สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิกทุกท่านครับ วันนี้ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ขอนำเสนอ ทำแบบทดสอบรับเกียรติบัตร ขอเชิญคุณครูและผู้สนใจทุกท่าน ทำแบบทดสอบออนไลน์ แบบทดสอบออนไลน์ การทดสอบความรู้ “มารยาทและวัฒนธรรมไทย” ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด รับเกียรติบัตรทาง E-mail จัดทำโดย งานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม โรงเรียนหนองม่วงวิทยา
ทำแบบทดสอบรับเกียรติบัตร ขอเชิญคุณครูและผู้สนใจทุกท่าน ทำแบบทดสอบออนไลน์ แบบทดสอบออนไลน์ การทดสอบความรู้ “มารยาทและวัฒนธรรมไทย” ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด รับเกียรติบัตรทาง E-mail จัดทำโดย งานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม โรงเรียนหนองม่วงวิทยา

มารยาทและวัฒนธรรมไทย เสน่ห์แห่งความเป็นไทยที่หาไม่ได้จากที่ไหน
ประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งรอยยิ้มและความอบอุ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้านมารยาทและวัฒนธรรมที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษนับพันปี มารยาทไทยไม่เพียงแต่เป็นการแสดงออกทางกิริยาท่าทางเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงปรัชญาชีวิตและค่านิยมที่ลึกซึ้งของคนไทย ซึ่งเน้นความเคารพ ความอ่อนน้อมถ่อมตน และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข วัฒนธรรมไทยผสมผสานระหว่างความเป็นตะวันออกที่เน้นการให้เกียรติผู้ใหญ่ กับความเป็นชาติพุทธที่มีความเมตตา กรุณา และการให้อภัย เป็นหลักในการดำเนินชีวิต
การศึกษาและทำความเข้าใจมารยาทไทยจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งไม่เพียงสำหรับชาวไทยเองเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการเข้าใจและเข้าถึงหัวใจของสังคมไทย มารยาทและวัฒนธรรมไทยเป็นเสมือนกุญแจสำคัญที่จะช่วยเปิดประตูสู่ความเข้าใจที่แท้จริงของความเป็นไทย และเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและยั่งยืนกับคนไทย ทั้งในแง่ของการทำธุรกิจ การทำงาน และการอยู่ร่วมกันในสังคม
รากฐานทางประวัติศาสตร์ของมารยาทไทย
มารยาทและวัฒนธรรมไทยมีรากฐานที่มาจากแหล่งที่มาหลากหลายและได้รับการสั่งสมมาเป็นเวลานานหลายศตวรรษ อิทธิพลสำคัญแรกมาจากศาสนาพุทธที่เผยแพร่เข้ามาสู่ดินแดนไทยตั้งแต่สมัยโบราณ หลักธรรมของศาสนาพุทธที่เน้นเรื่องกรรม ความเมตตา กรุณา และการไม่ทำร้ายผู้อื่น ได้หลอมรวมเข้ากับความเชื่อและวิถีชีวิตของคนไทยจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของมารยาทในการปฏิบัติต่อกันและกัน การให้ความเคารพต่อพระภิกษุสงฆ์ การทำบุญ และการประพฤติตนตามหลักศีลธรรม ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่หล่อหลอมมารยาทไทยให้มีความอ่อนโยนและเน้นการไม่ทำให้ใครเดือดร้อน
อิทธิพลที่สองที่สำคัญมาจากระบบราชการและวัฒนธรรมราชสำนักที่ได้รับแรงบันดาลใจจากจีน อินเดีย และเขมร ระบบลำดับชั้นและการให้เกียรติผู้ที่มีตำแหน่งสูงกว่า รวมถึงมารยาทในการเข้าเฝ้าพระมหากษัตริย์และเจ้านาย ได้กลายเป็นแบบแผนที่ขยายออกไปสู่สังคมทั่วไป การไหว้ การพูดจาด้วยภาษาที่สุภาพ และการแสดงความเคารพด้วยกิริยาท่าทางที่เหมาะสม ล้วนมีต้นกำเนิดมาจากประเพณีราชสำนักเหล่านี้
วัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวไทยต่างภูมิภาคก็มีส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์มารยาทไทยให้มีความหลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ ประเพณีการเลี้ยงดูบุตรหลานที่เน้นการสอนให้เด็กมีความกตัญญูต่อพ่อแม่ การให้เกียรติผู้อาวุโส และการเป็นคนดีมีคุณธรรม เป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้มารยาทไทยมีความลึกซึ้งและถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ขนบธรรมเนียมประเพณีในการแต่งงาน การจัดงานศพ และการเฉลิมฉลองเทศกาลต่างๆ ล้วนมีกฎเกณฑ์ด้านมารยาทที่เป็นเอกลักษณ์และสะท้อนความเป็นไทย
การผสมผสานของอิทธิพลเหล่านี้ทำให้มารยาทไทยมีลักษณะที่ซับซ้อนและมีความลึก โดยเฉพาะในเรื่องของการรักษาหน้าตาของตนเองและผู้อื่น การหลีกเลี่ยงการปะทะกันโดยตรง และการใช้ภาษาพูดที่อ้อมค้อมเพื่อไม่ให้ใครรู้สึกอับอาย แนวคิดเรื่อง “หน้า” และ “เกรงใจ” จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของมารยาทไทยที่ทำให้การอยู่ร่วมกันของคนไทยมีความสงบสุขและมั่นคง แม้ในสถานการณ์ที่อาจจะมีความขัดแย้งหรือไม่เห็นด้วยกันในบางเรื่อง
ศิลปะการไหว้ แก่นแท้ของความเป็นไทย
การไหว้เป็นมารยาทไทยที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก แต่ความหมายและความซับซ้อนของการไหว้นั้นลึกซึ้งกว่าที่หลายคนเข้าใจ การไหว้ไม่ได้เป็นเพียงการทักทายธรรมดาๆ เท่านั้น แต่เป็นการแสดงออกทางจิตวิญญาณที่สะท้อนความเคารพ ความอ่อนน้อมถ่อมตน และการยอมรับสถานะทางสังคมของแต่ละบุคคล ระดับของการไหว้จะแตกต่างกันไปตามอายุ ตำแหน่ง และความสัมพันธ์ระหว่างผู้ไหว้และผู้รับไหว้ โดยผู้ที่อายุน้อยกว่าหรือมีสถานะทางสังคมต่ำกว่าจะต้องไหว้ก่อน และไหว้ในระดับที่สูงกว่า
การไหว้มีหลายระดับที่ต้องเรียนรู้และเข้าใจ การไหว้แบบธรรมดาที่ใช้ในการทักทายเพื่อนฝูงจะวางมือประนมที่หน้าอก และโค้งหัวเล็กน้อย ส่วนการไหว้ผู้ใหญ่จะวางมือประนมสูงขึ้นมาที่ใต้คาง และโค้งหัวลึกกว่า การไหว้พระภิกษุสงฆ์ ครูบาอาจารย์ หรือผู้ที่เคารพนับถือจะวางมือประนมที่หน้าผาก และโค้งหัวต่ำ ส่วนการไหว้พระพุทธรูป พระบรมรูปในหลวง หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะต้องคุกเข่าลง วางมือประนมที่เหนือหัว และกราบหัวลงถึงพื้น
ความประณีตของการไหว้ยังอยู่ที่การรู้จักเวลาและสถานการณ์ที่เหมาะสม การไหว้ในงานสังสรรค์ทั่วไปจะแตกต่างจากการไหว้ในโอกาสที่เป็นทางการ การไหว้เมื่อพบกันครั้งแรกในวันจะแตกต่างจากการไหว้ตอนจากลา และการไหว้เมื่ออยู่ในที่สาธารณะจะต้องคำนึงถึงผู้คนรอบข้างด้วย ดังนั้น การเรียนรู้ศิลปะการไหว้จึงต้องอาศัยการสังเกต การฝึกฝน และความเข้าใจในบริบททางสังคมและวัฒนธรรมไทยอย่างลึกซึ้ง
การไหว้ยังมีความหมายทางจิตใจที่สำคัญ เมื่อคนไทยไหว้ จิตใจจะสงบและเต็มไปด้วยความเมตตา ความอ่อนน้อมถ่อมตน และความปรารถนาดีต่อผู้ที่ได้รับการไหว้ นี่คือเหตุผลที่การไหว้ไทยไม่เพียงแต่เป็นการแสดงมารยาทเท่านั้น แต่ยังเป็นการปฏิบัติทางจิตวิญญาณที่ช่วยสร้างสันติภาพในใจและความสามัคคีในสังคม การสอนลูกหลานให้รู้จักไหว้อย่างถูกต้องจึงเป็นการปลูกฝังคุณธรรมและการให้เกียรติผู้อื่นตั้งแต่อายุยังน้อย
ภาษาไทยกับมารยาทในการสื่อสาร
ภาษาไทยเป็นภาษาที่มีระดับความสุภาพและมารยาทที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนมาก การใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้องตามมารยาทต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยพร้อมกัน ได้แก่ อายุ เพศ สถานะทางสังคม ความสนิทสนม และบริบทของการสนทนา คำสรรพนามที่ใช้เรียกตนเองและผู้อื่นจะแตกต่างกันไปตามสถานการณ์ เช่น การใช้ “กระผม” และ “ดิฉัน” เมื่อพูดกับผู้ใหญ่ การใช้ “เรา” และ “ฉัน” เมื่อพูดกับเพื่อน และการใช้ “หนู” เมื่อเด็กพูดกับผู้ใหญ่ ส่วนการเรียกผู้อื่นก็มีรูปแบบที่หลากหลาย ตั้งแต่ “คุณ” “ท่าน” “เธอ” ไปจนถึงการใช้ชื่อหรือคำเรียกแทนต่างๆ
การใช้คำขอบคุณและขอโทษในภาษาไทยก็มีความซับซ้อนเช่นกัน “ขอบคุณ” “ขอบใจ” “ขอบพระคุณ” แต่ละคำมีน้ำหนักและความเหมาะสมที่แตกต่างกัน ส่วนการขอโทษก็มีตั้งแต่ “ขอโทษ” “ประทานโทษ” “ขออภัย” ไปจนถึง “ขอรับผิด” แต่ละคำจะใช้ในสถานการณ์ที่เหมาะสมแตกต่างกัน และมีระดับความอ่อนน้อมถ่อมตนที่ไม่เท่ากัน การเรียนรู้และใช้คำเหล่านี้อย่างถูกต้องจึงเป็นศิลปะที่ต้องฝึกฝนและทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้
คำราชาศัพท์เป็นอีกหนึ่งความพิเศษของภาษาไทยที่สะท้อนความเคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และบุคคลที่มีสถานะสูง การใช้คำราชาศัพท์ต้องทำด้วยความระมัดระวังและความรู้ที่ถูกต้อง เพราะหากใช้ผิดจะเป็นการไม่เหมาะสมและอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด คำราชาศัพท์ที่ใช้กับพระมหากษัตริย์จะแตกต่างจากที่ใช้กับพระสงฆ์ และแตกต่างจากที่ใช้กับบุคคลทั่วไปที่เราต้องการแสดงความเคารพ
การใช้ภาษาไทยที่มีมารยาทยังรวมถึงการเลือกใช้คำที่เหมาะสมกับบุคลิกของผู้พูดและผู้ฟัง การหลีกเลี่ยงคำหยาบคาย การใช้คำสุภาพแทนคำที่อาจจะทำให้ผู้ฟังรู้สึกไม่สบายใจ และการปรับระดับภาษาให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เช่น การใช้ภาษาทางการในที่ประชุม การใช้ภาษาสนิทสนมในหมู่เพื่อน และการใช้ภาษาเป็นกันเองในครอบครัว ความสามารถในการปรับภาษาให้เหมาสมกับสถานการณ์นี้เป็นสิ่งที่คนไทยเรียนรู้มาตั้งแต่เด็กและเป็นหนึ่งในลักษณะเฉพาะของวัฒนธรรมการสื่อสารของไทย
กิริยามารยาทในชีวิตประจำวัน
กิริยามารยาทของคนไทยในชีวิตประจำวันมีความละเอียดอ่อนและเต็มไปด้วยความใส่ใจต่อผู้อื่น การเดินในที่สาธารณะ คนไทยจะพยายามไม่ให้รบกวนผู้อื่น ไม่พูดเสียงดัง และแสดงความเคารพต่อผู้ที่มีอายุมากกว่า การให้ที่นั่งในรถโดยสารสาธารณะแก่ผู้สูงอายุ หญิงมีครรภ์ และผู้พิการ เป็นมารยาทที่คนไทยถือปฏิบัติกันมาอย่างยาวนาน การเปิดประตูให้ผู้อื่น การยื่นของให้ด้วยมือขวา และการหลีกเลี่ยงการชี้หรือโบกมือไปที่บุคคลอื่น ล้วนเป็นกิริยามารยาทพื้นฐานที่คนไทยปฏิบัติโดยไม่ต้องคิด
การรับประทานอาหารร่วมกันเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่มารยาทไทยปรากฏชัดเจน การรออาหารครบทุกจานก่อนเริ่มรับประทาน การเสิร์ฟอาหารให้ผู้ใหญ่หรือแขกที่มาเยือนก่อน การไม่คีบอาหารจานสุดท้ายโดยไม่ถาม การไม่ทำเสียงดังขณะเคี้ยว และการไม่วิจารณ์อาหารหากไม่อร่อย เป็นมารยาทที่แสดงถึงความมีสัมมาคารวะและการให้เกียรติผู้อื่น การเลี้ยงข้าวผู้อื่นเป็นวัฒนธรรมไทยที่สวยงาม ซึ่งสะท้อนความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และความปรารถนาที่จะแบ่งปันความสุขกับผู้อื่น
การเข้าบ้านของผู้อื่นต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าไป นั่งให้เหมาะสมไม่ชี้เท้าใส่คน และรอให้เจ้าบ้านเชิญก่อนจึงจะลุกขึ้นหรือเดินไปไหน การเป็นแขกที่ดีในบ้านคนไทยยังรวมถึงการไม่ค้นข้าวของของเจ้าบ้าน การไม่เข้าไปในห้องส่วนตัวโดยไม่ได้รับเชิญ และการแสดงความขอบคุณด้วยคำพูดและท่าทีที่สุภาพ หากเป็นการไปเยี่ยมครั้งแรกหรือในโอกาสพิเศษ การนำของฝากที่เหมาะสมไปให้เจ้าบ้านเป็นมารยาทที่แสดงถึงความมีน้ำใจ
การซื้อของในตลาดหรือร้านค้าเป็นอีกสถานการณ์ที่มารยาทไทยปรากฏ การต่อรองราคาต้องทำด้วยความสุภาพและรอยยิ้ม ไม่แสดงท่าทีแข็งกร้าวหรือดูถูกเหยียดหยาม การรับเงินทอนและการมอบเงินควรทำด้วยมือขวาหรือสองมือ และการกล่าวขอบคุณแม้ในการซื้อของเล็กน้อย เป็นมารยาทที่ทำให้การค้าขายเป็นไปด้วยความอบอุ่นและมีมิตรภาพ การเคารพในสิทธิของผู้อื่นในการเลือกซื้อ การไม่แย่งคิว และการช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในการหยิบของหรือขนของ เป็นกิริยามารยาทที่สร้างสังคมที่น่าอยู่
ประเพณีและพิธีกรรมที่สะท้อนวัฒนธรรมไทย
ประเพณีไทยมีความหลากหลายและสวยงาม โดยแต่ละประเพณีล้วนสะท้อนคุณค่าและความเชื่อที่สำคัญของสังคมไทย ประเพณีสงกรานต์เป็นเทศกาลแห่งการให้อภัยและการเริ่มต้นใหม่ การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่เป็นการแสดงความเคารพและขอพรจากผู้ที่มีอายุมากกว่า การปล่อยนกปล่อยปลาเป็นการทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล และการทำความสะอาดบ้านเรือนเป็นการเตรียมใจให้พร้อมสำหรับปีใหม่ ประเพณีสงกรานต์จึงไม่ได้เป็นเพียงการเล่นน้ำเท่านั้น แต่เป็นการรวมตัวของครอบครัวและชุมชนเพื่อแสดงความรักและความผูกพันต่อกัน
ประเพณีลอยกระทงเป็นอีกหนึ่งประเพณีที่สะท้อนความเชื่อและค่านิยมไทย การลอยกระทงในคืนเพ็นเดือนสิบสองเป็นการขอขมาต่อพระแม่คงคาที่คนไทยได้ใช้น้ำและทำให้น้ำสกปรก การตกแต่งกระทงด้วยใบตอง ดอกไม้ เทียน และธูป เป็นศิลปะที่แสดงถึงความละเอียดอ่อนและความรักในความงาม การอธิษฐานขอสิ่งที่ดีงามและการสำนึกผิดต่อสิ่งที่ได้ทำผิดพลาดมา ทำให้ประเพณีลอยกระทงเป็นช่วงเวลาแห่งการไตร่ตรองและการชำระล้างจิตใจ
ประเพณีแห่เทียนพรรษาและเข้าพรรษาเป็นประเพณีที่เชื่อมโยงกับศาสนาพุทธอย่างใกล้ชิด การแกะสลักเทียนพรรษาที่งดงามเป็นศิลปะที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน การออกบิณฑบาตในตอนเช้าและการฟังธรรมในตอนเย็นเป็นกิจกรรมที่ทำให้จิตใจสงบและได้รับการศึกษาธรรมะ
คำชี้แจง แบบทดสอบออนไลน์ การทดสอบความรู้ “มารยาทและวัฒนธรรมไทย”
ทำแบบทดสอบรับเกียรติบัตร
ขอเชิญคุณครูและผู้สนใจทุกท่าน
ทำแบบทดสอบออนไลน์
แบบทดสอบออนไลน์
การทดสอบความรู้ “มารยาทและวัฒนธรรมไทย”
ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด รับเกียรติบัตรทาง E-mail
จัดทำโดย งานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม โรงเรียนหนองม่วงวิทยา
การทดสอบความรู้ “มารยาทและวัฒนธรรมไทย”
ในกิจกรรมอบรมนักเรียนต้นแบบมารยาทไทย ประจำปีการศึกษา 2565
โดยงานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม โรงเรียนหนองม่วงวิทยา
หมายเหตุ
1. ระบบเต็มหรือจำกัดจำนวนต่อวัน แนะนำให้ทำช่วงเช้า
2. ใส่อีเมล์ผิดต้องใช้ gmail เท่านั้น
3. คะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
4. ต้องใช้เวลาในการตอบกลับอีเมล์ อาจนานถึง 1 วัน
5. อาจอยู่ในเมล์ขยะ
6. บางเพจจำกัด gmail และให้ทำได้เพียงครั้งเดียว
7. บางเกียรติบัตรไม่ส่งทางอีเมล์ต้องดาวน์โหลดจากเว็บไซต์
ตัวอย่างเกียรติบัตร แบบทดสอบออนไลน์ การทดสอบความรู้ “มารยาทและวัฒนธรรมไทย”
