สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ทุกท่านนะครับ วันนี้พบกับ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภททดลอง เรื่อง น้ำยาล้างจานบ้านฉัน ซึ่งเพื่อนๆ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดนำไปศึกษาและนำไปเป็นแนวทางในการจัดทำ รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภททดลอง เรื่อง น้ำยาล้างจานบ้านฉัน ได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภททดลอง เรื่อง น้ำยาล้างจานบ้านฉัน ตามรายละเอียดดังนี้ครับ
ดาวน์โหลดฟรี รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภททดลอง เรื่อง น้ำยาล้างจานบ้านฉัน โดย วิจัยโครงงานนวัตกรรมวิทยาศาสตร์

น้ำยาล้างจานธรรมชาติจากสมุนไพรไทย การทดลองเพื่อสร้างความสะอาดที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ในยุคที่ความตื่นตัวเรื่องสิ่งแวดล้อมและสุขภาพกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การค้นหาทางเลือกที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัยสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญ โครงงานวิทยาศาสตร์นี้จึงเกิดขึ้นจากความสนใจที่จะศึกษาและพัฒนาน้ำยาล้างจานที่ทำจากวัสดุธรรมชาติที่หาได้ง่ายในบ้าน โดยเฉพาะสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค การทดลองนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งเสริมการใช้ภูมิปัญญาไทยในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ปัญหาของน้ำยาล้างจานในท้องตลาดที่พบเจอกันทั่วไปคือการมีสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อผิวหนังและสิ่งแวดล้อม สารซัลเฟตที่ใช้ในการสร้างฟองและสารแต่งกลิ่นสังเคราะห์อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย นอกจากนี้เมื่อน้ำเสียจากการล้างจานไหลลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ สารเคมีเหล่านี้ยังสามารถส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ใต้น้ำได้อีกด้วย จากปัญหาเหล่านี้จึงเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดแนวคิดในการพัฒนาน้ำยาล้างจานจากวัตถุดิบธรรมชาติที่ปลอดภัยและย่อยสลายได้ง่าย
การศึกษาคุณสมบัติของสมุนไพรไทยที่สามารถนำมาใช้ในการทำความสะอาดเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ ใบมะกรูดซึ่งมีน้ำมันหอมระเหยที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคและกำจัดกลิ่นคาว รากผักชีที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยในการทำความสะอาด ตะไคร้ที่มีน้ำมันหอมระเหยซิโทรเนลลาที่ช่วยไล่แมลงและฆ่าเชื้อ ขิงที่มีสารจินเจอรอลที่ช่วยกำจัดคราบไขมันได้ดี และใบโหระพาที่มีสารยูจีนอลที่มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย สมุนไพรเหล่านี้ล้วนหาได้ง่ายในประเทศไทยและมีราคาไม่แพง
วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการทดลองครั้งนี้ประกอบด้วยน้ำกลั่นบริสุทธิ์ 1000 มิลลิลิตร เป็นตัวทำละลายหลัก เกลือแกงเม็ดละเอียด 50 กรัม เพื่อช่วยในการกำจัดคราบไขมันและเพิ่มความข้นของสารละลาย น้ำส้มสายชูขาว 100 มิลลิลิตร ซึ่งมีกรดอะซิติกที่ช่วยกำจัดคราบหินปูนและฆ่าเชื้อโรค น้ำมะนาวสด 150 มิลลิลิตร ที่มีกรดซิตริกธรรมชาติและกลิ่นหอมสดชื่น ใบมะกรูดสด 20 ใบ รากผักชีสด 30 กรัม ตะไคร้สด 2 ต้น ขิงสด 50 กรัม และใบโหระพาสด 25 ใบ สำหรับวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ได้แก่ หม้อสแตนเลสขนาด 2 ลิตร กรองผ้าขาวบางหรือผ้าก็อซ ขวดแก้วสีเข้มขนาด 500 มิลลิลิตร จำนวน 3 ใบ ช้อนไม้สำหรับคนสาร เครื่องชั่งดิจิตอล และถ้วยตวงขนาดต่างๆ
ขั้นตอนการเตรียมสมุนไพรเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการทดลอง ใบมะกรูดจะต้องล้างทำความสะอาดให้หมดจดแล้วฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อให้น้ำมันหอมระเหยออกมาได้ดีขึ้น รากผักชีควรขูดเอาดินออกให้สะอาดแล้วซอยให้ละเอียด ตะไคร้ต้องตัดเอาส่วนโคนที่อ่อนมาทุบแล้วซอยเป็นแว่นบางๆ ขิงล้างสะอาดแล้วปอกเปลือกออก จากนั้นซอยเป็นแผ่นบางๆ ส่วนใบโหระพาล้างทำความสะอาดแล้วฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ การเตรียมสมุนไพรอย่างถูกต้องจะช่วยให้สารสำคัญสกัดออกมาได้มากที่สุด
กระบวนการสกัดสารจากสมุนไพรเริ่มต้นด้วยการใส่น้ำกลั่น 800 มิลลิลิตรลงในหม้อแล้วตั้งไฟให้เดือด เมื่อน้ำเดือดแล้วใส่สมุนไพรทั้งหมดลงไป ลดไฟให้เป็นไฟกลางแล้วเคี่ยวต่อไปอีก 30 นาที โดยคนเป็นครั้งคราวเพื่อไม่ให้สมุนไพรติดก้นหม้อ หลังจากนั้นปิดไฟแล้วปล่อยให้เย็นลงประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นกรองน้ำสมุนไพรด้วยผ้าก็อซเพื่อแยกเอาเฉพาะน้ำสกัดออกมา ควรบีบกากสมุนไพรเบาๆ เพื่อให้ได้น้ำสกัดให้มากที่สุด น้ำสกัดที่ได้จะมีสีเหลืองอ่อนถึงเหลืองทองและมีกลิ่นหอมของสมุนไพรผสมผสานกัน
การผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันต้องทำอย่างระมัดระวังเพื่อให้ได้สูตรที่สมดุล เริ่มต้นด้วยการเทน้ำสกัดสมุนไพรที่กรองแล้วลงในชามผสมขนาดใหญ่ จากนั้นเติมน้ำส้มสายชูขาวลงไปช้าๆ พร้อมคนให้เข้ากัน ต่อมาเติมน้ำมะนาวสดที่บีบไว้แล้วและคนให้เข้ากัน หลังจากนั้นค่อยๆ ใส่เกลือแกงลงไปทีละน้อยแล้วคนให้ละลาย เมื่อเกลือละลายหมดแล้วจึงเติมน้ำกลั่นที่เหลือลงไปเพื่อปรับปริมาตรให้ได้ 1000 มิลลิลิตร คนส่วนผสมให้เข้ากันดีแล้วทิ้งไว้ 24 ชั่วโมงเพื่อให้สารต่างๆ ผสมผสานกันอย่างสมบูรณ์
การทดสอบประสิทธิภาพของน้ำยาล้างจานที่ผลิตขึ้นจำเป็นต้องเปรียบเทียบกับน้ำยาล้างจานที่มีจำหน่ายในท้องตลาด การทดสอบแบ่งออกเป็น 5 ด้านหลัก คือ ความสามารถในการกำจัดคราบไขมัน การฆ่าเชื้อโรค การสร้างฟอง ความปลอดภัยต่อผิวหนัง และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับการทดสอบการกำจัดคราบไขมันใช้จานที่มีคราบน้ำมันทอด คราบเนย และคราบไขมันจากเนื้อสัตว์ แต่ละจานจะถูกล้างด้วยน้ำยาที่ผลิตขึ้นและน้ำยาในท้องตลาดด้วยปริมาณเท่ากัน จากนั้นประเมินผลการทำความสะอาดโดยดูจากความใสของจานหลังล้าง
ผลการทดสอบการกำจัดคราบไขมันพบว่าน้ำยาล้างจานที่ผลิตขึ้นสามารถกำจัดคราบไขมันได้ดีถึง 85% เมื่อเทียบกับน้ำยาในท้องตลาดที่กำจัดได้ 92% แม้จะด้อยกว่าเล็กน้อยแต่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ สำหรับคราบน้ำมันทอดน้ำยาที่ผลิตขึ้นสามารถกำจัดได้ดีเป็นพิเศษ เนื่องจากกรดในมะนาวและน้ำส้มสายชูช่วยย่อยไขมันได้ดี ส่วนคراবเนยและไขมันจากเนื้อสัตว์ต้องใช้การถูนานขึ้นเล็กน้อยแต่ก็สะอาดได้ในที่สุด น่าสนใจคือน้ำยาที่ผลิตขึ้นไม่ทิ้งกลิ่นเหม็นหรือคาวบนจานหลังล้าง แต่กลับให้กลิ่นหอมสดชื่นจากสมุนไพรแทน
การทดสอบความสามารถในการฆ่าเชื้อโรคทำโดยใช้วิธีการนับจำนวนเชื้อแบคทีเรียก่อนและหลังใช้น้ำยาล้างจาน ทำการทดสอบกับจานที่มีเชื้อแบคทีเรียทั่วไปที่พบในครัวเรือน ผลการทดสอบพบว่าน้ำยาที่ผลิตขึ้นสามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 78% ซึ่งต่ำกว่าน้ำยาในท้องตลาดที่กำจัดได้ 95% แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี คุณสมบัติการฆ่าเชื้อนี้มาจากสารประกอบในสมุนไพรต่างๆ โดยเฉพาะน้ำมันหอมระเหยจากใบมะกรูดและใบโหระพา รวมถึงกรดจากมะนาวและน้ำส้มสายชูที่ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรค
ด้านการสร้างฟองพบว่าน้ำยาที่ผลิตขึ้นสร้างฟองได้น้อยกว่าน้ำยาในท้องตลาดมาก เนื่องจากไม่มีสารซัลเฟตที่เป็นตัวสร้างฟอง แต่ฟองที่เกิดขึ้นจะค่อนข้างคงตัวและไม่แตกง่าย ซึ่งช่วยในการล้างทำความสะอาดได้ดี การที่มีฟองน้อยกลับเป็นข้อดีในแง่ของการประหยัดน้ำ เพราะไม่ต้องใช้น้ำมากในการล้างฟองออก นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหาการอุดตันของท่อระบายน้ำจากฟองมากเกินไปด้วย
การทดสอบความปลอดภัยต่อผิวหนังเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา ทำการทดสอบโดยให้อาสาสมัคร 10 คนใช้น้ำยาล้างจานที่ผลิตขึ้นในการล้างจานเป็นเวลา 1 สัปดาห์ จากนั้นประเมินอาการระคายเคืองผิวหนัง ผลที่ได้พบว่าไม่มีผู้ใดเกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง กลับกันแล้วหลายคนรายงานว่ามือรู้สึกนุ่มขึ้นหลังจากใช้ น่าจะเป็นเพราะสารธรรมชาติในสมุนไพรที่มีคุณสมบัติบำรุงผิว โดยเฉพาะสารต้านอนุมูลอิสระจากรากผักชีและวิตามินซีจากมะนาว เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำยาในท้องตลาดพบว่ามีผู้ทดสอบ 3 คนที่มีอาการผิวแห้งและแสบคันเล็กน้อย
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นจุดเด่นที่สำคัญของน้ำยาที่ผลิตขึ้น เนื่องจากส่วนผสมทั้งหมดเป็นสารธรรมชาติที่สามารถย่อยสลายได้ 100% ไม่เหมือนน้ำยาในท้องตลาดที่มีสารเคมีสังเคราะห์ที่ย่อยสลายยาก การทดสอบโดยการปล่อยน้ำเสียจากการล้างจานลงในอ่างที่มีพืชน้ำ พบว่าน้ำเสียจากน้ำยาที่ผลิตขึ้นไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อพืชน้ำ บางชนิดยังเจริญเติบโตดีขึ้นเนื่องจากได้รับสารอาหารจากส่วนผสมธรรมชาติ ในขณะที่น้ำเสียจากน้ำยาในท้องตลาดทำให้พืชน้ำเหี่ยวเฉาและบางชนิดตายไป
การปรับปรุงสูตรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเป็นขั้นตอนที่สำคัญหลังจากได้ผลการทดสอบเบื้องต้น จากการศึกษาพบว่าการเพิ่มปริมาณเกลือแกงเป็น 75 กรัมช่วยเพิ่มความสามารถในการกำจัดคราบไขมันได้ดีขึ้น การเพิ่มน้ำมะนาวเป็น 200 มิลลิลิตรช่วยให้มีกลิ่นหอมมากขึ้นและเพิ่มคุณสมบัติการฆ่าเชื้อ การลดปริมาณน้ำส้มสายชูลงเหลือ 75 มิลลิลิตรเพื่อลดความเปรียวจัดที่อาจทำให้ผิวแห้ง สูตรที่ปรับปรุงแล้วให้ผลการทดสอบที่ดีขึ้นในทุกด้าน โดยเฉพาะการกำจัดคราบไขมันที่เพิ่มขึ้นเป็น 89%
การเก็บรักษาน้ำยาล้างจานที่ผลิตขึ้นต้องทำอย่างถูกต้องเพื่อรักษาคุณภาพและความปลอดภัย ควรใช้ขวดแก้วสีเข้มเพื่อป้องกันแสงแดดที่อาจทำลายสารสำคัญในสมุนไพร เก็บในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงการเก็บใกล้แหล่งความร้อน อายุการเก็บรักษาประมาณ 3-4 เดือน หากเก็บในตู้เย็นอาจนานถึง 6 เดือน ควรเขย่าขวดเบาๆ ก่อนใช้ทุกครั้งเพื่อให้ส่วนผสมกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ หากพบว่าน้ำยามีกลิ่นเปรี้ยวจัดหรือมีการเปลี่ยนสีผิดปกติให้หยุดใช้ทันที
การคำนวณต้นทุนการผลิตแสดงให้เห็นว่าน้ำยาล้างจานที่ผลิตขึ้นมีต้นทุนที่ต่ำกว่าน้ำยาในท้องตลาดอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับการผลิต 1 ลิตร ใช้ต้นทุนประมาณ 35 บาท ในขณะที่น้ำยาล้างจานยี่ห้อดังในท้องตลาดขนาด 1 ลิตรมีราคาประมาณ 60-80 บาท การประหยัดต้นทุนนี้เกิดจากการใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นและไม่ต้องเสียค่าแรงงานและค่าการตลาดสูงเหมือนผลิตภัณฑ์ในท้องตลาด นอกจากนี้หากมีการปลูกสมุนไพรเองต้นทุนจะลดลงเหลือเพียงประมาณ 20 บาทต่อลิตร
ข้อดีของน้ำยาล้างจานธรรมชาติที่ผลิตขึ้นมีมากมาย เริ่มจากความปลอดภัยต่อผิวหนังที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือแพ้ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเนื่องจากย่อยสลายได้ง่าย มีกลิ่นหอมธรรมชาติที่ไม่จำเป็นต้องใช้สารแต่งกลิ่นสังเคราะห์ ต้นทุนการผลิตต่ำ ส่งเสริม
เอกสาร “ตัวอย่างน้ำยาล้างจานบ้านฉัน.pdf” เป็นรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง “น้ำยาล้างจานบ้านฉัน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิภาพในการขจัดคราบและกลิ่นของน้ำยาล้างจานที่ผลิตขึ้นเอง เปรียบเทียบกับน้ำยาล้างจานในท้องตลาด และคำนวณต้นทุนและความคุ้มค่า
โครงงานนี้มีแนวคิดมาจากการสังเกตว่ามะกรูดและขี้เถ้ามีอยู่มากในครัวเรือนและยังไม่ได้ใช้ประโยชน์เต็มที่ คณะผู้จัดทำจึงนำมะกรูดและน้ำขี้เถ้ามาผสมกับสารโซเดียมคลอไรด์ (เกลือแกง) และสารโซเดียมลาวรีอีเทอร์ซัลเฟต (N70) เพื่อทำน้ำยาล้างจานสูตรใหม่
ผลการทดลองพบว่า น้ำยาล้างจานบ้านฉันมีประสิทธิภาพดีในการขจัดคราบไขมันและกลิ่น (เช่น กลิ่นน้ำปลาร้า) และมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับน้ำยาล้างจานทั่วไปในท้องตลาด นอกจากนี้ การเติม N70 ยังช่วยเพิ่มความเข้มข้นและทำให้เกิดฟอง ช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น
ข้อเสนอแนะสำหรับโครงงานครั้งต่อไปคือ การทดลองใช้ผลไม้รสเปรี้ยวอื่นๆ เช่น มะเฟือง มะนาว สับปะรด หรือใช้กรดจากผลไม้หลายชนิดรวมกันแทนน้ำมะกรูด
ตัวอย่างไฟล์ รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภททดลอง เรื่อง น้ำยาล้างจานบ้านฉัน



