สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิกทุกท่านครับ วันนี้ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ขอนำเสนอ อบรมออนไลน์ฟรี ขอเชิญผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสัมมนานวัตกรรมการบริหารและการจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active Learning and Administrative Innovation Symposium ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดย สพป.สมุทรปราการ เขต 1

อบรมออนไลน์ฟรี ขอเชิญผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสัมมนานวัตกรรมการบริหารและการจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active Learning and Administrative Innovation Symposium ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

ขอเชิญผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสัมมนานวัตกรรมการบริหารและการจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active Learning and Administrative Innovation Symposium

งานสัมมนานวัตกรรมการบริหารและการจัดการเรียนรู้เชิงรุก กับการปฏิวัติการศึกษาไทยในยุคดิจิทัล

การศึกษาในยุคปัจจุบันกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากการพัฒนาเทคโนโลジีและความต้องการของตลาดแรงงานที่เปลี่ยนไป ประเทศไทยในฐานะประเทศกำลังพัฒนาจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อให้ทันกับกระแสการเปลี่ยนแปลงนี้ งานสัมมนานวัตกรรมการบริหารและการจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active Learning and Administrative Innovation Symposium จึงถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่จะช่วยผลักดันการปฏิรูปการศึกษาไทยให้ก้าวสู่อนาคตอย่างยั่งยืน

ความสำคัญของการจัดการเรียนรู้เชิงรุกในศตวรรษที่ 21

การจัดการเรียนรู้เชิงรุกหรือ Active Learning เป็นแนวทางการสอนที่เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้อย่างแข็งขัน แทนที่จะเป็นผู้รับสารอย่างเดียว ผู้เรียนจะได้รับการกระตุ้นให้คิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ และนำความรู้ไปใช้ในสถานการณ์จริง วิธีการนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้และช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียนได้อย่างมีนัยสำคัญ

ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน การจัดการเรียนรู้แบบดั้งเดิมที่เน้นการฟังเฉยๆ และการท่องจำเท่านั้น ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ได้อีกต่อไป ผู้เรียนยุคใหม่ต้องการทักษะที่หลากหลาย เช่น ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น ทักษะการสื่อสาร และทักษะการใช้เทคโนโลยี ซึ่งทักษะเหล่านี้สามารถพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก

การจัดการเรียนรู้เชิงรุกยังช่วยสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ เมื่อผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ พวกเขาจะรู้สึกเป็นเจ้าของการเรียนรู้ของตนเอง และมีความพึงพอใจในกระบวนการเรียนรู้มากขึ้น การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เรียนรู้สึกสนุกสนานและเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรียนรู้ ซึ่งจะส่งผลให้ผลการเรียนรู้ดีขึ้นและมีความคงทนในระยะยาว

นวัตกรรมทางการบริหารการศึกษาที่จำเป็นต่อการพัฒนา

นอกเหนือจากการปรับเปลี่ยนวิธีการสอนแล้ว การพัฒนาระบบการศึกษายังต้องอาศัยนวัตกรรมทางการบริหารการศึกษาเป็นสำคัญ ผู้บริหารสถานศึกษาจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงมุมมองจากการเป็นผู้ควบคุมไปสู่การเป็นผู้สนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้กับครูและนักเรียน การบริหารแบบใหม่ต้องยืดหยุ่นและปรับตัวได้เร็ว เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในโลกปัจจุบัน

การใช้ข้อมูลในการตัดสินใจเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมสำคัญในการบริหารการศึกษา ผู้บริหารควรนำเทคโนโลยีมาช่วยในการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับผลการเรียนรู้ของนักเรียน ความพึงพอใจของครู และประสิทธิภาพของโปรแกรมการเรียนการสอนต่างๆ ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้การตัดสินใจมีความแม่นยำและสามารถปรับปรุงคุณภาพการศึกษาได้อย่างต่อเนื่อง

การสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้องค์กรก็เป็นสิ่งจำเป็น ผู้บริหารต้องเป็นแบบอย่างในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสนับสนุนให้ครูและบุคลากรในสถานศึกษาได้รับการพัฒนาความรู้และทักษะใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ องค์กรที่มีวัฒนธรรมการเรียนรู้จะสามารถปรับตัวและพัฒนาได้อย่างยั่งยืน

เทคโนโลยีดิจิทัลกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการศึกษา

เทคโนโลยีดิจิทัลได้เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของการศึกษาอย่างมาก การเรียนรู้ไม่จำกัดเฉพาะในห้องเรียนหรือเวลาเรียนปกติอีกต่อไป ผู้เรียนสามารถเข้าถึงความรู้ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านอินเทอร์เน็ต การใช้แอปพลิเคชันการเรียนรู้ แพลตฟอร์มออนไลน์ และเครื่องมือดิจิทัลต่างๆ ช่วยให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและน่าสนใจมากขึ้น

การใช้เทคโนโลยี Artificial Intelligence หรือ AI ในการศึกษายังเปิดโอกาสให้เกิดการเรียนรู้แบบปรับตัวตามความต้องการของผู้เรียนแต่ละคน ระบบ AI สามารถวิเคราะห์รูปแบบการเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละคน และปรับเนื้อหาหรือวิธีการสอนให้เหมาะสมกับความสามารถและความสนใจของแต่ละคน การเรียนรู้แบบนี้จะช่วยให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตนเอง

Virtual Reality และ Augmented Reality ก็เป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูงในการเปลี่ยนแปลงการศึกษา ผู้เรียนสามารถสำรวจสถานที่ต่างๆ หรือสิ่งของที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ในชีวิตจริงผ่านเทคโนโลยีเหล่านี้ การเรียนรู้จะมีมิติใหม่ที่น่าตื่นเต้นและช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหาได้ลึกซึ้งขึ้น ตัวอย่างเช่น นักเรียนสามารถเดินทางไปยังอารยธรรมโบราณ หรือสำรวจภายในร่างกายมนุษย์ผ่านเทคโนโลยีเหล่านี้

กรณีศึกษาความสำเร็จจากการนำแนวคิดไปใช้

หลายสถานศึกษาในประเทศไทยได้นำแนวคิดการจัดการเรียนรู้เชิงรุกไปใช้และประสบความสำเร็จอย่างชัดเจน โรงเรียนสาธิตแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครได้ใช้วิธีการ Project-Based Learning ในการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ผลที่ได้คือนักเรียนมีความเข้าใจในเนื้อหาดีขึ้นและสามารถนำความรู้ไปใช้ในการแก้ปัญหาจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่งได้นำระบบการเรียนรู้แบบ Flipped Classroom มาใช้ ซึ่งนักศึกษาจะศึกษาเนื้อหาจากวิดีโอบรรยายที่บ้านก่อน แล้วมาทำกิจกรรมและอภิปรายในชั้นเรียน ผลลัพธ์ที่ได้คือนักศึกษามีส่วนร่วมในชั้นเรียนมากขึ้น และผลการเรียนดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ การประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาต่อรูปแบบการเรียนการสอนใหม่นี้ยังแสดงให้เห็นว่ามีความพึงพอใจในระดับสูง

การใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้ของโรงเรียนในชนบทอีกแห่งหนึ่งก็ให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ โรงเรียนนี้ได้นำแท็บเล็ตและแอปพลิเคชันการเรียนรู้มาใช้ในการสอนภาษาอังกฤษ นักเรียนได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีปฏิสัมพันธ์สูง และคะแนนสอบภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนภายในหนึ่งปีการศึกษา

ความท้าทายและอุปสรรคในการนำไปใช้

แม้ว่าการจัดการเรียนรู้เชิงรุกจะมีประโยชน์มากมาย แต่การนำไปใช้จริงยังคงเผชิญกับความท้าทายหลายประการ อุปสรรคแรกคือการขาดความรู้และทักษะของครูในการใช้เทคโนโลยีและวิธีการสอนใหม่ ครูจำนวนมากยังคุ้นเคยกับการสอนแบบดั้งเดิมและต้องการเวลาในการปรับตัว การพัฒนาครูจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ

ปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐานก็เป็นอุปสรรคสำคัญ โรงเรียนหลายแห่งโดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลยังขาดอุปกรณ์เทคโนโลยีที่จำเป็น เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียร การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจึงต้องเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปการศึกษา รัฐบาลและองค์กรที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหานี้

ความต้านทานจากผู้ปกครองและชุมชนบางส่วนที่ยังคงมองว่าการศึกษาแบบเก่าดีกว่า ก็เป็นความท้าทายที่ต้องเผชิญ การสื่อสารให้เข้าใจถึงประโยชน์ของการจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการแสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมจึงเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความเข้าใจและการยอมรับจากทุกภาคส่วน

แนวทางการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา

การพัฒนาครูเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิรูปการศึกษา ครูต้องได้รับการพัฒนาทั้งความรู้เนื้อหาวิชาและทักษะการใช้เทคโนโลยี การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการที่เน้นการฝึกใช้เครื่องมือและวิธีการใหม่ๆ จะช่วยให้ครูมีความมั่นใจในการนำไปใช้ในห้องเรียน การสร้างชุมชนการเรียนรู้ของครูก็เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเรียนรู้ร่วมกัน

การพัฒนาครูควรเป็นกระบวนการต่อเนื่องไม่ใช่กิจกรรมที่ทำเพียงครั้งเดียว สถานศึกษาควรจัดให้มีการพัฒนาครูเป็นประจำทุกปี และควรมีการติดตามผลการนำความรู้ไปใช้ในการสอนจริง การให้ครูได้ไปดูงานหรือแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับสถานศึกษาที่ประสบความสำเร็จในการใช้นวัตกรรมการศึกษาก็เป็นวิธีการที่ดีในการสร้างแรงบันดาลใจ

การสนับสนุนจากผู้บริหารสถานศึกษามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในการพัฒนาครู ผู้บริหารต้องเป็นผู้สนับสนุนและให้กำลังใจแก่ครูที่พยายามใช้วิธีการใหม่ในการสอน รวมถึงการจัดสรรทรัพยากรที่จำเป็นและการสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลง การยอมรับว่าความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้จะช่วยให้ครูกล้าทดลองและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง

บทบาทของภาคเอกชนและองค์กรพัฒนาเอกชน

ภาคเอกชนมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการปฏิรูปการศึกษา บริษัทเทคโนโลยีสามารถร่วมมือกับสถานศึกษาในการพัฒนาแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับบริบทไทย การลงทุนในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการศึกษาจะช่วยให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของระบบการศึกษาไทยได้ดีขึ้น

องค์กรพัฒนาเอกชนหรือ NGO ก็มีบทบาทในการเป็นสะพานเชื่อมระหว่างนโยบายของรัฐกับการปฏิบัติในพื้นที่ องค์กรเหล่านี้มักมีประสบการณ์ในการทำงานกับชุมชนและเข้าใจปัญหาในระดับพื้นที่เป็นอย่างดี การร่วมมือระหว่างรัฐ เอกชน และองค์กรพัฒนาเอกชนจะช่วยให้การปฏิรูปการศึกษามีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น

คำชี้แจง ขอเชิญผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสัมมนานวัตกรรมการบริหารและการจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active Learning and Administrative Innovation Symposium

ขอเชิญผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสัมมนานวัตกรรมการบริหารและการจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active Learning and Administrative Innovation Symposium ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

วันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม 2566

เวลา 08.00 – 16.30 น.

ณ Beat Active BITAC Bangna

ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ 2 รูปแบบ ดังนี้

1. รูปแบบ Onsite ณ Beat Active BITAC Bangna

2. รูปแบบ Online รับชม Live ผ่านทาง Facebook ของ สพป.สมุทรปราการ เขต 1

การรับเกียรติบัตร

1) ลงทะเบียนเข้าร่วมงานทาง Google form (โปรดตรวจสอบ คำนำหน้า ชื่อ-สกุล ทุกตัวอักษร เนื่องจากข้อความที่ท่านพิมพ์ใน Google Form จะเติมลงในเกียรติบัตรออนไลน์อัตโนมัติไม่สามารถแก้ไขได้)

2) ทำแบบประเมินความพึงพอใจ ณ วันที่จัดงาน

– Onsite สแกน QR Code แบบประเมินความพึงพอใจในสูจิบัตร ณ จุดลงทะเบียน

– Online รับลิงค์ Google Form แบบประเมินความพึงพอใจ โดยจะนำขึ้นทางช่องแสดงความคิดเห็นไลฟ์สดเวลา 16.00 น. เป็นต้นไป และจะปิดแบบตอบรับการประเมินความพึงพอใจ เวลา 18.00 น.

3) สามารถดาวน์โหลดเกียรติบัตรทาง Google Drive ทาง Facebook ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต 1 ซึ่งจะแจ้งให้ทราบภายในวันศุกร์ที่ 8 กันยายน 2566

ตัวอย่างเกียรติบัตร

ขอเชิญผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสัมมนานวัตกรรมการบริหารและการจัดการเรียนรู้เชิงรุก Active Learning and Administrative Innovation Symposium

ลิงก์สำหรับลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่

ขอบคุณแหล่งที่มา : สพป.สมุทรปราการ เขต 1 

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ห้ามพลาด