สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ทุกท่านนะครับ วันนี้พบกับ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ เทคนิค วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อขับเคลื่อนจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ด้านการคิดขั้นพื้นฐาน ซึ่งเพื่อนๆ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดนำไปศึกษาและนำไปเป็นแนวทางการเรียนรู้ เทคนิค วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อขับเคลื่อนจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ด้านการคิดขั้นพื้นฐาน ให้กับนักเรียน ตามบริบทของห้องเรียน ได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ เทคนิค วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อขับเคลื่อนจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ด้านการคิดขั้นพื้นฐาน ตามรายละเอียดดังนี้ครับ
ดาวน์โหลด เทคนิค วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อขับเคลื่อนจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ด้านการคิดขั้นพื้นฐาน โดย สำนักงานวิชาการและมาตรฐานการศึกษา

เทคนิคและวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนด้านการคิดขั้นพื้นฐานอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีนโยบายที่มุ่งให้การศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศไทยได้พัฒนาไปในทิศทางที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยและสังคมโลก บนพื้นฐานของความเป็นไทยอีกทั้งให้ความสำคัญกับการสร้างมาตรฐานเด็กไทย และได้กำหนดจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพด้านผู้เรียนที่ครอบคลุมทั้งในด้านความรู้ ความสามารถและคุณลักษณะ ดังนั้นการแสวงหา เทคนิค วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับให้ครูผู้สอนนำไปใช้ในการพัฒนาผู้เรียนตามจุดเน้นได้อย่างเป็นรูปธรรมสนองตามแนวนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นับเป็นเครื่องมือที่สำคัญ อันจะส่งผลให้การดำเนินงานตามนโยบายบรรลุตามเป้าหมาย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงได้จัดทำเอกสารชุดเทคนิค วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อขับเคลื่อนจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน จำนวน 12 รายการขึ้น ซึ่งประกอบด้วย
- ด้านอ่านออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขียนคล่อง
- ด้านคิดเลขเป็น คิดเลขคล่อง
- ด้านการคิดขั้นพื้นฐาน
- ด้านการคิดขั้นสูง
- ด้านการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ตามช่วงวัย
- ด้านการใช้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)
- ด้านการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้
- ด้านการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
- ด้านใฝ่เรียนรู้
- ด้านใฝ่ดี
- ด้านทักษะชีวิต
- ด้านอยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการศึกษาและการทำงาน
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารชุดเทคนิค วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อขับเคลื่อนจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้บรรลุตามนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสนองตามแนวทางการปฏิรูปการเรียนรู้ของกระทรวงศึกษาธิการได้ต่อไป อีกทั้งขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการจัดทำเอกสารชุดนี้ให้สำเร็จลุล่วงด้วยดี
เอกสารชุดเทคนิค วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อขับเคลื่อนจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน มีจำนวน 12 ด้าน จัดทำเป็นเอกสาร จำนวน 12 เล่ม ดังนี้
- ด้านอ่านออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขียนคล่อง
- ด้านคิดเลขเป็น คิดเลขคล่อง
- ด้านการคิดขั้นพื้นฐาน
- ด้านการคิดขั้นสูง
- ด้านการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ตามช่วงวัย
- ด้านการใช้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)
- ด้านการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้
- ด้านการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
- ด้านใฝ่เรียนรู้
- ด้านใฝ่ดี
- ด้านทักษะชีวิต
- ด้านอยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการศึกษาและการทำงาน
ในแต่ละด้านได้จากการถอดประสบการณ์ผลงานของครูผู้สอนที่มีความโดดเด่นในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยเขตพื้นที่การศึกษาแต่ละเขตทั่วประเทศ ได้คัดเลือกและบันทึกการสาธิตเทคนิค วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนลงใน DVD ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานถอดเทคนิค วิธีการดังกล่าวจัดทำเป็นเอกสารเผยแพร่สำหรับเป็นแนวทางให้ครูผู้สอนทั่วไปได้นำไปปฏิบัติ เพื่อร่วมขับเคลื่อนนโยบายจุดเน้นด้านผู้เรียนให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
การพัฒนาคุณภาพการศึกษาในยุคปัจจุบันต้องการการปรับเปลี่ยนแนวทางการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะการพัฒนาทักษะการคิดขั้นพื้นฐานที่เป็นรากฐานสำคัญในการเรียนรู้ตลอดชีวิต การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นการพัฒนาการคิดขั้นพื้นฐานจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ครูและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาต้องให้ความสำคัญ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ และแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความหมายและความสำคัญของการคิดขั้นพื้นฐาน
การคิดขั้นพื้นฐานหมายถึงกระบวนการคิดที่เป็นรากฐานสำคัญของการเรียนรู้ ประกอบด้วยทักษะการสังเกต การเปรียบเทียบ การจำแนกประเภท การจัดลำดับ การหาความสัมพันธ์ และการสรุปอนุมาน ทักษะเหล่านี้เป็นพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาการคิดระดับสูงต่อไป เช่น การคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
ความสำคัญของการพัฒนาการคิดขั้นพื้นฐานปรากฏชัดเจนในการเรียนรู้ทุกสาขาวิชา เมื่อผู้เรียนมีทักษะการคิดขั้นพื้นฐานที่ดีจะสามารถประมวลข้อมูล วิเคราะห์สถานการณ์ และแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้เรียนมีความมั่นใจในการเรียนรู้และสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่ ๆ ได้ดี
หลักการพื้นฐานในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการคิด
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการคิดขั้นพื้นฐานต้องอาศัยหลักการสำคัญหลายประการ ประการแรกคือหลักการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ผู้เรียนควรได้สัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเองผ่านการใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งและจดจำได้นาน การให้ผู้เรียนได้จับต้อง ดู ฟัง ดม และลิ้มรส จะช่วยสร้างความเชื่อมโยงระหว่างความรู้ใหม่กับประสบการณ์เดิม
หลักการที่สองคือการจัดกิจกรรมตามลำดับจากง่ายไปยากและจากรูปธรรมไปสู่นามธรรม ผู้เรียนต้องเริ่มต้นจากสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนและเข้าใจง่าย ก่อนจะค่อย ๆ พัฒนาไปสู่แนวคิดที่ซับซ้อนมากขึ้น การปฏิบัติตามลำดับนี้จะช่วยให้ผู้เรียนสร้างพื้นฐานความเข้าใจที่มั่นคงและสามารถเชื่อมโยงความรู้ได้อย่างเป็นระบบ
หลักการที่สามคือการส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน ไม่ใช่การรับความรู้แบบผ้ิวเผิน แต่เป็นการเรียนรู้ที่ผู้เรียนต้องคิด วิเคราะห์ และสรุปด้วยตนเอง ครูควรเป็นผู้อำนวยความสะดวก กระตุ้น และให้คำแนะนำ มากกว่าการเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้แบบทางเดียว
เทคนิคการสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการคิด
การสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการพัฒนาการคิดขั้นพื้นฐานต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายประการ สภาพแวดล้อมทางกายภาพเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ห้องเรียนควรมีแสงสว่างเพียงพอ อากาศถ่ายเทได้ดี และมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการจัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ การจัดที่นั่งแบบยืดหยุ่นจะช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนรู้ได้ตามความเหมาะสมของแต่ละกิจกรรม
สื่อการเรียนรู้และอุปกรณ์ต่าง ๆ ควรมีความหลากหลายและเข้าถึงได้ง่าย วัสดุเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงแต่ควรมีความปลอดภัยและเหมาะสมกับวัยของผู้เรียน การใช้วัสดุธรรมชาติหรือของใช้ในชีวิตประจำวันมาเป็นสื่อการเรียนรู้จะช่วยให้ผู้เรียนเชื่อมโยงการเรียนรู้กับชีวิตจริงได้ดีขึ้น
บรรยากาศทางจิตใจในห้องเรียนมีความสำคัญไม่แพ้กับสภาพแวดล้อมทางกายภาพ ผู้เรียนต้องรู้สึกปลอดภัยในการแสดงความคิดเห็น กล้าที่จะถามคำถามและทำผิดพลาด ครูต้องสร้างบรรยากาศที่ให้การยอมรับและเห็นคุณค่าในความหลากหลายของความคิดเห็น การยกย่องความพยายามมากกว่าผลลัพธ์จะช่วยสร้างแรงจูงใจให้ผู้เรียนอยากเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
วิธีการพัฒนาทักษะการสังเกตและการรับรู้
การสังเกตเป็นทักษะพื้นฐานแรกที่ผู้เรียนต้องพัฒนา เริ่มต้นจากการฝึกสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัวด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า ครูสามารถจัดกิจกรรมการสังเกตวัตถุธรรมชาติ เช่น ใบไม้ หิน ดอกไม้ โดยให้ผู้เรียนอธิบายลักษณะที่สังเกตได้ด้วยคำพูด การเขียน หรือการวาดรูป
การฝึกสังเกตลักษณะทางกายภาพต้องเริ่มจากสิ่งที่เห็นได้ชัดเจน เช่น สี รูปร่าง ขนาด น้ำหนัก พื้นผิว กลิ่น รส เสียง ก่อนจะพัฒนาไปสู่การสังเกตรายละเอียดที่ละเอียดขึ้น การใช้แว่นขยาย กล้องจุลทรรศน์ หรือเครื่องมือช่วยสังเกตอื่น ๆ จะช่วยให้ผู้เรียนเห็นรายละเอียดที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
กิจกรรมการสังเกตการเปลี่ยนแปลงเป็นอีกทักษะสำคัญที่ต้องพัฒนา ผู้เรียนควรได้ฝึกสังเกตการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่าง ๆ ตามกาลเวลา เช่น การเจริญเติบโตของพืช การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ หรือการเปลี่ยนแปลงของวัสดุในการทดลองต่าง ๆ การบันทึกผลการสังเกตอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผู้เรียนเห็นรูปแบบและแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลง
เทคนิคการพัฒนาทักษะการเปรียบเทียบและจำแนก
การเปรียบเทียบเป็นทักษะที่พัฒนาต่อจากการสังเกต ผู้เรียนต้องสามารถหาความเหมือนและความแตกต่างของสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างเป็นระบบ การเริ่มต้นจากการเปรียบเทียบสิ่งของสองชิ้นที่มีความแตกต่างชัดเจน เช่น แอปเปิ้ลกับส้ม ก่อนจะค่อย ๆ เพิ่มความซับซ้อนโดยการเปรียบเทียบสิ่งที่มีความคล้ายคลึงกันมากขึ้น
การจัดกิจกรรมเปรียบเทียบควรให้ผู้เรียนได้ใช้เกณฑ์หลากหลายในการเปรียบเทียบ เช่น เปรียบเทียบตามลักษณะทางกายภาพ หน้าที่การใช้งาน ที่มา ประโยชน์ หรือคุณค่า การกำหนดเกณฑ์การเปรียบเทียบที่ชัดเจนจะช่วยให้ผู้เรียนมีกรอบการคิดที่เป็นระบบและสามารถนำไปใช้ในสถานการณ์อื่น ๆ ได้
ทักษะการจำแนกประเภทพัฒนามาจากการเปรียบเทียบ โดยผู้เรียนต้องสามารถจัดกลุ่มสิ่งต่าง ๆ ตามลักษณะร่วมที่กำหนดไว้ การเริ่มต้นจากการจำแนกตามลักษณะเดียว เช่น สี รูปร่าง หรือขนาด ก่อนจะเพิ่มความซับซ้อนโดยการใช้เกณฑ์หลายข้อในการจำแนก การให้ผู้เรียนอธิบายเหตุผลในการจัดกลุ่มจะช่วยพัฒนาทักษะการใช้เหตุผลและการสื่อสาร
การจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะการจัดลำดับและการหาความสัมพันธ์
ทักษะการจัดลำดับเป็นความสามารถในการเรียงลำดับสิ่งต่าง ๆ ตามเกณฑ์ที่กำหนด เช่น ขนาดจากเล็กไปใหญ่ เวลาจากก่อนไปหลัง หรือความสำคัญจากมากไปน้อย การพัฒนาทักษะนี้ควรเริ่มจากการจัดลำดับสิ่งของที่มีลักษณะต่างกันอย่างชัดเจน เช่น ลูกบอลที่มีขนาดแตกต่างกัน หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาต่าง ๆ
การจัดกิจกรรมจัดลำดับเหตุการณ์จะช่วยพัฒนาความเข้าใจเรื่องเวลาและความเป็นเหตุเป็นผล ผู้เรียนสามารถฝึกโดยการจัดลำดับขั้นตอนการทำอาหาร การปลูกต้นไม้ หรือการเตรียมตัวไปโรงเรียน การใช้รูปภาพหรือการ์ดในการจัดลำดับจะช่วยให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะผู้เรียนที่มีรูปแบบการเรียนรู้แบบภาพ
ทักษะการหาความสัมพันธ์ต้องการการพัฒนาที่ค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากความสัมพันธ์แบบง่าย เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุกับผล หรือความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งของกับหน้าที่การใช้งาน จากนั้นจึงพัฒนาไปสู่ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยหลายตัวที่ส่งผลต่อผลลัพธ์หนึ่ง การใช้แผนผังความคิด แผนภูมิ หรือการจำลองสถานการณ์จะช่วยให้ผู้เรียนเห็นความสัมพันธ์ได้ชัดเจนขึ้น
วิธีการส่งเสริมทักษะการสรุปและการอนุมาน
การสรุปเป็นทักษะการนำข้อมูลหรือข้อเท็จจริงที่ได้จากการสังเกต การเปรียบเทียบ และการวิเคราะห์มารวมเป็นข้อสรุปที่มีความหมาย ผู้เรียนต้องได้ฝึกการสรุปจากข้อมูลที่ได้จากการทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยครูควรใช้คำถามที่กระตุ้นให้คิด เช่น “จากที่เราได้สังเกตมา เราสามารถสรุปได้ว่าอย่างไร” หรือ “ข้อมูลที่เราได้รวบรวมมาบอกอะไรกับเราบ้าง”
การพัฒนาทักษะการสรุปต้องให้ความสำคัญกับการใช้หลักฐานเป็นฐาน ผู้เรียนต้องเรียนรู้ที่จะอ้างอิงข้อมูลหรือข้อเท็จจริงที่สังเกตได้จริงในการสรุป ไม่ใช่การเดาหรือการคาดเดาแบบไม่มีหลักฐาน ครูสามารถสอนให้ผู้เรียนแยกแยะระหว่างสิ่งที่สังเกตได้จริงกับสิ่งที่เป็นการตีความหรือการคาดเดา
ทักษะการอนุมานเป็นการใช้ข้อมูลหรือประสบการณ์ที่มีอยู่ในการคาดการณ์หรือหาคำอธิบายสำหรับสิ่งที่ไม่ได้สังเกตโดยตรง การพัฒนาทักษะนี้ต้องให้ผู้เรียนได้ฝึกการใช้เหตุผลในการเชื่อมโยงข้อมูลที่มีกับข้อสรุปใหม่ การใช้คำถาม “ถ้า…แล้วจะเป็นอย่างไร” หรือ “ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น” จะช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนคิดแบบอนุมาน
กิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมสำหรับการพัฒนาการคิด
การเรียนรู้แบบโครงงานเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาการคิดขั้นพื้นฐาน ผู้เรียนได้ใช้ทักษะการคิดทั้งหมดในการดำเนินโครงงานตั้งแต่การวางแผน การเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ และการสรุป โครงงานควรเป็นหัวข้อที่ผู้เรียนสนใจและเชื่อมโยงกับชีวิtจริง เช่น การศึกษาพืชในท้องถิ่น การสำรวจปัญหาสิ่งแวดล้อมในชุมชน หรือการศึกษาวัฒนธรรมท้องถิ่น
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มช่วยพัฒนาทักษะการคิดผ่านการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและการทำงานร่วมกัน ผู้เรียนได้เรียนรู้จากมุมมองที่หลากหลายและพัฒนาทักษะการสื่อสารและการโน้มน้าวใจ กิจกรรมกลุ่มที่ดีควรมีการกำหนดบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจนและมีเป้าหมายร่วมกันที่ทุกคนเข้าใจ
การใช้เกมการศึกษาเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยทำให้การเรียนรู้น่าสนใจและส่งเสริมการคิด เกมที่ดีสำหรับการพัฒนาการคิดขั้นพื้นฐานควรมีกติกาที่เข้าใจง่าย มีความท้าทายที่เหมาะสม และสามารถเล่นได้หลายครั้งโดยมีผลลัพธ์ที่อาจแตกต่างกัน เกมจิ๊กซอว์ เกมจับคู่ หรือเกมจำแนกประเภทเป็นตัวอย่างของเกมที่ช่วยพัฒนาทักษะการคิดขั้นพื้นฐาน
การใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการคิดขั้นพื้นฐาน
เทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมการพัฒนาการคิดขั้นพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้แอพพลิเคชันการเรียนรู้ที่ออกแบบมาเพื่อพัฒนาทักษะการคิด เช่น แอพเกมที่ฝึกการจับคู่ การจำแนกประเภท หรือการหารูปแบบ จะช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะในลักษณะที่สนุกสนานและท้าทาย
การใช้สื่อดิจิทัลในการนำเสนอข้อมูลช่วยให้ผู้เรียนได้เห็นภาพรวมและรายละเอียดของข้อมูลได้ชัดเจนขึ้น การใช้โปรแกรมสร้างแผนภูมิ กราฟ หรือแผนผังความคิด จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถจัดระเบียบข้อมูลและเห็นความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลได้ดีขึ้น เครื่องมือเหล่านี้ยังช่วยให้ผู้เรียนสามารถแก้ไขและปรับปรุงงานได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่างไฟล์ เทคนิค วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อขับเคลื่อนจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ด้านการคิดขั้นพื้นฐาน





