สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ทุกท่านนะครับ วันนี้พบกับ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ รายงานผลการดำเนินงานวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ร่วมกับเทคนิคแผนผังความคิด ซึ่งเพื่อนๆ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดนำไปศึกษาและนำไปเป็นแนวทางในการจัดทำรายงานผลการดำเนินงานวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ร่วมกับเทคนิคแผนผังความคิด เพื่อเสนอขอรางวัล ได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์รายงานผลการดำเนินงานวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ร่วมกับเทคนิคแผนผังความคิด ตามรายละเอียดดังนี้ครับ

เผยแพร่ผลงานวิชาการ รายงานผลการดำเนินงานวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ร่วมกับเทคนิคแผนผังความคิด โดยคุณครูสาวิตรี แก้วกันหา

การยกระดับการศึกษาด้วยการเรียนรู้เชิงรุก รายงานผลการดำเนินงานวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศในการใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ร่วมกับเทคนิคแผนผังความคิด

การศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21 กำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ที่ต้องการการปรับเปลี่ยนแนวทางการจัดการเรียนการสอนจากแบบดั้งเดิมสู่การเรียนรู้เชิงรุกที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง การใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ร่วมกับเทคนิคแผนผังความคิดได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศในการส่งเสริมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ รายงานนี้นำเสนอผลการดำเนินงานและแนวทางการประยุกต์ใช้ที่ได้ผลจริงในบริบทของสถานศึกษาไทย

ความเป็นมาและความสำคัญของการจัดการเรียนรู้เชิงรุก

การเรียนรู้เชิงรุกเป็นแนวทางการศึกษาที่เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในกระบวนการเรียนรู้ โดยไม่ใช่เพียงการรับฟังข้อมูลอย่างเดียว แต่ต้องสร้างความรู้ด้วยตนเองผ่านการคิด การวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนและครู ในบริบทของประเทศไทย การเปลี่ยนแปลงจากการสอนแบบบรรยายเป็นหลักไปสู่การเรียนรู้เชิงรุกถือเป็นการปฏิวัติทางการศึกษาที่จำเป็นอย่างยิ่ง

ความสำคัญของการจัดการเรียนรู้เชิงรุกสะท้อนให้เห็นในหลายมิติ ทั้งการพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ที่เป็นสิ่งจำเป็นในโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสาร การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ที่จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถปรับตัวและแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการพัฒนาทักษะการทำงานร่วมกันที่จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการทำงานในอนาคต นอกจากนี้ การเรียนรู้เชิงรุกยังช่วยให้ผู้เรียนเกิดแรงจูงใจในการเรียนรู้ด้วยตนเองและมีความรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ของตนเองมากขึ้น

กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E คืออะไร

กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E เป็นรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์การศึกษา เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ที่ยั่งยืนและมีความหมาย โดยประกอบด้วย 5 ขั้นตอนหลักที่เริ่มต้นด้วยตัวอักษร E ทั้งหมด ได้แก่ Engage (การสร้างความสนใจ) Explore (การสำรวจ) Explain (การอธิบาย) Elaborate (การขยายความ) และ Evaluate (การประเมินผล)

ขั้นตอนแรกคือการสร้างความสนใจ (Engage) ซึ่งเป็นการเปิดบทเรียนด้วยกิจกรรมหรือสถานการณ์ที่น่าสนใจ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เรียนและเชื่อมโยงกับความรู้เดิมที่มีอยู่ การสร้างความสนใจที่มีประสิทธิภาพจะต้องเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับชีวิตจริงของผู้เรียน สร้างความอยากรู้อยากเห็น และกระตุ้นให้เกิดคำถามที่อยากหาคำตอบ

ขั้นตอนที่สองคือการสำรวจ (Explore) ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้เรียนได้มีโอกาสสำรวจและค้นพบความรู้ด้วยตนเองผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การทดลอง การสังเกต การสืบค้นข้อมูล หรือการอภิปรายกลุม่ ในขั้นตอนนี้ครูทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกมากกว่าผู้ถ่ายทอดความรู้ โดยให้ผู้เรียนได้ลองผิดลองถูกและสร้างความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับแนวคิดหรือทักษะที่ต้องการเรียนรู้

ขั้นตอนที่สามคือการอธิบาย (Explain) ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้เรียนนำเสนอสิ่งที่ค้นพบจากการสำรวจและครูช่วยอธิบายแนวคิดหรือหลักการที่เกี่ยวข้อง การอธิบายที่ดีจะเชื่อมโยงประสบการณ์ของผู้เรียนกับความรู้ทางวิชาการ ใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายและให้ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม ในขั้นตอนนี้ผู้เรียนจะได้รับการยืนยันหรือแก้ไขความเข้าใจที่อาจคลาดเคลื่อนจากการสำรวจ

ขั้นตอนที่สี่คือการขยายความ (Elaborate) ซึ่งเป็นการนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ใหม่หรือปัญหาที่ซับซ้อนขึ้น ขั้นตอนนี้จะช่วยให้ผู้เรียนเห็นการเชื่อมโยงระหว่างความรู้กับการใช้งานจริง และพัฒนาความสามารถในการถ่ายโยงความรู้ไปสู่บริบทอื่นๆ กิจกรรมในขั้นตอนนี้อาจเป็นการแก้ปัญหาเชิงประยุกต์ การออกแบบโครงการ หรือการวิเคราะห์กรณีศึกษา

ขั้นตอนสุดท้ายคือการประเมินผล (Evaluate) ซึ่งเป็นการตรวจสอบความเข้าใจและทักษะของผู้เรียนทั้งในด้านความรู้ ทักษะกระบวนการ และเจตคติ การประเมินผลในขั้นตอนนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การสอบข้อเขียน แต่รวมถึงการประเมินผลงาน การสังเกตพฤติกรรม การประเมินตนเอง และการประเมินเพื่อน

เทคนิคแผนผังความคิดและประโยชน์ในการเรียนรู้

แผนผังความคิด (Mind Map) เป็นเครื่องมือการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นโดย Tony Buzan เพื่อช่วยในการจัดระเบียบและนำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่สมองสามารถเข้าใจและจดจำได้ดีที่สุด แผนผังความคิดใช้หลักการทำงานของสมองที่ชอบเชื่อมโยงข้อมูลเป็นเครือข่าย โดยมีประเด็นหลักอยู่ตรงกลางและแตกแขนงออกไปเป็นประเด็นย่อยต่างๆ พร้อมกับการใช้สี รูปภาพ และสัญลักษณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจดจำ

ประโยชน์ของแผนผังความคิดในการเรียนรู้นั้นมีมากมาย เริ่มตั้งแต่การช่วยในการจัดระเบียบความคิดให้เป็นระบบ ทำให้ผู้เรียนสามารถเห็นภาพรวมและความเชื่อมโยงระหว่างประเด็นต่างๆ ได้อย่างชัดเจน การใช้แผนผังความคิดยังช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ เนื่องจากการแตกแขนงและการใช้สีสันรูปภาพจะกระตุ้นการทำงานของสมองซีกขวาที่เกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์

นอกจากนี้ แผนผังความคิดยังเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการจดบันทึก เนื่องจากสามารถบันทึกข้อมูลได้อย่างกระชับแต่ครบถ้วน การทบทวนบทเรียนก็เป็นเรื่องง่ายเมื่อมีแผนผังความคิดเป็นเครื่องมือ เพราะสามารถเห็นประเด็นสำคัญทั้งหมดในแผนผังเดียว การแก้ปัญหาและการตัดสินใจก็ได้รับประโยชน์จากแผนผังความคิด เนื่องจากสามารถวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ และทางเลือกที่เป็นไปได้อย่างเป็นระบบ

การใช้แผนผังความคิดในบริบทของการศึกษาไทยมีความเหมาะสมเป็นอย่างมาก เนื่องจากช่วยแก้ปัญหาการท่องจำแบบไม่เข้าใจที่เป็นปัญหาเรื้อรังของระบบการศึกษาไทย แผนผังความคิดส่งเสริมการเรียนรู้แบบเข้าใจและสามารถเชื่อมโยงความรู้ได้ ทำให้การเรียนรู้มีความหมายและยั่งยืนมากขึ้น

การผสมผสานกระบวนการ 5E กับแผนผังความคิด

การนำกระบวนการ 5E มาผสมผสานกับเทคนิคแผนผังความคิดเป็นนวัตกรรมการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพสูง โดยแผนผังความคิดสามารถนำมาใช้ในทุกขั้นตอนของกระบวนการ 5E เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้และช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น

ในขั้นตอน Engage แผนผังความคิดสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการระดมความคิดและเชื่อมโยงความรู้เดิม ครูอาจให้ผู้เรียนสร้างแผนผังความคิดเกี่ยวกับสิ่งที่รู้อยู่แล้วเกี่ยวกับหัวข้อที่จะเรียน หรือใช้แผนผังความคิดในการแสดงคำถามและความสงสัยต่างๆ ที่มีต่อหัวข้อนั้น วิธีการนี้จะช่วยกระตุ้นความสนใจและสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้

ในขั้นตอน Explore แผนผังความคิดเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการบันทึกการค้นพบและการสังเกตต่างๆ ผู้เรียนสามารถใช้แผนผังความคิดในการจดบันทึกข้อมูลจากการทดลองหรือการสืบค้น โดยจัดหมวดหมู่และเชื่อมโยงข้อมูลเป็นระบบ นอกจากนี้ แผนผังความคิดยังช่วยในการวางแผนการสำรวจและกำหนดทิศทางการค้นหาข้อมูล

ในขั้นตอน Explain แผนผังความคิดช่วยในการจัดระเบียบข้อมูลและการนำเสนอผลการสำรวจ ผู้เรียนสามารถใช้แผนผังความคิดในการสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้และเชื่อมโยงกับแนวคิดทางวิชาการ ครูก็สามารถใช้แผนผังความคิดในการอธิบายแนวคิดที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่ายขึ้น โดยแสดงความสัมพันธ์และการเชื่อมโยงระหว่างประเด็นต่างๆ

ในขั้นตอน Elaborate แผนผังความคิดช่วยในการวางแผนโครงการหรือการแก้ปัญหา ผู้เรียนสามารถใช้แผนผังความคิดในการวิเคราะห์ปัญหา หาทางเลือก และวางแผนการดำเนินงาน การมองเห็นภาพรวมและรายละเอียดในเวลาเดียวกันจะช่วยให้การประยุกต์ใช้ความรู้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

สุดท้ายในขั้นตอน Evaluate แผนผังความคิดสามารถใช้เป็นเครื่องมือประเมินผลได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแผนผังความคิดเพื่อสรุปความเข้าใจในหัวข้อที่เรียน การประเมินผลงานโครงการ หรือการใช้แผนผังความคิดในการสะท้อนการเรียนรู้ของตนเอง

ผลการดำเนินงานในสถานศึกษาไทย

การนำกระบวนการ 5E ร่วมกับเทคนิคแผนผังความคิดมาใช้ในสถานศึกษาไทยได้ให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ จากการศึกษาวิจัยในโรงเรียนต้นแบบจำนวน 50 แห่งทั่วประเทศ พบว่าผู้เรียนมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในหลายด้าน ทั้งด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการคิด และแรงจูงใจในการเรียนรู้

ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่านักเรียนที่เรียนด้วยวิธีการนี้มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่านักเรียนที่เรียนด้วยวิธีการดั้งเดิมอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ที่มีการเพิ่มขึ้นของคะแนนเฉลี่ยประมาณ 15-20 เปอร์เซ็นต์ สิ่งที่น่าสนใจคือการเพิ่มขึ้นของผลสัมฤทธิ์ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในนักเรียนเก่ง แต่เกิดขึ้นในทุกกลุ่มนักเรียน โดยเฉพาะนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ต่ำมีการพัฒนาที่เด่นชัดที่สุด

ด้านทักษะการคิด พบว่านักเรียนมีพัฒนาการที่ชัดเจนในด้านการคิดเชิงวิพากษ์ ความคิดสร้างสรรค์ และการแก้ปัญหา จากการประเมินด้วยแบบทดสอบมาตรฐาน พบว่านักเรียนสามารถวิเคราะห์ข้อมูล สังเคราะห์ความรู้ และประเมินผลได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นักเรียนยังแสดงความสามารถในการเชื่อมโยงความรู้จากวิชาต่างๆ และประยุกต์ใช้ความรู้ในสถานการณ์ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านแรงจูงใจในการเรียนรู้ ผลการสำรวจความคิดเห็นแสดงให้เห็นว่านักเรียนมีความสนุกสนานและความพึงพอใจในการเรียนเพิ่มขึ้นอย่างมาก อัตราการขาดเรียนลดลงและการมีส่วนร่วมในชั้นเรียนเพิ่มขึ้น นักเรียนรายงานว่าพวกเขารู้สึกว่าการเรียนมีความหมายมากขึ้นและสามารถเข้าใจเนื้อหาได้ดีกว่าเดิม

จากมุมมองของครูผู้สอน พบว่าครูมีความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนมากขึ้น แม้ว่าในช่วงแรกจะต้องใช้เวลาในการเตรียมตัวและปรับเปลี่ยนวิธีการสอนมาก แต่เมื่อเริ่มคุ้นเคยแล้ว ครูพบว่าการสอนด้วยวิธีนี้ทำให้พวกเขาได้เห็นศักยภาพที่แท้จริงของนักเรียนและมีความสุขในการสอนมากขึ้น

ความท้าทายและข้อจำกัดในการนำไปใช้

แม้ว่าการนำกระบวนการ 5E ร่วมกับแผนผังความคิดมาใช้จะให้ผลลัพธ์ที่ดี แต่ก็มีความท้าทายและข้อจำกัดหลายประการที่ต้องพิจารณา ความท้าทายแรกและสำคัญที่สุดคือการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ของครูผู้สอน การเปลี่ยนจากบทบาทผู้ถ่ายทอดความรู้มาเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ต้องใช้เวลาและการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง

การจัดการเวลาเป็นอีกความท้าทายสำคัญ เนื่องจากกระบวนการ 5E ต้องใช้เวลามากกว่าการสอนแบบบรรยาย ในขณะที่หลักสูตรและตารางเรียนยังคงมีข้อจำกัดด้านเวลา ครูจึงต้องมีทักษะในการจัดการเวลาและเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมสำหรับการใช้วิธีการนี้ ไม่สามารถนำไปใช้กับเนื้อหาทุกหัวข้อได้

ด้านทรัพยากรและสิ่งอำนวยความสะดวก พบว่าหลายโรงเรียนยังขาดอุปกรณ์และสื่อการเรียนการสอนที่เหมาะสม การจัดการเรียนการสอนแบบ 5E ต้องการพื้นที่ที่ยืดหยุ่น อุปกรณ์สำหรับการทำกิจกรรมกลุ่ม และเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ ซึ่งไม่ใช่ทุกโรงเรียนที่จะมีความพร้อมในด้านนี้

การประเมินผลเป็นอีกข้อจำกัดที่สำคัญ เนื่องจากการประเมินผลแบบดั้งเดิมที่เน้นการท่องจำอาจไม่สะท้อนถึงการเรียนรู้ที่แท้จริงของผู้เรียน ครูจึงต้องพัฒนาวิธีการประเมินผลที่หลากหลายและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ ซึ่งต้องใช้ความรู้และทักษะในการประเมินผลที่ค่อนข้างสูง

ตัวอย่างไฟล์ รายงานผลการดำเนินงานวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ร่วมกับเทคนิคแผนผังความคิด


รายงานผลการดำเนินงานวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ร่วมกับเทคนิคแผนผังความคิด
รายงานผลการดำเนินงานวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ร่วมกับเทคนิคแผนผังความคิด
รายงานผลการดำเนินงานวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ร่วมกับเทคนิคแผนผังความคิด
รายงานผลการดำเนินงานวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) โดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E ร่วมกับเทคนิคแผนผังความคิด

เอกสารเป็นไฟล์ PDF

ดาวน์โหลดไฟล์เอกสารจากลิงก์ด้านล่างนี้ นะครับ

ขอบคุณแหล่งที่มา : คุณครูสาวิตรี แก้วกันหา

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ห้ามพลาด