สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ทุกท่านนะครับ วันนี้พบกับ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ แผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี (พ.ศ.2566-2570) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งเพื่อนๆ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดนำไปศึกษาและนำไปเป็นแนวทางในการจัดทำแผนปฏิบัติราชการของสถานศึกษา เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานในแต่ละปีงบประมาณ ตามบริบทของสถานศึกษา ได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ แผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี (พ.ศ.2566-2570) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามรายละเอียดดังนี้ครับ
ดาวน์โหลด แผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี (พ.ศ.2566-2570) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

แผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2566-2570 เส้นทางสู่การศึกษาไทยที่ยั่งยืนและทันสมัย
การศึกษาเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศและการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับเยาวชนไทย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ ได้จัดทำแผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี พ.ศ.2566-2570 ขึ้นเพื่อเป็นกรอบทิศทางในการบริหารจัดการการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศไทยให้มีคุณภาพและทันสมัย แผนนี้ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาไทยสู่ความเป็นเลิศและการแข่งขันในระดับสากล
วิสัยทัศน์และพันธกิจของแผนปฏิบัติราชการ
วิสัยทัศน์ของแผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี คือการสร้างระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีคุณภาพ เท่าเทียม และยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นพลเมืองที่มีคุณธรรม จริยธรรม มีความรู้ ทักษะ และสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21 พันธกิจหลักของแผนนี้เน้นการจัดการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ การพัฒนาศักยภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการเรียนการสอน และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ
กลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนการศึกษาไทย
แผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปีนี้ได้กำหนดกลยุทธ์หลัก 6 ด้าน ประกอบด้วย กลยุทธ์ที่ 1 การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา โดยเน้นการปรับปรุงหลักสูตร การจัดการเรียนการสอนที่หลากหลาย และการวัดและประเมินผลที่สอดคล้องกับศักยภาพของผู้เรียน กลยุทธ์ที่ 2 การพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา มุ่งเน้นการยกระดับสมรรถนะของครู การพัฒนาผู้นำทางการศึกษา และการสร้างระบบการบริหารงานบุคคลที่มีประสิทธิภาพ
กลยุทธ์ที่ 3 การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการศึกษา โดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การสร้างสื่อการเรียนรู้ดิจิทัล และการฝึกอบรมครูให้มีทักษะการใช้เทคโนโลยี กลยุทธ์ที่ 4 การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา มุ่งเน้นการเข้าถึงการศึกษาของเด็กทุกกลุ่ม โดยเฉพาะเด็กในพื้นที่ห่างไกล เด็กยากจน และเด็กที่มีความต้องการพิเศษ กลยุทธ์ที่ 5 การพัฒนาระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และกลยุทธ์ที่ 6 การสร้างเครือข่ายและความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ
การพัฒนาหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้
การปฏิรูปหลักสูตรเป็นหัวใจสำคัญของแผนปฏิบัติราชการนี้ โดย สพฐ มุ่งเน้นการพัฒนาหลักสูตรที่เน้นสมรรถนะและทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ได้แก่ ทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะการสื่อสาร ทักษะการทำงานเป็นทีม และทักษะด้านเทคโนโลยี หลักสูตรใหม่จะมีความยืดหยุ่น สามารถปรับให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ และตอบสนองความต้องการของผู้เรียนแต่ละคน
กระบวนการเรียนรู้จะเปลี่ยนจากการเรียนแบบท่องจำสู่การเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบโครงงาน การเรียนรู้ตามปัญหา และการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง ครูจะมีบทบาทเป็นผู้อำนวยความสะดวกและเป็นโค้ชในการเรียนรู้ มากกว่าการเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้เพียงอย่างเดียว การวัดและประเมินผลจะมีรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งการประเมินระหว่างเรียน การประเมินตามสภาพจริง และการประเมินแบบ 360 องศา
การพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา
ครูเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ แผนปฏิบัติราชการนี้จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง การพัฒนาครูจะเริ่มตั้งแต่กระบวนการผลิตครู โดยการปรับปรุงหลักสูตรการผลิตครูให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกและความต้องการของระบบการศึกษา การเสริมสร้างทักษะและสมรรถนะของครูให้มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านเนื้อหาวิชา วิธีการสอน และการใช้เทคโนโลยี
การพัฒนาครูในระหว่างการปฏิบัติงานจะมีรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งการอบรม การศึกษาดูงาน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และการพัฒนาตนเองผ่านชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ระบบการนิเทศและพัฒนาครูจะมีการปรับปรุงให้เน้นการสนับสนุนและช่วยเหลือครูในการพัฒนาตนเอง มากกว่าการตรวจสอบและควบคุม การประเมินผลการปฏิบัติงานของครูจะมุ่งเน้นการพัฒนามากกว่าการลงโทษ
การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการศึกษา
ยุคดิจิทัลได้เปลี่ยนแปลงวิถีการเรียนรู้ของมนุษย์อย่างมากมาย แผนปฏิบัติราชการนี้จึงมุ่งเน้นการบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับการจัดการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลในสถานศึกษา ได้แก่ การปรับปรุงระบบอินเทอร์เน็ต การจัดหาอุปกรณ์เทคโนโลยี และการพัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องดำเนินการในลำดับแรก
การพัฒนาสื่อการเรียนรู้ดิจิทัลที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับผู้เรียนแต่ละระดับ การสร้างห้องสมุดดิจิทัลที่รวบรวมทรัพยากรการเรียนรู้ที่หลากหลาย และการพัฒนาเกมการศึกษาที่ส่งเสริมการเรียนรู้อย่างสนุกสนาน จะเป็นองค์ประกอบสำคัญในการยกระดับคุณภาพการศึกษา การฝึกอบรมครูให้มีทักษะการใช้เทคโนโลยีและการจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน (Blended Learning) จะได้รับการส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง
การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา
หลักการความเสมอภาคทางการศึกษาเป็นหัวใจสำคัญของแผนปฏิบัติราชการนี้ โดยมุ่งเน้นการให้เด็กไทยทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ใด มีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างไร หรือมีความแตกต่างทางร่างกายและสติปัญญาแค่ไหน การพัฒนาสถานศึกษาในพื้นที่ห่างไกลและด้อยโอกาส การจัดหาครูและทรัพยากรการเรียนรู้ที่เพียงพอ และการสร้างเครือข่ายการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ จะเป็นมาตรการสำคัญ
การสนับสนุนเด็กที่มีความต้องการพิเศษให้ได้รับการศึกษาที่เหมาะสมกับศักยภาพของตน การพัฒนาโรงเรียนแม่เหล็กที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และการสร้างเส้นทางการศึกษาที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความสนใจและความถนัดที่แตกต่างกันของผู้เรียน จะช่วยให้ระบบการศึกษาไทยมีความครอบคลุมและยืดหยุ่นมากขึ้น การจัดทุนการศึกษาและการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการศึกษาสำหรับเด็กยากจนและเด็กด้อยโอกาส จะช่วยลดอุปสรรคทางการเงินที่เป็นปัจจัยสำคัญในการเข้าถึงการศึกษา
การบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม
การบริหารจัดการการศึกษาที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในสังคม แผนปฏิบัติราชการนี้เน้นการสร้างระบบการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม โดยเปิดโอกาสให้ผู้ปกครอง ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา การสร้างคณะกรรมการสถานศึกษาที่มีประสิทธิภาพ การจัดตั้งเครือข่ายผู้ปกครองและชุมชน และการส่งเสริมการสนับสนุนจากภาคเอกชน จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา
การกระจายอำนาจและความรับผิดชอบในการบริหารจัดการไปยังระดับสถานศึกษา การเสริมสร้างความเข้มแข็งของผู้บริหารสถานศึกษา และการพัฒนาระบบการบริหารจัดการที่ใช้ข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ในการตัดสินใจ จะช่วยให้การจัดการศึกษามีความคล่องตัวและตอบสนองความต้องการของผู้เรียนได้ดียิ่งขึ้น การส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานแบบร่วมมือและการแบ่งปันความรู้ จะช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานที่เอื้อต่อการพัฒนาและการเรียนรู้
การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
เป้าหมายสูงสุดของแผนปฏิบัติราชการคือการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนให้เป็นคนเก่ง คนดี และมีความสุข การพัฒนาทักษะการรู้เรื่อง (Literacy) และทักษะการคิดคำนวณ (Numeracy) ให้แก่ผู้เรียนทุกคน การส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ และการพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต
การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ การส่งเสริมความรักในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการเป็นพลเมืองที่ดีของสังคมประชาธิปไตย จะเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาผู้เรียน การเสริมสร้างทักษะชีวิต ได้แก่ ทักษะการคิดแก้ปัญหา ทักษะการตัดสินใจ ทักษะการจัดการอารมณ์ และทักษะการอยู่ร่วมกับผู้อื่น จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถดำรงชีวิตอย่างมีความสุขและประสบความสำเร็จ
การพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษา
ระบบประกันคุณภาพการศึกษาเป็นเครื่องมือสำคัญในการติดตาม ตรวจสอบ และปรับปรุงคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง แผนปฏิบัติราชการนี้มุ่งเน้นการพัฒนาระบบประกันคุณภาพที่เน้นการพัฒนามากกว่าการตรวจสอบ การใช้ข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ในการประเมินคุณภาพ และการสร้างวัฒนธรรมการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาตัวชี้วัดและเครื่องมือการประเมินที่สะท้อนคุณภาพการศึกษาอย่างแท้จริง
การจัดทำรายงานคุณภาพการศึกษาที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจและการปรับปรุง การสร้างระบบข้อมูลและสารสนเทศที่ครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัย และเข้าถึงได้ง่าย จะช่วยสนับสนุนการบริหารจัดการการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ การส่งเสริมการใช้ผลการประเมินเพื่อการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพการศึกษา จะเป็นกุญแจสำคัญในการยกระดับมาตรฐานการศึกษาไทย
การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ
การศึกษาในยุคปัจจุบันต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วนและหลายประเทศ แผนปฏิบัติราชการนี้เน้นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถานศึกษา การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างครู นักเรียน และผู้บริหารสถานศึกษา และการร่วมมือกับสถาบันการศึกษาต่างประเทศในการพัฒนาหลักสูตร การแลกเปลี่ยนนักเรียนและครู
การสร้างความร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) และสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) จะช่วยยกระดับมาตรฐานการศึกษาไทยสู่ระดับสากล การเข้าร่วมการประเมินการศึกษาระหว่างประเทศ เช่น PISA, TIMSS, และ PIRLS จะช่วยให้ทราบตำแหน่งและจุดที่ต้องพัฒนาของการศึกษาไทย
การจัดการทรัพยากรและงบประมาณ
การบริหารจัดการทรัพยากรและงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินแผนปฏิบัติราชการให้บรรลุเป้าหมาย การจัดสรรงบประมาณที่เหมาะสมและเพียงพอสำหรับการพัฒนาการศึกษา การใช้จ่ายงบประมาณอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้ และการสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรที่ยืดหยุ่นและตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลง จะเป็นปัจจัยสำคัญในการสำเร็จของแผน
การสร้างแหล่งทุนทางเลือกและการระดมทรัพยากรจากภาคเอกชนและสังคม การพัฒนาระบบการจัดซื้อจัดจ้างที่มีประสิทธิภาพและโปร่งใส และการใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการทรัพยากร จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งบประมาณ การสร้างระบบการติดตามและประเมินผลการใช้งบประมาณ จะช่วยให้สามารถปรับปรุงและพัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างต่อเนื่อง
ความท้าทายและแนวทางการแก้ไข
การดำเนินแผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปีนี้มีความท้าทายหลายประการ ได้แก่ ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาระหว่างพื้นที่เมืองและชนบท การขาดแคลนครูในบางสาขาวิชาและบางพื้นที่ ความล้าหลังทางเทคโนโลยีของสถานศึกษาบางแห่ง และการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกยุคดิจิทัล
การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา จำเป็นต้องมีมาตรการสนับสนุนการเข้าถึงทรัพยากรทางการศึกษาอย่างเท่าเทียม เช่น การกระจายงบประมาณและสื่อการเรียนรู้ไปยังโรงเรียนในพื้นที่ชนบท การจัดโครงการเสริมโอกาสทางการศึกษา และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนทุกพื้นที่สามารถเรียนรู้ได้ใกล้เคียงกัน
ในด้านการขาดแคลนครู ควรส่งเสริมการผลิตและพัฒนาครูในสาขาที่ขาดแคลน จัดระบบการกระจายครูอย่างเหมาะสม รวมถึงการใช้สื่อการเรียนการสอนออนไลน์และนวัตกรรมการศึกษา เพื่อช่วยลดปัญหาการขาดบุคลากรในบางพื้นที่
สำหรับปัญหาความล้าหลังทางเทคโนโลยี จำเป็นต้องมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางการศึกษา เช่น การติดตั้งอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง การจัดหาอุปกรณ์การเรียนรู้ดิจิทัล และการพัฒนาทักษะดิจิทัลให้กับครูและนักเรียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การเรียนการสอนสอดคล้องกับยุคสมัย
ส่วนการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัล ต้องอาศัยการปรับหลักสูตรการเรียนการสอนให้ทันสมัย เน้นการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 เช่น การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การสื่อสาร และการทำงานร่วมกัน ตลอดจนการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อให้ผู้เรียนสามารถปรับตัวและแข่งขันได้ในบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ตัวอย่างไฟล์ แผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี (พ.ศ.2566-2570) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน



