สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิกทุกท่านครับ วันนี้ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ขอนำเสนอ อบรมออนไลน์ฟรี เปิดรับสมัครผู้ที่มีความสนใจพัฒนาศักยภาพตนเอง โครงการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัล (Digital Competency) สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดสพฐ. เริ่มเรียนได้ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป อบรมฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมรับใบประกาศนียบัตรหลังจากอบรมผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
อบรมออนไลน์ฟรี เปิดรับสมัครผู้ที่มีความสนใจพัฒนาศักยภาพตนเอง โครงการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัล (Digital Competency) สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดสพฐ. เริ่มเรียนได้ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป อบรมฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมรับใบประกาศนียบัตรหลังจากอบรมผ่านเกณฑ์ที่กำหนด

ยกระดับการศึกษาไทยสู่ยุคดิจิทัล โครงการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลสำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดสพฐ.
การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในยุคดิจิทัลได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อระบบการศึกษาของประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลสำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของการศึกษาในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โครงการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับคุณภาพการศึกษาไทย โดยมุ่งเน้นการสร้างความพร้อมให้กับบุคลากรทางการศึกษาในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการจัดการเรียนการสอน การบริหารจัดการ และการพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะที่จำเป็นสำหรับการอยู่รอดและความสำเร็จในอนาคต
ความเป็นมาและความสำคัญของโครงการ
ในช่วงที่ผ่านมา การศึกษาไทยเผชิญกับความท้าทายมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ได้เปิดโอกาสและเร่งให้เห็นความจำเป็นของการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการเรียนการสอน การเรียนการสอนแบบออนไลน์และแบบผสมผสาน (Blended Learning) กลายเป็นรูปแบบใหม่ที่ครูและผู้เรียนต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์
ความท้าทายหลักที่พบคือการที่ครูและบุคลากรทางการศึกษาจำนวนไม่น้อยยังขาดความมั่นใจและทักษะในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเหมาะสม สิ่งนี้ส่งผลให้การจัดการเรียนการสอนไม่สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้อย่างเต็มที่ และอาจทำให้ผู้เรียนสูญเสียโอกาสในการพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการใช้งานในอนาคต
สพฐ จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการสร้างความพร้อมและความมั่นใจให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษาในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติหน้าที่ของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการ
โครงการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลสำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดสพฐ มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนและครอบคลุมในหลายมิติ วัตถุประสงค์หลักของโครงการคือการพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ และทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลของบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนและการบริหารจัดการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เป้าหมายระยะสั้นของโครงการคือการสร้างความตระหนักและความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการศึกษา รวมถึงการพัฒนาทักษะพื้นฐานในการใช้อุปกรณ์และซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน เช่น การใช้แอปพลิเคชันการประชุมออนไลน์ การสร้างเนื้อหาดิจิทัล การใช้ระบบการจัดการเรียนรู้ และการประเมินผลออนไลน์
เป้าหมายระยะกลางคือการสร้างความสามารถในการออกแบบและพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนที่บูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับเนื้อหาวิชาการอย่างเหมาะสม ครูจะสามารถใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการสร้างการมีส่วนร่วมของผู้เรียน ส่งเสริมการเรียนรู้แบบมีปฏิสัมพันธ์ และการประเมินผลที่หลากหลายรูปแบบ
เป้าหมายระยะยาวของโครงการคือการสร้างวัฒนธรรมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในสถานศึกษาอย่างยั่งยืน ครูและบุคลากรทางการศึกษาจะสามารถปรับตัวและเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ด้วยตนเอง มีการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์การใช้เทคโนโลงดิจิทัลในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ และสามารถใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจในการพัฒนาการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
องค์ประกอบของสมรรถนะดิจิทัล
สมรรถนะดิจิทัลที่โครงการนี้มุ่งเน้นการพัฒนาประกอบด้วยองค์ประกอบหลักหลายด้าน ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ครอบคลุมความต้องการในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างครบถ้วน องค์ประกอบแรกคือความรู้และทักษะเทคนิคพื้นฐาน (Technical Knowledge and Skills) ที่รวมถึงความสามารถในการใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์โต้ตอบต่างๆ
องค์ประกอบที่สองคือความรู้ด้านการออกแบบการเรียนการสอนดิจิทัล (Digital Pedagogical Knowledge) ซึ่งเป็นความสามารถในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนอย่างเหมาะสมกับเนื้อหาและผู้เรียน ครูจะต้องเข้าใจหลักการและวิธีการใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ การสร้างการมีส่วนร่วมของผู้เรียน และการประเมินผลการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
องค์ประกอบที่สามคือทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ไขปัญหาดิจิทัล (Digital Critical Thinking and Problem-Solving Skills) ครูจะต้องสามารถประเมินและเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมสำหรับแต่ละสถานการณ์การเรียนการสอน วิเคราะห์ข้อดีข้อเสียของการใช้เทคโนโลยีแต่ละประเภท และสามารถแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
องค์ประกอบที่สี่คือความรู้ด้านจริยธรรมและความปลอดภัยดิจิทัล (Digital Ethics and Safety) ครูจะต้องเข้าใจเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีอย่างรับผิดชอบ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เรียน การป้องกันการถูกล่วงละเมิดทางไซเบอร์ และการสอนให้ผู้เรียนมีความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในโลกดิจิทัล
องค์ประกอบสุดท้ายคือทักษะการสื่อสารและความร่วมมือดิจิทัล (Digital Communication and Collaboration Skills) ซึ่งรวมถึงความสามารถในการใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อการสื่อสารกับผู้เรียน ผู้ปกครอง และเพื่อนร่วมงาน การสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ทางวิชาชีพ และการทำงานร่วมกันในโครงการต่างๆ ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล
หลักสูตรและกิจกรรมการฝึกอบรม
โครงการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลได้ออกแบบหลักสูตรและกิจกรรมการฝึกอบรมที่หลากหลายและครอบคลุมความต้องการของผู้เข้าร่วมในระดับที่แตกต่างกัน หลักสูตรพื้นฐานจะเริ่มต้นจากการสร้างความคุ้นเคยกับอุปกรณ์เทคโนโลยีพื้นฐาน เช่น การใช้งานคอมพิวเตอร์ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต การใช้งานอีเมล และการดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชันต่างๆ
หลักสูตรระดับกลางจะมุ่งเน้นการใช้เครื่องมือดิจิทัลสำหรับการจัดการเรียนการสอน เช่น การใช้ Microsoft Office หรือ Google Workspace สำหรับการสร้างเนื้อหาการเรียนการสอน การใช้แพลตฟอร์มการประชุมออนไลน์ เช่น Zoom, Microsoft Teams, หรือ Google Meet การใช้ระบบการจัดการเรียนรู้ (Learning Management System) และการสร้างวิดีโอการสอนและเนื้อหามัลติมีเดีย
หลักสูตรระดับสูงจะครอบคลุมการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การใช้เครื่องมือความจริงเสมือน (Virtual Reality) และความจริงเสริม (Augmented Reality) ในการจัดการเรียนการสอน การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) เพื่อการปรับแต่งการเรียนรู้ตามความต้องการเฉพาะบุคคล การวิเคราะห์ข้อมูลการเรียนรู้ และการใช้เกมเพื่อการศึกษา
รูปแบบการฝึกอบรมจะมีทั้งแบบเข้มข้นระยะสั้น (Intensive Workshop) แบบเรียนรู้ต่อเนื่องระยะยาว (Continuous Learning Program) และแบบการเรียนรู้ด้วยตนเองผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (Self-paced Online Learning) เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถเลือกรูปแบบที่เหมาะสมกับสถานการณ์และความพร้อมของตนเอง
กิจกรรมการฝึกอบรมจะเน้นการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติจริง (Hands-on Learning) โดยผู้เข้าร่วมจะได้ลองใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆ ในสถานการณ์จริง สร้างโครงงานหรือแผนการสอนที่บูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัล และได้รับคำแนะนำและข้อเสนอแนะจากวิทยากรและเพื่อนร่วมงาน
การใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอน
การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนมีหลายรูปแบบและวิธีการที่ครูสามารถประยุกต์ใช้ได้ตามความเหมาะสมของเนื้อหาวิชาและลักษณะของผู้เรียน การใช้แพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ เช่น Google Classroom, Edmodo, หรือ Schoology จะช่วยให้ครูสามารถจัดส่งเนื้อหา มอบหมายงาน ติดตามความก้าวหน้าของผู้เรียน และให้ข้อเสนอแนะได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เครื่องมือการสร้างเนื้อหาดิจิทัล เช่น Canva สำหรับการออกแบบกราฟิก Powtoon สำหรับการสร้างวิดีโอแอนิเมชัน และ Flipgrid สำหรับการสร้างการอภิปรายแบบวิดีโอ จะช่วยให้ครูสามารถสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและมีปฏิสัมพันธ์สูงสำหรับผู้เรียน การใช้เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความหลากหลายในรูปแบบการนำเสนอเนื้อหาและสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่น่าจดจำสำหรับผู้เรียน
การประเมินผลการเรียนรู้ก็สามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องมือ เช่น Google Forms, Kahoot, Quizizz, และ Socrative จะช่วยให้ครูสามารถสร้างแบบทดสอบออนไลน์ การสำรวจความคิดเห็น และการประเมินแบบเรียลไทม์ที่สามารถให้ข้อมูลย้อนกลับทันทีแก่ผู้เรียน
การใช้เกมเพื่อการศึกษา (Educational Games) และการจำลองสถานการณ์ (Simulation) เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่ครูสามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและประสิทธิภาพของการเรียนการสอน เกมการศึกษาจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ผ่านการลองผิดลองถูกในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และได้รับแรงจูงใจในการเรียนรู้ที่สูงขึ้น
การใช้เทคโนโลยี Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR) เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะในวิชาวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และภูมิศาสตร์ เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถสัมผัสประสบการณ์ที่สมจริงและเข้าใจเนื้อหาได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
การวัดและประเมินผล
การวัดและประเมินผลของโครงการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ทราบถึงประสิทธิภาพและความสำเร็จของโครงการ โครงการได้กำหนดตัวชี้วัดและวิธีการประเมินผลที่หลากหลายและครอบคลุมในหลายมิติ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สมบูรณ์และสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ
ตัวชี้วัดระดับบุคคลจะมุ่งเน้นการวัดความรู้ ทักษะ และเจตคติของครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ การประเมินจะใช้แบบทดสอบก่อนและหลังการฝึกอบรม การสังเกตการณ์การปฏิบัติงานจริง การสัมภาษณ์เชิงลึก และการวิเคราะห์ผลงานหรือโครงการที่ผู้เข้าร่วมสร้างขึ้นหลังจากการฝึกอบรม
ตัวชี้วัดระดับห้องเรียนจะดูที่การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการจัดการเรียนการสอน ความถี่ในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล คุณภาพของกิจกรรมการเรียนการสอนที่บูรณาการเทคโนโลยี และผลการเรียนรู้ของนักเรียน การประเมินจะใช้การสังเกตชั้นเรียน การวิเคราะห์แผนการสอน และการสำรวจความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนการสอนรูปแบบใหม่
ตัวชี้วัดระดับสถานศึกษาจะมุ่งเน้นการวัดการเปลี่ยนแปลงในวัฒนธรรมองค์กรและการสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล การประเมินจะดูที่นโยบายและแผนงานการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี การจัดสรรง예산สำหรับการพัฒนาเทคโนโลยี การสร้างชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพในสถานศึกษา และการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ระหว่างครู
การประเมินผลกระทบระยะยาวจะใช้วิธีการติดตามและประเมินผลแบบต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหลายปี เพื่อดูความยั่งยืนของการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบต่อคุณภาพการศึกษาโดยรวม การประเมินจะรวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน การสำรวจความพึงพอใจของผู้ปกครอง และการศึกษาเปรียบเทียบกับสถานศึกษาที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ
นอกจากการประเมินเชิงปริมาณแล้ว โครงการยังให้ความสำคัญกับการประเมินเชิงคุณภาพผ่านการเก็บรวบรวมเรื่องราวความสำเร็จ (Success Stories) กรณีศึกษาที่น่าสนใจ และการสะท้อนความคิด (Reflection) ของผู้เข้าร่วมโครงการ ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เข้าใจถึงกระบวนการเปลี่ยนแปลงและปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จของโครงการได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ความท้าทายและอุปสรรค
การดำเนินโครงการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลสำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาเผชิญกับความท้าทายและอุปสรรคหลายประการที่จำเป็นต้องมีการวางแผนและแก้ไขอย่างเป็นระบบ ความท้าทายหลักประการแรกคือความแตกต่างของระดับทักษะดิจิทัลของผู้เข้าร่วมโครงการ ครูและบุคลากรทางการศึกษาบางส่วนมีประสบการณ์และทักษะการใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกันมาก ทำให้การออกแบบหลักสูตรและกิจกรรมการฝึกอบรมต้องมีความยืดหยุ่นและหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน
อีกประการหนึ่งคือข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี โรงเรียนบางแห่งอาจขาดอุปกรณ์ที่ทันสมัย อินเทอร์เน็ตไม่เสถียร หรือมีทรัพยากรไม่เพียงพอในการสนับสนุนการเรียนรู้ดิจิทัล สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้การนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้จริงมีอุปสรรค
นอกจากนี้ยังมีความท้าทายด้านทัศนคติและความพร้อมในการเปลี่ยนแปลง ครูบางคนอาจยังมีความกังวลหรือไม่มั่นใจในการใช้เทคโนโลยี ส่งผลให้เกิดการต่อต้านหรือไม่เต็มใจที่จะนำเครื่องมือดิจิทัลมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน
ท้ายที่สุดคือข้อจำกัดด้านเวลา ภาระงานของครูที่มีอยู่เดิมอาจทำให้การเข้าร่วมโครงการฝึกอบรมหรือการพัฒนาตนเองด้านดิจิทัลเป็นไปได้ยาก จำเป็นต้องมีการวางแผนที่ชัดเจนและการสนับสนุนจากผู้บริหารสถานศึกษาเพื่อให้โครงการสามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
รายละเอียด โครงการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัล (Digital Competency) สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดสพฐ.

คำชี้แจง โครงการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัล (Digital Competency) สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดสพฐ.


เปิดรับสมัครผู้ที่มีความสนใจพัฒนาศักยภาพตนเอง โครงการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัล (Digital Competency) สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เริ่มเรียนได้ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป
**หมายเหตุ**
อบรมฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมรับใบประกาศนียบัตรหลังจากอบรมผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
สำหรับท่านที่มีบัญชีใช้งานอยู่แล้ว สามารถเข้าเรียนตามวันที่กำหนดได้เลย