สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ทุกท่านนะครับ วันนี้พบกับ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ โครงงานคุณธรรม ซึ่งเพื่อนๆ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดนำไปศึกษาและนำไปเป็นแนวทางในการจัดทำ โครงงานคุณธรรม ตามบริบทของห้องเรียน ได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ โครงงานคุณธรรม ตามรายละเอียดดังนี้ครับ
แจกฟรี โครงงานคุณธรรม ตัวอย่างไฟล์ 35 ตัวอย่าง ไฟล์ Word แก้ไขได้ โดย ครูต้นไผ่ดอทคอม

โครงงานคุณธรรม พร้อม 35 ตัวอย่างสำหรับครู
โครงงานคุณธรรมเป็นหนึ่งในกิจกรรมการเรียนรูที่สำคัญในระบบการศึกษาไทย ซึ่งมีวัตถุประสงคเพื่อพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมและค่านิยมที่ดีงามให้กับเด็กและเยาวชน การทำโครงงานคุณธรรมไม่เพียงแต่ช่วยให้นักเรียนเข้าใจถึงความสำคัญของคุณธรรมในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังเป็นการปลูกฝังให้เกิดความตระหนักในการประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นคนดีของสังคมอีกด้วย
ในปัจจุบันครูและนักเรียนหลายท่านยังมีความสงสัยเกี่ยวกับการจัดทำโครงงานคุณธรรม ไม่ว่าจะเป็นการเลือกหัวข้อ การวางแผนการดำเนินงาน หรือแม้แต่การประเมินผลโครงงาน บทความนี้จึงจัดทำขึ้นเพื่อเป็นคู่มือครบครันที่จะช่วยให้ทุกท่านสามารถสร้างสรรคโครงงานคุณธรรมที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพได้อย่างง่ายดาย
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคุณธรรม
โครงงานคุณธรรมคือกิจกรรมการเรียนรูที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของผู้เรียนผ่านการปฏิบัติจริง โดยนักเรียนจะต้องศึกษาค้นคว้า วางแผน ดำเนินการ และประเมินผลกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคุณธรรมต่างๆ เช่น ความซื่อสัตย์ ความเสียสละ ความรับผิดชอบ ความมีวินัย และคุณธรรมอื่นๆ ที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตในสังคม
ความสำคัญของโครงงานคุณธรรมมีมากมาย เริ่มตั้งแต่การสร้างความตระหนักให้นักเรียนเห็นความสำคัญของคุณธรรมในชีวิตประจำวัน การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา การสร้างประสบการณ์การทำงานเป็นทีม การเสริมสร้างความมั่นใจในการนำเสนอผลงาน รวมถึงการปลูกฝังให้เกิดการเรียนรูตลอดชีวิต
องคประกอบสำคัญของโครงงานคุณธรรมที่ดี
โครงงานคุณธรรมที่มีคุณภาพควรประกอบด้วยองคประกอบสำคัญหลายประการ ประการแรกคือความชัดเจนของวัตถุประสงค โครงงานต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าต้องการพัฒนาคุณธรรมด้านใดเป็นหลัก และควรสามารถวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม
ประการที่สองคือความเหมาะสมของกิจกรรม กิจกรรมที่เลือกมาดำเนินการต้องสอดคล้องกับวัยของผู้เรียน เหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษาและชุมชน และสามารถปฏิบัติได้จริงภายในกรอบเวลาและทรัพยากรที่มีอยู่
ประการที่สามคือการมีส่วนร่วมของผู้เรียน นักเรียนต้องมีบทบาทหลักในการวางแผน ดำเนินการ และประเมินผลโครงงาน ไม่ใช่เป็นเพียงผู้ปฏิบัติตามคำสั่งของครูเท่านั้น
ประการที่สี่คือการเชื่อมโยงกับชีวิตจริง โครงงานควรสร้างประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับสถานการณ์จริงในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าและประโยชนของคุณธรรมที่ศึกษา
ขั้นตอนการจัดทำโครงงานคุณธรรม
การจัดทำโครงงานคุณธรรมที่มีประสิทธิภาพควรดำเนินการตามขั้นตอนที่เป็นระบบ เริ่มตั้งแต่ขั้นเตรียมการ ขั้นดำเนินการ และขั้นประเมินผล
ขั้นเตรียมการเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด ครูและนักเรียนต้องร่วมกันศึกษาปัญหาหรือประเด็นเกี่ยวกับคุณธรรมที่ต้องการพัฒนา วิเคราะหสาเหตุของปัญหา กำหนดวัตถุประสงคของโครงงาน เลือกกิจกรรมที่เหมาะสม วางแผนการดำเนินงาน และเตรียมทรัพยากรที่จำเป็น
ขั้นดำเนินการเป็นขั้นตอนที่นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมตามแผนที่วางไว้ โดยครูจะทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวก ให้คำปรึกษา และติดตามความก้าวหน้าอย่างสม่ำเสมอ นักเรียนต้องบันทึกผลการดำเนินงานอย่างละเอียด รวบรวมข้อมูล และวิเคราะหผลที่เกิดขึ้น
ขั้นประเมินผลเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่มีความสำคัญไม่น้อยกว่าขั้นตอนอื่นๆ นักเรียนต้องประเมินความสำเร็จของโครงงานเทียบกับวัตถุประสงคที่ตั้งไว้ วิเคราะหปัญหาและอุปสรรคที่พบ รวมถึงเสนอแนะแนวทางในการพัฒนาต่อไป
35 ตัวอย่างโครงงานคุณธรรมที่น่าสนใจ
เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างสรรคโครงงานคุณธรรม ผู้เขียนได้รวบรวมตัวอย่างโครงงาน 35 หัวข้อที่มีความหลากหลายและเหมาะสมกับผู้เรียนในระดับต่างๆ
ตัวอย่างที่ 1 โครงงานส่งเสริมความซื่อสัตย์ “ร้านค้าสัตย์ใจ” กิจกรรมนี้มุ่งเน้นการสร้างจิตสำนึกความซื่อสัตย์ผ่านการจำลองร้านค้าที่ไม่มีเจ้าของคอย นักเรียนจะได้เรียนรูการซื้อขายด้วยความซื่อสัตย์ การคิดราคาที่เป็นธรรม และการเก็บเงินทอนอย่างถูกต้อง
ตัวอย่างที่ 2 โครงงานพัฒนาความรับผิดชอบ “ธนาคารหน้าที่” นักเรียนจะสร้างระบบการออมหน้าที่ประจำวันของตนเอง โดยกำหนดหน้าที่ต่างๆ ทั้งในโรงเรียนและที่บ้าน บันทึกการปฏิบัติหน้าที่ และประเมินผลการดำเนินงานของตนเองอย่างสม่ำเสมอ
ตัวอย่างที่ 3 โครงงานส่งเสริมความเสียสละ “มือปันน้ำใจ” เป็นกิจกรรมที่นักเรียนร่วมกันช่วยเหลือเพื่อนที่ขาดแคลนเครื่องเขียน หนังสือเรียน หรือสิ่งของจำเป็นอื่นๆ ผ่านการบริจาคและแบ่งปันจากสิ่งของส่วนตัว
ตัวอย่างที่ 4 โครงงานปลูกฝังความกตัญูกตเวที “สายใยแห่งกตัญู” นักเรียนจะศึกษาเกี่ยวกับบุญคุณของผู้ที่มีส่วนในชีวิตตน จัดทำแผนผังบุญคุณ และวางแผนการตอบแทนบุญคุณอย่างเหมาะสม
ตัวอย่างที่ 5 โครงงานส่งเสริมความมีวินัย “นาฬิกาชีวิต” เป็นการฝึกฝนการใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ การตรงต่อเวลา และการจัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน
ตัวอย่างที่ 6 โครงงานพัฒนาความอดทน “สวนแห่งความอดทน” นักเรียนจะปลูกพืชผักสวนครัว ดูแลรดน้ำ ใส่ปุย และเก็บเกี่ยวผลผลิต เพื่อเรียนรูความอดทนและความพากเพียร
ตัวอย่างที่ 7 โครงงานส่งเสริมความเมตตากรุณา “โครงการน้ำใจไร้พรมแดน” นักเรียนจะร่วมกันช่วยเหลือสัตวเลี้ยงจรจัดในชุมชน ให้อาหาร ดูแลรักษา และหาบ้านใหม่ให้
ตัวอย่างที่ 8 โครงงานปลูกฝังความขยัน “วันละนิด วันละหน่อย” เป็นการสร้างนิสัยการทำงานอย่างสม่ำเสมอผ่านการกำหนดเป้าหมายเล็กๆ ประจำวัน และติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างที่ 9 โครงงานส่งเสริมความประหยัด “กระปุกแห่งความฝน” นักเรียนจะเรียนรูการออมเงิน การใช้จ่ายอย่างรูค่า และการวางแผนทางการเงินเบื้องต้น
ตัวอย่างที่ 10 โครงงานพัฒนาความสุภาพ “คำสุภาพมีค่า” เป็นการฝึกฝนการใช้ภาษาที่สุภาพเรียบร้อย การแสดงกิริยาอาการที่เหมาะสม และการเคารพในความแตกต่างของผู้อื่น
ตัวอย่างที่ 11 โครงงานส่งเสริมความยุติธรรม “ศาลเด็ก” นักเรียนจะจำลองระบบยุติธรรมเบื้องต้นในการแก้ไขข้อขัดแย้งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน ผ่านการพูดคุย ฟังความเห็น และหาข้อยุติที่เป็นธรรมสำหรับทุกฝาย
ตัวอย่างที่ 12 โครงงานปลูกฝังความใจกว้าง “สะพานแห่งการให้อภัย” เป็นกิจกรรมที่สอนให้นักเรียนเรียนรูการให้อภัย การไม่ถือโกรธ และการเข้าใจความรูสึกของผู้อื่น
ตัวอย่างที่ 13 โครงงานส่งเสริมความสามัคคี “มือเดียวกบหิ้วเกินฝน” นักเรียนจะทำกิจกรรมกลุ่มที่ต้องอาศัยความร่วมมือ การแบ่งหน้าที่ และการทำงานเป็นทีมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน
ตัวอย่างที่ 14 โครงงานพัฒนาความจริงใจ “กระจกหัวใส” เป็นการฝึกฝนการแสดงออกที่จริงใจ การบอกความจริง และการไม่หลอกลวงตนเองและผู้อื่น
ตัวอย่างที่ 15 โครงงานส่งเสริมความเอื้อเฟ้อ “น้ำใจไร้เงื่อนไข” นักเรียนจะเรียนรูการให้ความช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่คาดหวังสิ่งตอบแทน ผ่านกิจกรรมอาสาสมัครในชุมชน
ตัวอย่างที่ 16 โครงงานปลูกฝังความนอบน้อม “ใส่ใจคำสอน” เป็นการเรียนรูการรับฟังคำแนะนำจากผู้ใหญ่ การยอมรับข้อบกพร่องของตนเอง และการปรับปรุงแก้ไขตนเองอย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างที่ 17 โครงงานส่งเสริมความมุ่งมั่น “ฝันไกลเริ่มต้นใกล” นักเรียนจะกำหนดเป้าหมายระยะยาว วางแผนการดำเนินงาน และติดตามประเมินผลความก้าวหน้าอย่างสม่ำเสมอ
ตัวอย่างที่ 18 โครงงานพัฒนาความเข้าอกเข้าใจ “เดินในรองเท้าผู้อื่น” เป็นกิจกรรมที่ให้นักเรียนได้สวมบทบาทของผู้อื่นที่มีความแตกต่างทางสังคม เศรษฐกิจ หรือร่างกาย เพื่อเรียนรูการเข้าใจและเห็นอกเห็นใจ
ตัวอย่างที่ 19 โครงงานส่งเสริมความมีระเบียบ “บ้านแห่งระเบียบ” นักเรียนจะฝึกฝนการจัดระเบียบสิ่งของ การจัดตารางเวลา และการสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นระเบียบเรียบร้อย
ตัวอย่างที่ 20 โครงงานปลูกฝังความสะอาด “โลกใสใสนสะอาด” เป็นการรณรงคให้นักเรียนดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล รักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อม และสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษสิ่งแวดล้อม
ตัวอย่างที่ 21 โครงงานส่งเสริมความสุขุมรอบคอบ “คิดก่อนทำ ทำแล้วไม่เสียใจ” นักเรียนจะเรียนรูกระบวนการคิดวิเคราะห การชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย และการตัดสินใจอย่างรอบคอบ
ตัวอย่างที่ 22 โครงงานพัฒนาความจงรักภักดี “ธงชาติใส่ใจไทย” เป็นการศึกษาเกี่ยวกับสัญลักษณของชาติ ประวัติศาสตร และวัฒนธรรมไทย เพื่อสร้างความรักและภาคภูมิใจในความเป็นไทย
ตัวอย่างที่ 23 โครงงานส่งเสริมความมีน้ำใจ “หยดน้ำใจหล่อเลี้ยงโลก” นักเรียนจะเรียนรูการแสดงน้ำใจต่อผู้อื่น การเอาใจใส่ดูแล และการให้กำลังใจในยามที่ผู้อื่นประสบปัญหา
ตัวอย่างที่ 24 โครงงานปลูกฝังความภาคภูมิใจในตนเอง “ฉันทำได้” เป็นการส่งเสริมให้นักเรียนค้นหาจุดแข็งของตนเอง พัฒนาศักยภาพ และสร้างความมั่นใจในตนเอง
ตัวอย่างที่ 25 โครงงานส่งเสริมความมีเหตุผล “เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น” นักเรียนจะฝึกฝนการใช้เหตุผลในการอธิบาย การโต้แย้งอย่างสร้างสรรค และการยอมรับเหตุผลที่ถูกต้อง
ตัวอย่างที่ 26 โครงงานพัฒนาความมีสติ “อยูกับปจจุบันขณ” เป็นการเรียนรูการมีสติในการทำกิจกรรมต่างๆ การควบคุมอารมณ และการรูเท่าทันตนเองในแต่ละสถานการณ
ตัวอย่างที่ 27 โครงงานส่งเสริมความเป็นธรรมชาติ “เด็กดีไม่ทำเทียม” นักเรียนจะเรียนรูการแสดงออกที่เป็นธรรมชาติ ไม่เก็บกด ไม่แสดงเป็นใคร และเป็นตัวของตัวเองอย่างเหมาะสม
ตัวอย่างที่ 28 โครงงานปลูกฝังความอ่อนน้อมถ่อมตน “รูแพ้ รูชนะ รูแลว” เป็นการสอนให้นักเรียนยอมรับความสำเร็จและความล้มเหลวด้วยจิตใจที่สงบ ไม่อวดดี ไม่ท้อแท้
ตัวอย่างที่ 29 โครงงานส่งเสริมความตั้งใจ “สมาธิทองคำ” นักเรียนจะฝึกฝนการตั้งสมาธิ การมีสมาธิในการเรียน และการควบคุมจิตใจให้มั่นคงเข้มแข็ง
ตัวอย่างที่ 30 โครงงานพัฒนาความรูจักพอ “พอใส พอกิน พอใช” เป็นการเรียนรูหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด และการสร้างความสุขด้วยสิ่งที่มีอยู
ตัวอย่างที่ 31 โครงงานส่งเสริมความกตัญูต่อธรรมชาติ “แผ่นดินแม่ลูกรัก” นักเรียนจะเรียนรูการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน และการสร้างจิตสำนึกรักษโลก
ตัวอย่างที่ 32 โครงงานปลูกฝังความห่วงใยผู้อื่น “ใส่ใจทุกชีวิต” เป็นการสร้างความเอาใจใส่ต่อความเป็นอยูของผู้อื่น การช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหา และการสร้างสังคมแห่งการแบ่งปน
ตัวอย่างที่ 33 โครงงานส่งเสริมความมีคุณธรรมในการใช้เทคโนโลยี “โลกไซเบอรสีเขียว” นักเรียนจะเรียนรูการใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรม การไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น และการใช้เทคโนโลยีเพื่อประโยชนส่วนรวม
ตัวอย่างที่ 34 โครงงานพัฒนาความเข้มแข็งทางใจ “ใจเด็ดใจเข้มแข็ง” เป็นการฝึกฝนให้นักเรียนสามารถเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค
ตัวอย่างที่ 35 โครงงานส่งเสริมความเป็นผู้นำที่ดี “ผู้นำใสใจสงฆ์” นักเรียนจะเรียนรูคุณสมบัติของผู้นำที่ดี การบริการผู้อื่น การตัดสินใจที่เป็นธรรม และการเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้อื่น
ความเป็นมาโครงการคุณธรรมโรงเรียนคุณธรรม
โครงการโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. เป็นการดำเนินงานเพื่อสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์) ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล) ดำเนินงานตามนโยบายภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติเกี่ยวกับเรื่องคุณธรรม โดยร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในฐานะผู้รับผิดชอบการจัดการศึกษาสำหรับเยาวชนส่วนใหญ่ของประเทศให้เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพอีกทั้งรับผิดชอบในการจัดการศึกษาเพื่อให้เยาวชนทุกคน มีความรู้ ความสามารถ เป็นคนดี คนเก่งและมีความสุข
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล) ได้กล่าวถึงศาสตร์พระราชาซึ่งเป็นศาสตร์ที่ครอบคลุม เรื่องเอกลักษณ์ของชนชาติไทย เช่น การอ่อนน้อมถ่อมตน การเป็นสุภาพชนความขยันหมั่นเพียร การซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งเป็นคุณงามความดีของคนไทยที่บรรพชนไทยได้ปฏิบัติสืบทอดต่อกันมา ศาสตร์พระราชาให้ข้อคิดการประพฤติปฏิบัติตนไว้ว่า อย่าคบคนด้วยฐานะ คบคนด้วยความดีมีมิตรภาพด้วยความรักความผูกพัน และขอให้มีความกตัญญูรู้คุณต่อบิดามารดาผู้มีพระคุณ ประเทศชาติและพระมหากษัตริย์ ถ้าทุกคนปฏิบัติตนตามศาสตร์ของพระราชาแล้วก็จะเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ ประเทศก็จะมีแต่คนดีและทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้า รวมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อมุ่งให้เกิดภูมิคุ้มกันและมีการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสมเกิดความสมดุล และยั่งยืน แนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ได้พระราชทานไว้กว่า 40 ปีที่ผ่านมา
เพื่อให้ประชาชนชาวไทยนำไปเป็นแนวทางในการพัฒนาตนเองและครอบครัวให้มีภูมิคุ้มกันที่มั่นคงในการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข จึงนับได้ว่า“ศาสตร์พระราชา”เป็นเสมือนองค์ความรู้ที่อยู่คู่แผ่นดินไทย ซึ่งล้วนมุ่งให้ประชาชนทุกคนปฏิบัติตนเป็น “คนดี” ทั้งคิดดี พูดดี ทำดี ยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรม สุจริต มีวินัย และมีความสามัคคีซึ่งกันและกัน เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศชาติบ้านเมืองให้มีความเจริญก้าวหน้าเป็นปึกแผ่นมั่นคงตลอดไป
นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ มีพระราชกระแสรับสั่งต่อประชาชนชาวไทยให้ “ช่วยสร้างคนดีให้บ้านเมือง” พร้อมทั้งพระราชทานหลัก 3 ประการที่เกี่ยวกับครูและนักเรียนไว้ว่า
“ให้ครูรักเด็ก เด็กรักครู”
“ให้ครูสอนให้เด็กมีน้ำใจต่อเพื่อนไม่ให้แข่งขันกัน แต่ให้แข่งกับตัวเองและให้เด็กที่เรียนเก่งช่วยสอนเพื่อนที่เรียนช้ากว่า”
“ให้ครูจัดกิจกรรมให้นักเรียนทำร่วมกันเพื่อให้เห็นคุณค่าของความสามัคคี”
จากพระราชกระแสรับสั่งข้างต้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรทรงพระราชทานพระบรมราโชวาท ด้านการศึกษาเพื่อสานต่อพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ว่า การศึกษาต้องมุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน 4 ด้าน ดังนี้
1. มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง
2. มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม
3. มีงานทำ-มีอาชีพ
4. เป็นพลเมืองดี
เพื่อเป็นการสืบสานศาสตร์พระราชา และสนองพระราชกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ และพระบรมราโชวาทด้านการศึกษาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงจัดทำโครงการโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ขึ้น เพื่อมุ่งปลูกฝังให้ผู้บริหาร ครู นักเรียนและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการปลูกฝังคุณธรรม 5 ประการ ได้แก่ 1) พอเพียง 2) กตัญญู 3) ซื่อสัตย์สุจริต 4) ความรับผิดชอบ และ 5) อุดมการณ์คุณธรรม โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ให้แต่ละสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา คัดเลือกโรงเรียนเข้าร่วมโครงการคุณธรรม สพฐ. อย่างน้อยร้อยละ 35 และปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 โรงเรียนทุกโรงเรียนเข้าร่วมโครงการคุณธรรม สพฐ.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 3 โดยท่าน ดร.ไพศาล ปันแดน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 3 ได้ตระหนักถึงความสำคัญว่าโครงการโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. เป็นโครงการที่ดี ต้องทำทันที ต้องทำพร้อมกัน ต้องทำทั้งหมด โดยมอบหมายให้กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา เป็นผู้รับผิดชอบในการขับเคลื่อนนโยบาย และมีนโยบายให้โรงเรียนในสังกัดทุกโรงเรียนเข้าร่วมโครงการโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ทั้งหมด จำนวน 127 โรงเรียน กับ 1 สาขา (ครบ 100%) ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา
เป้าหมายโครงการคุณธรรมโรงเรียนคุณธรรม
1. โรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ได้รับการยกระดับคุณภาพ ด้านคุณธรรม จริยธรรม จนได้รับการยอมรับจากนักเรียน ครู ผู้บริหาร ชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับต่าง ๆ
2. โรงเรียนได้รับการพัฒนาเป็นโรงเรียนต้นแบบโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. และเป็นแหล่งศึกษาดูงาน
3. โรงเรียนได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นโรงเรียนดีมีที่ยืน
4. นักเรียนได้รับการคัดเลือกเจ้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา โดยไม่ต้องสอบคัดเลือก
ตัวอย่างไฟล์ โครงงานคุณธรรม


