สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ทุกท่านนะครับ วันนี้พบกับ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ แผนการสอน ตามหนังสือกระทรวง วิชาภาษาไทย ป.1-6 ซึ่งสามารถนำไปศึกษาและเป็นแนวทางในการจัดทำ แผนการสอน ให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ แผนการสอน ตามหนังสือกระทรวง วิชาภาษาไทย ป.1-6 ตามรายละเอียดดังนี้ครับ
ดาวน์โหลดไฟล์ แผนการสอน ตามหนังสือกระทรวง วิชาภาษาไทย ป.1-6

แผนการสอนภาษาไทย ป.1-ป.6 ตามหลักสูตรแกนกลางฯ สร้างบทเรียนคุณภาพเพื่อพัฒนาการสูงสุดของผู้เรียน
การวางแผนการสอนเปรียบเสมือนการวางเสาเข็มของบ้าน ยิ่งแผนการสอนแข็งแรงและครอบคลุมเพียงใด การเรียนรู้ของนักเรียนก็จะมั่นคงและต่อยอดไปได้ไกลเพียงนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับวิชาภาษาไทย ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการเรียนรู้ทุกกลุ่มสาระและเป็นรากฐานของวัฒนธรรม ความคิด และการสื่อสารของชาติ การจัดทำแผนการสอนภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ของกระทรวงศึกษาธิการ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด บทความนี้ได้รวบรวมและเรียบเรียงแนวทางการจัดการเรียนการสอนอย่างละเอียดในแต่ละชั้นปี เพื่อเป็นแนวทางให้คุณครูสามารถนำไปปรับใช้ สร้างสรรค์กิจกรรมการเรียนรู้ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ และส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาของนักเรียนได้อย่างเต็มศักยภาพ
จุดเริ่มต้นของการเดินทางบนเส้นทางภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 คือการสร้างความคุ้นเคย ความสนุกสนาน และทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้ หัวใจสำคัญคือการปูพื้นฐานด้านการฟัง พูด อ่าน เขียน ให้มั่นคงที่สุด เพื่อเป็นบันไดขั้นแรกสูการเรียนรู้ที่ซับซ้อนขึ้นไป ในด้านการฟัง การดู และการพูดนั้น นักเรียนจะต้องสามารถปฏิบัติตามคำสั่งและคำขอร้องง่ายๆ ได้อย่างถูกต้อง ตอบคำถามจากการฟังเรื่องราวใกล้ตัวหรือนิทานสั้นๆ ที่มีภาพประกอบ เล่าเรื่องราวสั้นๆ เกี่ยวกับตนเองหรือประสบการณ์ใกล้ตัวได้เป็นประโยคง่ายๆ และที่สำคัญคือการมีมารยาทในการฟัง เช่น การตั้งใจฟังเมื่อผู้อื่นพูด และการมีมารยาทในการพูด เช่น การใช้คำพูดที่สุภาพ กล่าวคำว่า ขอบคุณ ขอโทษ ได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ กิจกรรมการสอนอาจเน้นการเล่นเกมประกอบท่าทาง การร้องเพลง การเล่านิทานโดยใช้หุ่นมือ หรือการสนทนาโต้ตอบในหัวข้อที่เด็กสนใจ เช่น สัตว์เลี้ยง ของเล่น หรือครอบครัว สำหรับทักษะการอ่าน การเริ่มต้นที่แข็งแรงคือทุกสิ่ง นักเรียนต้องจดจำพยัญชนะไทยทั้ง 44 ตัว สระเสียงสั้นและเสียงยาว วรรณยุกต์ และตัวเลขไทยได้อย่างแม่นยำ จากนั้นจึงเริ่มฝึกประสมคำที่ไม่มีตัวสะกด (แม่ ก กา) และคำที่มีตัวสะกดตรงตามมาตราในแม่ กง กน กม เกย และเกอว การสะกดคำและแจกลูกคือหัวใจของการอ่านในชั้นนี้ คุณครูควรใช้สื่อที่หลากหลาย เช่น บัตรคำ บัตรภาพ แถบประโยค เกมจับคู่คำกับภาพ และหนังสือนิทานเล่มเล็กที่มีประโยคสั้นๆ ซ้ำๆ เพื่อสร้างความมั่นใจในการอ่านออกเสียง ด้านทักษะการเขียน จะเริ่มต้นจากการฝึกพัฒนากล้ามเนื้อมือ การลากเส้นพื้นฐานต่างๆ ไปจนถึงการคัดลายมือพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ตามแบบได้อย่างถูกต้องและสวยงาม นักเรียนควรเขียนชื่อ-นามสกุลของตนเองได้ และสามารถเขียนคำง่ายๆ ที่มีความหมายตรงตัวจากการบอกคำหรือการดูภาพได้ การเขียนตามคำบอกเป็นกิจกรรมที่สำคัญอย่างยิ่งในการวัดผลและกระตุ้นการจดจำ หลักการใช้ภาษาไทยในชั้น ป.1 จะเน้นเรื่องพื้นฐานที่สุด คือการรู้จักพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ และการประสมคำดังที่กล่าวไปข้างต้น ส่วนวรรณคดีและวรรณกรรม จะเน้นการท่องจำบทอาขยานและบทร้อยกรองสั้นๆ ที่มีจังหวะสนุกสนาน เพื่อสร้างความซาบซึ้งในความงามของภาษาไทยตั้งแต่เยาว์วัย
เมื่อก้าวเข้าสู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 นักเรียนจะมีพื้นฐานจากการเรียนในชั้น ป.1 มาแล้ว แผนการสอนจึงต้องเน้นการต่อยอดและเพิ่มความซับซ้อนในทุกทักษะ ทักษะการฟัง การดู และการพูดจะพัฒนาไปสู่การจับใจความสำคัญจากเรื่องที่ฟังและดูได้ สามารถตั้งคำถามและตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องราวนั้นๆ ได้อย่างสมเหตุสมผล การพูดจะเน้นการเล่าเรื่องที่ยาวขึ้น มีลำดับเหตุการณ์ก่อนหลัง และสามารถพูดแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกของตนเองต่อเรื่องต่างๆ ได้อย่างสั้นๆ กิจกรรมที่แนะนำคือการให้นักเรียนชมสารคดีสั้นๆ สำหรับเด็กแล้วร่วมกันอภิปราย หรือการผลัดกันออกมาเล่าประสบการณ์หน้าชั้นเรียน ทักษะการอ่านในชั้นนี้จะมีความท้าทายมากขึ้น นักเรียนต้องอ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่ายๆ ได้อย่างถูกต้องและคล่องแคล่วขึ้น การอ่านจับใจความจากเรื่องสั้นๆ หรือข่าวและเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันที่ไม่ซับซ้อนคือเป้าหมายสำคัญ นอกจากนี้ นักเรียนจะได้เรียนรู้เรื่องคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา คำที่มีอักษรควบกล้ำ (ร ล ว) และคำที่มีอักษรนำ การอ่านหนังสือเรียนและหนังสืออ่านนอกเวลาอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง คุณครูควรจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน เช่น โครงการรักการอ่าน การทำสมุดบันทึกการอ่าน หรือการแข่งขันตอบคำถามจากหนังสือ ในด้านการเขียน นักเรียนจะต้องสามารถคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดได้สวยงามและมีระเบียบมากขึ้น สามารถเขียนบรรยายเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือบุคคลใกล้ตัวได้เป็นประโยคต่อเนื่องกัน 3-5 ประโยค และเริ่มเรียนรู้การเขียนจดหมายลาครูอย่างง่ายๆ เพื่อให้เข้าใจรูปแบบการเขียนที่ถูกต้อง การเขียนเรื่องสั้นๆ ตามจินตนาการจากภาพที่กำหนดให้ก็เป็นกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดี สำหรับหลักการใช้ภาษาไทย จะลงลึกในเรื่องมาตราตัวสะกดทั้ง 8 มาตรา ทั้งที่ตรงและไม่ตรงมาตรา การผันวรรณยุกต์อักษรกลาง สูง ต่ำ และการเริ่มรู้จักชนิดของคำเบื้องต้น เช่น คำนาม และคำกริยา เพื่อเป็นพื้นฐานในการสร้างประโยค ส่วนวรรณคดีและวรรณกรรม นักเรียนจะได้อ่านวรรณกรรมสำหรับเด็กที่ยาวขึ้น เช่น นิทานพื้นบ้านหรือเรื่องสั้นที่ให้ข้อคิด คติสอนใจ และสามารถสรุปข้อคิดที่ได้จากเรื่องไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้
เมื่อนักเรียนขึ้นสู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งถือเป็นช่วงกลางของระดับประถมศึกษา พัฒนาการทางภาษาจะก้าวกระโดดอย่างเห็นได้ชัด แผนการสอนต้องเน้นการคิดวิเคราะห์และการสื่อสารที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ในด้านการฟัง การดู และการพูด นักเรียนจะต้องสามารถสรุปความรู้และข้อคิดจากเรื่องที่ฟังและดูได้ สามารถพูดรายงานหรือนำเสนอเรื่องที่ศึกษาค้นคว้าสั้นๆ ได้อย่างเป็นลำดับขั้นตอน รวมถึงการแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องต่างๆ อย่างมีเหตุผลสนับสนุน และรู้จักเลือกใช้ภาษาให้เหมาะสมกับบุคคลและโอกาส กิจกรรมที่เหมาะสมคือการโต้วาทีในหัวข้อที่ไม่ซับซ้อน หรือการทำโครงงานกลุ่มเล็กๆ แล้วออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน ทักษะการอ่านจะเน้นไปที่ความเร็วและความเข้าใจ นักเรียนต้องสามารถอ่านออกเสียงข้อความที่เป็นบทร้อยแก้วและร้อยกรองได้ถูกต้องตามอักขรวิธีและทำนอง สามารถอธิบายความหมายของคำและข้อความจากการอ่านได้ แยกแยะข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน และสามารถสรุปใจความสำคัญของเรื่องได้ด้วยภาษาของตนเอง การใช้พจนานุกรมเพื่อหาความหมายของคำใหม่ๆ เป็นทักษะสำคัญที่ต้องฝึกฝนในชั้นนี้ การอ่านหนังสือพิมพ์ วารสาร หรือบทความสั้นๆ จะช่วยเปิดโลกทัศน์ของนักเรียนให้กว้างขึ้น สำหรับทักษะการเขียน นักเรียนต้องเขียนบรรยายและพรรณนาเกี่ยวกับประสบการณ์หรือจินตนาการได้เป็นย่อหน้าที่สมบูรณ์ สามารถเขียนจดหมายส่วนตัวถึงเพื่อนหรือญาติผู้ใหญ่ได้ถูกต้องตามรูปแบบ และเริ่มฝึกการเขียนบันทึกประจำวันหรือบันทึกเรื่องราวจากประสบการณ์จริง การเขียนเรื่องจากภาพที่ซับซ้อนขึ้นหรือการแต่งเรื่องต่อจากเรื่องที่กำหนดให้ จะช่วยส่งเสริมทักษะการคิดและจินตนาการได้อย่างดี หลักการใช้ภาษาไทยในชั้นนี้จะมีความเข้มข้นขึ้น นักเรียนจะได้เรียนรู้เรื่องชนิดของคำเพิ่มขึ้น เช่น คำสรรพนาม คำวิเศษณ์ การรู้จักประโยคสมบูรณ์ที่มีประธาน กริยา และกรรม และการใช้เครื่องหมายวรรคตอนต่างๆ เช่น ปรัศนี อัศเจรีย์ ได้อย่างถูกต้อง วรรณคดีและวรรณกรรม จะเน้นการอ่านวรรณคดีและนิทานพื้นบ้านของไทยที่สะท้อนให้เห็นวิถีชีวิต ความเชื่อ และวัฒนธรรมของคนในท้องถิ่นต่างๆ นักเรียนต้องสามารถบอกคุณค่าและข้อคิดที่ได้จากวรรณคดีเรื่องนั้นๆ และนำมาเปรียบเทียบกับชีวิตจริงได้
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถือเป็นประตูสู่การเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้น นักเรียนจะเริ่มมีความคิดเป็นของตนเองและสามารถใช้เหตุผลได้ดีขึ้น แผนการสอนจึงต้องส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์และสังเคราะห์เป็นพิเศษ ทักษะการฟัง การดู และการพูด จะเน้นการจำแนกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากการฟังและดูสื่อต่างๆ เช่น ข่าว หรือโฆษณา สามารถพูดสรุปใจความสำคัญและแสดงทรรศนะในเรื่องที่ฟังและดูได้อย่างสร้างสรรค์ รวมถึงการตั้งคำถามที่มีคุณค่าเพื่อหาความรู้เพิ่มเติม การฝึกพูดในโอกาสต่างๆ เช่น การกล่าวแนะนำตนเองในที่ประชุม หรือการพูดโน้มน้าวใจในเรื่องง่ายๆ จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักเรียน ทักษะการอ่านจะมุ่งเน้นการอ่านในใจเพื่อจับใจความสำคัญได้รวดเร็วขึ้น สามารถคาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่อ่าน อธิบายความหมายโดยนัยของคำหรือสำนวน และสามารถวิเคราะห์โครงสร้างของเรื่อง (ตัวละคร ฉาก เหตุการณ์) ได้อย่างชัดเจน การอ่านงานเขียนประเภทต่างๆ เช่น บทความ สารคดี หรือเรื่องสั้น จะทำให้นักเรียนได้เห็นรูปแบบการใช้ภาษาที่หลากหลาย และเป็นพื้นฐานในการเขียนของตนเองต่อไป ด้านทักษะการเขียน นักเรียนต้องสามารถเขียนย่อความจากเรื่องที่อ่านหรือฟังได้ถูกต้องตามหลักการ สามารถเขียนจดหมายกิจธุระ เช่น จดหมายถึงหน่วยงานเพื่อขอข้อมูล และที่สำคัญคือการเขียนเรียงความเชิงบรรยายหรือพรรณนาในหัวข้อต่างๆ โดยมีโครงสร้างที่ชัดเจน คือ คำนำ เนื้อเรื่อง และสรุป การฝึกเขียนแผนภาพความคิด (Mind Mapping) ก่อนการเขียน จะช่วยจัดลำดับความคิดและทำให้งานเขียนมีเนื้อหาที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ในส่วนของหลักการใช้ภาษาไทย นักเรียนจะเรียนรู้เรื่องประโยคชนิดต่างๆ ที่ซับซ้อนขึ้น เช่น ประโยคความเดียว ประโยคความรวม และประโยคความซ้อน การรู้จักคำพ้องรูป พ้องเสียง คำราชาศัพท์เบื้องต้น และสำนวนไทยที่ควรรู้ จะทำให้คลังคำศัพท์ของนักเรียนกว้างขวางขึ้น สำหรับวรรณคดีและวรรณกรรม นักเรียนจะได้ศึกษาวรรณคดีมรดกของไทยที่ยาวขึ้นและมีคุณค่าเชิงวรรณศิลป์ สามารถถอดคำประพันธ์ง่ายๆ และอธิบายคุณค่าด้านสังคมและวัฒนธรรมที่ปรากฏในเรื่องได้
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นช่วงวัยที่นักเรียนกำลังจะก้าวเข้าสู่วัยรุ่น ความคิดความอ่านจะซับซ้อนและเป็นนามธรรมมากขึ้น แผนการสอนต้องท้าทายความสามารถและส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับทักษะการฟัง การดู และการพูด นักเรียนจะต้องสามารถวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของข้อมูลจากสื่อต่างๆ ได้ สามารถพูดอภิปรายแสดงความคิดเห็นและโต้แย้งอย่างมีเหตุผลและมีมารยาท และสามารถพูดรายงานเรื่องที่ศึกษาค้นคว้าจากการรวบรวมข้อมูลหลายแหล่งได้อย่างเป็นระบบ กิจกรรมการจัดปาฐกถา หรือการโต้วาทีในประเด็นทางสังคมง่ายๆ จะช่วยฝึกฝนทักษะเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี ทักษะการอ่านจะเน้นการอ่านเชิงวิเคราะห์และตีความ นักเรียนต้องสามารถอ่านงานเขียนเชิงโน้มน้าวใจ เช่น บทโฆษณา หรือบทบรรณาธิการ และวิเคราะห์เจตนาของผู้เขียนได้ สามารถตีความสัญลักษณ์หรือความหมายแฝงในบทร้อยกรอง และประเมินคุณค่าของงานเขียนในด้านต่างๆ ได้ การอ่านเร็วเพื่อค้นหาข้อมูลที่ต้องการเป็นอีกหนึ่งทักษะที่สำคัญในยุคข้อมูลข่าวสาร ด้านทักษะการเขียน นักเรียนจะฝึกฝนการเขียนงานเขียนประเภทต่างๆ ที่มีความซับซ้อนขึ้น เช่น การเขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ต่างๆ การเขียนเรื่องสั้นหรือนิทานตามจินตนาการโดยมีการสร้างโครงเรื่องที่น่าสนใจ และการเขียนรายงานจากการศึกษาค้นคว้าอย่างเป็นทางการ ซึ่งประกอบด้วยหน้าปก คำนำ สารบัญ เนื้อหา และบรรณานุกรมอย่างง่าย หลักการใช้ภาษาไทยในชั้นนี้จะลงลึกเรื่องโครงสร้างประโยคซับซ้อน การใช้คำเชื่อม (สันธาน) และคำบุพบทได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม การเรียนรู้เรื่องระดับของภาษา (ภาษากึ่งทางการ ภาษาทางการ) และการเลือกใช้ให้ถูกกับกาลเทศะเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง รวมถึงการทำความเข้าใจเกี่ยวกับที่มาของคำในภาษาไทย เช่น คำที่มาจากภาษาบาลี-สันสกฤต ในส่วนของวรรณคดีและวรรณกรรม นักเรียนจะได้ศึกษาวรรณคดีเรื่องสำคัญๆ ที่สะท้อนภูมิปัญญาและค่านิยมของคนไทย สามารถวิเคราะห์ตัวละครและพฤติกรรมของตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง และนำข้อคิดที่ได้มาประยุกต์ใช้เพื่อการดำเนินชีวิตอย่างมีคุณธรรม
ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของการศึกษาภาคบังคับในระดับประถมศึกษา แผนการสอนจะต้องมุ่งเน้นการสรุปทบทวนความรู้ทั้งหมดและเตรียมความพร้อมของนักเรียนเพื่อเข้าสู่การเรียนในระดับมัธยมศึกษา ทักษะทุกด้านจะต้องถูกบูรณาการและยกระดับสู่ขั้นสูงสุด ทักษะการฟัง การดู และการพูด นักเรียนจะต้องสามารถประเมินเรื่องที่ฟังและดู และนำความรู้ไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้ สามารถพูดอภิปรายในหัวข้อที่ซับซ้อนได้อย่างกว้างขวางและลึกซึ้ง มีวิจารณญาณในการเลือกรับข้อมูลข่าวสาร และสามารถพูดในที่สาธารณะได้อย่างคล่องแคล่วและมั่นใจ ทักษะการอ่านจะเน้นการอ่านอย่างมีวิจารณญาณอย่างแท้จริง นักเรียนต้องสามารถเปรียบเทียบข้อมูลจากแหล่งต่างๆ แยกแยะระหว่างข้อเท็จจริง ข้อสนับสนุน และข้อคิดเห็น ประเมินความถูกต้องของข้อมูล และนำความรู้ที่ได้จากการอ่านไปใช้ในการพัฒนาตนเองและสังคม การอ่านวรรณกรรมร่วมสมัยและงานเขียนที่หลากหลายจะช่วยเปิดมุมมองของนักเรียนให้กว้างไกล ด้านทักษะการเขียน นักเรียนจะต้องสามารถเขียนสื่อสารในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การเขียนจดหมายราชการ การเขียนโต้แย้งหรือแสดงทรรศนะในประเด็นต่างๆ ไปจนถึงการเขียนเชิงสร้างสรรค์ เช่น การแต่งบทร้อยกรอง (กลอนสี่, กลอนสุภาพ) ได้ถูกต้องตามฉันทลักษณ์ การเขียนทุกประเภทต้องแสดงให้เห็นถึงการใช้ภาษาที่สละสลวย ถูกต้อง และมีพลังในการสื่อสาร หลักการใช้ภาษาไทยจะเป็นการสรุปรวบยอดไวยากรณ์ไทยทั้งหมด ตั้งแต่ชนิดและหน้าที่ของคำ โครงสร้างประโยคที่ซับซ้อน การใช้สำนวนโวหารต่างๆ ในงานเขียน (อุปมา อุปลักษณ์) และการตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องเพื่อสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ในด้านวรรณคดีและวรรณกรรม นักเรียนจะได้สรุปคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่เรียนมาทั้งหมด สามารถวิเคราะห์เปรียบเทียบวิถีไทยในอดีตกับปัจจุบันผ่านงานวรรณคดี และเห็นคุณค่าของภูมิปัญญาทางภาษาที่บรรพบุรุษได้สร้างสรรค์ไว้
การจัดการเรียนการสอนภาษาไทยตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงปีที่ 6 เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความใส่ใจ ความเข้าใจในพัฒนาการของผู้เรียน และความคิดสร้างสรรค์ของคุณครูผู้สอน แผนการสอนที่เป็นระบบและละเอียดลออนี้เป็นเพียงโครงสร้างและแนวทาง แต่หัวใจสำคัญที่สุดคือการที่คุณครูนำไปปรับใช้ให้เข้ากับบริบทของนักเรียนแต่ละคน สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่เปี่ยมด้วยความสุขและความท้าทาย เพื่อให้นักเรียนทุกคนไม่เพียงแต่ “ใช้” ภาษาไทยได้ แต่ยัง “รัก” และ “ภาคภูมิใจ” ในภาษาประจำชาติของตนเองสืบไป
การออกแบบแผนการสอนวิชาภาษาไทย สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ
แผนการสอนภาษาไทย ป.1 : การเรียนรู้ตัวอักษรและการออกเสียง
การเรียนการสอนภาษาไทยในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มุ่งเน้นไปที่การเรียนรู้ตัวอักษรภาษาไทย และการออกเสียงที่ถูกต้อง โดยนักเรียนจะได้เรียนรู้ตัวอักษรไทยที่ใช้ในคำศัพท์พื้นฐาน และฝึกการเขียนตัวอักษรให้ถูกต้อง รวมถึงการฝึกทักษะการฟังและการพูดอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการกิจกรรมต่างๆ เช่น การเล่านิทาน การเล่นเกมคำศัพท์ และการฝึกออกเสียงคำต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจในพื้นฐานภาษาไทย
แผนการสอนภาษาไทย ป.2 : การอ่านและเขียนคำประสม
ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 การเรียนภาษาไทยจะเริ่มขยายขอบเขตไปสู่การอ่านและเขียนคำประสมที่ประกอบด้วยพยัญชนะและสระหลายตัว นักเรียนจะได้ฝึกการอ่านคำประสมและฝึกการเขียนคำให้ถูกต้องและสละสลวย นอกจากนี้ยังมีการฝึกการใช้เครื่องหมายวรรคตอนและการแบ่งคำในประโยคอย่างถูกต้อง เพื่อเสริมสร้างทักษะการใช้ภาษาที่มีประสิทธิภาพในการสื่อสาร
แผนการสอนภาษาไทย ป.3 : การเขียนเรียงความ
ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 นักเรียนจะได้เรียนรู้การเขียนเรียงความที่มีโครงสร้างที่ถูกต้อง และมีเนื้อหาที่ชัดเจน การเรียนรู้จะเน้นไปที่การเขียนคำบรรยายและการใช้คำเชื่อมโยงประโยคเพื่อให้เนื้อหามีความต่อเนื่อง นักเรียนจะได้ฝึกการใช้ภาษาที่ถูกต้อง ทั้งในเรื่องของการใช้คำศัพท์ การจัดเรียงประโยค และการเขียนเรียงความในหัวข้อต่างๆ เช่น การเขียนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน การเล่าประสบการณ์ หรือการเขียนแสดงความคิดเห็น
แผนการสอนภาษาไทย ป.4 : การอ่านและวิเคราะห์เรื่องสั้น
การเรียนการสอนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทักษะการอ่านและการวิเคราะห์เนื้อหาของเรื่องสั้น นักเรียนจะได้อ่านเรื่องสั้นที่หลากหลายประเภท และฝึกการตีความหมายของข้อความ วิเคราะห์เนื้อหาที่อยู่ในเรื่อง รวมถึงการเรียนรู้สำนวนการพูดและการใช้คำที่มีความหมายหลายมิติ การฝึกการตั้งคำถามและการหาคำตอบจากเนื้อหาที่อ่าน จะช่วยพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์และตีความภาษาไทย
แผนการสอนภาษาไทย ป.5 : การฝึกทักษะการพูดและการนำเสนอ
ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 นักเรียนจะได้ฝึกทักษะการพูดและการนำเสนอความคิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การพูดต่อหน้าชั้นเรียน การจัดการอภิปราย การเล่าเรื่องราว การนำเสนอผลงาน และการแสดงความคิดอย่างเป็นระบบ นักเรียนจะได้เรียนรู้วิธีการใช้ภาษาพูดให้เหมาะสมกับสถานการณ์ การฝึกใช้ภาษาในชีวิตจริงช่วยให้นักเรียนมีความมั่นใจในการพูดและการสื่อสาร
แผนการสอนภาษาไทย ป.6 : การเขียนบทความและการพัฒนาภาษาไทย
ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนจะได้ฝึกการเขียนบทความในรูปแบบต่างๆ เช่น การเขียนรายงาน การเขียนสรุปผลการศึกษา หรือการเขียนบทความเชิงวิจารณ์ การเรียนการสอนในระดับนี้จะมุ่งเน้นที่การพัฒนาทักษะการเขียนที่มีความลึกซึ้ง การใช้คำศัพท์ที่หลากหลาย การจัดระเบียบเนื้อหาให้มีความสมบูรณ์และเป็นระเบียบเรียบร้อย รวมถึงการฝึกการใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อทำให้การเขียนเป็นที่น่าสนใจและเข้าใจง่าย
แผนการสอนวิชาภาษาไทยในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 เป็นกระบวนการที่มีการพัฒนาทักษะต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่พื้นฐานการอ่านเขียน การฟังพูด ไปจนถึงการวิเคราะห์และการนำเสนอความคิดเห็น ทักษะเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างการใช้ภาษาไทยอย่างมีประสิทธิภาพทั้งในด้านการศึกษาและชีวิตประจำวันของนักเรียน
ตัวอย่างไฟล์เอกสาร











เอกสารเป็นไฟล์ PDF
ลิงค์ดาวน์โหลดแผนการสอนวิชาภาษาไทย
1.แผนการสอนวิชาภาษาไทย ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ดาวน์โหลดไฟล์
2.แผนการสอนวิชาภาษาไทย ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ดาวน์โหลดไฟล์
3.แผนการสอนวิชาภาษาไทย ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ดาวน์โหลดไฟล์
4.แผนการสอนวิชาภาษาไทย ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ดาวน์โหลดไฟล์
5.แผนการสอนวิชาภาษาไทย ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ดาวน์โหลดไฟล์
6.แผนการสอนวิชาภาษาไทย ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ดาวน์โหลดไฟล์