สื่อฟรีออนไลน์.com
ขอแนะนำไฟล์ รายงานการปฏิบัติงานและผลการประเมินตนเอง (SELF ASSESSMENT REPORT : SAR)
เคล็ดลับการเขียนรายงานการปฏิบัติงานและผลการประเมินตนเองที่ได้ผลจริง แนวทางสู่ความสำเร็จในการพัฒนาตนเองอย่างยั่งยืน
การเขียนรายงานการปฏิบัติงานและผลการประเมินตนเองหรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า SAR (Self Assessment Report) เป็นกระบวนการสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถทบทวนผลงานของตนเองได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ในยุคที่การพัฒนาตนเองและการเรียนรู้ตลอดชีวิตกลายเป็นสิ่งจำเป็น การมีทักษะในการประเมินตนเองจึงเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าทั้งในด้านการทำงานและชีวิตส่วนตัว
การประเมินตนเองไม่ใช่เพียงแค่การมองย้อนกลับไปดูสิ่งที่เราได้ทำมา แต่เป็นการวิเคราะห์อย่างลึกซึ้งถึงจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และข้อจำกัดของตนเอง เพื่อนำไปสู่การวางแผนการพัฒนาที่มีเป้าหมายชัดเจนและสามารถดำเนินการได้จริง ในบทความนี้เราจะพาคุณไปเรียนรู้เทคนิคและแนวทางการเขียน SAR ที่มีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การเตรียมตัว การวิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงการนำเสนอผลลัพธ์ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม
ความหมายและความสำคัญของรายงานการประเมินตนเองในยุคดิจิทัล
รายงานการปฏิบัติงานและผลการประเมินตนเองเป็นเอกสารที่บันทึกและวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของบุคคลในช่วงเวลาหนึ่ง โดยมุ่งเน้นไปที่การสะท้อนผลงาน การระบุความสำเร็จและความท้าทาย รวมถึงการวางแผนการพัฒนาในอนาคต ในบริบทของสังคมไทยที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุค Thailand 4.0 การมีทักษะในการประเมินตนเองกลายเป็นสมรรถนะหลักที่จำเป็นสำหรับการทำงานในศตวรรษที่ 21
ความสำคัญของ SAR สะท้อนให้เห็นในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความตระหนักรู้ในตนเอง (Self-awareness) ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาตนเองที่ยั่งยืน การประเมินตนเองช่วยให้เราเข้าใจจุดแข็งและจุดที่ต้องพัฒนาของตนเองได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่การรับรู้ผิวเผิน แต่เป็นการทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและความสำเร็จในชีวิต
นอกจากนี้ SAR ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการสะท้อนผล (Reflective Thinking) ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งในยุคที่ข้อมูลและเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การสามารถมองย้อนกลับไปวิเคราะห์ประสบการณ์ของตนเองและนำบทเรียนที่ได้มาปรับใช้ในสถานการณ์ใหม่ เป็นสิ่งที่ทำให้เราสามารถปรับตัวและเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่อง
ในสภาพแวดล้อมการทำงานยุคใหม่ที่เน้นความรับผิดชอบต่อผลงานและการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง SAR กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการสื่อสารกับผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงาน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าและความมุ่งมั่นในการพัฒนาตนเอง รายงานที่เขียนได้ดีจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและเปิดโอกาสในการได้รับการสนับสนุนและคำแนะนำที่เป็นประโยชน์จากผู้อื่น
องค์ประกอบหลักของรายงานการประเมินตนเองที่มีประสิทธิภาพ
รายงานการประเมินตนเองที่ดีจะต้องประกอบด้วยองค์ประกอบหลักที่ครบถ้วนและเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ เริ่มต้นด้วยการสรุปผลการปฏิบัติงานในภาพรวม ซึ่งควรนำเสนอข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพที่สะท้อนผลงานที่ได้ทำไปในช่วงเวลาที่กำหนด การนำเสนอข้อมูลควรมีความชัดเจน เป็นรูปธรรม และสามารถวัดผลได้ เช่น การระบุจำนวนโครงการที่ดำเนินการเสร็จสิ้น ระดับความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมาย หรือผลกระทบเชิงบวกที่เกิดขึ้นจากการทำงาน
การวิเคราะห์จุดแข็งและจุดที่ต้องพัฒนาเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เราเข้าใจตนเองมากขึ้น การระบุจุดแข็งไม่ควรเป็นการยกย่องตนเองอย่างผิวเผิน แต่ควรเป็นการวิเคราะห์ที่มีหลักฐานสนับสนุนและสามารถอธิบายได้ว่าจุดแข็งเหล่านี้ส่งผลต่อความสำเร็จในการทำงานอย่างไร ในทำนองเดียวกัน การระบุจุดที่ต้องพัฒนาควรมีความจริงใจและสร้างสรรค์ มุ่งเน้นไปที่การหาแนวทางการปรับปรุงมากกว่าการเอาผิดตัวเอง
การวิเคราะห์ปัจจัยแวดล้อมที่ส่งผลต่อการทำงานเป็นมิติที่มักถูกมองข้าม แต่มีความสำคัญมาก ปัจจัยเหล่านี้อาจรวมถึงการสนับสนุนจากองค์กร ความพร้อมของเครื่องมือและทรัพยากร สภาพแวดล้อมการทำงาน หรือแม้กระทั่งปัจจัยภายนอกที่อยู่นอกเหนือการควบคุม การเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถวางแผนการทำงานในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ส่วนสุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือการกำหนดเป้าหมายและแผนการพัฒนาในอนาคต เป้าหมายที่ดีควรมีความเฉพาะเจาะจง วัดผลได้ สามารถบรรลุได้ มีความเกี่ยวข้องกับงานและมีกรอบเวลาที่ชัดเจน นอกจากนี้แผนการพัฒนาควรระบุกิจกรรมหรือขั้นตอนที่จะดำเนินการ ทรัพยากรที่ต้องใช้ และวิธีการวัดผลความก้าวหน้า
ขั้นตอนการเตรียมตัวและรวบรวมข้อมูลสำหรับการเขียน SAR
การเตรียมตัวที่ดีเป็นกุญแจสำคัญของการเขียน SAR ที่มีคุณภาพ ขั้นตอนแรกคือการกำหนดช่วงเวลาที่จะทำการประเมิน ซึ่งอาจเป็นรายเดือน รายไตรมาส หรือรายปี ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และความต้องการขององค์กรหรือตัวเราเอง การมีกรอบเวลาที่ชัดเจนจะช่วยให้การรวบรวมข้อมูลมีความเป็นระบบและครอบคลุมประเด็นสำคัญ
การสร้างระบบบันทึกผลงานอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่จะช่วยให้การเขียน SAR เป็นไปอย่างราบรื่น แทนที่จะต้องมานั่งระลึกถึงผลงานที่ผ่านมาตอนใกล้ครบกำหนดส่งรายงาน การมีบันทึกประจำวันหรือประจำสัปดาห์จะช่วยให้เราจับประเด็นสำคัญและรายละเอียดที่อาจลืมได้ ระบบบันทึกสามารถเป็นได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่การจดบันทึกด้วยกระดาษและปากกา ไปจนถึงการใช้แอปพลิเคชันดิจิทัลที่ช่วยจัดเก็บและค้นหาข้อมูลได้สะดวก
การรวบรวมหลักฐานและเอกสารสนับสนุนเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก หลักฐานเหล่านี้อาจรวมถึงผลงานที่เสร็จสิ้น รายงานผลการดำเนินงาน ข้อเสนอแนะหรือความคิดเห็นจากเพื่อนร่วมงานหรือผู้บังคับบัญชา ใบประกาศนียบัตรหรือหลักฐานการเข้ารับการอบรม และเอกสารอื่นๆ ที่แสดงถึงความก้าวหน้าและผลสำเร็จในการทำงาน หลักฐานเหล่านี้จะช่วยให้รายงานมีความน่าเชื่อถือและสามารถอ้างอิงได้
การทบทวนเป้าหมายและมาตรฐานการทำงานที่ได้กำหนดไว้ตั้งแต่ต้นงบประมาณหรือช่วงเวลาที่ประเมิน เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้สามารถเปรียบเทียบผลการดำเนินงานจริงกับเป้าหมายที่วางไว้ การทบทวนนี้จะช่วยให้เราสามารถประเมินระดับความสำเร็จได้อย่างเป็นรูปธรรม และสามารถอธิบายปัจจัยที่ส่งผลให้บรรลุหรือไม่บรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้
การเก็บรวบรวมข้อเสนอแนะจากผู้อื่นเป็นมิติที่จะเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับการประเมินตนเอง การขอความคิดเห็นจากเพื่อนร่วมงาน ผู้บังคับบัญชา หรือแม้กระทั่งลูกค้าและผู้รับบริการ จะช่วยให้เราได้เห็นมุมมองที่หลากหลายและอาจพบจุดอ่อนหรือจุดแข็งที่เราอาจมองไม่เห็นด้วยตนเอง
เทคนิคการวิเคราะห์และการสะท้อนผลที่มีประสิทธิภาพ
การวิเคราะห์ผลการปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบต้องอาศัยเทคนิคและเครื่องมือที่เหมาะสม หนึ่งในเทคนิคที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพสูงคือการวิเคราะห์ SWOT ซึ่งเป็นการมองจุดแข็ง (Strengths) จุดอ่อน (Weaknesses) โอกาส (Opportunities) และอุปสรรค (Threats) ของตนเองในการทำงาน การใช้กรอบ SWOT จะช่วยให้การวิเคราะห์มีความครอบคลุมและสมดุล ไม่เพียงแต่มองในแง่บวกหรือแง่ลบเพียงด้านเดียว
การใช้หลักการ Before-After-Bridge (BAB) เป็นอีกเทคนิคที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์และนำเสนอผลการทำงาน โดยจะเริ่มจากการอธิบายสถานการณ์เริ่มต้น (Before) จากนั้นอธิบายสถานการณ์ปัจจุบันหรือผลลัพธ์ที่ได้ (After) และสุดท้ายอธิบายกระบวนการหรือขั้นตอนที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง (Bridge) เทคนิคนี้จะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเส้นทางการพัฒนาและความพยายามที่เราใส่ลงไปในการทำงาน
การใช้คำถามแนวใหม่ (Powerful Questions) ในการสะท้อนผลเป็นเทคนิคที่จะช่วยให้การวิเคราะห์มีความลึกซึ้งมากขึ้น คำถามเช่น “อะไรคือสิ่งที่ทำให้ฉันภูมิใจที่สุดในช่วงเวลานี้” “หากได้กลับไปเริ่มต้นใหม่ ฉันจะทำอะไรแตกต่างจากเดิม” “บทเรียนสำคัญที่สุดที่ฉันได้เรียนรู้คืออะไร” คำถามเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นให้เราคิดอย่างลึกซึ้งและค้นพบข้อมูลที่มีค่า
การใช้เทคนิค Root Cause Analysis ในการวิเคราะห์ปัญหาหรือความท้าทายที่เผชิญในการทำงาน จะช่วยให้เราสามารถระบุสาเหตุแท้จริงของปัญหาแทนที่จะติดอยู่กับอาการที่ปรากฏออกมา การถามคำถาม “ทำไม” ซ้ำกันหลายครั้งจะช่วยให้เราขุดลึกลงไปหาสาเหตุรากเหง้าของปัญหา และสามารถวางแผนการแก้ไขที่ตรงจุดมากขึ้น
การประยุกต์ใช้หลักการ Appreciative Inquiry ในการมองหาจุดแข็งและสิ่งที่ทำได้ดี แทนที่จะเน้นไปที่ปัญหาและข้อผิดพลาด จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและพลังงานเชิงบวกในการพัฒนาตนเองต่อไป การมองหาและเฉลิมฉลองความสำเร็จแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ จะช่วยสร้างความมั่นใจและแรงจูงใจในการทำงาน
การเขียนรายงานที่สื่อสารได้ชัดเจนและน่าสนใจ
การเขียนรายงานการประเมินตนเองที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยทักษะการสื่อสารที่ดี เริ่มต้นจากการสร้างโครงสร้างที่ชัดเจนและเป็นระบบ การจัดลำดับเนื้อหาควรเป็นไปตามลำดับที่สมเหตุสมผล ตั้งแต่การแนะนำตัวเองและบทบาทหน้าที่ การสรุปผลการปฏิบัติงานโดยรวม การวิเคราะห์จุดแข็งและจุดที่ต้องพัฒนา ไปจนถึงการกำหนดเป้าหมายและแผนการพัฒนาในอนาคต
การใช้ภาษาที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญ ภาษาควรมีความชัดเจน กะทัดรัด และเป็นทางการในระดับที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการใช้คำศัพท์ที่ซับซ้อนเกินไปหรือสำนวนที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด การใช้ประโยคที่มีความยาวเหมาะสมและหลีกเลี่ยงการใช้ประโยคที่ยาวจนเกินไปจะช่วยให้การอ่านเป็นไปอย่างราบรื่น
การนำเสนอข้อมูลด้วยข้อเท็จจริงและตัวเลขที่เป็นรูปธรรมจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับรายงาน แทนที่จะเขียนว่า “ฉันทำงานได้ดีมาก” ควรเขียนว่า “ฉันสามารถดำเนินโครงการเสร็จสิ้นตรงตามกำหนดเวลา 95% และได้รับการประเมินคุณภาพงานในระดับดีเยี่ยมจากผู้บังคับบัญชา” การมีข้อมูลสนับสนุนจะทำให้รายงานมีน้ำหนักและสามารถอ้างอิงได้
การใช้เทคนิคการเล่าเรื่อง (Storytelling) ในการนำเสนอประสบการณ์และบทเรียนที่ได้เรียนรู้จะช่วยให้รายงานมีชีวิตชีวาและน่าสนใจมากขึ้น การเล่าเรื่องที่ดีควรมีองค์ประกอบครบถ้วน ได้แก่ สถานการณ์หรือบริบท (Situation) งานหรือภารกิจที่ได้รับมอบหมาย (Task) การกระทำหรือขั้นตอนที่ดำเนินการ (Action) และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น (Result) ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อเทคนิค STAR
การใช้ความจริงใจและความซื่อสัตย์ในการเขียนเป็นสิ่งที่จะสร้างความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่น การยอมรับความผิดพลาดหรือความท้าทายที่เผชิญ พร้อมทั้งอธิบายการเรียนรู้และการปรับปรุงที่ได้ทำ จะแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้ใหญ่ทางความคิดและความพร้อมในการพัฒนาตนเอง
การใช้เครื่องมือและแพลตฟอร์มดิจิทัลในการสร้าง SAR
ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน การใช้เครื่องมือและแพลตฟอร์มเทคโนโลยีในการสร้างรายงานการประเมินตนเองได้กลายเป็นสิ่งที่จำเป็นและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอย่างมาก เครื่องมือการจัดทำเอกสารออนไลน์เช่น Google Docs หรือ Microsoft Office 365 ช่วยให้การเขียนและแก้ไขรายงานเป็นไปอย่างสะดวก พร้อมทั้งมีฟีเจอร์การทำงานร่วมกันและการบันทึกข้อมูลอัตโนมัติที่ป้องกันการสูญหายของข้อมูล
ผลการประเมินตนเอง (SAR) ของข้าราชการครู การพัฒนาอาชีพและการยกระดับคุณภาพการศึกษา
รายงานการปฏิบัติงานและผลการประเมินตนเอง (Self Assessment Report: SAR) สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สามารถจัดทำได้ตามหัวข้อที่สำคัญ ซึ่งเน้นการสรุปความสามารถและผลการดำเนินงานในแต่ละด้านอย่างชัดเจนเพื่อให้เกิดการประเมินตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ ด้านล่างนี้คือตัวอย่างรายงาน SAR ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้
การประเมินการสอนและการพัฒนาการเรียนการสอน
บทนำ
การพัฒนาการเรียนการสอนเป็นหัวใจหลักของการเป็นข้าราชการครู โดยในปีนี้ได้มุ่งเน้นการปรับปรุงวิธีการสอนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ของนักเรียน และเพื่อให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้มากขึ้น
การดำเนินงาน
- ปรับเปลี่ยนวิธีการสอน โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง เช่น การจัดกิจกรรมกลุ่ม การเรียนรู้แบบโครงการ และการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการเรียนการสอน
- จัดการเรียนการสอนที่เน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลาง ผ่านการกระตุ้นให้เกิดการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา
- การวัดและประเมินผล ใช้การประเมินตามสภาพจริง โดยมีการจัดทำแบบทดสอบก่อนและหลังการเรียน เพื่อเปรียบเทียบความก้าวหน้า
ผลการประเมินตนเอง
จากการวิเคราะห์ พบว่านักเรียนมีความสนใจในการเรียนรู้เพิ่มขึ้น และสามารถทำคะแนนได้ดีขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้ ในการพัฒนาต่อไปจะเน้นการสร้างสื่อการสอนที่หลากหลายและการพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยี
การประเมินด้านการจัดการห้องเรียนและการส่งเสริมวินัยนักเรียน
บทนำ
การจัดการห้องเรียนที่มีประสิทธิภาพช่วยให้นักเรียนมีสมาธิในการเรียนและส่งเสริมวินัยที่ดี เพื่อให้เกิดบรรยากาศที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้และส่งเสริมพฤติกรรมที่เหมาะสมของนักเรียน
การดำเนินงาน
- การจัดห้องเรียนให้มีระเบียบและเหมาะสม โดยการจัดโต๊ะเรียนให้นักเรียนสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างสะดวกและสามารถรับฟังการสอนได้ชัดเจน
- กำหนดกฎระเบียบและข้อตกลงในห้องเรียน ร่วมกับนักเรียน โดยมุ่งเน้นให้เกิดความเข้าใจและการปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
- ส่งเสริมวินัยเชิงบวก ผ่านการให้คำชม การให้รางวัล และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูและนักเรียน
ผลการประเมินตนเอง
พบว่านักเรียนสามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบได้ดีขึ้น มีการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมและแสดงออกถึงการมีวินัยในการเรียนรู้ ในอนาคตจะพัฒนาแนวทางใหม่ๆ ที่สามารถเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียนเพื่อพัฒนาการจัดการห้องเรียนที่ดียิ่งขึ้น
การประเมินด้านการพัฒนาตนเองและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของสถานศึกษา
บทนำ
การพัฒนาตนเองเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ข้าราชการครูมีความพร้อมในการพัฒนาการเรียนการสอน รวมถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของสถานศึกษา เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนและเสริมสร้างความรู้ที่ทันสมัยให้แก่ตนเอง
การดำเนินงาน
- การพัฒนาความรู้และทักษะ โดยการเข้าร่วมอบรม สัมมนา และประชุมวิชาการ เพื่อพัฒนาทักษะในด้านต่างๆ
- การมีส่วนร่วมในกิจกรรมของสถานศึกษา เช่น การร่วมจัดงานวันสำคัญ การเป็นคณะกรรมการในโครงการต่างๆ รวมถึงการช่วยเหลือนักเรียนที่ต้องการคำปรึกษา
- สร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกับบุคลากรอื่น โดยการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้เพื่อให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ผลการประเมินตนเอง
จากการประเมินพบว่าตนเองสามารถพัฒนาความรู้และทักษะในสายงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการทำงาน ในอนาคตจะพัฒนาการใช้ทักษะการจัดการเพื่อให้สามารถดำเนินงานได้ดีขึ้น
สรุปภาพรวมการประเมินตนเอง
จากการประเมินตนเอง แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการพัฒนาการเรียนการสอน การจัดการห้องเรียน และการพัฒนาตนเอง รวมถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของสถานศึกษา ซึ่งช่วยส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาทั้งในด้านความสามารถของครูและคุณภาพการเรียนรู้ของนักเรียน
เป็นไฟล์ Word แก้ไขได้
ขอบคุณแหล่งที่มา : ครูเชียงรายดอทคอม
ตัวอย่างไฟล์เอกสาร



ขอแนะนำไฟล์ รายงานการปฏิบัติงานและผลการประเมินตนเอง (SELF ASSESSMENT REPORT : SAR)
เป็นไฟล์ Word แก้ไขได้
ดาวน์โหลดไฟล์เอกสารจากลิงก์ด้านล่างนี้ นะครับ
ดาวน์โหลดไฟล์เอกสาร คลิกที่นี่