สวัสดีคุณครูทุกท่านครับ วันนี้ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ขอนำเสนอ อบรมออนไลน์รับเกียรติบัตร ขอเชิญคุณครูภาษาไทยมารวมกันตรงนี้ กับพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เทคนิคการสอนภาษาไทย ให้ไปถึงคำว่า Active Learning ทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา มาเปลี่ยนห้องเรียนภาษาไทยที่เคยเป็นมา ให้มีชีวิตชีวาและกระตุ้นให้เด็กได้คิด วิเคราะห์และใช้ทักษะรอบด้าน ด้วยการลงมือทำ

อบรมออนไลน์รับเกียรติบัตร ขอเชิญคุณครูภาษาไทยมารวมกันตรงนี้ กับพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เทคนิคการสอนภาษาไทย ให้ไปถึงคำว่า Active Learning ทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา มาเปลี่ยนห้องเรียนภาษาไทยที่เคยเป็นมา ให้มีชีวิตชีวาและกระตุ้นให้เด็กได้คิด วิเคราะห์และใช้ทักษะรอบด้าน ด้วยการลงมือทำ

เทคนิคการสอนภาษาไทย ให้ไปถึงคำว่า Active Learning ทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา

เปลี่ยนห้องเรียนภาษาไทยให้มีชีวิตชีวาด้วยเทคนิค Active Learning ตั้งแต่ระดับประถมถึงมัธยมศึกษา

การเรียนการสอนภาษาไทยในปัจจุบันกำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ที่ต้องการให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมมากขึ้น ไม่ใช่แค่การนั่งฟังครูบรรยายแบบเดิมๆ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียนรู้ให้เด็กนักเรียนได้ลงมือทำ ได้คิด ได้วิเคราะห์ และใช้ทักษะต่างๆ อย่างครบถ้วน นี่คือแนวคิดของ Active Learning หรือการเรียนรู้เชิงรุก ที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในวงการการศึกษาไทย

การสอนภาษาไทยแบบดั้งเดิมมักเน้นให้ผู้เรียนท่องจำไวยากรณ์ จดจำคำศัพท์ และอ่านตำราอย่างเดียว ซึ่งวิธีการนี้แม้จะช่วยให้นักเรียนมีความรู้พื้นฐาน แต่กลับทำให้ขาดความสนุกสนาน ไม่เห็นคุณค่าของภาษาไทยในชีวิตจริง และที่สำคัญคือไม่สามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ Active Learning จึงเข้ามาเป็นทางเลือกที่ช่วยเปลี่ยนแปลงบรรยากาศในห้องเรียนให้มีชีวิตชีวาและตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21

ความหมายและหลักการของ Active Learning ในการสอนภาษาไทย

Active Learning หรือการเรียนรู้เชิงรุกคือกระบวนการเรียนรู้ที่ผู้เรียนมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน ไม่ใช่แค่การรับฟังข้อมูลจากครูฝ่ายเดียว แต่เป็นการให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติ คิดวิเคราะห์ อภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสร้างสรรค์ผลงานด้วยตนเอง ในบริบทของการสอนภาษาไทย Active Learning จะช่วยให้นักเรียนเห็นว่าภาษาไทยไม่ใช่แค่วิชาที่ต้องท่องจำ แต่เป็นเครื่องมือในการสื่อสาร การแสดงออก และการคิดวิเคราะห์

หลักการสำคัญของ Active Learning ในการสอนภาษาไทยประกอบไปด้วยหลายมิติ ประการแรกคือการให้นักเรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ ครูจะทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวก คอยชี้แนะและให้คำปรึกษา มากกว่าการบรรยายเพียงฝ่ายเดียว ประการที่สองคือการเชื่อมโยงความรู้กับประสบการณ์จริงของนักเรียน ทำให้พวกเขาเห็นความเกี่ยวข้องของภาษาไทยกับชีวิตประจำวัน ประการที่สามคือการส่งเสริมให้มีการทำงานร่วมกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเรียนรู้จากเพื่อนร่วมชั้น และประการสุดท้ายคือการประเมินผลที่หลากหลาย ไม่เพียงแค่การสอบข้อเขียน แต่รวมถึงการนำเสนอผลงาน การแสดงบทบาทสมมติ หรือการสร้างสรรค์ชิ้นงานต่างๆ

ประโยชน์ของ Active Learning ต่อการเรียนการสอนภาษาไทย

การนำ Active Learning มาใช้ในการสอนภาษาไทยมีประโยชน์มากมายทั้งต่อผู้เรียนและผู้สอน สำหรับนักเรียนแล้ว การเรียนรู้แบบ Active Learning จะช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการเรียนรู้ เพราะพวกเขาได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่หลากหลายและน่าสนใจ ไม่ใช่แค่การนั่งฟังบรรยายอย่างเดียว นอกจากนี้ยังช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการคิดอย่างสร้างสรรค์ เพราะนักเรียนต้องใช้ความคิดในการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ใช่แค่ท่องจำหรือทำตามที่ครูสั่ง

ประโยชน์อีกประการหนึ่งคือการพัฒนาทักษะการสื่อสารและการทำงานร่วมกับผู้อื่น นักเรียนจะได้เรียนรู้การฟังความคิดเห็นของผู้อื่น การแสดงความคิดเห็นของตนเองอย่างมีเหตุผล และการทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญมากในโลกยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ Active Learning ยังช่วยให้นักเรียนจดจำและเข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น เพราะการลงมือทำด้วยตนเองจะทำให้ความรู้ติดทนมากกว่าการฟังเพียงอย่างเดียว

สำหรับครูผู้สอนแล้ว Active Learning ช่วยให้การสอนมีความหลากหลายและไม่น่าเบื่อ ครูสามารถสังเกตความก้าวหน้าของนักเรียนได้ชัดเจนขึ้นจากการดูผลงานและการมีส่วนร่วมในกิจกรรม นอกจากนี้ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียน เพราะครูจะใกล้ชิดกับนักเรียนมากขึ้นในฐานะผู้ให้คำปรึกษาและผู้อำนวยความสะดวก

เทคนิค Active Learning สำหรับการสอนภาษาไทยระดับประถมศึกษา

การนำ Active Learning มาใช้กับนักเรียนระดับประถมศึกษาต้องคำนึงถึงความเหมาะสมตามวัยและพัฒนาการของเด็ก เด็กประถมมีความสนใจระยะสั้น ชอบเคลื่อนไหว และเรียนรู้ผ่านการเล่นและการสัมผัส ดังนั้นกิจกรรม Active Learning สำหรับระดับประถมควรเน้นความสนุกสนาน การเคลื่อนไหว และการใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า

เทคนิคแรกที่น่าสนใจคือการเล่านิทานแบบมีส่วนร่วม แทนที่ครูจะเป็นผู้เล่านิทานฝ่ายเดียว ควรให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเล่าเรื่อง เช่น ให้นักเรียนแสดงท่าทางประกอบตัวละคร ให้คาดเดาว่าเรื่องจะจบอย่างไร หรือให้แต่งต่อท้ายเรื่องด้วยตนเอง กิจกรรมนี้จะช่วยพัฒนาจินตนาการ ทักษะการฟัง และความเข้าใจในการใช้ภาษาไทยเพื่อสื่อความหมาย

การละเล่นพื้นบ้านที่ผสมผสานกับการใช้ภาษาไทยก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่มีประสิทธิภาพ เช่น การเล่นเพลงพื้นบ้าน การเล่นคำทาย การเล่นปริศนาคำทาย หรือการเล่นเกมที่ต้องใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร เช่น เกมบอกทิศทาง เกมทายคำจากคำใบ้ หรือเกมต่อคำศัพท์ กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้ภาษาไทยผ่านการเคลื่อนไหวและความสนุกสนาน

การสร้างหนังสือเล่มเล็กหรือการ์ดคำศัพท์ด้วยตนเองก็เป็นกิจกรรมที่ดี นักเรียนสามารถวาดรูป ตัดปะ และเขียนคำศัพท์ลงในหนังสือหรือการ์ดของตนเอง การได้ลงมือทำด้วยตนเองจะทำให้เด็กจดจำคำศัพท์ได้ดีขึ้น และยังเป็นการพัฒนาทักษะการเขียนและความคิดสร้างสรรค์ไปพร้อมกัน

การจัดมุมภาษาไทยในห้องเรียนก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยส่งเสริม Active Learning ครูสามารถจัดมุมอ่านหนังสือ มุมเขียนเรื่อง มุมเล่นบทบาทสมมติ หรือมุมทำงานศิลปะที่เกี่ยวกับภาษาไทย การให้นักเรียนได้เลือกไปเล่นในมุมต่างๆ ตามความสนใจจะช่วยให้พวกเขาได้เรียนรู้ภาษาไทยอย่างมีความสุขและเหมาะสมกับรูปแบบการเรียนรู้ของแต่ละคน

การใช้สื่อประกอบการเรียนการสอนที่จับต้องได้ก็มีความสำคัญมากสำหรับเด็กประถม เช่น การใช้ตัวอักษรแม่เหล็ก การ์ดภาพคำศัพท์ หุ่นนิ้วมือ หรือของเล่นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่สอน การได้สัมผัสและจับต้องจะช่วยให้เด็กเข้าใจและจดจำได้ดีขึ้น

กิจกรรม Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านในระดับประถม

การอ่านเป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญของการเรียนภาษาไทย การพัฒนาทักษะการอ่านด้วย Active Learning จะช่วยให้เด็กรักการอ่านและอ่านได้อย่างมีความเข้าใจ กิจกรรมแรกที่แนะนำคือการอ่านร่วมกันเป็นกลุ่ม แบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มเล็กๆ ให้แต่ละคนได้อ่านเนื้อหาส่วนหนึ่ง แล้วมาเล่าสรุปให้เพื่อนในกลุ่มฟัง การอ่านแบบนี้จะช่วยให้เด็กรู้สึกมั่นใจมากขึ้นและได้เรียนรู้จากเพื่อน

กิจกรรมการละครคำอ่านก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ ให้นักเรียนอ่านบทความหรือนิทาน แล้วแบ่งกลุ่มกันแสดงเป็นละครตามเนื้อเรื่อง การได้แสดงออกผ่านบทบาทสมมติจะทำให้เด็กเข้าใจเนื้อหาได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และยังพัฒนาทักษะการพูดและการแสดงออกไปด้วย

การทำ Story Map หรือแผนผังเรื่องเล่าก็เป็นเทคนิคที่ดี หลังจากอ่านเรื่องจบแล้ว ให้นักเรียนวาดแผนผังแสดงตัวละคร เหตุการณ์สำคัญ ปัญหา และการแก้ปัญหา การทำแผนผังจะช่วยให้เด็กเข้าใจโครงสร้างของเรื่องและสามารถวิเคราะห์เนื้อหาได้ดีขึ้น

กิจกรรมการอ่านแล้วทำ Book Review หรือรีวิวหนังสือก็น่าสนใจ ให้นักเรียนอ่านหนังสือที่ชอบแล้วมาเล่าให้เพื่อนฟังว่าชอบตรงไหน ทำไมถึงชอบ และอยากแนะนำให้ใครอ่านบ้าง การได้แสดงความคิดเห็นและแนะนำหนังสือจะช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการสื่อสาร

กิจกรรม Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนในระดับประถม

การเขียนเป็นทักษะที่เด็กหลายคนมักรู้สึกว่ายากและน่าเบื่อ การใช้ Active Learning จะช่วยให้การเขียนเป็นเรื่องสนุกและมีความหมาย กิจกรรมแรกคือการเขียนแบบมีตัวช่วย เช่น ให้รูปภาพแล้วให้เด็กเขียนเรื่องเล่า ให้คำศัพท์แล้วให้แต่งประโยค หรือให้จุดเริ่มต้นของเรื่องแล้วให้แต่งต่อ การมีตัวช่วยจะทำให้เด็กไม่รู้สึกว่าการเขียนเป็นเรื่องยากเกินไป

การเขียนร่วมกันเป็นกลุ่มก็เป็นเทคนิคที่ดี นักเรียนในกลุ่มจะช่วยกันระดมความคิด ร่วมกันเขียนเรื่อง และช่วยกันตรวจทานงาน การทำงานร่วมกันจะช่วยให้เด็กที่ไม่ค่อยมั่นใจได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อน และยังได้เรียนรู้จากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

กิจกรรมการสร้างนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ในชั้นเรียนก็น่าสนใจ แบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มรับผิดชอบส่วนต่างๆ เช่น เขียนข่าว เขียนบทความ เขียนบทสัมภาษณ์ หรือวาดภาพประกอบ การได้เห็นผลงานของตนเองเป็นรูปเป็นร่างและมีคนอ่านจะทำให้เด็กภูมิใจและมีแรงจูงใจในการเขียนมากขึ้น

การใช้เทคโนโลยีก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยส่งเสริมการเขียน เช่น ให้นักเรียนพิมพ์เรื่องเล่าลงคอมพิวเตอร์ สร้างอีบุ๊ก หรือเขียนบล็อก การใช้เทคโนโลยีจะทำให้การเขียนดูทันสมัยและน่าสนใจมากขึ้นสำหรับเด็กยุคใหม่

กิจกรรม Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการพูดในระดับประถม

ทักษะการฟังและการพูดเป็นทักษะที่สำคัญไม่แพ้การอ่านและการเขียน การใช้ Active Learning จะช่วยให้เด็กได้ฝึกฝนทักษะเหล่านี้อย่างสนุกสนาน กิจกรรม Show and Tell เป็นกิจกรรมคลาสสิกที่มีประสิทธิภาพ ให้นักเรียนนำสิ่งของหรือภาพถ่ายที่ตนเองชอบมาโชว์หน้าชั้นเรียนและเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งนั้น การได้พูดเกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองชอบจะทำให้เด็กมีความมั่นใจและพูดได้อย่างเป็นธรรมชาติ

เกมโทรศัพท์เสียหรือกระซิบส่งข่าวก็เป็นกิจกรรมที่สนุกและช่วยฝึกทักษะการฟังและการพูด นักเรียนจะได้เรียนรู้ว่าการฟังอย่างตั้งใจและการพูดอย่างชัดเจนมีความสำคัญอย่างไร

การจัดเวทีถกประเด็นหรือการอภิปรายในรูปแบบง่ายๆ ก็เหมาะสมกับเด็กประถมตอนปลาย ให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้อที่เหมาะสมกับวัย เช่น สัตว์เลี้ยงที่ชอบ กีฬาที่สนุก หรือหนังสือที่น่าอ่าน การได้แสดงความคิดเห็นและฟังความคิดเห็นของผู้อื่นจะช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการพูดในที่สาธารณะ

กิจกรรมการสัมภาษณ์ก็น่าสนใจ ให้นักเรียนจับคู่กันสัมภาษณ์เพื่อนเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ เช่น งานอดิเรก ความฝัน หรือเรื่องในครอบครัว แล้วนำมาเล่าต่อหน้าชั้นเรียน กิจกรรมนี้จะช่วยพัฒนาทั้งทักษะการฟัง การพูด และความมั่นใจ

เทคนิค Active Learning สำหรับการสอนภาษาไทยระดับมัธยมศึกษา

การสอนภาษาไทยระดับมัธยมศึกษาด้วย Active Learning จะมีความซับซ้อนและลึกซึ้งมากขึ้นตามพัฒนาการของวัยรุ่น นักเรียนมัธยมมีความสามารถในการคิดเชิงนามธรรม วิเคราะห์อย่างมีเหตุผล และสนใจในประเด็นทางสังคม ดังนั้นกิจกรรม Active Learning ในระดับนี้ควรเน้นการคิดวิเคราะห์ การอภิปรายประเด็นที่ซับซ้อน และการสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพ

เทคนิคการสอนแบบ Project Based Learning หรือการเรียนรู้ผ่านโครงงานเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากสำหรับระดับมัธยม ให้นักเรียนทำโครงงานภาษาไทยที่เกี่ยวข้องกับชีวิตจริง เช่น โครงงานสำรวจภาษาถิ่นในท้องถิ่น โครงงานศึกษาวรรณกรรมไทยยุคต่างๆ หรือโครงงานสร้างสื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับภาษาไทย การทำโครงงานจะช่วยให้นักเรียนได้ใช้ทักษะทั้งการอ่าน การเขียน การวิเคราะห์ และการนำเสนอ

การจัดเวทีโต้วาทีหรือการอภิปรายอย่างเป็นทางการก็เหมาะสมกับนักเรียนมัธยม เลือกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภาษาไทยและสังคม เช่น ควรใช้ภาษาต่างประเทศในราชการหรือไม่ ภาษาไทยในโลกยุคโลกาภิวัตน์ควรปรับตัวอย่างไร หรือการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดียมีผลกระทบอย่างไร การอภิปรายจะช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การหาข้อมูล และการนำเสนอความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล

กิจกรรมการวิพากษ์วรรณกรรมก็เป็นเทคนิคที่ดี แทนที่จะให้นักเรียนเพียงอ่านและสรุปเนื้อหา ให้พวกเขาวิเคราะห์เจาะลึกถึงแนวคิด การใช้ภาษา สัญลักษณ์ และข้อคิดที่ได้จากวรรณกรรม จากนั้นให้เขียนบทความวิจารณ์หรือนำเสนอหน้าชั้นเรียน การวิพากษ์จะช่วยพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแสดงความคิดเห็นอย่างมีหลักการ

รายละเอียด อบรมออนไลน์รับเกียรติบัตร เทคนิคการสอนภาษาไทย ให้ไปถึงคำว่า Active Learning ทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา

เทคนิคการสอนภาษาไทย ให้ไปถึงคำว่า Active Learning ทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา

ขอเชิญคุณครูภาษาไทยมารวมกันตรงนี้ กับพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เทคนิคการสอนภาษาไทย ให้ไปถึงคำว่า Active Learning ทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา มาเปลี่ยนห้องเรียนภาษาไทยที่เคยเป็นมา ให้มีชีวิตชีวาและกระตุ้นให้เด็กได้คิด วิเคราะห์และใช้ทักษะรอบด้าน ด้วยการลงมือทำ

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถขอรับเกียรติบัตรจากการเข้าร่วมได้ อย่าลืมมาร่วมสนุกกันเยอะ ๆ นะ

Topic: “เรียนรู้วิชาภาษาไทย สอนอย่างไรให้ Active”
Time: Jun 24, 2023 08:30 PM Bangkok

ลิงก์สำหรับลงทะเบียนเข้าอบรม

ลิงก์สำหรับเข้าห้อง zoom เพื่อเข้าอบรม

Meeting ID: 938 1245 1310
Passcode: 965452

ขอบคุณแหล่งที่มา : โดย สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ห้ามพลาด