ทบทวนการทำงานของตนเองตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา ได้เห็นจุดเด่นที่ควรพัฒนาต่อยอด และมองเห็นจุดที่ต้องปรับปรุงแก้ไข เพื่อนำไปสู่การวางแผนพัฒนางานในรอบการประเมินถัดไปอย่างมีทิศทาง การเขียนรายงานอย่างละเอียดและเป็นระบบ ไม่เพียงแต่จะทำให้ท่านผ่านการประเมินด้วยคะแนนที่ดี แต่ยังเป็นการสร้างคลังข้อมูลและองค์ความรู้ที่เกิดจากการปฏิบัติจริงของท่าน ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดสู่การขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะให้สูงขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์ ช่วยให้เพื่อนครูทุกท่านสามารถจัดทำรายงาน PA รอบที่ 1 (1 ตุลาคม 2565 – 31 มีนาคม 2566) ได้อย่างมั่นใจ สมบูรณ์ และสะท้อนคุณค่าในวิชาชีพครูของท่านได้อย่างเต็มภาคภูมิ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านในการปฏิบัติหน้าที่อันทรงเกียรตินี้ต่อไป
แนวทางการจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานตามข้อตกลงพัฒนางาน (PA) สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
รายงานผลการปฏิบัติงานตามข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
แนวทางการพัฒนางานของข้าราชการครู
การพัฒนางานของข้าราชการครูเป็นสิ่งสำคัญที่จะส่งผลต่อคุณภาพการศึกษาในระบบการศึกษาของประเทศ ข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการกำหนดเป้าหมายและมาตรฐานในการปฏิบัติงานของครู ในการจัดทำ PA จะต้องมีการวิเคราะห์สถานการณ์การทำงานปัจจุบัน ความต้องการในการพัฒนาทักษะ และการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
การพัฒนา PA ประกอบไปด้วยการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน มีการวัดผลและติดตามความก้าวหน้าอย่างสม่ำเสมอ เช่น การจัดอบรม การเรียนรู้ร่วมกัน และการประเมินผลการปฏิบัติงาน เพื่อให้ข้าราชการครูสามารถปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งส่งผลให้ผู้เรียนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
การประเมินผลการปฏิบัติงานตาม PA
การประเมินผลการปฏิบัติงานตามข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) เป็นกระบวนการที่สำคัญในการตรวจสอบว่าข้าราชการครูได้ดำเนินการตามเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ การประเมินผลควรมีความโปร่งใส ยุติธรรม และเป็นไปตามเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ล่วงหน้า
การใช้เครื่องมือประเมินผลที่หลากหลาย เช่น แบบสอบถาม การสัมภาษณ์ หรือการสังเกตการณ์ สามารถช่วยให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมและแม่นยำ นอกจากนี้ การประเมินผลควรมีการนำเสนอผลลัพธ์ต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาการทำงานต่อไปในอนาคต
ผลสัมฤทธิ์จากการพัฒนางานตาม PA
ผลสัมฤทธิ์จากการพัฒนางานตามข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) สามารถวัดได้จากความก้าวหน้าของข้าราชการครูในการปฏิบัติงาน และผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของนักเรียน การพัฒนางานที่มีประสิทธิภาพจะช่วยเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ และคุณภาพของการเรียนการสอน
นอกจากนี้ การพัฒนางานตาม PA ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียน รวมถึงการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและชุมชนในกระบวนการศึกษา ผลสัมฤทธิ์ดังกล่าวจะนำไปสู่การสร้างระบบการศึกษาที่มีคุณภาพและยั่งยืนในระยะยาว
เนื้อหาเหล่านี้สามารถนำไปใช้ในการเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนางานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ โดยมีการเน้นที่ความสำคัญของการกำหนดข้อตกลง การประเมินผล และผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการตาม PA
เครดิต : คุณครูกฤติยา พลหาญ
ตัวอย่างไฟล์เอกสาร
เป็นไฟล์ PDF





ขอแนะนำไฟล์ แบบรายงานผลการปฏิบัติงานตามข้อตกลงในการพัฒนางาน(PA) สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา รอบการประเมินครั้งที่ 1
ดาวน์โหลดไฟล์เอกสารจากลิงก์ด้านล่างนี้ นะครับ
ดาวน์โหลดไฟล์เอกสาร คลิกที่นี่
ขอบคุณแหล่งที่มา : คุณครูกฤติยา พลหาญ