สื่อฟรีออนไลน์.com

ขอแนะนำไฟล์ รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self Assessment Report)ระดับการศึกษาปฐมวัยและขั้นพื้นฐาน

การพัฒนาคุณภาพการศึกษาผ่านรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา แนวทางสำคัญสู่ความเป็นเลิศทางการศึกษาไทย

การประเมินตนเองของสถานศึกษาเป็นกลไกสำคัญที่ทุกสถานศึกษาในประเทศไทยต้องดำเนินการเพื่อประกันคุณภาพการศึกษาและพัฒนาการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รายงานการประเมินตนเองหรือที่เรียกว่า Self Assessment Report (SAR) ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้สถานศึกษาสามารถตรวจสอบและประเมินผลการดำเนินงานของตนเองได้อย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะในระดับการศึกษาปฐมวัยและการศึกษาขั้นพื้นฐานที่เป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ

ระบบการประเมินตนเองของสถานศึกษาในประเทศไทยได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องตามนโยบายการปฏิรูปการศึกษาและการกระจายอำนาจการบริหารจัดการศึกษาให้แก่สถานศึกษา การประเมินตนเองนี้ไม่เพียงแต่เป็นการตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างวัฒนธรรมการประเมินและการปรับปรุงคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่องในสถานศึกษา ซึ่งจะส่งผลให้การจัดการศึกษามีคุณภาพและตอบสนองความต้องการของผู้เรียนและชุมชนได้อย่างแท้จริง

การดำเนินการประเมินตนเองของสถานศึกษาต้องอาศัยความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับหลักการ วัตถุประสงค์ และกระบวนการประเมิน รวมถึงการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในสถานศึกษา ตั้งแต่ผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน เพื่อให้การประเมินมีความครอบคลุมและสะท้อนสภาพความเป็นจริงของสถานศึกษาได้อย่างแม่นยำ การเตรียมความพร้อมและการวางแผนการประเมินที่ดีจะนำไปสู่ผลการประเมินที่มีคุณภาพและสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หลักการและความสำคัญของการประเมินตนเองสถานศึกษามีรากฐานมาจากแนวคิดการประกันคุณภาพการศึกษาที่เน้นให้สถานศึกษาเป็นหน่วยหลักในการรับผิดชอบคุณภาพการศึกษาของตนเอง การประเมินตนเองเป็นกระบวนการที่สถานศึกษาใช้ในการตรวจสอบและประเมินผลการดำเนินงานตามพันธกิจและเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยการประเมินนี้จะช่วยให้สถานศึกษาทราบจุดแข็ง จุดอ่อน และโอกาสในการพัฒนา เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง

การประเมินตนเองของสถานศึกษามีความสำคัญในหลายมิติ ประการแรกคือการสร้างจิตสำนึกในการรับผิดชอบต่อคุณภาพการศึกษาของบุคลากรในสถานศึกษา เมื่อทุกคนมีส่วนร่วมในการประเมินจะทำให้เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของและมีความรับผิดชอบร่วมกันในการพัฒนาสถานศึกษา ประการที่สองคือการสร้างฐานข้อมูลที่เชื่อถือได้สำหรับการตัดสินใจในการบริหารจัดการสถานศึกษา ข้อมูลจากการประเมินตนเองจะช่วยให้ผู้บริหารสามารถวางแผนและกำหนดกลยุทธ์ในการพัฒนาสถานศึกษาได้อย่างมีเหตุผลและสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง

ประการที่สามคือการเตรียมความพร้อมสำหรับการประเมินภายนอก เมื่อสถานศึกษาดำเนินการประเมินตนเองอย่างสม่ำเสมอและมีคุณภาพ จะทำให้สถานศึกษามีความพร้อมในการรับการประเมินจากหน่วยงานภายนอก และสามารถแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าและการพัฒนาของสถานศึกษาได้อย่างชัดเจน ประการสุดท้ายคือการส่งเสริมการเรียนรู้และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การประเมินตนเองที่ดีจะนำไปสู่การสะท้อนคิดและการเรียนรู้จากประสบการณ์ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาองค์กรแห่งการเรียนรู้

วัตถุประสงค์ของการประเมินตนเองสถานศึกษามีความหลากหลายและครอบคลุมทุกมิติของการจัดการศึกษา วัตถุประสงค์หลักประการแรกคือเพื่อตรวจสอบและประเมินคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาที่กำหนด การประเมินจะช่วยให้สถานศึกษาทราบว่าการดำเนินงานในด้านต่างๆ ได้มาตรฐานหรือไม่ และมีประสิทธิภาพเพียงใด วัตถุประสงค์ประการที่สองคือเพื่อค้นหาและระบุจุดแข็งและจุดที่ต้องพัฒนาของสถานศึกษา การประเมินที่ดีจะช่วยให้สถานศึกษาเห็นภาพรวมของตนเองได้อย่างชัดเจน ทั้งในส่วนที่ประสบความสำเร็จและส่วนที่ยังต้องปรับปรุง

วัตถุประสงค์ประการที่สามคือเพื่อจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ ข้อมูลจากการประเมินตนเองจะเป็นฐานสำคัญในการกำหนดเป้าหมาย กลยุทธ์ และกิจกรรมการพัฒนาที่สอดคล้องกับความต้องการและบริบทของสถานศึกษา วัตถุประสงค์ประการที่สี่คือเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา การประเมินตนเองที่มีการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนจะช่วยสร้างความเป็นเจ้าของและความรับผิดชอบร่วมกันในการพัฒนาสถานศึกษา

วัตถุประสงค์สุดท้ายคือเพื่อสร้างวัฒนธรรมการประเมินและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในสถานศึกษา การประเมินตนเองที่ดำเนินการอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้บุคลากรในสถานศึกษาเกิดนิสัยในการสะท้อนคิด การประเมิน และการปรับปรุงงานของตนเองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้และการพัฒนาอย่างยั่งยืน

มาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัยและขั้นพื้นฐานที่ใช้ในการประเมินตนเองสถานศึkษาได้รับการกำหนดโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สถานศึกษามีกรอบและแนวทางในการประเมินคุณภาพการศึกษาอย่างเป็นระบบและสอดคล้องกับนโยบายการศึกษาแห่งชาติ มาตรฐานเหล่านี้ครอบคลุมทุกมิติของการจัดการศึกษา ตั้งแต่การบริหารจัดการ กระบวนการเรียนการสอน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน และการพัฒนาบุคลากร

สำหรับระดับการศึกษาปฐมวัย มาตรฐานการศึกษาจะเน้นไปที่การพัฒนาเด็กอย่างองค์รวม ทั้งในด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา โดยคำนึงถึงความแตกต่างและพัฒนาการของเด็กแต่ละคน มาตรฐานจะกำหนดให้สถานศึกษาจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มีกิจกรรมที่หลากหลายและเหมาะสมกับวัยของเด็ก รวมถึงการมีครูที่มีความรู้ความสามารถในการจัดการเรียนการสอนสำหรับเด็กปฐมวัย

สำหรับระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานการศึกษาจะครอบคลุมการพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานจะเน้นให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น มีทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา มีคุณธรรมจริยธรรม และสามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข นอกจากนี้ยังกำหนดให้สถานศึกษามีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ มีครูที่มีคุณภาพ และมีการใช้สื่อเทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอนอย่างเหมาะสม

มาตรฐานการศึกษาเหล่านี้จะถูกแบ่งออกเป็นหลายด้าน ได้แก่ ด้านคุณภาพผู้เรียน ด้านกระบวนการบริหารและการจัดการของผู้บริหารสถานศึกษา ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ด้านระบบการประกันคุณภาพภายในที่มีประสิทธิผล แต่ละด้านจะมีตัวบ่งชี้และเกณฑ์การประเมินที่ชัดเจน เพื่อให้สถานศึกษาสามารถนำไปใช้ในการประเมินตนเองได้อย่างเป็นระบบและได้ผลที่เชื่อถือได้

กระบวนการจัดทำรายงานการประเมินตนเองสถานศึกษาเป็นกระบวนการที่ต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบและมีการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่การเตรียมการและวางแผน การรวบรวมข้อมูลและหลักฐาน การวิเคราะห์และประเมินผล การจัดทำรายงาน และการนำเสนอผลการประเมิน กระบวนการนี้ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เพื่อให้การประเมินมีความน่าเชื่อถือและสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขั้นตอนแรกของการจัดทำรายงานการประเมินตนเองคือการเตรียมการและวางแผน ในขั้นตอนนี้สถานศึกษาต้องแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินตนเองที่ประกอบด้วยตัวแทนจากทุกกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้แก่ ผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา ตัวแทนผู้ปกครอง ตัวแทนชุมชน และในบางกรณีอาจรวมถึงตัวแทนนักเรียน คณะกรรมการนี้จะมีหน้าที่ในการกำหนดแผนการประเมิน กำหนดกรอบเวลา วิธีการรวบรวมข้อมูล และการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละคน

การวางแผนการประเมินต้องคำนึงถึงมาตรฐานการศึกษาและตัวบ่งชี้ที่จะใช้ในการประเมิน รวมถึงการกำหนดแหล่งข้อมูลและวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับแต่ละตัวบ่งชี้ การวางแผนที่ดีจะช่วยให้การประเมินดำเนินไปอย่างราบรื่นและได้ข้อมูลที่ครอบคลุมและเชื่อถือได้ นอกจากนี้ยังต้องมีการเตรียมเครื่องมือการประเมิน เช่น แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบสังเกต และแบบตรวจสอบเอกสาร ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับข้อมูลที่ต้องการเก็บรวบรวม

ขั้นตอนที่สองคือการรวบรวมข้อมูลและหลักฐาน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการประเมินตนเอง เพราะคุณภาพของข้อมูลจะมีผลโดยตรงต่อความน่าเชื่อถือของผลการประเมิน การรวบรวมข้อมูลต้องครอบคลุมทุกตัวบ่งชี้ที่กำหนดไว้ในมาตรฐานการศึกษา และต้องใช้วิธีการที่หลากหลายเพื่อให้ได้ข้อมูลที่สมบูรณ์และสะท้อนความเป็นจริงของสถานศึกษา วิธีการรวบรวมข้อมูลที่นิยมใช้ ได้แก่ การสำรวจโดยใช้แบบสอบถาม การสัมภาษณ์ การสังเกต การศึกษาเอกสาร และการจัดเก็บข้อมูลสถิติต่างๆ

การรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณจะช่วยให้ทราบตัวเลขและสถิติที่เป็นรูปธรรม เช่น ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน อัตราการเข้าเรียน จำนวนครูที่มีคุณวุฒิตามเกณฑ์ งบประมาณที่ใช้ในการพัฒนา เป็นต้น ในขณะที่การรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพจะช่วยให้เข้าใจบริบท ความรู้สึก ทัศนคติ และประสบการณ์ของผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ความพึงพอใจของผู้ปกครองต่อการจัดการศึกษา ความคิดเห็นของครูต่อการบริหารจัดการ บรรยากาศในการเรียนรู้ของนักเรียน เป็นต้น

หลักฐานที่รวบรวมได้ต้องมีความน่าเชื่อถือ ทันสมัย และสามารถตรวจสอบได้ หลักฐานเหล่านี้อาจเป็นเอกสาร รูปภาพ วีดิโอ ผลงานของนักเรียน บันทึกการประชุม หรือข้อมูลจากระบบสารสนเทศต่างๆ การจัดเก็บและจัดระเบียบหลักฐานให้เป็นระบบจะช่วยให้การวิเคราะห์และการเขียนรายงานเป็นไปอย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ

ขั้นตอนที่สามคือการวิเคราะห์และประเมินผล เมื่อได้ข้อมูลและหลักฐานครบถ้วนแล้ว คณะกรรมการประเมินตนเองจะต้องนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์เปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ การวิเคราะห์ต้องทำอย่างเป็นระบบและเป็นธรรม โดยพิจารณาจากหลักฐานที่มีอยู่เป็นหลัก ไม่ใช้ความรู้สึกหรือการคาดเดาเป็นเกณฑ์ในการตัดสิน

การวิเคราะห์ข้อมูลควรใช้เทคนิคทางสถิติที่เหมาะสม สำหรับข้อมูลเชิงปริมาณ และใช้การวิเคราะห์เนื้อหาสำหรับข้อมูลเชิงคุณภาพ การเปรียบเทียบข้อมูลจากแหล่งต่างๆ จะช่วยให้เห็นภาพที่ชัดเจนและครอบคลุมมากขึ้น นอกจากนี้การเปรียบเทียบข้อมูลย้อนหลังจะช่วยให้เห็นแนวโน้มการพัฒนาของสถานศึกษาว่าได้ปรับปรุงหรือมีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางใด

ผลการวิเคราะห์จะนำไปสู่การให้คะแนนหรือการจัดระดับตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด โดยทั่วไปจะมีการจำแนกระดับคุณภาพออกเป็นหลายระดับ เช่น ต้องปรับปรุง ปานกลาง ดี ดีมาก และยอดเยี่ยม การให้คะแนนหรือจัดระดับต้องมีเหตุผลที่ชัดเจนและสามารถอธิบายได้ด้วยหลักฐานที่มีอยู่ ความโปร่งใสในการประเมินจะช่วยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าใจและยอมรับผลการประเมิน

ขั้นตอนที่สี่คือการจัดทำรายงานการประเมินตนเอง รายงานนี้เป็นผลผลิตสำคัญของกระบวนการประเมินตนเองที่จะสื่อสารผลการประเมินให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ รายงานต้องมีความชัดเจน ครอบคลุม และสะท้อนความเป็นจริงของสถานศึกษา โครงสร้างของรายงานโดยทั่วไปจะประกอบด้วย บทสรุปผู้บริหาร ข้อมูลพื้นฐานของสถานศึกษา วิธีการดำเนินการประเมิน ผลการประเมินตามมาตรฐานและตัวบ่งชี้ การวิเคราะห์จุดแข็งและจุดที่ต้องพัฒนา แผนการพัฒนาคุณภาพการศึกษา และภาคผนวกที่มีหลักฐานสนับสนุน

การพัฒนาคุณภาพการศึกษาผ่านรายงานการประเมินตนเอง : ประสบการณ์จากสถานศึกษา

ความสำคัญของการประเมินตนเองในสถานศึกษาระดับการศึกษาปฐมวัย

การประเมินตนเอง (Self Assessment) เป็นกระบวนการที่สำคัญสำหรับสถานศึกษาระดับการศึกษาปฐมวัย เนื่องจากช่วยให้สถานศึกษาได้ประเมินคุณภาพการเรียนการสอนและการบริหารจัดการ โดยการประเมินตนเองนี้สามารถช่วยให้สถานศึกษาเข้าใจถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเอง และสามารถพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น

การประเมินตนเองของสถานศึกษาระดับการศึกษาปฐมวัยควรมีการจัดทำรายงานที่ชัดเจน โดยมีการวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่ง เช่น ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็ก การสำรวจความคิดเห็นของผู้ปกครอง และการประเมินผลการเรียนรู้ โดยข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้สถานศึกษาได้รู้แนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการศึกษา

นอกจากนี้ การประเมินตนเองยังช่วยส่งเสริมความรับผิดชอบและการมีส่วนร่วมของครู ผู้ปกครอง และชุมชนในการพัฒนาการศึกษาของเด็กในช่วงวัยที่สำคัญนี้ สุดท้ายนี้ การประเมินตนเองจะทำให้สถานศึกษาสามารถสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เหมาะสมและมีคุณภาพสำหรับเด็กปฐมวัย

ขั้นตอนการจัดทำรายงานการประเมินตนเองในสถานศึกษาระดับขั้นพื้นฐาน

การจัดทำรายงานการประเมินตนเองในสถานศึกษาระดับขั้นพื้นฐานเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ขั้นตอนหลักๆ ในการจัดทำรายงานมีดังนี้:

  1. การวางแผนการประเมิน : เริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าหมายและวางแผนการประเมิน เพื่อให้ชัดเจนว่าต้องการประเมินในด้านใดบ้าง เช่น ผลสัมฤทธิ์การเรียนของนักเรียน คุณภาพการสอนของครู หรือสภาพแวดล้อมในการเรียนการสอน
  2. การเก็บข้อมูล : ดำเนินการเก็บข้อมูลจากหลายแหล่ง เช่น การสอบผลสัมฤทธิ์ การสำรวจความคิดเห็นของนักเรียนและผู้ปกครอง รวมถึงการสังเกตการสอนในห้องเรียน
  3. การวิเคราะห์ข้อมูล : เมื่อได้ข้อมูลแล้ว ต้องมีการวิเคราะห์และประเมินผลเพื่อหาจุดแข็งและจุดอ่อนของสถานศึกษา โดยอาจใช้เทคนิคทางสถิติหรือการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ
  4. การเขียนรายงาน : สรุปผลการประเมินในรูปแบบรายงานที่ชัดเจน โดยควรมีการเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงพัฒนาให้กับสถานศึกษา
  5. การนำเสนอรายงาน : เสนอรายงานต่อผู้บริหารและครู รวมถึงการเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองและชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการอภิปรายผลการประเมิน

การจัดทำรายงานการประเมินตนเองนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา แต่ยังสร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครองและชุมชนได้อีกด้วย

ผลลัพธ์จากการประเมินตนเองในสถานศึกษา

การประเมินตนเองในสถานศึกษาระดับการศึกษาปฐมวัยและขั้นพื้นฐานมีผลลัพธ์ที่สำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยผลลัพธ์ที่ได้จากการประเมินตนเองสามารถแบ่งออกเป็นหลายด้าน เช่น

  1. การปรับปรุงคุณภาพการศึกษา : สถานศึกษาที่มีการประเมินตนเองอย่างสม่ำเสมอมักจะสามารถปรับปรุงคุณภาพการเรียนการสอนได้ดีกว่า เนื่องจากมีข้อมูลและข้อเสนอแนะแนวทางที่ชัดเจนในการพัฒนา
  2. การพัฒนาศักยภาพของครู : การประเมินตนเองช่วยให้ครูได้รับการพัฒนาทักษะและความรู้ที่จำเป็น ผ่านการฝึกอบรมและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากเพื่อนร่วมงาน
  3. การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในชุมชน : การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและชุมชนในการประเมินตนเองทำให้เกิดความเชื่อมั่นและความร่วมมือในการพัฒนาการศึกษาของเด็ก ซึ่งส่งผลดีต่อการสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เหมาะสม
  4. การเสริมสร้างวัฒนธรรมการประเมินในสถานศึกษา : การประเมินตนเองเป็นการสร้างวัฒนธรรมของการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้สถานศึกษามีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวได้ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง

การประเมินตนเองจึงถือเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตและการเรียนรู้ของนักเรียนในระดับการศึกษาปฐมวัยและขั้นพื้นฐานอย่างมีประสิทธิภาพ

เครดิต : โรงเรียนบ้านม่วงนาสีดา

ตัวอย่างไฟล์เอกสาร

เป็นไฟล์ PDF

ดาวน์โหลดไฟล์เอกสารจากลิงก์ด้านล่างนี้ นะครับ

ดาวน์โหลดไฟล์เอกสาร คลิกที่นี่

ขอบคุณแหล่งที่มา : โรงเรียนบ้านม่วงนาสีดา

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ห้ามพลาด