สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ทุกท่านนะครับ วันนี้พบกับ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ คู่มือการใช้งาน Canva 2024 KIDS CAN CODE ซึ่งเพื่อนๆ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดนำไปศึกษาและนำไปเป็นแนวทางในการใช้งาน Canva 2024 KIDS CAN CODE ได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ คู่มือการใช้งาน Canva 2024 KIDS CAN CODE ตามรายละเอียดดังนี้ครับ

แจกฟรี คู่มือการใช้งาน Canva 2024 KIDS CAN CODE

การใช้งาน Canva 2024 สำหรับเด็กและผู้ปกครอง พัฒนาทักษะดิจิทัลยุคใหม่

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน การเรียนรู้การใช้เครื่องมือสร้างสรรค์ดิจิทัลกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเด็กๆ ในศตวรรษที่ 21 Canva ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการออกแบบกราฟิกออนไลน์ที่ใช้งานง่าย ได้กลายมาเป็นเครื่องมือยอดนิยมที่ช่วยให้เด็กๆ สามารถสร้างสรรค์ผลงานดิไซน์ที่สวยงามได้อย่างง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางเทคนิคที่ซับซ้อน

โครงการ KIDS CAN CODE ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาทักษะดิจิทัลในเด็ก จึงได้จัดทำคู่มือการใช้งาน Canva เวอร์ชัน 2024 นี้ขึ้น เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ปกครองและครูอาจารย์ในการสอนและแนะนำเด็กๆ ให้สามารถใช้งานเครื่องมือนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัย

การเรียนรู้การใช้งาน Canva ไม่เพียงแต่จะช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก แต่ยังช่วยฝึกทักษะการแก้ปัญหา การคิดเชิงระบบ และความเชื่อมั่นในตนเองในการสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งเป็นทักษะที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในอนาคต

ความสำคัญของการศึกษาดิไซน์ในเด็กยุคใหม่

ในโลกที่เต็มไปด้วยสื่อภาพและการสื่อสารดิจิทัล ทักษะการออกแบบกราฟิกได้กลายเป็นทักษะพื้นฐานที่เด็กควรมี เช่นเดียวกับการอ่านและการเขียน การสามารถสื่อสารผ่านภาพและการออกแบบจะช่วยให้เด็กสามารถแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประเทศไทยในฐานะที่กำลังก้าวสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล การพัฒนาทักษะดิจิทัลในเด็กเป็นสิ่งที่มีความสำคัญยิ่ง กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดให้มีการสอนทักษะดิจิทัลในหลักสูตรการศึกษา และการเรียนรู้การใช้งานเครื่องมือออกแบบอย่าง Canva สามารถตอบสนองต่อนโยบายนี้ได้เป็นอย่างดี

การเรียนรู้การออกแบบยังช่วยพัฒนาสมองซีกขวาของเด็ก ซึ่งเป็นส่วนที่รับผิดชอบเรื่องความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ และความงาม เมื่อเด็กได้ฝึกการจัดวางองค์ประกอบ การเลือกสีสัน และการสร้างสรรค์ผลงาน จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาสมองในด้านนี้ได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ การใช้งานเครื่องมือดิจิทัลยังช่วยให้เด็กได้เรียนรู้การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เมื่อพวกเขาต้องคิดหาวิธีการสร้างสรรค์ผลงานให้ออกมาตามที่ต้องการ ทักษะเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ในสาขาอื่นๆ และการใช้ชีวิตในอนาคต

การเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มใช้งาน Canva

ก่อนที่จะเริ่มให้เด็กใช้งาน Canva ผู้ปกครองและครูควรเตรียมความพร้อมในหลายด้าน เพื่อให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

ข้อกำหนดด้านอุปกรณ์ที่จำเป็น ได้แก่ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียร Canva สามารถใช้งานได้ผ่านเว็บเบราว์เซอร์หรือแอปพลิเคชัน ซึ่งแนะนำให้ใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ตสำหรับเด็ก เนื่องจากหน้าจอที่ใหญ่กว่าจะช่วยให้การออกแบบทำได้ง่ายและละเอียดมากขึ้น

การสร้างบัญชีผู้ใช้งาน Canva สำหรับเด็กควรได้รับการดูแลจากผู้ใหญ่ ผู้ปกครองสามารถสร้างบัญชีแยกสำหรับเด็กหรือให้เด็กใช้บัญชีร่วมกับผู้ปกครองในช่วงแรก เพื่อความปลอดภัยและการควบคุมการใช้งาน

การตั้งค่าความปลอดภัยออนไลน์เป็นสิ่งสำคัญ ผู้ปกครองควรตรวจสอบการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของบัญชี และแนะนำเด็กเกี่ยวกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย รวมถึงการไม่เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวและการใช้รูปภาพที่เหมาะสม

การเตรียมพื้นที่การเรียนรู้ที่เหมาะสม ควรจัดให้มีโต๊ะและเก้าอี้ที่มีความสูงเหมาะสมกับเด็ก แสงสว่างที่เพียงพอ และบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ควรหลีกเลี่ยงสิ่งรบกวนต่างๆ เพื่อให้เด็กสามารถมีสมาธิในการเรียนรู้

การสร้างบัญชี Canva และการตั้งค่าเบื้องต้น

การสร้างบัญชี Canva เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ ผู้ปกครองควรเป็นผู้ดำเนินการในขั้นตอนนี้หรืออยู่ใกล้ชิดเพื่อให้คำแนะนำแก่เด็ก

เริ่มต้นด้วยการเข้าไปที่เว็บไซต์ canva.com และเลือกสร้างบัญชีใหม่ Canva เสนอทางเลือกในการสมัครสมาชิกหลายวิธี ได้แก่ การใช้อีเมล การเชื่อมต่อผ่าน Google หรือ Facebook สำหรับเด็ก แนะนำให้ใช้อีเมลของผู้ปกครองหรือสร้างอีเมลใหม่โดยเฉพาะ

ในกระบวนการสมัครสมาชิก ระบบจะสอบถามเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน สำหรับเด็ก ควรเลือกตัวเลือกที่เกี่ยวกับการศึกษาหรือการใช้งานส่วนตัว ซึ่งจะช่วยให้ Canva แนะนำเครื่องมือและเทมเพลตที่เหมาะสม

การตั้งค่าโปรไฟล์ผู้ใช้งานควรทำอย่างระมัดระวัง ไม่ควรใส่ข้อมูลส่วนตัวที่ละเอียดเกินไป เช่น ชื่อจริงเต็ม ที่อยู่ หรือเบอร์โทรศัพท์ การใช้ชื่อเล่นหรือชื่อที่ไม่เปิดเผยตัวตนจริงเป็นทางเลือกที่ดี

Canva เสนอทั้งแผนฟรีและแผนเสียเงิน สำหรับเด็กในช่วงเริ่มต้น แผนฟรีมีเครื่องมือและเทมเพลตที่เพียงพอสำหรับการเรียนรู้พื้นฐาน เมื่อเด็กมีทักษะมากขึ้นและต้องการเครื่องมือเพิ่มเติม ผู้ปกครองสามารถพิจารณาอัปเกรดเป็นแผนเสียเงิน

การตั้งค่าความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ผู้ปกครองควรตรวจสอบการตั้งค่าการแชร์และการมองเห็นผลงาน แนะนำให้ตั้งค่าเป็น Private หรือ Only You ในช่วงแรก เพื่อป้องกันการเข้าถึงจากบุคคลอื่นที่ไม่ต้องการ

รู้จักกับหน้าจอหลักและเครื่องมือพื้นฐาน

เมื่อเข้าสู่หน้าจอหลักของ Canva เด็กจะพบกับ Dashboard ที่มีการจัดวางที่เข้าใจง่าย ด้านบนสุดจะเป็นแถบเมนูหลักที่ประกอบด้วย โฮม เทมเพลต ผลงานของฉัน แบรนด์ และแอป

ส่วน Search Bar ที่อยู่ด้านบนจะช่วยให้ค้นหาเทมเพลต ภาพ หรือเครื่องมือที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว การสอนเด็กให้ใช้คำค้นหาที่เหมาะสมเป็นทักษะสำคัญ เช่น การค้นหาด้วยคำว่า “การ์ดวันเกิด” “โปสเตอร์โรงเรียน” หรือ “ใบปลิว”

พื้นที่กลางของหน้าจอจะแสดงเทมเพลตแนะนำและหมวดหมู่ต่างๆ ที่ Canva จัดเตรียมไว้ เด็กสามารถเลือกจากหมวดหมู่ที่หลากหลาย เช่น โซเชียลมีเดีย เอกสาร การนำเสนอ การพิมพ์ และการตลาด

การทำความเข้าใจกับแต่ละหมวดหมู่จะช่วยให้เด็กสามารถเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับงานที่ต้องการทำ ตัวอย่างเช่น หากต้องการทำรายงานโรงเรียน ควรเลือกจากหมวดหมู่เอกสาร หากต้องการทำโปสเตอร์ ควรเลือกจากหมวดหมู่การพิมพ์

ด้านซ้ายของหน้าจอจะเป็นพื้นที่สำหรับเครื่องมือต่างๆ เมื่อเลือกเทมเพลตหรือเริ่มการออกแบบใหม่ รวมถึงเครื่องมือการแก้ไขข้อความ การเพิ่มรูปภาพ การเลือกสี และการจัดการเลเยอร์

การทำความเข้าใจกับโครงสร้างพื้นฐานนี้จะช่วยให้เด็กสามารถนำทางในการใช้งาน Canva ได้อย่างมั่นใจ และสามารถค้นหาเครื่องมือที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว

การเลือกและใช้งานเทมเพลต

เทมเพลตเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับเด็กที่เพิ่งเริ่มเรียนรู้การออกแบบ Canva มีเทมเพลตให้เลือกมากมายในทุกหมวดหมู่ ตั้งแต่การ์ดอวยพร โปสเตอร์ ใบปลิว ไปจนถึงงานนำเสนอ

การเลือกเทมเพลตที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของงาน เด็กควรเรียนรู้ที่จะถามตัวเองก่อนว่า ต้องการสร้างอะไร ใช้ในโอกาสใด และใครเป็นผู้ที่จะดู การตอบคำถามเหล่านี้จะช่วยให้เลือกเทมเพลตได้ถูกต้อง

เมื่อเลือกเทมเพลตแล้ว การปรับแต่งเป็นขั้นตอนสำคัญ เด็กควรเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนข้อความให้เหมาะสมกับงาน เปลี่ยนสีให้สอดคล้องกับความต้องการ และเพิ่มหรือลดองค์ประกอบตามความจำเป็น

การทำความเข้าใจกับหลักการออกแบบพื้นฐาน เช่น การจัดวางองค์ประกอบ การใช้สี และการเลือกฟอนต์ จะช่วยให้เด็กสามารถปรับแต่งเทมเพลตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การบันทึกงานเป็นทักษะสำคัญที่เด็กควรเรียนรู้ตั้งแต่เริ่มต้น การบันทึกงานเป็นประจำจะป้องกันการสูญเสียข้อมูล และทำให้สามารถกลับมาแก้ไขหรือพัฒนาต่อได้ในภายหลัง

เด็กควรได้รับการฝึกฝนให้สามารถประเมินผลงานของตนเองได้ โดยการดูว่าผลงานที่สร้างขึ้นตอบสนองวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่ มีความสวยงาม เข้าใจง่าย และเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายหรือไม่

การสร้างงานออกแบบตั้งแต่ต้น

เมื่อเด็กมีความมั่นใจในการใช้งานเทมเพลตแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการเรียนรู้การสร้างงานออกแบบตั้งแต่ต้น ซึ่งจะช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และทักษะการออกแบบอย่างเต็มศักยภาพ

การเริ่มต้นสร้างงานใหม่ใน Canva ทำได้โดยเลือก “Create a design” และกำหนดขนาดของงาน เด็กควรเรียนรู้เกี่ยวกับขนาดมาตรฐานต่างๆ เช่น A4 สำหรับเอกสาร ขนาด 1080×1080 พิกเซลสำหรับโพสต์ Instagram หรือ 1920×1080 พิกเซลสำหรับวอลเปเปอร์คอมพิวเตอร์

การวางแผนก่อนเริ่มออกแบบเป็นสิ่งสำคัญ เด็กควรคิดเกี่ยวกับข้อความที่ต้องการสื่อสار ภาพที่จะใช้ สีหลักที่ต้องการ และรูปแบบโดยรวมของงาน การร่างแบบหยาบๆ ลงบนกระดาษก่อนจะช่วยให้กระบวนการออกแบบดิจิทัลราบรื่นขึ้น

การใช้งานเครื่องมือพื้นฐาน เริ่มจากการเพิ่มองค์ประกอบต่างๆ เช่น กล่องข้อความ รูปทรงเรขาคณิต เส้น และรูปภาพ เด็กควรเรียนรู้วิธีการเลือก ย้าย ปรับขนาด และหมุนองค์ประกอบเหล่านี้

หลักการออกแบบที่เด็กควรรู้ ได้แก่ หลัก Contrast ที่ช่วยให้องค์ประกอบสำคัญโดดเด่น หลัก Alignment ที่ช่วยให้งานดูเป็นระเบียบ หลัก Repetition ที่สร้างความสอดคล้อง และหลัก Proximity ที่ช่วยจัดกลุ่มข้อมูลที่เกี่ยวข้องกัน

การทดลองและการแก้ไข เป็นส่วนสำคัญของกระบวนการเรียนรู้ เด็กควรได้รับการสนับสนุนให้ทดลองสี ฟอนต์ และการจัดวางแบบต่างๆ เพื่อหาแบบที่ตนเองพอใจ การยอมรับว่าการออกแบบเป็นกระบวนการที่ต้องปรับปรุงจะช่วยให้เด็กไม่ท้อแท้เมื่อผลงานยังไม่ออกมาตามที่ต้องการ

การจัดการข้อความและฟอนต์

การจัดการข้อความเป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญในการออกแบบกราฟิก เด็กควรเรียนรู้ทั้งด้านเทคนิคและหลักการในการใช้ข้อความให้มีประสิทธิภาพ

การเลือกฟอนต์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับลักษณะของงานและอารมณ์ที่ต้องการสื่อสาร สำหรับงานทางการ ควรเลือกฟอนต์ที่อ่านง่าย เช่น Sans Serif สำหรับงานที่ต้องการความเป็นมิตรหรือสนุกสนาน สามารถเลือกฟอนต์ที่มีลูกเล่นมากขึ้น

ขนาดของข้อความมีความสำคัญต่อการอ่าน ข้อความหลักควรมีขนาดใหญ่เพื่อให้เด่นชัด ข้อความรายละเอียดควรมีขนาดเล็กกว่า แต่ยังคงอ่านได้ชัด การใช้ขนาดฟอนต์ที่แตกต่างกันจะช่วยสร้างลำดับความสำคัญของข้อมูล

การจัดตำแหน่งข้อความ มีทั้งแบบชิดซ้าย กึ่งกลาง ชิดขวา และชิดทั้งสองข้าง แต่ละแบบเหมาะสมกับสถานการณ์ต่างกัน การจัดกึ่งกลางเหมาะสำหรับหัวข้อหลัก การชิดซ้ายเหมาะสำหรับข้อความยาวๆ

สีของข้อความต้องมีความคมชัดกับพื้นหลัง เพื่อให้อ่านง่าย ข้อความสีดำบนพื้นขาวหรือข้อความสีขาวบนพื้นดำเป็นการผสมที่อ่านง่ายที่สุด การใช้สีอื่นๆ ควรทดสอบให้แน่ใจว่าอ่านได้ชัด

การใช้ Effect ต่างๆ เช่น เงา รอบข้อความ หรือไฮไลท์ สามารถช่วยให้ข้อความโดดเด่นมากขึ้น แต่ควรใช้อย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้งานดูรกหรือยากอ่าน

สำหรับภาษาไทย การเลือกฟอนต์ที่รองรับอักขระไทยเป็นสิ่งจำเป็น Canva มีฟอนต์ภาษาไทยให้เลือกหลายแบบ การทดสอบฟอนต์ต่างๆ จะช่วยให้เด็กเข้าใจความแตกต่างและเลือกใช้ได้เหมาะสม

ตัวอย่างไฟล์ คู่มือการใช้งาน Canva 2024 KIDS CAN CODE


คู่มือการใช้งาน Canva 2024 KIDS CAN CODE
คู่มือการใช้งาน Canva 2024 KIDS CAN CODE
คู่มือการใช้งาน Canva 2024 KIDS CAN CODE
คู่มือการใช้งาน Canva 2024 KIDS CAN CODE

เอกสารเป็นไฟล์ PDF

ดาวน์โหลดไฟล์เอกสารจากลิงก์ด้านล่างนี้ นะครับ

ขอบคุณแหล่งที่มา : KIDS CAN CODE   

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ห้ามพลาด