สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ทุกท่านนะครับ วันนี้พบกับ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ แนวปฏิบัติจริยธรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเพื่อนๆ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดนำไปศึกษาและนำไปเป็นแนวปฏิบัติจริยธรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ ได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ แนวปฏิบัติจริยธรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ ตามรายละเอียดดังนี้ครับ

ดาวน์โหลด แนวปฏิบัติจริยธรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ


แนวปฏิบัติจริยธรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ หลักการสำคัญเพื่ออนาคตที่ปลอดภัย

ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเราอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่การใช้งานแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ ระบบแนะนำสินค้าในเว็บไซต์ การวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน ไปจนถึงระบบการแพทย์และการศึกษา เทคโนโลยี AI ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมดิจิทัลที่ไม่อาจแยกออกได้ อย่างไรก็ตาม การพัฒนาและใช้งาน AI อย่างรับผิดชอบต้องอาศัยแนวปฏิบัติจริยธรรมที่ชัดเจน เพื่อให้มั่นใจว่าเทคโนโลยีนี้จะนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดแก่มนุษยชาติ โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

ความสำคัญของจริยธรรม AI ในบริบทสังคมไทย

สังคมไทยซึ่งมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ภาษา และความเชื่อ ต้องเผชิญกับความท้าทายพิเศษในการนำเทคโนโลジี AI มาใช้อย่างเหมาะสม ความแตกต่างทางสังคมและเศรษฐกิจในแต่ละพื้นที่ของประเทศไทยทำให้การประยุกต์ใช้ AI ต้องคำนึงถึงบริบทท้องถิ่นและความต้องการที่แตกต่างกันออกไป การพัฒนา AI ที่ไม่คำนึงถึงจริยธรรมอาจนำไปสู่การเพิ่มความเหลื่อมล้ำ การเลือกปฏิบัติ หรือการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของประชาชน

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลส่วนบุคคลมีค่ามหาศาล การใช้งาน AI ที่ไม่มีจริยธรรมอาจนำไปสู่การใช้ประโยชน์จากข้อมูลผู้ใช้งานอย่างไม่เหมาะสม การสร้างอัลกอริทึมที่มีอคติ หรือการพัฒนาระบบที่ไม่โปร่งใส ดังนั้นการสร้างกรอบจริยธรรมที่เหมาะสมกับบริบทไทยจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้การพัฒนาเทคโนโลยีเดินไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม

การสร้างความตระหนักรู้เรื่องจริยธรรม AI ในหมู่ผู้พัฒนาเทคโนโลยี นักวิจัย และผู้ใช้งานทั่วไป เป็นรากฐานสำคัญในการสร้างระบบนิเวศเทคโนโลยีที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ สังคมไทยต้องร่วมกันสร้างมาตรฐานและแนวปฏิบัติที่จะเป็นแนวทางในการพัฒนาและใช้งาน AI อย่างมีความรับผิดชอบ

หลักการพื้นฐานของจริยธรรม AI

หลักการพื้นฐานของจริยธรรม AI เริ่มต้นจากการเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ระบบ AI ที่ดีต้องสร้างขึ้นเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของมนุษย์ ไม่ใช่เพื่อทดแทนหรือลดคุณค่าของความเป็นมนุษย์ การตัดสินใจที่สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนควรยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของมนุษย์ โดยมี AI เป็นเครื่องมือสนับสนุนการตัดสินใจเท่านั้น

หลักความยุติธรรมและความเสมอภาคเป็นอีกหนึ่งรากฐานสำคัญ ระบบ AI ต้องให้การปฏิบัติที่เป็นธรรมแก่ทุกกลุ่มผู้ใช้งาน ไม่เลือกปฏิบัติตามเชื้อชาติ เพศ อายุ ศาสนา สถานะทางสังคม หรือปัจจัยอื่นใดที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ของระบบ การออกแบบอัลกอริทึมต้องคำนึงถึงความหลากหลายของผู้ใช้งานและสร้างโอกาสที่เท่าเทียมกันสำหรับทุกคน

ความโปร่งใสและความสามารถในการอธิบายได้เป็นหลักการที่ไม่อาจขาดได้ ผู้ใช้งานมีสิทธิ์ที่จะเข้าใจว่าระบบ AI ทำงานอย่างไร เหตุใดจึงได้ผลลัพธ์เช่นนั้น และสามารถตรวจสอบความถูกต้องของกระบวนการตัดสินใจได้ ความโปร่งใสนี้ไม่เพียงแต่สร้างความไว้วางใจ แต่ยังช่วยให้สามารถปรับปรุงและแก้ไขข้อผิดพลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การรักษาความเป็นส่วนตัวและการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลเป็นหลักการสำคัญที่ต้องยึดถือ ระบบ AI ต้องเก็บรวบรวม ใช้งาน และจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอย่างระมัดระวัง โดยปฏิบัติตามหลักการเก็บข้อมูลให้น้อยที่สุด ใช้เฉพาะที่จำเป็น และมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม

ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือเป็นพื้นฐานของระบบ AI ที่ดี ระบบต้องได้รับการทดสอบอย่างครอบคลุม มีกลไกการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพ และสามารถป้องกันการใช้งานในทางที่ผิดหรือเป็นอันตรายได้ การพัฒนาต้องคำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและมีแผนรองรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

ความรับผิดชอบและความพร้อมรับผิด

ความรับผิดชอบในการพัฒนาและใช้งาน AI ต้องกระจายไปยังทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่นักพัฒนาและนักวิจัย องค์กร ภาครัฐ ไปจนถึงผู้ใช้งานทั่วไป แต่ละฝ่ายมีบทบาทและหน้าที่ที่แตกต่างกัน แต่ต้องร่วมมือกันเพื่อสร้างระบบนิเวศ AI ที่มีจริยธรรม

นักพัฒนาและนักวิจัยมีหน้าที่ในการออกแบบและสร้างระบบ AI ที่ปลอดภัย เป็นธรรม และโปร่งใส พวกเขาต้องใส่ใจในรายละเอียดของอัลกอริทึม การเลือกข้อมูลสำหรับการฝึกฝน และการทดสอบประสิทธิภาพของระบบในสถานการณ์ต่างๆ การพัฒนาต้องผ่านกระบวนการทบทวนและประเมินผลกระทบอย่างรอบคอบก่อนนำออกใช้งานจริง

องค์กรที่นำ AI มาใช้งานต้องสร้างนโยบายและแนวปฏิบัติที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้งาน AI อย่างมีจริยธรรม ต้องมีการฝึกอบรมพนักงานและสร้างความเข้าใจเรื่องผลกระทบของการใช้งาน AI การตั้งคณะกรรมการจริยธรรม AI ภายในองค์กรจะช่วยให้การตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยีมีการพิจารณาด้านจริยธรรมอย่างสม่ำเสมอ

ภาครัฐมีบทบาทสำคัญในการกำหนดกรอบกฎหมายและนโยบายที่เหมาะสม การสร้างมาตรฐานสำหรับการพัฒนาและใช้งาน AI การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาด้านจริยธรรม AI และการสร้างความตระหนักรู้ในสังคม ภาครัฐต้องทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการประสานความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่างๆ และสร้างสมดุลระหว่างการส่งเสริมนวัตกรรมและการปกป้องสิทธิของประชาชน

ผู้ใช้งานทั่วไปก็มีส่วนสำคัญในการสร้างความต้องการสำหรับ AI ที่มีจริยธรรม การเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี AI และผลกระทบของมัน การตั้งคำถามเกี่ยวกับความโปร่งใสและความปลอดภัยของระบบที่ใช้งาน และการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และบริการจากองค์กรที่มีความรับผิดชอบด้านจริยธรรม จะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการพัฒนา AI ที่ดีขึ้น

การสร้างกลไกความพร้อมรับผิดชอบเมื่อเกิดปัญหาหรือผลกระทบเชิงลบจากการใช้งาน AI เป็นสิ่งสำคัญ ต้องมีช่องทางการรับแจ้งปัญหา กระบวนการสืบสวนและแก้ไข และมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ ความชัดเจนในเรื่องความรับผิดชอบจะช่วยให้ผู้ใช้งานมีความมั่นใจและเชื่อมั่นในเทคโนโลยี

การป้องกันอคติและการเลือกปฏิบัติ

อคติในระบบ AI เป็นหนึ่งในปัญหาที่ร้อนแรงที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากอัลกอริทึม AI เรียนรู้จากข้อมูลที่สร้างโดยมนุษย์ ซึ่งมักจะมีอคติและความไม่เป็นธรรมติดมาด้วย หากไม่มีการจัดการอย่างระมัดระวัง ระบบ AI อาจสืบทอดและขยายอคติเหล่านี้ให้รุนแรงขึ้น ส่งผลกระทบต่อกลุ่มคนที่เปราะบางหรือชนกลุ่มน้อย

ในบริบทสังคมไทย การป้องกันอคติต้องคำนึงถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม ภาษา และสถานะทางสังคม ข้อมูลที่ใช้ในการฝึกฝนระบบ AI ต้องมีการคัดเลือกและตรวจสอบอย่างรอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่าครอบคลุมความหลากหลายของประชากรไทย การใช้ข้อมูลที่มาจากกลุ่มคนเฉพาะกลุ่มหนึ่งอาจนำไปสู่ระบบที่ไม่เหมาะสมสำหรับคนกลุ่มอื่น

กระบวนการตรวจสอบอคติต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ การพัฒนา การทดสอบ ไปจนถึงการใช้งานจริง การใช้เครื่องมือและเทคนิคต่างๆ ในการวิเคราะห์และตรวจสอบอคติ เช่น การทดสอบความเป็นธรรมของผลลัพธ์ในกลุ่มประชากรต่างๆ การวิเคราะห์การกระจายของข้อมูลฝึกฝน และการประเมินผลกระทบต่อกลุ่มเปราะบาง

การสร้างทีมพัฒนาที่มีความหลากหลายทั้งด้านพื้นเพ วิชาชีพ เพศ อายุ และภูมิหลังทางสังคม จะช่วยให้สามารถมองเห็นมุมมองและปัญหาที่แตกต่างกันได้ดีขึ้น ความหลากหลายในทีมงานเป็นกลไกป้องกันอคติที่มีประสิทธิภาพ เพราะสมาชิกในทีมสามารถตรวจสอบและท้าทายสมมติฐานของกันและกันได้

การเปิดโอกาสให้ชุมชนและกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีส่วนร่วมในการทบทวนและประเมินระบบ AI ก่อนนำไปใช้งานจริงเป็นสิ่งสำคัญ การรับฟังความคิดเห็นและข้อกังวลจากผู้ที่อาจได้รับผลกระทบจะช่วยให้สามารถระบุปัญหาที่อาจมองข้ามไป และหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสม

การออกแบบระบบให้มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับปรุงได้เมื่อพบปัญหาเป็นสิ่งจำเป็น ระบบ AI ที่ดีต้องสามารถเรียนรู้และปรับตัวเมื่อได้รับข้อมูลใหม่หรือการแจ้งเตือนเกี่ยวกับปัญหาอคติ การมีกลไกในการอัปเดตและปรับปรุงระบบอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ระบบมีความเป็นธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ

ความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองข้อมูล

ข้อมูลเป็นเลือดเนื้อของระบบ AI แต่การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลต้องทำอย่างระมัดระวังและเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูล หลักการพื้นฐานของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในระบบ AI เริ่มต้นจากการขอความยินยอมที่ชัดเจนและเข้าใจได้ง่าย เจ้าของข้อมูลต้องทราบว่าข้อมูลของพวกเขาจะถูกใช้อย่างไร เพื่อวัตถุประสงค์ใด และมีสิทธิ์ในการถอนความยินยอมได้ตลอดเวลา

การนำหลักการ Privacy by Design มาใช้ในการพัฒนาระบบ AI เป็นสิ่งสำคัญ หลักการนี้กำหนดให้การปกป้องความเป็นส่วนตัวต้องถูกออกแบบเข้าไปในระบบตั้งแต่เริ่มต้น ไม่ใช่เพิ่มเติมภายหลัง การใช้เทคนิคเช่น Differential Privacy หรือ Federated Learning ที่ช่วยให้ระบบสามารถเรียนรู้จากข้อมูลโดยไม่ต้องเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง

การจำกัดการเก็บรวบรวมข้อมูลให้เฉพาะที่จำเป็นต่อการทำงานของระบบ หลักการ Data Minimization กำหนดให้เก็บข้อมูลให้น้อยที่สุด ใช้เฉพาะที่จำเป็น และเก็บไว้เฉพาะระยะเวลาที่จำเป็น การทำ Data Mapping เพื่อทราบว่าข้อมูลใดถูกเก็บไว้ที่ไหน ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใด และมีการรักษาความปลอดภัยอย่างไร เป็นขั้นตอนสำคัญ

การสร้างความโปร่งใสในการใช้งานข้อมูลโดยการจัดทำ Privacy Notice ที่เข้าใจง่าย อธิบายการใช้งานข้อมูลในระบบ AI อย่างชัดเจน รวมถึงสิทธิต่างๆ ที่เจ้าของข้อมูลมี เช่น สิทธิ์ในการเข้าถึง แก้ไข หรือลบข้อมูลส่วนบุคคล การมีช่องทางติดต่อที่ชัดเจนสำหรับการใช้สิทธิเหล่านี้

การใช้เทคนิค Anonymization และ Pseudonymization เพื่อลดความเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัว การแปลงข้อมูลส่วนบุคคลให้อยู่ในรูปที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ หรือทำให้ยากต่อการระบุตัวตน จะช่วยให้สามารถใช้ข้อมูลเพื่อพัฒนา AI ได้โดยลดผลกระทบต่อความเป็นส่วนตัว

การประเมินผลกระทบต่อความเป็นส่วนตัว (Privacy Impact Assessment) ก่อนนำระบบ AI ไปใช้งานจริง การวิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน และการเตรียมมาตรการลดความเสี่ยงที่เหมาะสม การทบทวนและปรับปรุงมาตรการเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในระบบหรือกฎหมาย

ความโปร่งใสและความสามารถในการอธิบาย

ความโปร่งใสในระบบ AI เป็นรากฐานสำคัญของความไว้วางใจและการยอมรับจากสังคม ผู้ใช้งานมีสิทธิ์ที่จะเข้าใจว่าระบบทำงานอย่างไร ใช้ข้อมูลอะไรในการตัดสินใจ และเหตุผลเบื้องหลังผลลัพธ์ที่ได้รับ ความสามารถในการอธิบายได้ (Explainability) กลายเป็นข้อกำหนดสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับระบบ AI ที่มีผลกระทบสูงต่อชีวิตของผู้คน

การออกแบบ Explainable AI ต้องคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ความต้องการในการอธิบายของผู้ใช้งานทั่วไป ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค และหน่วยงานกำกับดูแลมีระดับความซับซ้อนที่ต่างกัน การสร้างเครื่องมือและส่วนติดต่อผู้ใช้ที่สามารถอธิบายการทำงานของระบบในระดับรายละเอียดที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่ม

เทคนิค Local Interpretable Model-Agnostic Explanations (LIME) และ SHapley Additive exPlanations (SHAP) เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้สามารถอธิบายการตัดสินใจของแบบจำลอง Machine Learning ได้ แม้ว่าแบบจำลองนั้นจะซับซ้อนและเป็น Black Box เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้เข้าใจว่าตัวแปรใดมีผลกระทบมากที่สุดต่อผลลัพธ์ที่ได้

ตัวอย่างไฟล์ แนวปฏิบัติจริยธรรมด้านปัญญาประดิษฐ์


เอกสารเป็นไฟล์ PDF

ดาวน์โหลดไฟล์เอกสารจากลิงก์ด้านล่างนี้ นะครับ

ขอบคุณแหล่งที่มา : สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ห้ามพลาด