สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ทุกท่านนะครับ วันนี้พบกับ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ โครงงานฝ่ายงานวิชาการ จำนวน 38 โครงการ ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ในงานวิชาการ ตามบริบทของสถานศึกษาได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ โครงงานฝ่ายงานวิชาการ จำนวน 38 โครงการ ตามรายละเอียดดังนี้ครับ

แจกฟรี โครงงานฝ่ายงานวิชาการ จำนวน 38 โครงการ

พลิกโฉมการศึกษา เจาะลึก 38 โครงงานฝ่ายวิชาการ เพื่อสร้างนักเรียนแห่งอนาคต

ในโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว การศึกษาไม่ได้เป็นเพียงการส่งต่อความรู้จากตำราสู่ผู้เรียนอีกต่อไป แต่คือกระบวนการสร้างมนุษย์ที่สมบูรณ์พร้อมด้วยทักษะชีวิต ทักษะการคิดวิเคราะห์ และความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับความท้าทายใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นในการยกระดับคุณภาพการเรียนการสอนให้ก้าวทันโลก ฝ่ายงานวิชาการได้ริเริ่มและผลักดันชุดโครงการพัฒนาศักยภาพผู้เรียนและบุคลากรทางการศึกษาจำนวนมากถึง 38 โครงการ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงโครงการที่จัดทำขึ้นตามวาระ แต่เป็นแผนกลยุทธ์ระยะยาวที่ถูกร้อยเรียงเข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ (Learning Ecosystem) ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน โครงการทั้งหมดนี้เปรียบเสมือนฟันเฟือง 38 ชิ้นที่ทำงานประสานกันอย่างลงตัว ขับเคลื่อนกลไกทางการศึกษาให้เดินหน้าไปสู่เป้าหมายเดียวกัน นั่นคือการสร้างผู้เรียนให้เป็นพลเมืองโลกที่มีคุณภาพและมีความสุขในการเรียนรู้ตลอดชีวิต บทความนี้จะพาทุกท่านไปเจาะลึกถึงรายละเอียดและความสำคัญของกลุ่มโครงการเหล่านี้ ที่เป็นมากกว่าแค่กิจกรรม แต่คือหัวใจของการเปลี่ยนแปลงการศึกษาอย่างแท้จริง

กลุ่มโครงการแรกสุดมุ่งเน้นไปที่การวางรากฐานและเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้เรียนโดยตรง โดยครอบคลุมตั้งแต่ทักษะพื้นฐานไปจนถึงทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ประกอบด้วยโครงการหลากหลายที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาในแต่ละมิติ เช่น โครงการ “อ่านออกเขียนได้ คิดเลขเป็น เห็นโลกกว้าง” ที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่การอ่านออกเขียนได้ตามมาตรฐาน แต่ส่งเสริมการอ่านเพื่อความเข้าใจ การตีความ และการนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตจริง ผ่านกิจกรรม “Book Club” ชวนคิด หรือการแข่งขันเล่านิทานเชิงสร้างสรรค์ ในขณะที่ด้านการคิดเลข ก็จะเน้นการนำคณิตศาสตร์ไปแก้ปัญหาในสถานการณ์จำลองต่างๆ เพื่อให้ผู้เรียนเห็นว่าคณิตศาสตร์เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ ไม่ใช่แค่วิชาที่น่าเบื่อ นอกจากนี้ยังมี โครงการ “นักคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinker)” ที่ฝึกฝนให้นักเรียนตั้งคำถามกับข้อมูลที่ได้รับ ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ รู้จักการสืบค้นข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ การเปรียบเทียบ และการประเมินหาข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งในยุคข้อมูลข่าวสารที่ท่วมท้น ควบคู่ไปกับ โครงการ “สื่อสารสร้างสรรค์” ที่ส่งเสริมทักษะการนำเสนอ การพูดในที่สาธารณะ การโต้วาที และการเขียนเรียงความเชิงโน้มน้าวใจ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถถ่ายทอดความคิดของตนเองได้อย่างชัดเจนและมีพลัง ยังไม่นับรวม โครงการ “ปลุกพลัง STEM สู่การสร้างนวัตกรน้อย” ที่จัดตั้งชมรมหุ่นยนต์ การแข่งขันเขียนโค้ดเบื้องต้น และการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับปัญหาในชุมชน เพื่อจุดประกายความสนใจในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ สร้างประสบการณ์ตรงที่นอกเหนือจากในห้องเรียน

แน่นอนว่าการจะพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพสูงสุดได้นั้น จำเป็นต้องเริ่มต้นจากการพัฒนาครูผู้สอนให้มีความพร้อมและมีศักยภาพเสียก่อน กลุ่มโครงการที่สองจึงทุ่มเทให้กับการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง โครงการ “ครูยุคใหม่ หัวใจโค้ช (Teacher as a Coach)” คือหนึ่งในโครงการเรือธง ที่มุ่งปรับเปลี่ยนบทบาทของครูจาก “ผู้สอน” มาเป็น “โค้ช” หรือผู้อำนวยการการเรียนรู้ โดยจัดอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการตั้งคำถามกระตุ้นความคิด การให้ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback) เชิงสร้างสรรค์ และการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning ที่เน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง นอกจากนี้ยังมี โครงการ “ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC – Professional Learning Community)” ที่ส่งเสริมให้ครูในสาขาวิชาเดียวกันหรือต่างสาขามารวมกลุ่มกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การสอน แบ่งปันเทคนิคและสื่อการสอนที่ประสบความสำเร็จ และร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาเพื่อหาแนวทางแก้ไข เป็นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เกื้อหนุนให้เกิดการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง ยังมี โครงการ “พัฒนาทักษะดิจิทัลสำหรับครู (Digital Literacy for Educators)” ที่อบรมการใช้เครื่องมือและแพลตฟอร์มดิจิทัลใหม่ๆ ในการสร้างสื่อการสอนที่น่าสนใจ การจัดการชั้นเรียนออนไลน์ และการวัดผลประเมินผลผ่านเทคโนโลยี เพื่อให้ครูสามารถใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือยกระดับการสอนได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ รวมถึง โครงการ “English for Teachers” ที่จัดคอร์สพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้กับครูทุกกลุ่มสาระ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็นโรงเรียนสองภาษาและเปิดประตูสู่แหล่งความรู้ที่เป็นสากล

หัวใจสำคัญอีกประการหนึ่งของการศึกษาคือหลักสูตรและกระบวนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มโครงการที่สามจึงมุ่งเน้นไปที่การพัฒนานวัตกรรมหลักสูตรและการสอนให้มีความทันสมัยและตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียนอย่างแท้จริง โครงการ “หลักสูตรสถานศึกษาบูรณาการ” ได้รับการผลักดันให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงเนื้อหาจากหลายกลุ่มสาระเข้าด้วยกัน เช่น การเรียนเรื่องสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นที่บูรณาการความรู้ทางวิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ภาษาไทย และศิลปะเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้นักเรียนเห็นภาพรวมและเข้าใจความเชื่อมโยงของสรรพสิ่ง อีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจคือ โครงการ “ห้องเรียนไร้พรมแดน (Borderless Classroom)” ที่ส่งเสริมการเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ภายนอก ทั้งในรูปแบบของการทัศนศึกษาในสถานที่จริง การเชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากสาขาอาชีพต่างๆ เข้ามาแบ่งปันประสบการณ์ และการทำ “Project-Based Learning” ที่นักเรียนต้องนำความรู้ไปใช้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในชุมชนของตนเอง นอกจากนี้ยังมีการริเริ่ม โครงการ “Gamification in Learning” หรือการนำองค์ประกอบของเกมมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน เช่น การสะสมคะแนน การเลื่อนระดับ การทำภารกิจ เพื่อสร้างแรงจูงใจและความสนุกสนานในการเรียนรู้ ลดความเครียด และทำให้นักเรียนรู้สึกท้าทายอยากที่จะเรียนรู้มากขึ้น พร้อมกันนั้น โครงการ “พัฒนาแหล่งเรียนรู้และสื่อการสอน” ก็ได้ดำเนินการควบคู่กันไป มีการจัดทำคลังสื่อดิจิทัลที่ครูและนักเรียนสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา รวมถึงการปรับปรุงห้องสมุดให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ที่ทันสมัย มีมุมสำหรับการค้นคว้า มุมสำหรับการทำงานกลุ่ม และมุมสำหรับการพักผ่อนอย่างสร้างสรรค์

เทคโนโลยีคือเครื่องมืออันทรงพลังที่จะปฏิวัติการศึกษาในศตวรรษที่ 21 กลุ่มโครงการที่สี่จึงให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนอย่างชาญฉลาด โครงการ “1 นักเรียน 1 แท็บเล็ต (One Student, One Tablet)” ไม่ได้เป็นเพียงการแจกอุปกรณ์ แต่มาพร้อมกับการวางระบบนิเวศที่รองรับอย่างครบวงจร ทั้งเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่ครอบคลุม แพลตฟอร์มการจัดการเรียนรู้ (LMS – Learning Management System) ที่มีประสิทธิภาพ และคลังแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษาที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี โครงการนี้ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงแหล่งข้อมูลและเปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้ตามความสนใจและความถนัดของตนเอง อีกทั้งยังมี โครงการ “ห้องเรียนอัจฉริยะ (Smart Classroom)” ที่มีการติดตั้งกระดานอัจฉริยะ (Interactive Whiteboard) ระบบการประชุมทางไกล และอุปกรณ์ที่รองรับการเรียนรู้แบบมีปฏิสัมพันธ์ ช่วยให้การสอนของครูมีความน่าสนใจและหลากหลายมิติมากขึ้น สามารถเชื่อมต่อกับห้องเรียนอื่นๆ หรือผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ โครงการ “การประเมินผลดิจิทัล (Digital Assessment)” ยังถูกนำมาใช้เพื่อลดภาระงานเอกสารของครูและเพิ่มประสิทธิภาพในการวัดผล โดยใช้ระบบการสอบออนไลน์ที่สามารถตรวจให้คะแนนและวิเคราะห์ผลได้ทันที ทำให้ครูเห็นจุดแข็งและจุดที่ต้องพัฒนาของนักเรียนแต่ละคนได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เพื่อนำไปวางแผนการสอนซ่อมเสริมได้อย่างตรงจุด

การศึกษาที่สมบูรณ์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในรั้วโรงเรียน แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน กลุ่มโครงการที่ห้าจึงเน้นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือและขยายการเรียนรู้สู่ชุมชน โครงการ “สานสัมพันธ์บ้านและโรงเรียน” จัดให้มีกิจกรรมประชุมผู้ปกครองในรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช่แค่การรายงานผลการเรียน แต่เป็นการจัดเวทีเสวนา “Parenting Workshop” เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเกี่ยวกับจิตวิทยาวัยรุ่นและแนวทางการส่งเสริมการเรียนรู้ของบุตรหลานที่บ้าน สร้างความเข้าใจและทิศทางการพัฒนานักเรียนร่วมกันระหว่างบ้านและโรงเรียน ในขณะเดียวกัน โครงการ “โรงเรียนคือชุมชน ชุมชนคือโรงเรียน” ได้ส่งเสริมให้นักเรียนเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมของชุมชน เช่น โครงการจิตอาสาพัฒนาท้องถิ่น โครงการรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อม และโครงการสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยมีปราชญ์ชาวบ้านเป็นวิทยากรพิเศษ เป็นการปลูกฝังความรักและความภาคภูมิใจในบ้านเกิดและเรียนรู้ทักษะชีวิตจากประสบการณ์จริง นอกจากนี้ยังมีการริเริ่ม โครงการ “ความร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษาและสถานประกอบการ” โดยมีการลงนามความร่วมมือ (MOU) เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายได้เข้าไปสัมผัสประสบการณ์ในมหาวิทยาลัย หรือฝึกงานในสถานประกอบการที่ตนเองสนใจ เป็นการเตรียมความพร้อมและสร้างแรงบันดาลใจในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพในอนาคต

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด คือกลุ่มโครงการที่ว่าด้วยการวัดผล ประเมินผล และการประกันคุณภาพการศึกษา เพื่อให้มั่นใจว่าทุกโครงการที่ทำไปนั้นเกิดประสิทธิผลสูงสุดและนำไปสู่การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โครงการ “การประเมินผู้เรียนตามสภาพจริง (Authentic Assessment)” ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย เพื่อเปลี่ยนผ่านจากการวัดผลด้วยข้อสอบปรนัยเพียงอย่างเดียว ไปสู่การประเมินที่หลากหลายและสะท้อนความสามารถที่แท้จริงของผู้เรียนมากขึ้น เช่น การประเมินจากแฟ้มสะสมงาน (Portfolio) การประเมินจากการปฏิบัติจริง การประเมินจากการทำโครงงาน และการนำเสนอผลงาน ซึ่งทำให้การประเมินเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวอีกต่อไป ควบคู่ไปกับ โครงการ “ระบบฐานข้อมูลเพื่อการพัฒนา (Data-Driven Improvement)” ที่มีการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรม และข้อมูลพฤติกรรมต่างๆ อย่างเป็นระบบ เพื่อใช้เป็นสารสนเทศในการตัดสินใจเชิงนโยบายและวางแผนพัฒนาการจัดการศึกษาได้อย่างตรงเป้าหมายและมีหลักฐานเชิงประจักษ์รองรับ นอกจากนี้ โครงการ “การประกันคุณภาพภายในสู่มาตรฐานสากล” ยังคงดำเนินการอย่างเข้มแข็ง มีการประเมินตนเองอย่างสม่ำเสมอ เปิดรับการตรวจเยี่ยมจากหน่วยงานภายนอก และนำผลการประเมินมาใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาองค์กรอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อรักษามาตรฐานและยกระดับคุณภาพการศึกษาให้เป็นที่ยอมรับในระดับประเทศและนานาชาติ

บทสรุปของมหากาพย์ 38 โครงงานฝ่ายงานวิชาการนี้ คือภาพสะท้อนของความมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างแรงกล้าที่จะไม่ยอมให้การศึกษาเป็นเพียงเรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นภารกิจร่วมกันของทุกคนที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ผู้บริหาร ครู นักเรียน ผู้ปกครอง ไปจนถึงชุมชน โครงการทั้งหมดนี้ไม่ใช่แค่รายชื่อกิจกรรมที่จะถูกจัดขึ้นแล้วผ่านเลยไป แต่คือการวางอิฐทีละก้อนเพื่อสร้างปราสาทแห่งการเรียนรู้ที่แข็งแกร่ง คือการถักทอเส้นใยแต่ละเส้นจนกลายเป็นผืนผ้าแห่งอนาคตที่งดงามสำหรับผู้เรียนทุกคน ผลลัพธ์ที่คาดหวังไม่ได้วัดได้เพียงจากคะแนนสอบที่สูงขึ้น แต่คือการได้เห็นแววตาที่เปี่ยมด้วยความสงสัยใคร่รู้ของนักเรียน การได้เห็นรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจเมื่อพวกเขาแก้ปัญหาที่ท้าทายได้สำเร็จ และที่สำคัญที่สุดคือการสร้างบัณฑิตน้อยที่เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม มีหัวใจที่เปิดกว้าง พร้อมเรียนรู้และปรับตัวอยู่เสมอ นี่คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด คือการสร้างคน ซึ่งเป็นการสร้างชาติที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง

โครงงานวิชาการ สร้างสรรค์การเรียนรู้และนวัตกรรมใหม่ในวิชาการ

โครงงานฝ่ายงานวิชาการ: ความสำคัญและบทบาทในโรงเรียน

โครงงานฝ่ายงานวิชาการเป็นกิจกรรมที่สำคัญในระบบการศึกษาที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ เช่น การวิจัย การศึกษาค้นคว้า และการทดลอง เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะของนักเรียนในด้านวิชาการ โครงงานเหล่านี้มักจะถูกจัดขึ้นภายในห้องเรียนหรือในโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนได้มีโอกาสใช้ความคิดสร้างสรรค์และประยุกต์ใช้ทฤษฎีที่เรียนในห้องเรียนให้เกิดประโยชน์จริง

การดำเนินโครงงานฝ่ายงานวิชาการช่วยให้ผู้เรียนมีโอกาสฝึกฝนการทำงานเป็นทีม พัฒนาทักษะในการสื่อสาร และเรียนรู้การคิดวิเคราะห์อย่างมีระเบียบ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับนักเรียนเมื่อได้เห็นผลลัพธ์จากการทำงานของตัวเอง

การจัดโครงงานฝ่ายงานวิชาการยังเป็นเครื่องมือในการสร้างสรรค์นวัตกรรมในวงการการศึกษา โดยการนำเสนอแนวทางหรือวิธีการใหม่ๆ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงในชีวิตประจำวัน

การบริหารจัดการโครงงานฝ่ายงานวิชาการในโรงเรียน

การบริหารจัดการโครงงานฝ่ายงานวิชาการในโรงเรียนเป็นกระบวนการที่ต้องการความร่วมมือจากหลายฝ่าย เช่น ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ปกครอง ซึ่งทุกฝ่ายต้องมีส่วนร่วมในการวางแผนและดำเนินการโครงงานให้สำเร็จลุล่วง

ขั้นตอนแรกของการบริหารจัดการคือการกำหนดหัวข้อโครงงานที่เหมาะสมกับหลักสูตรและความสนใจของนักเรียน การเลือกหัวข้อที่ท้าทายและน่าสนใจจะช่วยกระตุ้นให้นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการศึกษาและทำงาน

หลังจากนั้นต้องมีการวางแผนการทำงานอย่างเป็นขั้นตอน โดยเฉพาะการกำหนดระยะเวลาในการทำโครงงาน การแบ่งหน้าที่ของสมาชิกในทีม รวมถึงการเตรียมทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงาน

การตรวจสอบความก้าวหน้าในระหว่างการทำโครงงานเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ครูผู้สอนสามารถให้คำแนะนำและปรับปรุงวิธีการทำงานของนักเรียนได้ทันที

โครงงานฝ่ายงานวิชาการและการพัฒนาทักษะชีวิตของนักเรียน

โครงงานฝ่ายงานวิชาการไม่ได้เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างทักษะด้านวิชาการเท่านั้น แต่ยังมีส่วนในการพัฒนาทักษะชีวิตอื่นๆ ของนักเรียน เช่น ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในการทำโครงงาน

การทำโครงงานวิชาการในทีมช่วยให้นักเรียนเรียนรู้การแบ่งงาน การสื่อสาร และการให้คำแนะนำระหว่างเพื่อนร่วมทีม การทำงานร่วมกันนี้ยังช่วยฝึกให้เข้าใจความสำคัญของความรับผิดชอบ และการเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น

นอกจากนี้ โครงงานวิชาการยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมสร้างทักษะการจัดการเวลาและการวางแผนระยะยาว นักเรียนจะได้เรียนรู้ว่าการจัดสรรเวลาในการทำงานและการเตรียมความพร้อมจะทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การทำโครงงานยังช่วยให้เด็กนักเรียนเกิดความเข้าใจในกระบวนการค้นหาข้อมูล วิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ การพัฒนาทักษะเหล่านี้จะส่งผลให้เด็กนักเรียนมีความพร้อมในชีวิตและสามารถเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ ในอนาคตได้อย่างมั่นใจ

ตัวอย่างไฟล์เอกสาร

เอกสารเป็นไฟล์ Word แก้ไขได้

โครงการฝ่ายงานวิชาการจำนวน 38 โครงการ ได้แก่

• โครงการสถานศึกษาสีขาว-ปลอดยาเสพติดและอบายมุข
• โครงการพัฒนาคุณธรรมพื้นฐาน 4 ประการ
• โครงการส่งเสริมจิตสาธารณะ
• โครงการเปิดโลกกว้าง-สร้างโอกาส-สร้างเส้นทางสู่อาชีพ
• โครงการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร
• โครงการพัฒนาทักษะชีวิต การคิด วิชาการ ดนตรี กีฬา อาชีพ
• โครงการพัฒนาห้องเรียนคุณภาพ
• โครงการ-วันสำคัญ
• โครงการ-To-be-number-one-62
• โครงการส่งเสริมสติปัญญาผ่านกระบวนการคิดและการใช้ภาษา
• โครงการนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นำสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (สาขาห้องเรียนบ้านใหม่พัฒนา)
• โครงการเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษาและภูมิปัญญาท้องถิ่น
• โครงการหนูน้อยอารมณ์ดีสู่สังคมแห่งการเรียนรู้
• โครงการสอนซ่อมเสริมรูปแบบพี่สอนน้อง (ห้องเรียนสาขา)
• โครงการ-ส่งเสริมแนวการจัดการศึกษาแบบ-BBL
• โครงการส่งเสริมการประกันคุณภาพภายในระดับปฐมวัย
• โครงการ-ส่งเสริมการแนวการจัดการศึกษาแบบมอนเตสซอรี
• โครงการวิจัยในชั้นเรียน
• โครงการลูกเสือโรงเรียน
• โครงการร่างกายสดใส ใส่ใจการรับรู้
• โครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
• โครงการ-พัฒนาโสตทัศนูปกรณ์และICT-เพื่อการศึกษาปีการศึกษา2562
• โครงการพัฒนาห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้
• โครงการพัฒนาห้องเรียนวิทยาศาสตร์
• โครงการพัฒนาระบบงานทะเบียนและการวัดการประเมินผล
• โครงการ-พัฒนาทักษะอาชีพ-62
• โครงการ-พัฒนาคุณภาพวิชาการ
• โครงการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้
• โครงการเปิดโลกกว้างดอยช้างเที่ยวไทย (ทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้)
• โครงการประกันคุณภาพภายใน
• โครงการนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นำสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์
• โครงการแข่งขันทักษะวิชาการ 2562
• โครงการขยับกายตามจังหวะชาติพันธุ์
• โครงการกีฬาสัมพันธ์
• โครงาการโรงเรียน สพฐ. ใสสะอาดปราศจากคอรัปชัน
• โครงการพัฒนาระบบ ICT เพื่อการเรียนรู้
• โครงการเปิดบ้านวิชาการ-แก้ไข
• โครงการ-นิเทศภายใน

ดาวน์โหลดไฟล์เอกสารจากลิงก์ด้านล่างนี้ นะครับ

ขอบคุณแหล่งที่มา : สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม