สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ทุกท่านนะครับ วันนี้พบกับ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ วิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง สารอาหารและระบบย่อยอาหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2 โรงเรียนวัดพิบูลสัณหธรรมโดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะความรู้ 5 ขั้น (5 E) ร่วมกับสื่อประสม ซึ่งเพื่อนๆ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดนำไปศึกษาและนำไปเป็นแนวทางในการดำเนินการจัดทำวิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง สารอาหารและระบบย่อยอาหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2 โรงเรียนวัดพิบูลสัณหธรรมโดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะความรู้ 5 ขั้น (5 E) ร่วมกับสื่อประสม ได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ วิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง สารอาหารและระบบย่อยอาหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2 โรงเรียนวัดพิบูลสัณหธรรมโดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะความรู้ 5 ขั้น (5 E) ร่วมกับสื่อประสม ตามรายละเอียดดังนี้ครับ

เผยแพร่ผลงานวิชาการ วิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง สารอาหารและระบบย่อยอาหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2 โรงเรียนวัดพิบูลสัณหธรรมโดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะความรู้ 5 ขั้น (5 E) ร่วมกับสื่อประสม โดย คุณครูรัตติกาล เชื้อบัณฑิต

การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ด้วยรูปแบบ 5E และสื่อประสม เส้นทางสู่ความสำเร็จในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องสารอาหารและระบบย่อยอาหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

การศึกษาในศตวรรษที่ 21 ต้องการนักเรียนที่มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และสร้างสรรค์องค์ความรู้ใหม่ได้ด้วยตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิชาวิทยาศาสตร์ที่เป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศและสร้างนวัตกรรม การสอนแบบดั้งเดิมที่เน้นการท่องจำและการถ่ายทอดความรู้ทางเดียวไม่เพียงพอต่อการพัฒนาศักยภาพของนักเรียนให้เต็มตามความสามารถ จึงจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการสอนให้เหมาะสมกับยุคสมัยและสอดคล้องกับธรรมชาติการเรียนรู้ของนักเรียน

วิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้จึงเป็นการศึกษาที่มุ่งเน้นการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในเรื่องสารอาหารและระบบย่อยอาหาร ซึ่งเป็นหัวข้อที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตและสุขภาพของนักเรียน โดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะความรู้ 5 ขั้นตอน (5E Model) ร่วมกับสื่อประสม เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ

ความสำคัญของการพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์

การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ในระดับประถมศึกษาเป็นรากฐานสำคัญที่จะกำหนดทัศนคติและความสนใจของนักเรียนต่อวิทยาศาสตร์ในอนาคต หากนักเรียนได้รับการพัฒนาทักษะการคิดวิทยาศาสตร์และความเข้าใจในแนวคิดวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องตั้งแต่เด็ก จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ในระดับที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การสำรวจสภาพการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ในโรงเรียนระดับประถมศึกษาหลายแห่งพบว่า นักเรียนยังมีปัญหาในการเข้าใจแนวคิดวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับร่างกายมนุษย์ ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นนามธรรมและซับซ้อน

เรื่องสารอาหารและระบบย่อยอาหารเป็นหัวข้อที่นักเรียนมักมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือไม่สมบูรณ์ เนื่องจากเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นภายในร่างกายซึ่งไม่สามารถสังเกตเห็นได้โดยตรง การสอนแบบดั้งเดิมที่เน้นการบรรยายและการอ่านตำราเพียงอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอที่จะทำให้นักเรียนเกิดความเข้าใจที่ชัดเจนและลึกซึ้ง จำเป็นต้องใช้วิธีการสอนที่สามารถสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่เป็นรูปธรรมและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะความรู้ 5 ขั้นตอน ทางเลือกใหม่สำหรับการเรียนการสอน

รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะความรู้ 5 ขั้นตอน หรือ 5E Model เป็นรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้นโดยโครงการ BSCS (Biological Science Curriculum Study) ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้อย่างมีนัยสำคัญ รูปแบบการสอนนี้ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ได้แก่ การเร้าความสนใจ (Engagement) การสำรวจ (Exploration) การอธิบาย (Explanation) การขยายความรู้ (Elaboration) และการประเมิน (Evaluation)

ขั้นตอนการเร้าความสนใจเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญซึ่งครูจะใช้กิจกรรมหรือสถานการณ์ที่น่าสนใจเพื่อกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของนักเรียน ทำให้นักเรียนเกิدคำถามและต้องการค้นหาคำตอบ ในขั้นตอนการสำรวจ นักเรียนจะได้มีโอกาสสำรวจและค้นหาข้อมูลด้วยตนเอง ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่ครูออกแบบไว้ เพื่อให้นักเรียนสร้างความเข้าใจเบื้องต้นจากประสบการณ์ตรง

ขั้นตอนการอธิบายเป็นช่วงที่ครูจะช่วยนักเรียนเชื่อมโยงประสบการณ์ที่ได้รับกับแนวคิดวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้อง โดยการใช้คำศัพท์วิทยาศาสตร์และการอธิบายที่ชัดเจน ขั้นตอนการขยายความรู้จะให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ใหม่หรือปัญหาที่ซับซ้อนมากขึ้น และขั้นตอนสุดท้ายคือการประเมินซึ่งจะมีการประเมินความเข้าใจของนักเรียนทั้งระหว่างการเรียนรู้และหลังการเรียนรู้

บทบาทของสื่อประสมในการเสริมสร้างประสิทธิภาพการเรียนรู้

สื่อประสมหรือ Multimedia เป็นการนำเสนอข้อมูลผ่านสื่อหลายรูปแบบในเวลาเดียวกัน เช่น ข้อความ รูปภาพ เสียง วีดิโอ และภาพเคลื่อนไหว การใช้สื่อประสมในการเรียนการสอนสามารถช่วยให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น เพราะสามารถรองรับรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลายของนักเรียนแต่ละคน บางคนอาจเรียนรู้ได้ดีจากการมองเห็น บางคนจากการฟัง และบางคนจากการปฏิบัติ

ในเรื่องสารอาหารและระบบย่อยอาหาร การใช้สื่อประสมมีความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะสามารถนำเสนอกระบวนการย่อยอาหารที่เกิดขึ้นภายในร่างกายให้เห็นเป็นภาพเคลื่อนไหวที่ชัดเจน สามารถแสดงเส้นทางการเดินทางของอาหารผ่านระบบต่างๆ ในร่างกาย และสามารถเปรียบเทียบขนาดและรูปร่างของอวัยวะต่างๆ ได้อย่างเป็นสัดส่วน นอกจากนี้ยังสามารถใช้เสียงประกอบเพื่ออธิบายกระบวนการต่างๆ ทำให้การเรียนรู้มีความน่าสนใจและจดจำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบ 5E

การนำรูปแบบการสอนแบบสืบเสาะความรู้ 5 ขั้นตอนมาใช้ในการสอนเรื่องสารอาหารและระบบย่อยอาหาร ต้องมีการออกแบบกิจกรรมที่เหมาะสมและเชื่อมโยงกันในแต่ละขั้นตอน ในขั้นการเร้าความสนใจ อาจใช้การแสดงปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ เช่น การทำให้น้ำลายหลั่งออกมาเมื่อดูรูปภาพอาหารที่น่าอร่อย หรือการให้นักเรียนสังเกตการเปลี่ยนแปลงของอาหารเมื่อใส่น้ำลาย เพื่อกระตุ้นความสงสัยและความอยากรู้

ในขั้นการสำรวจ นักเรียนจะได้ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การจำแนกประเภทของสารอาหาร การทดสอบสารอาหารในอาหารประเภทต่างๆ การสำรวจลักษณะของอวัยวะในระบบย่อยอาหาร และการจำลองกระบวนการย่อยอาหารด้วยวัสดุต่างๆ กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้นักเรียนได้ประสบการณ์ตรงและสร้างความเข้าใจเบื้องต้นจากการปฏิบัติจริง

ขั้นการอธิบายจะเป็นการที่ครูช่วยนักเรียนเชื่อมโยงสิ่งที่สำรวจได้กับแนวคิดวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้อง โดยการใช้สื่อประสมเพื่ออธิบายกระบวนการย่อยอาหาร หน้าที่ของอวัยวะต่างๆ และความสำคัญของสารอาหารแต่ละประเภท ในขั้นนี้ครูจะใช้วีดิโอแสดงกระบวนการย่อยอาหาร แผนภาพระบบย่อยอาหาร และโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่แสดงการทำงานของระบบต่างๆ

การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการสร้างสื่อประสม

ในยุคดิจิทัล การนำเทคโนโลยีมาช่วยในการสร้างสื่อประสมทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สำหรับเรื่องสารอาหารและระบบย่อยอาหาร สามารถใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการสร้างภาพเคลื่อนไหวแสดงกระบวนการย่อยอาหาร ใช้ Virtual Reality เพื่อให้นักเรียนได้เดินทางไปภายในระบบย่อยอาหาร หรือใช้ Augmented Reality เพื่อแสดงอวัยวะต่างๆ ในแบบสามมิติ

การใช้แท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนในการเข้าถึงแอปพลิเคชันทางการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับระบบย่อยอาหาร ทำให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา และสามารถทบทวนบทเรียนได้ซ้ำแล้วซ้ำอีก การใช้โปรแกรมจำลองสถานการณ์ช่วยให้นักเรียนสามารถทดลองกับตัวแปรต่างๆ และสังเกตผลที่เกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องใช้วัสดุอุปกรณ์จริง ซึ่งประหยัดค่าใช้จ่ายและปลอดภัยกว่า

การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา

รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะความรู้ 5 ขั้นตอนไม่เพียงแต่ช่วยให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาอีกด้วย ในแต่ละขั้นตอนของการเรียนรู้ นักเรียนต้องใช้ทักษะการคิดในระดับต่างๆ ตั้งแต่การจำและเข้าใจ ไปจนถึงการวิเคราะห์ การสังเคราะห์ และการประเมิน

เมื่อนักเรียนต้องอธิบายกระบวนการย่อยอาหารที่สังเกตได้จากการทดลอง หรือต้องเปรียบเทียบหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ในระบบย่อยอาหาร นักเรียนจะได้ฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ เมื่อต้องเชื่อมโยงความรู้เกี่ยวกับสารอาหารกับการเลือกรับประทานอาหารในชีวิตประจำวัน นักเรียนจะได้ฝึกทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้ และเมื่อต้องแก้ปัญหาเกี่ยวกับความผิดปกติของระบบย่อยอาหาร นักเรียนจะได้ฝึกทักษะการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ

การประเมินผลที่หลากหลายและสมบูรณ์

การประเมินผลในรูปแบบการสอนแบบสืบเสาะความรู้ 5 ขั้นตอนจะมีลักษณะที่หลากหลายและครอบคลุมทั้งด้านความรู้ ทักษะกระบวนการ และเจตคติ การประเมินจะดำเนินการตลอดกระบวนการเรียนรู้ ไม่เพียงแต่ในตอนท้ายเท่านั้น ในขั้นการเร้าความสนใจ ครูจะประเมินความสนใจและแรงจูงใจของนักเรียน ในขั้นการสำรวจ จะประเมินทักษะการปฏิบัติและการสังเกต ในขั้นการอธิบาย จะประเมินความเข้าใจในแนวคิด

รูปแบบการประเมินที่ใช้จะมีทั้งการประเมินด้วยแบบทดสอบ การสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ การตรวจผลงานและโครงงาน การประเมินการนำเสนอ และการประเมินตนเอง การใช้สื่อประสมในการประเมินผล เช่น การให้นักเรียนสร้างภาพเคลื่อนไหวแสดงกระบวนการย่อยอาหาร หรือการทำวีดิโอนำเสนอเกี่ยวกับความสำคัญของสารอาหาร จะทำให้การประเมินผลมีความหลากหลายและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการใช้รูปแบบการสอนนี้

จากการทบทวนวรรณกรรมและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง พบว่า การใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะความรู้ 5 ขั้นตอนร่วมกับสื่อประสม มีแนวโน้มที่จะให้ผลลัพธ์ที่ดีในหลายด้าน ทั้งด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ และเจตคติต่อการเรียนวิทยาศาสตร์ นักเรียนจะมีความเข้าใจในเนื้อหาที่ลึกซึ้งและถาวรมากขึ้น เพราะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงและได้สร้างความรู้ด้วยตนเอง

นอกจากนี้ นักเรียนยังจะมีทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการทำงานร่วมกันที่ดีขึ้น เพราะในแต่ละขั้นตอนของการเรียนรู้ นักเรียนจะได้ทำงานเป็นทีม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และช่วยกันแก้ปัญหา ความมั่นใจในการเรียนวิทยาศาสตร์และแรงจูงใจในการเรียนรู้จะเพิ่มขึ้น เพราะนักเรียนได้รับประสบการณ์ความสำเร็จจากการค้นพบคำตอบด้วยตนเอง

การเตรียมความพร้อมของครูผู้สอน

ความสำเร็จของการใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะความรู้ 5 ขั้นตอนร่วมกับสื่อประสมขึ้นอยู่กับความพร้อมของครูผู้สอนเป็นสำคัญ ครูจำเป็นต้องมีความรู้และทักษะในการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ การใช้เทคโนโลยี และการจัดการชั้นเรียน ครูต้องเปลี่ยนบทบาทจากผู้ถ่ายทอดความรู้มาเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้

ตัวอย่างไฟล์ วิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง สารอาหารและระบบย่อยอาหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2 โรงเรียนวัดพิบูลสัณหธรรมโดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะความรู้ 5 ขั้น (5 E) ร่วมกับสื่อประสม


วิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง สารอาหารและระบบย่อยอาหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2 โรงเรียนวัดพิบูลสัณหธรรมโดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะความรู้ 5 ขั้น (5 E) ร่วมกับสื่อประสม
วิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง สารอาหารและระบบย่อยอาหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2 โรงเรียนวัดพิบูลสัณหธรรมโดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะความรู้ 5 ขั้น (5 E) ร่วมกับสื่อประสม

เอกสารเป็นไฟล์ Word แก้ไขได้

ดาวน์โหลดไฟล์เอกสารจากลิงก์ด้านล่างนี้ นะครับ

ขอบคุณแหล่งที่มา : คุณครูรัตติกาล เชื้อบัณฑิต

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ห้ามพลาด