ดาวน์โหลดที่นี่ รวมกฎหมายเกี่ยวกับการศึกษา รวมประกาศกระทรวงศึกษาธิการออกตามความในกฎหมายการศึกษา

Byadmin

ก.พ. 4, 2024 #กฎหมายเกี่ยวกับการศึกษา, #ดาวน์โหลดที่นี่

Post Views: 245

www.สื่อฟรีออนไลน์.com / สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม

สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ทุกท่านนะครับ วันนี้พบกับ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ รวมกฎหมายเกี่ยวกับการศึกษา รวมประกาศกระทรวงศึกษาธิการออกตามความในกฎหมายการศึกษา ซึ่งเพื่อนๆ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดนำไปศึกษากฎหมายเกี่ยวกับการศึกษา ได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ รวมกฎหมายเกี่ยวกับการศึกษา รวมประกาศกระทรวงศึกษาธิการออกตามความในกฎหมายการศึกษา ตามรายละเอียดดังนี้ครับ

ดาวน์โหลดที่นี่ รวมกฎหมายเกี่ยวกับการศึกษา รวมประกาศกระทรวงศึกษาธิการออกตามความในกฎหมายการศึกษา

รวมกฎหมายเกี่ยวกับการศึกษา รวมประกาศกระทรวงศึกษาธิการออกตามความในกฎหมายการศึกษา

ระบบการศึกษาของประเทศไทยมีการปฏิรูปและพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามกรอบกฎหมายและประกาศต่างๆ ที่กระทรวงศึกษาธิการได้ออกมาเพื่อให้การจัดการศึกษามีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของสังคมในศตวรรษที่ 21 การเข้าใจกฎหมายเกี่ยวกับการศึกษาและประกาศกระทรวงศึกษาธิการจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นครู อาจารย์ ผู้บริหารสถานศึกษา นักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง

กฎหมายการศึกษาของไทยมีพื้นฐานมาจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งได้ให้หลักประกันเรื่องสิทธิทางการศึกษาไว้อย่างชัดเจน โดยกำหนดว่าบุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่าสิบสองปีที่รัฐจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย รัฐต้องดำเนินการให้เด็กได้รับการศึกษาตามวรรคหนึ่ง และการศึกษาที่รัฐจัดให้ต้องมีคุณภาพ โดยให้มีกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติซึ่งต้องมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนของสังคม

พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ถือเป็นกฎหมายหลักที่สำคัญที่สุดในระบบการศึกษาไทย โดยได้กำหนดหลักการ นโยบาย และแนวทางการจัดการศึกษาของประเทศไว้อย่างครอบคลุม พระราชบัญญัติฉบับนี้ได้รับการแก้ไขเพิ่มเติมในปี พ.ศ. 2545 และ พ.ศ. 2553 เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์และความต้องการทางการศึกษาที่เปลี่ยนแปลงไป

กฎหมายฉบับนี้ได้กำหนดปรัชญาการศึกษาไว้ว่า “การศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข” ปรัชญาดังกล่าวได้สะท้อนให้เห็นถึงเป้าหมายสูงสุดของการศึกษาไทยที่ต้องการพัฒนาคนไทยให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพและมีความสุขในการดำเนินชีวิต

หลักการศึกษาตามพระราชบัญญัติฉบับนี้ประกอบด้วย การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด การจัดกระบวนการเรียนรู้ต้องยึดผู้เรียนเป็นสำคัญโดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและการจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นคนดี คนเก่ง และมีความสุข

กฎหมายเกี่ยวกับการศึกษาภาคบังคับ

พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545 เป็นกฎหมายที่กำหนดให้เด็กไทยทุกคนต้องได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 12 ปี โดยเริ่มตั้งแต่อายุ 6 ปีบริบูรณ์ จนถึงอายุ 18 ปีบริบูรณ์ หรือจนกว่าจะจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน กฎหมายฉบับนี้ได้กำหนดบทบาทและหน้าที่ของผู้ปกครองในการส่งเสริมให้บุตรหลานได้รับการศึกษาอย่างเต็มที่

การศึกษาภาคบังคับได้กำหนดให้รัฐต้องจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้แก่เด็กไทยทุกคนโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ทั้งค่าเล่าเรียน ค่าหิ้วหาม ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเครื่องแบบนักเรียน ค่ากิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐาน นอกจากนี้ยังได้กำหนดให้มีระบบการติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาภาคบังคับเพื่อให้มั่นใจว่าเด็กไทยทุกคนจะได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ

กฎหมายยังได้กำหนดมาตรการสำหรับกรณีที่ผู้ปกครองไม่ส่งบุตรหลานเข้าเรียนในสถานศึกษา หรือปล่อยให้บุตรหลานขาดเรียนเป็นประจำโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร โดยจะมีการดำเนินการตามขั้นตอน ตั้งแต่การตักเตือน การให้คำแนะนำ การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และในกรณีที่จำเป็นอาจมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย

พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547

พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 เป็นกฎหมายที่กำหนดระเบียบการปฏิบัติราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ทั้งในด้านการบรรจุแต่งตั้ง การพัฒนา การประเมินผลการปฏิบัติงาน การเลื่อนตำแหน่ง ค่าตอบแทน สวัสดิการ และการดำเนินการทางวินัย

กฎหมายฉบับนี้ได้กำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีสิทธิและเสรีภาพทางวิชาการ มีความมั่นคงในหน้าที่การงาน ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสมกับภารกิจและความรับผิดชอบ นอกจากนี้ยังได้กำหนดให้มีระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานที่ชัดเจนและยุติธรรม เพื่อส่งเสริมให้ครูและบุคลากรทางการศึกษามีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่

ระบบการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการกำหนดไว้ในกฎหมายให้ต้องมีการพัฒนาอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนาก่อนดำรงตำแหน่ง การพัฒนาระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ และการพัฒนาเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพ โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการ ทักษะการจัดการเรียนรู้ การใช้เทคโนโลยี และจริยธรรมในวิชาชีพ

พระราชบัญญัติการศึกษาเอกชน พ.ศ. 2550

การศึกษาเอกชนได้รับการคุม้ครองและส่งเสริมผ่านพระราชบัญญัติการศึกษาเอกชน พ.ศ. 2550 ซึ่งได้กำหนดกรอบการดำเนินการของสถานศึกษาเอกชนให้มีมาตรฐานและคุณภาพที่เหมาะสม โดยได้แบ่งสถานศึกษาเอกชนออกเป็นหลายประเภท ได้แก่ โรงเรียนเอกชน สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเอกชน และสถานศึกษาเอกชนอื่นๆ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

กฎหมายได้กำหนดหลักเกณฑ์การจัดตั้งสถานศึกษาเอกชน การขออนุญาต การดำเนินการ การกำกับดูแล และการยกเลิกใบอนุญาต โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพการศึกษา ความปลอดภัยของผู้เรียน การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และการคุ้มครองสิทธิของผู้เรียนและผู้ปกครอง

สถานศึกษาเอกชนต้องดำเนินการตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสามารถจัดหลักสูตรเพิ่มเติมหรือหลักสูตรเฉพาะได้ตามความเหมาะสม โดยต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังต้องมีการประกันคุณภาพการศึกษาภายในและรับการประเมินคุณภาพภายนอกตามระบบที่กำหนด

กฎหมายเกี่ยวกับการอาชีวศึกษา

พระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา พ.ศ. 2551 เป็นกฎหมายที่กำหนดกรอบการจัดการอาชีวศึกษาของประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการพัฒนาแรงงานที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญในสาขาอาชีพต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานและการพัฒนาประเทศ กฎหมายฉบับนี้ได้กำหนดให้การอาชีวศึกษาเป็นการศึกษาที่เน้นการปฏิบัติเพื่อการประกอบอาชีพ

การอาชีวศึกษาได้รับการจัดระดับออกเป็น ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และปริญญาตรีสายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการ โดยแต่ละระดับมีมาตรฐานการศึกษาและคุณวุฒิที่ชัดเจน สอดคล้องกับกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ

กฎหมายได้กำหนดให้มีระบบการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการปฏิบัติจริง การเรียนรู้จากการทำงาน การฝึกงานในสถานประกอบการ และการจัดการศึกษาแบบทวิภาคีที่ผสมผสานระหว่างการเรียนในสถานศึกษาและการฝึกงานในสถานประกอบการ เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะและประสบการณ์ที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน

กฎหมายเกี่ยวกับการอุดมศึกษา

พระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. 2562 เป็นกฎหมายล่าสุดที่ได้รับการตราขึ้นเพื่อปฏิรูประบบการอุดมศึกษาของประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมคุณภาพและมาตรฐานการอุดมศึกษา การเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน การพัฒนาการวิจัยและนวัตกรรม และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ

กฎหมายได้กำหนดให้สถาบันอุดมศึกษาต้องมีระบบการประกันคุณภาพการศึกษาที่เข้มแข็ง การพัฒนาหลักสูตรที่สอดคล้องกับความต้องการของสังคมและการพัฒนาประเทศ การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลジี และการสร้างผู้ประกอบการใหม่ นอกจากนี้ยังได้กำหนดให้มีการบริหারจัดการที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้

ระบบการศึกษาระดับอุดมศึกษาได้รับการส่งเสริมให้มีความหลากหลายในรูปแบบการจัดการเรียนการสอน ทั้งการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย รวมทั้งการจัดการศึกษาในรูปแบบออนไลน์และการศึกษาทางไกล เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงการศึกษาระดับอุดมศึกษาได้อย่างทั่วถึง

ประกาศกระทรวงศึกษาธิการเกี่ยวกับหลักสูตร

กระทรวงศึกษาธิการได้ออกประกาศเกี่ยวกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ซึ่งเป็นหลักสูตรที่สถานศึกษาทุกแห่งต้องนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน หลักสูตรนี้ได้กำหนดมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่ผู้เรียนต้องบรรลุในแต่ละระดับชั้น โดยแบ่งกลุ่มสาระการเรียนรู้ออกเป็น 8 กลุ่ม ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ และการงานอาชีพและเทคโนโลยี

หลักสูตรแกนกลางได้เน้นการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด ทั้งในด้านคุณธรรม จริยธรรม ความรู้ ทักษะ กระบวนการ และเจตคติที่ดี โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะการคิด การแก้ปัญหา การสื่อสาร การใช้เทคโนโลยี และการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข

ประกาศกระทรวงศึกษาธิการยังได้กำหนดแนวทางการประเมินผลการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างหลากหลาย ครอบคลุมการประเมินตามสภาพจริง การประเมินแฟ้มสะสมผลงาน การประเมินภาคปฏิบัติ และการทดสอบมาตรฐานระดับชาติ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สมบูรณ์เกี่ยวกับพัฒนาการของผู้เรียนในทุกด้าน

ประกาศเกี่ยวกับการประกันคุณภาพการศึกษา

ประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่องนโยบายการประกันคุณภาพการศึกษา ได้กำหนดให้สถานศึกษาทุกแห่งต้องมีระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน เพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยต้องมีการกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา การจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา การดำเนินงานตามแผน การติดตามตรวจสอบและประเมินผล และการจัดทำรายงานประจำปี

ระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในต้องครอบคลุมการบริหารจัดการศึกษา การจัดการเรียนการสอน การพัฒนาผู้เรียน การพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา การจัดสภาพแวดล้อมและการเรียนรู้ และการร่วมมือกับชุมชนในการจัดการศึกษา โดยต้องมีการรายงานผลการดำเนินงานต่อหน่วยงานต้นสังกัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นประจำทุกปี

การประเมินคุณภาพภายนอกได้รับการกำหนดให้ดำเนินการโดยสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) และหน่วยงานต้นสังกัดของสถานศึกษา เพื่อตรวจสอบและยืนยันคุณภาพการศึกษาที่สถานศึกษาจัดให้แก่ผู้เรียน โดยผลการประเมินจะเป็นข้อมูลสำคัญในการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพการศึกษา