สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ทุกท่านนะครับ วันนี้พบกับ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ คู่มือพ่อแม่ พัฒนาลูกน้อยด้วยหนังสือ ลูกรักกับหนังสือเล่มแรก ซึ่งเพื่อนๆ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดนำไปศึกษาและนำไปเป็นแนวทาง ในการใช้คู่มือพ่อแม่ พัฒนาลูกน้อยด้วยหนังสือ ลูกรักกับหนังสือเล่มแรก เพื่อส่งเสริมการอ่านของลูก ได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ คู่มือพ่อแม่ พัฒนาลูกน้อยด้วยหนังสือ ลูกรักกับหนังสือเล่มแรก ตามรายละเอียดดังนี้ครับ

ดาวน์โหลด คู่มือพ่อแม่ พัฒนาลูกน้อยด้วยหนังสือ ลูกรักกับหนังสือเล่มแรก โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)


รายละเอียด คู่มือพ่อแม่ พัฒนาลูกน้อยด้วยหนังสือ ลูกรักกับหนังสือเล่มแรก

ความรู้ทางการแพทย์และงานวิจัยหลายชิ้นสอดคล้องต้องกันว่าช่วงวัยที่สำคัญของมนุษย์ ทั้งการเติบโตทางสมอง จิต จิตวิญญาณ และความดีงามทั้งมวลล้วนบ่มเพาะได้ตั ้งแต่ปฐมวัย

ภาวการณ์อุ้มท้องและการลืมตาเพื่อต้อนรับชีวิตใหม่ หากเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของแม่ ก็คือความสุขของลูกน้อยด้วย

การมอบของขวัญที่งดงามที่สุดให้ แก่ชีวิตที่กำลังเติบโตนอกจากความอิ่มสุข ความรัก ความผูกพัน ที่ถ่ายทอดถึงกัน หนังสือเป็นความมหัศจรรย์ที่ลึกซึ ้งและควรค่ายิ่งแก่การส่งมอบ

พ่อแม่จำนวนมากอาจจะไม่ทันคิด หรือตระหนักว่า ทารกทุกคนเริ่มย่างเข้าสู่เส้นทางแห่ง ‘การอ่าน’ นับตั้งแต่วันที่พวกเขาลืมตาขึ้นมาดูโลก พ่อแม่เคยสังเกตไหมว่า ลูกน้อยของเรารู้จักหยุดนิ่งเพื่อฟังเสียงเมื่อเราเข้ามาใกล้ หรือเริ่มส่งเสียงและหันหาสิ่งเคลื่อนไหว ตลอดเวลาที่เราพูดคุย ส่งเสียงอือ ๆ อา ๆ ชี้ชวนให้ดูนั่น ดูนี่ หรือการที่พ่อแม่และผู้ใหญ่ตอบสนองต่อเสียงร้องของทารกน้อย สิ่งเหล่านี้คือก้าวแรกที่จะนำพาเขา เข้าสู่หนทางการเรียนรู้ภาษาซึ่งจะพัฒนาไปสู่การอ่านและการเขียนต่อไป

แม้ว่าทารกตัวน้อย ๆ จะยังไม่สามารถเข้าใจเนื้อหาสาระจากหนังสือที่พ่อแม่อ่านให้ฟังก็ตาม ไม่ต้องกังวลเลย เพราะนั่นไม่ได้หมายความว่าลูกน้อยของเราจะไม่สามารถเรียนรู้อะไรเลย การที่เด็กทารกได้ยินได้ฟังเสียง เขาจะเริ่มให้ความสนใจ เริ่มหัดแยกแยะระดับเสียงที่แตกต่างกัน ทารกตัวน้อย ๆ ชื่นชอบที่จะได้ยินเสียงของ
พ่อแม่ขณะอ่านหนังสือ ขณะร้องเพลง หรือโอบอุ้ม ในช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน พ่อแม่ควรถือโอกาสส่งเสียง พูดคุยกับเขาเสมอ ๆ ทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ ตั ้งแต่ลูกยังแบเบาะ ทำให้
เป็นกิจวัตรขณะที่ง่วนอยู่กับลูก เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้การฟังไปทุกขณะ

เมื่อทารกน้อยเริ่มเติบโตสู่วัยเด็กเล็ก ‘การอ่านหนังสือด้วยกัน’จึงเริ่มต้น ไม่ใช่แค่การอ่านเพื่อให้ได้ยินแต่เสียงเหมือนเมื่อครั้งลูกยังเป็นทารกอีกต่อไปแล้ว แต่กลายมาเป็นการอ่านหนังสือภาพสำหรับเด็กที่มีรูปภาพเชิญชวนให้ลูกได้มองดู และพ่อแม่ได้ใช้มือประกอบการอ่านไปด้วย โดยพ่อแม่ชี้ให้ลูกดูตามภาพไปทีละภาพทีละหน้า ชี้ชวนให้ลูกมองดูสีของรูปภาพวัตถุสิ่งของที่ปรากฏในหนังสือ หรือรูปภาพต่าง ๆ นานาในหน้าหนังสือ และอ่านออกเสียงไปด้วย บางครั้งอาจจะชี้ที่ตัวอักษร เมื่อพ่อแม่ชี้นิ้วไล่ไปตามตัวอักษร ลูกก็จะไล่สายตาตามนิ้วมือพ่อแม่ บางครั้งอาจจะชวนให้ลูกเป็นคนเปิดพลิกหน้าหนังสือเองบ้าง ในกระบวนการนี้ลูกน้อยก็จะเริ่มเรียนรู้ว่า การอ่านตัวหนังสือนั้นจะต้องอ่านจากซ้ายไปขวา และการเปิดพลิกหน้าหนังสือต้องพลิกจากหน้าขวาไปทางซ้าย หลายครั้งที่พ่อแม่รู้สึกกังวลใจว่า ลูกจะไขว่คว้ายื้อแย่งหนังสือมาฉีก ซึ่งความจริง เด็ก ๆ มิได้มุ่งทำลายหนังสือ แต่พวกเขากำลังเรียนรู้ที่จะเปิดหนังสือต่างหาก และสิ่งเหล่านี้ก็คือสัญญาณที่ดีของการเริ่มต้นเป็นนักอ่านแต่วัยเยาว์

วิธีปลูกฝังความรักการอ่านให้ลูกน้อยตั้งแต่วัยเยาว์ด้วยหนังสือเล่มแรกที่มีความหมาย

การอ่านหนังสือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาสมองของเด็กเล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปีแรกของชีวิตที่สมองของเด็กกำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว การเลือกหนังสือเล่มแรกสำหรับลูกน้อยจึงเป็นเรื่องที่พ่อแม่ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะหนังสือเล่มแรกนั้นจะเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับการอ่าน และจะมีผลต่อพัฒนาการทางด้านภาษา การคิด และจินตนาการของเด็กในระยะยาว

สำหรับครอบครัวไทย การเลือกหนังสือที่เหมาะสมสำหรับลูกน้อยอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายเนื่องจากมีตัวเลือกมากมายในท้องตลาด ทั้งหนังสือภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รวมถึงหนังสือที่มีรูปแบบและเนื้อหาที่แตกต่างกัน การที่พ่อแม่มีความรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกหนังสือที่เหมาะสมกับวัยของลูก รวมถึงวิธีการอ่านหนังสือให้ลูกฟังอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้การปลูกฝังความรักในการอ่านเป็นไปอย่างราบรื่นและมีผลดีต่อพัฒนาการของลูกในทุกด้าน

ความสำคัญของการอ่านหนังสือในปีแรกของชีวิต

การพัฒนาสมองของทารกในปีแรกของชีวิตเป็นช่วงเวลาที่วิกฤติและสำคัญที่สุด งานวิจัยทางประสาทวิทยาชี้ให้เห็นว่าในช่วงอายุ 0-2 ปี สมองของเด็กจะสร้างการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมองหรือไซแนปส์ได้มากกว่า 1 ล้านการเชื่อมต่อต่อวินาที ซึ่งการเชื่อมต่อเหล่านี้จะเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเรียนรู้ การคิด และการพัฒนาทักษะต่างๆ ในอนาคต

การอ่านหนังสือให้เด็กฟังตั้งแต่เด็กยังเป็นทารกจะช่วยกระตุ้นการพัฒนาสมองในหลายด้าน ได้แก่ การพัฒนาทักษะทางภาษา การรู้จักเสียงพยัญชนะและสระ การเข้าใจจังหวะของการพูด และการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างของภาษา นอกจากนี้การอ่านหนังสือยังช่วยพัฒนาทักษะการฟัง ความสามารถในการจดจ่อ และการสร้างจินตนาการ ซึ่งล้วนเป็นทักษะพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้น

การศึกษาวิจัยจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วโลกพบว่าเด็กที่ได้ฟังการอ่านหนังสือตั้งแต่เล็กจะมีการพัฒนาทางด้านภาษาที่ดีกว่าเด็กที่ไม่ได้รับการกระตุ้นด้วยการอ่านหนังสือ โดยเด็กเหล่านี้จะมีคำศัพท์ที่มากกว่า สามารถเข้าใจและใช้ภาษาได้ดีกว่า และมีความพร้อมในการเรียนรู้การอ่านเขียนเมื่อเข้าสู่วัยเรียน นอกจากนี้การอ่านหนังสือยังช่วยสร้างความผูกพันระหว่างพ่อแม่กับลูก เพราะเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันและสร้างความอบอุ่นให้กับครอบครัว

สำหรับเด็กไทยโดยเฉพาะ การอ่านหนังสือภาษาไทยตั้งแต่เล็กจะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้และคุ้นเคยกับเสียงพยัญชนะและสระของภาษาไทยที่มีความซับซ้อน รวมถึงการเข้าใจวัฒนธรรมและค่านิยมไทยผ่านเนื้อหาของหนังสือ ซึ่งจะช่วยให้เด็กมีรากฐานที่แข็งแกร่งในภาษาแม่และมีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย

การเลือกหนังสือที่เหมาะสมตามช่วงวัย

การเลือกหนังสือสำหรับลูกน้อยต้องคำนึงถึงพัฒนาการของเด็กในแต่ละช่วงวัยเป็นสำคัญ เนื่องจากความสามารถในการมองเห็น การรับรู้ และความสนใจของเด็กจะแตกต่างกันไปตามอายุ การเลือกหนังสือที่เหมาะสมจะช่วยให้เด็กได้รับประโยชน์สูงสุดจากการอ่านและสร้างความประทับใจดีต่อหนังสือตั้งแต่เล็ก

สำหรับทารกแรกเกิดถึง 6 เดือน ควรเลือกหนังสือที่มีสีสันสดใส โดยเฉพาะสีขาวดำที่ทารกสามารถมองเห็นได้ชัดเจน หนังสือผ้าหรือหนังสือที่ทำจากวัสดุที่นิ่มและปลอดภัยจะเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากทารกในช่วงวัยนี้ชอบใช้ปากสำรวจสิ่งต่างๆ หนังสือที่มีเสียงเวลาสัมผัสหรือกดจะช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสและสร้างความสนใจให้กับทารก นอกจากนี้หนังสือที่มีใบหน้าของคนหรือหนังสือที่มีรูปภาพง่ายๆ เช่น วงกลม สี่เหลี่ยม จะช่วยพัฒนาการมองเห็นของทารก

ในช่วงอายุ 6-12 เดือน เด็กเริ่มมีความสามารถในการจับสิ่งของและสามารถนั่งได้ ควรเลือกหนังสือที่มีหน้ากระดาษหนาหรือหนังสือบอร์ดบุ๊ค ที่เด็กสามารถจับและพลิกหน้าได้เอง หนังสือที่มีรูปภาพสัตว์ ผลไม้ หรือของเล่น พร้อมกับคำศัพท์ง่ายๆ จะช่วยให้เด็กเริ่มเชื่อมโยงระหว่างภาพกับเสียง หนังสือที่มีการโต้ตอบ เช่น หนังสือที่มีหน้าต่างให้เปิดดู หรือหนังสือที่มีพื้นผิวต่างๆ ให้สัมผัสจะช่วยพัฒนาทักษะการใช้มือและความอยากรู้อยากเห็น

สำหรับเด็กอายุ 1-2 ปี เด็กเริ่มพูดคำแรกและเข้าใจภาษามากขึ้น ควรเลือกหนังสือที่มีเนื้อเรื่องง่ายๆ และมีการทำซ้ำ เช่น หนังสือเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน การกินข้าว การนอน การเล่น หนังสือที่มีจังหวะหรือคล้องจองจะช่วยให้เด็กจดจำและร่วมพูดตามได้ หนังสือที่มีรูปภาพชัดเจนและสีสันสดใสจะช่วยดึงดูดความสนใจ และหนังสือที่เชื่อมโยงกับประสบการณ์จริงของเด็กจะช่วยให้เด็กเข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น

การเลือกหนังสือสำหรับเด็กไทยควรพิจารณาทั้งหนังสือภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยหนังสือภาษาไทยจะช่วยพัฒนาทักษะภาษาแม่และความเข้าใจในวัฒนธรรมไทย ในขณะที่หนังสือภาษาอังกฤษจะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้ภาษาที่สองตั้งแต่เล็ก ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ในอนาคต การผสมผสานทั้งสองภาษาจะช่วยให้เด็กมีพื้นฐานทางภาษาที่แข็งแกร่งและกว้างขวาง

หนังสือภาษาไทยที่เหมาะสำหรับเด็กเล็ก

หนังสือภาษาไทยสำหรับเด็กเล็กมีความหลากหลายทั้งในแง่ของเนื้อหาและรูปแบบ การเลือกหนังสือภาษาไทยที่เหมาะสมจะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้ภาษาแม่อย่างธรรมชาติและสร้างความรักความผูกพันกับวัฒนธรรมไทย หนังสือพื้นบ้านไทยที่ดัดแปลงมาให้เหมาะสำหรับเด็กเล็ก เช่น เรื่องราวของนิทานพื้นบ้าน นิทานคติธรรม หรือเรื่องเล่าเกี่ยวกับสัตว์ในป่าไทย จะช่วยให้เด็กได้รู้จักวัฒนธรรมไทยและเรียนรู้บทเรียนชีวิตผ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ

หนังสือประเภทภาพร่วมกับคำศัพท์ภาษาไทยเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเด็กเล็ก เช่น หนังสือเกี่ยวกับสีต่างๆ ตัวเลข รูปทรง อาชีพต่างๆ สัตว์ และผลไม้ที่พบในประเทศไทย หนังสือเหล่านี้จะช่วยให้เด็กเรียนรู้คำศัพท์พื้นฐานภาษาไทยและเชื่อมโยงกับสิ่งต่างๆ ที่เด็กเห็นในชีวิตประจำวัน การที่เด็กได้เห็นรูปภาพและได้ยินคำภาษาไทยที่สอดคล้องกันจะช่วยสร้างความเข้าใจและจดจำคำศัพท์ได้ดีขึ้น

หนังสือเพลงภาษาไทยสำหรับเด็กเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะเพลงจะช่วยให้เด็กจดจำคำศัพท์และเรียนรู้จังหวะของภาษาไทยได้ดีขึ้น หนังสือที่มีเพลงเด็กที่คุ้นเคย เช่น ช้างช้าง กบเอ๊ย หรือเพลงกล่อมเด็กไทย จะช่วยสร้างความคุ้นเคยและความสนุกสนานในการอ่าน นอกจากนี้หนังสือที่มีจังหวะและคล้องจองจะช่วยพัฒนาทักษะการฟังและความจำของเด็ก

หนังสือเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันในบริบทไทยจะช่วยให้เด็กเชื่อมโยงการอ่านกับชีวิตจริง เช่น หนังสือเกี่ยวกับการไหว้พระ การกินข้าวไทย การเล่นเกมไทย หรือเทศกาลไทย หนังสือเหล่านี้จะช่วยให้เด็กเข้าใจวิถีชีวิตไทยและสร้างความภาคภูมิใจในความเป็นไทย การที่เด็กได้เห็นสิ่งที่ตนคุ้นเคยในหนังสือจะทำให้รู้สึกใกล้ชิดและสนใจที่จะฟังเรื่องราวต่อไป

การเลือกหนังสือภาษาไทยควรคำนึงถึงคุณภาพของภาษา ความถูกต้องของไวยากรณ์ และความเหมาะสมของเนื้อหา หนังสือที่ใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องและเหมาะสมกับวัยจะช่วยให้เด็กเรียนรู้ภาषาไทยอย่างถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น นอกจากนี้การเลือกหนังสือจากสำนักพิมพ์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้มั่นใจในคุณภาพของเนื้อหาและการผลิต

เทคนิคการอ่านหนังสือให้ลูกฟังอย่างมีประสิทธิภาพ

การอ่านหนังสือให้ลูกฟังไม่ใช่แค่การอ่านเสียงดังตามข้อความที่เขียนไว้ แต่เป็นศิลปะที่ต้องใช้เทคนิคและความเข้าใจเกี่ยวกับพัฒนาการของเด็กในการสร้างประสบการณ์การฟังที่น่าจดจำและมีประโยชน์ การใช้เทคนิคที่เหมาะสมจะช่วยให้เด็กมีความสนใจและได้รับประโยชน์สูงสุดจากการอ่าน รวมถึงสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่และลูก

เสียงและน้ำเสียงเป็นเครื่องมือสำคัญในการอ่านหนังสือให้เด็กฟัง การใช้น้ำเสียงที่หลากหลาย การเปลี่ยนโทนเสียงตามตัวละครหรือสถานการณ์ในเรื่อง และการเน้นคำสำคัญจะช่วยดึงดูดความสนใจของเด็กและช่วยให้เด็กเข้าใจเนื้อเรื่องได้ดีขึ้น สำหรับทารกและเด็กเล็ก การใช้เสียงที่นุ่มนวลและอ่อนโยนจะช่วยสร้างความรู้สึกปลอดภัยและสบายใจ ในขณะที่เด็กโตขึ้นสามารถใช้เสียงที่มีพลังและน่าตื่นเต้นมากขึ้น

การใช้ท่าทางและการแสดงออกทางสีหน้าขณะอ่านหนังสือจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจและช่วยให้เด็กเข้าใจเรื่องราวได้ดีขึ้น การชี้ไปที่รูปภาพในขณะที่อ่าน การทำหน้าตาตามอารมณ์ของตัวละคร หรือการเคลื่อนไหวตามเนื้อเรื่องจะช่วยกระตุ้นความสนใจและความเข้าใจของเด็ก สำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะ การใช้ท่าทางจะช่วยให้เด็กเชื่อมโยงระหว่างคำพูดกับความหมายได้ดีขึ้น

การหยุดพักและการถามคำถามระหว่างการอ่านเป็นเทคนิคที่สำคัญในการพัฒนาทักษะการฟังและการคิดของเด็ก การถามคำถามง่ายๆ เช่น “เห็นอะไรในรูปบ้าง” “สีอะไรเยอะที่สุด” หรือ “คิดว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น” จะช่วยให้เด็กมีส่วนร่วมในการอ่านและพัฒนาทักษะการสังเกตและการคิดเชิงวิพากษ์ แม้ว่าเด็กยังพูดไม่ได้ การถามคำถามก็ยังคงมีประโยชน์เพราะจะช่วยให้เด็กได้คิดและเตรียมความพร้อมสำหรับการตอบคำถามเมื่อโตขึ้น

การทำซ้ำและการอ่านหนังสือเล่มเดิมหลายครั้งเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการเรียนรู้ของเด็กเล็ก เด็กต้องการความคุ้นเคยและการทำซ้ำเพื่อให้จดจำและเข้าใจเนื้อหาได้ดี การอ่านหนังสือเล่มเดียวกันหลายครั้งจะช่วยให้เด็กสามารถจำเนื้อเรื่อง คำศัพท์ และรายละเอียดต่างๆ ได้ดีขึ้น โดยแต่ละครั้งที่อ่านเด็กจะสามารถค้นพบสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่ได้สังเกตในครั้งก่อน การที่พ่อแม่อดทนและยอมอ่านหนังสือเล่มเดียวกันหลายครั้งจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับการเรียนรู้ของลูก

การสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการอ่าน

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมจะส่งผลอย่างมากต่อประสิทธิภาพของการอ่านหนังสือและการสร้างความรักในการอ่านให้กับเด็ก การจัดเตรียมพื้นที่อ่านที่สะดวกสบาย เงียบสงบ และมีแสงสว่างที่เพียงพอจะช่วยให้เด็กรู้สึกผ่อนคลายและสามารถมีสมาธิกับการฟังเรื่องได้ดีขึ้น การมีมุมอ่านหนังสือเฉพาะในบ้านจะช่วยสร้างความพิเศษให้กับกิจกรรมการอ่านและทำให้เด็กรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่มาอ่านหนังสือ

การเลือกเวลาที่เหมาะสมสำหรับการอ่านหนังสือเป็นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ต้องคำนึงถึง เวลาที่เด็กมีสมาธิดีและไม่หิวหรือเหนื่อยจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด สำหรับทารกและเด็กเล็ก เวลาหลังอาหาร เวลาก่อนนอน หรือตอนเช้าที่เด็กตื่นมาใหม่ๆ จะเป็นช่วงเวลาที่ดี การสร้างกิจวัตรการอ่านหนังสือที่สม่ำเสมอ เช่น อ่านหนังสือก่อนนอนทุกวัน จะช่วยให้เด็กคาดหวังและรอคอยกิจกรรมนี้

ตัวอย่างไฟล์ คู่มือพ่อแม่ พัฒนาลูกน้อยด้วยหนังสือ ลูกรักกับหนังสือเล่มแรก


คู่มือพ่อแม่ พัฒนาลูกน้อยด้วยหนังสือ
คู่มือพ่อแม่ พัฒนาลูกน้อยด้วยหนังสือ

เอกสารเป็นไฟล์ PDF

ดาวน์โหลดไฟล์เอกสารจากลิงก์ด้านล่างนี้ นะครับ

ขอบคุณแหล่งที่มา : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ห้ามพลาด