
บทความนี้ สื่อฟรีออนไลน์.com
ขอแนะนำไฟล์ คู่มือRTชั้นป.1ปีการศึกษา2565
คู่มือการประเมินความสามารถด้านการอ่าน RT ป.1 ปีการศึกษา 2565 ฉบับสมบูรณ์
การประเมินความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถือเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของเด็กไทย สำนักทดสอบทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้จัดทำคู่มือการประเมินความสามารถด้านการอ่าน RT ขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการบริหารจัดการการประเมินสำหรับศูนย์สอบและสถานศึกษาทั่วประเทศ ในปีการศึกษา 2565 คู่มือฉบับนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยตั้งแต่ระดับพื้นฐาน
วัตถุประสงค์และความสำคัญของการประเมิน RT
การประเมินความสามารถด้านการอ่าน RT ในปีการศึกษา 2565 มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อประเมินเชิงวิจัยความสามารถด้านการอ่านออกเสียงและการอ่านรู้เรื่องของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทั่วประเทศ การประเมินครั้งนี้ไม่ใช่การสอบวัดผลแบบเดิมที่เน้นการให้คะแนนเพื่อตัดสิน แต่เป็นการประเมินเพื่อวินิจฉัยและพัฒนาศักยภาพของนักเรียนแต่ละคนอย่างแท้จริง
การประเมินนี้มุ่งเน้นไปที่การวัดความสามารถพื้นฐานสองด้านที่สำคัญที่สุดในการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย ได้แก่ ความสามารถในการอ่านออกเสียงและความสามารถในการอ่านรู้เรื่อง ทั้งสองทักษะนี้เป็นรากฐานสำคัญที่จะนำไปสู่การพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้นในอนาคต หากเด็กมีพื้นฐานการอ่านที่ดีตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จะส่งผลให้การเรียนรู้ในวิชาอื่นๆ เป็นไปได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ความหมายและนิยามของการอ่านออกเสียงและการอ่านรู้เรื่อง
การอ่านออกเสียงตามคู่มือฉบับนี้หมายถึง การอ่านคำ ประโยค หรือข้อความสั้นๆ ที่เป็นคำในวงคำศัพท์ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยวิธีการอ่านออกเสียง การอ่านออกเสียงที่ดีไม่ได้หมายถึงเพียงการออกเสียงให้ถูกต้องตามอักษรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการอ่านที่มีความคล่องแคล่ว มีจังหวะที่เหมาะสม และสามารถถ่ายทอดความหมายของข้อความได้อย่างชัดเจน
สำหรับการอ่านรู้เรื่องนั้น หมายถึง การอ่านคำ ประโยค หรือข้อความสั้นๆ ที่เป็นคำในวงคำศัพท์ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยสามารถบอกข้อคิด จับใจความ ตอบคำถาม บอกความหมายสัญลักษณ์ คาดคะเน สรุปความรู้ข้อคิด และแปลความสร้างสรรค์จากภาพได้ นิยามนี้แสดงให้เห็นว่าการอ่านรู้เรื่องไม่ได้หยุดอยู่แค่การรู้ว่าอ่านแล้วเข้าใจเรื่องใด แต่ยังต้องสามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ และประยุกต์ใช้ความรู้จากการอ่านได้อีกด้วย
กลุ่มเป้าหมายและความสมัครใจในการเข้าร่วมประเมิน
กลุ่มเป้าหมายของการประเมิน RT ในปีการศึกษา 2565 คือ ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จากสถานศึกษาทั้ง 8 สังกัดทั่วประเทศ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ และสถานศึกษาในสังกัดอื่นๆ ที่จัดการศึกษาระดับประถมศึกษา
สิ่งที่น่าสนใจคือ การประเมิน RT ดำเนินการตามความสมัครใจของสถานศึกษา ไม่มีการบังคับให้โรงเรียนทุกแห่งต้องเข้าร่วม แนวคิดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจว่าการประเมินครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนา ไม่ใช่เพื่อการจัดอันดับหรือการตัดสิน ดังนั้น โรงเรียนที่เห็นความสำคัญและต้องการนำผลการประเมินไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนจึงสามารถสมัครเข้าร่วมได้ตามความพร้อมและความต้องการของตนเอง
ตารางเวลาการดำเนินการประเมิน
การประเมิน RT ปีการศึกษา 2565 ได้กำหนดตารางเวลาการดำเนินงานไว้อย่างชัดเจน โดยกำหนดจัดสอบในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 การกำหนดเวลาในช่วงนี้มีเหตุผลสำคัญ เนื่องจากเป็นช่วงที่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ได้เรียนมาแล้วเกือบเต็มปีการศึกษา จึงสามารถวัดความสามารถที่สะสมมาได้อย่างเหมาะสม
การจัดสอบในวันดังกล่าวแบ่งออกเป็นสองส่วนตามลักษณะของทักษะที่ประเมิน ส่วนแรกคือ การอ่านรู้เรื่อง ซึ่งใช้เวลาในการทำข้อสอบ 45 นาที นักเรียนจะต้องทำแบบทดสอบที่ประกอบด้วยคำถามหลายรูปแบบ ทั้งการจับคู่ การเขียนตอบสั้น และการเลือกตอบ ส่วนที่สองคือ การอ่านออกเสียง ซึ่งเป็นการประเมินแบบตัวต่อตัว โดยนักเรียนแต่ละคนจะใช้เวลาประมาณ 10 นาทีในการอ่านออกเสียงต่อหน้ากรรมการ
หลังจากการจัดสอบเสร็จสิ้น ผลการประเมินจะได้รับการประมวลผลและวิเคราะห์อย่างละเอียด ก่อนที่จะประกาศผลในวันที่ 5 เมษายน 2566 ซึ่งห่างจากวันสอบประมาณหนึ่งเดือนครึ่ง ระยะเวลานี้ใช้ในการตรวจให้คะแนน ป้อนข้อมูลเข้าระบบ ประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลให้มีความถูกต้องและครบถ้วน เพื่อให้ผลการประเมินมีคุณภาพและนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
โครงสร้างและเครื่องมือการประเมิน
เครื่องมือการประเมิน RT ได้รับการออกแบบมาอย่างรอบคอบเพื่อให้สามารถวัดความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนได้อย่างครอบคลุมและแม่นยำ โครงสร้างของแบบทดสอบประกอบด้วยข้อสอบทั้งหมด 51 ข้อ แบ่งออกเป็นสองส่วนหลักตามทักษะที่ต้องการวัด
ส่วนแรกคือ การอ่านออกเสียง ซึ่งประกอบด้วยคำจำนวน 20 คำ และข้อความจำนวน 1 ข้อความ คำที่ใช้ในการทดสอบเป็นคำที่อยู่ในวงคำศัพท์ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่เด็กควรรู้จักและสามารถอ่านออกได้ เช่น คำที่ใช้ในชีวิตประจำวัน คำที่พบเห็นบ่อยในตำราเรียน หรือคำที่มีความหมายสำคัญต่อการสื่อสารพื้นฐาน การอ่านออกเสียงนี้จะประเมินโดยวิธีการให้นักเรียนอ่านต่อหน้ากรรมการ โดยกรรมการจะสังเกตและบันทึกผลการอ่านของนักเรียนแต่ละคน
ส่วนที่สองคือ การอ่านรู้เรื่อง ซึ่งมีโครงสร้างที่ซับซ้อนและหลากหลายมากขึ้น ประกอบด้วยคำจำนวน 10 ข้อ การเล่าเรื่องจำนวน 5 ข้อ ประโยคจำนวน 10 ข้อ และข้อความจำนวน 5 ข้อ รวมทั้งหมด 30 ข้อ ข้อสอบในส่วนนี้มีรูปแบบที่หลากหลาย ได้แก่ แบบจับคู่ ซึ่งให้นักเรียนเชื่อมโยงคำหรือข้อความที่มีความหมายสัมพันธ์กัน แบบเขียนตอบสั้น ที่ให้นักเรียนเขียนคำตอบด้วยตนเองเป็นคำหรือวลีสั้นๆ และแบบเลือกตอบ ที่นักเรียนต้องเลือกคำตอบที่ถูกต้องจากตัวเลือกที่กำหนดให้
การออกแบบข้อสอบในลักษณะนี้ช่วยให้สามารถวัดความสามารถด้านการอ่านรู้เรื่องได้อย่างรอบด้าน ตั้งแต่ระดับพื้นฐานที่สุดคือการรู้จักคำและความหมายของคำ ไปจนถึงระดับที่สูงขึ้นคือการเข้าใจเนื้อหาของประโยคและข้อความ การจับใจความสำคัญ การตอบคำถามจากเรื่องที่อ่าน และการแปลความหมายจากภาพประกอบ
แบบทดสอบทั้งหมดแบ่งออกเป็น 2 ฉบับ ได้แก่ ฉบับที่ 1 การอ่านรู้เรื่อง ซึ่งเป็นแบบทดสอบที่นักเรียนทำในห้องสอบเป็นกลุ่ม และฉบับที่ 2 การอ่านออกเสียง ซึ่งเป็นการประเมินแบบปฏิบัติจริงที่ต้องทำเป็นรายบุคคล การแยกแบบทดสอบออกเป็นสองฉบับเช่นนี้ช่วยให้การจัดการสอบมีประสิทธิภาพและสามารถประเมินทั้งสองทักษะได้อย่างเหมาะสมตามลักษณะของแต่ละทักษะ
การแปลผลและระดับความสามารถ
ผลการประเมิน RT จะถูกแปลความหมายออกเป็นระดับความสามารถ 4 ระดับ เพื่อให้ครูและผู้ปกครองสามารถเข้าใจได้ง่ายว่านักเรียนมีความสามารถด้านการอ่านอยู่ในระดับใด และควรได้รับการพัฒนาในลักษณะใด เกณฑ์การแบ่งระดับความสามารถมีดังนี้
ระดับดีมาก หมายถึง นักเรียนที่ได้คะแนนร้อยละ 75 ขึ้นไป นักเรียนในระดับนี้แสดงให้เห็นว่ามีความสามารถด้านการอ่านที่ดีเยี่ยม สามารถอ่านออกเสียงได้คล่องแคล่วและถูกต้อง รวมทั้งอ่านรู้เรื่องได้เป็นอย่างดี สามารถตอบคำถามจากเรื่องที่อ่านได้อย่างครบถ้วนและถูกต้อง นักเรียนกลุ่มนี้มีรากฐานการอ่านที่มั่นคงและพร้อมที่จะพัฒนาทักษะการอ่านในระดับที่สูงขึ้นต่อไป
ระดับดี หมายถึง นักเรียนที่ได้คะแนนร้อยละ 50 แต่น้อยกว่าร้อยละ 75 นักเรียนในระดับนี้มีความสามารถด้านการอ่านที่อยู่ในเกณฑ์ดี สามารถอ่านออกเสียงและอ่านรู้เรื่องได้แต่อาจมีบางจุดที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม อาจมีคำยากบางคำที่ยังอ่านไม่ได้หรือเข้าใจความหมายไม่ชัดเจน แต่โดยรวมแล้วมีทักษะการอ่านที่เพียงพอสำหรับการเรียนรู้ในระดับชั้นของตน
ระดับพอใช้ หมายถึง นักเรียนที่ได้คะแนนร้อยละ 25 แต่น้อยกว่าร้อยละ 50 นักเรียนในระดับนี้มีความสามารถด้านการอ่านที่อยู่ในระดับพื้นฐาน อาจอ่านออกเสียงได้แต่ยังไม่คล่อง หรืออ่านรู้เรื่องได้บางส่วนแต่ยังไม่สามารถจับใจความสำคัญหรือตอบคำถามได้อย่างครบถ้วน นักเรียนกลุ่มนี้ต้องการการดูแลและพัฒนาเป็นพิเศษเพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านให้แข็งแกร่งขึ้น
ระดับปรับปรุง หมายถึง นักเรียนที่ได้คะแนนต่ำกว่าร้อยละ 25 นักเรียนในระดับนี้ยังมีความสามารถด้านการอ่านที่อยู่ในระดับที่ต้องปรับปรุงและพัฒนาอย่างเร่งด่วน อาจยังอ่านออกเสียงไม่ได้หรืออ่านได้แต่ยังไม่เข้าใจความหมาย นักเรียนกลุ่มนี้จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือและพัฒนาอย่างเข้มข้น โดยอาจต้องมีแผนการสอนเสริมหรือการดูแลเป็นพิเศษเพื่อให้นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะการอ่านให้ทันเพื่อนในชั้นเรียน
กำหนดการบริหารจัดการที่ละเอียดรอบคอบ
การจัดการประเมิน RT เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องอาศัยการวางแผนและการประสานงานอย่างรอบคอบ โดยมีกำหนดการดำเนินงานที่ชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดโครงการ ซึ่งใช้เวลาเกือบหนึ่งปีเต็มในการดำเนินการ
ขั้นตอนแรกคือการสร้างแบบประเมิน ซึ่งดำเนินการตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 ถึงเดือนมกราคม 2566 ระยะเวลาเกือบ 10 เดือนนี้ใช้ในการออกแบบข้อสอบ ตรวจสอบคุณภาพ ทดสอบภาคสนาม และปรับปรุงแก้ไขจนได้ข้อสอบที่มีคุณภาพและเหมาะสมสำหรับการวัดความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ตามมาด้วยการแต่งตั้งคณะกรรมการในระดับต่างๆ เพื่อรับผิดชอบการดำเนินงานในแต่ละพื้นที่ การมีคณะกรรมการที่มีความรู้ความเข้าใจในการประเมินและมีความรับผิดชอบเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การประเมินเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
ในเดือนตุลาคม 2565 ได้มีการเผยแพร่ Test Blueprint หรือพิมพ์เขียวของแบบทดสอบ เอกสารนี้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้างของแบบทดสอบ ประเภทของคำถาม สัดส่วนของเนื้อหาแต่ละส่วน และเกณฑ์การให้คะแนน การเผยแพร่ Test Blueprint เป็นการเปิดเผยข้อมูลให้โรงเรียนและครูทราบล่วงหน้า เพื่อให้สามารถเตรียมความพร้อมของนักเรียนได้อย่างเหมาะสม
โรงเรียนที่ต้องการเข้าร่วมการประเมินต้องขอไฟล์เครื่องมือภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2565 หลังจากนั้นจะมีการประชุมชี้แจงเพื่ออธิบายรายละเอียดและตอบข้อสงสัยต่างๆ ให้กับโรงเรียนที่เข้าร่วม
ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม 2565 โรงเรียนต้องดำเนินการนำเข้าข้อมูลนักเรียนเข้าสู่ระบบ NT Access ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในการจัดการข้อมูลการประเมิน ข้อมูลที่ต้องบันทึกรวมถึงชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน และข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็น การบันทึกข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การประมวลผลและการรายงานผลเป็นไปอย่างถูกต้อง
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นวันที่มีการจัดส่งคู่มือและข้อสอบไปยังศูนย์สอบและสนามสอบทั่วประเทศ การจัดส่งเอกสารล่วงหน้าประมาณ 3 สัปดาห์ก่อนวันสอบช่วยให้โรงเรียนมีเวลาเพียงพอในการเตรียมความพร้อม จัดเตรียมสถานที่ และศึกษาคู่มือการปฏิบัติงานอย่างละเอียด
การจัดสอบดำเนินการในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 ตามที่กำหนดไว้ หลังจากการจัดสอบเสร็จสิ้น โรงเรียนต้องดำเนินการตรวจข้อสอบและให้คะแนนตามเกณฑ์ที่กำหนด จากนั้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม 2566 จะเป็นระยะเวลาในการนำเข้าผลคะแนนเข้าสู่ระบบ NT Access โรงเรียนต้องบันทึกคะแนนของนักเรียนแต่ละคนอย่างถูกต้องและครบถ้วน
ในเดือนเมษายน 2566 สำนักทดสอบทางการศึกษาจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลที่ได้รับจากโรงเรียนทั่วประเทศ มีการตรวจสอบความถูกต้อง วิเคราะห์ข้อมูล และจัดทำรายงานผลการประเมิน ก่อนที่จะประกาศผลในวันที่ 5 เมษายน 2566 ซึ่งเป็นวันที่โรงเรียนและผู้ปกครองจะได้ทราบผลการประเมินของนักเรียนอย่างเป็นทางการ
สรุปรายละเอียดเป็นรูปภาพได้ดังนี้ครับ





















ขอแนะนำไฟล์ คู่มือRTชั้นป.1ปีการศึกษา2565
เป็นไฟล์ PDF