สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิกทุกท่านครับ วันนี้ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ขอนำเสนอ ทำแบบทดสอบรับเกียรติบัตร ขอเชิญคุณครูและผู้สนใจทุกท่าน ทำแบบทดสอบออนไลน์ เรื่อง วันปิยมหาราช จัดทำโดย โรงเรียนบ้านเพชรมงคล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 2

ทำแบบทดสอบรับเกียรติบัตร ขอเชิญคุณครูและผู้สนใจทุกท่าน ทำแบบทดสอบออนไลน์ เรื่อง วันปิยมหาราช จัดทำโดย โรงเรียนบ้านเพชรมงคล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 2

ทำแบบทดสอบรับเกียรติบัตร ขอเชิญคุณครูและผู้สนใจทุกท่าน ทำแบบทดสอบออนไลน์ เรื่อง วันปิยมหาราช

วันปิยมหาราช วันแห่งการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

วันปิยมหาราช คือหนึ่งในวันสำคัญที่คนไทยทุกคนควรจดจำและระลึกถึงเสมอ เป็นวันที่เราได้ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี ซึ่งทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีบทบาทสำคัญยิ่งในการปฏิรูปประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้า และทรงเป็นผู้ทรงคุณูปการอย่างหาที่เปรียบมิได้ต่อแผ่นดินไทยและพสกนิกรชาวไทยทุกคน วันนี้จึงเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ย้อนรำลึกถึงพระราชกรณียกิจและพระมหากรุณาธิคุณที่ล้นเหลือของพระองค์ท่าน

ความหมายและความสำคัญของวันปิยมหาราช

วันปิยมหาราช ตรงกับวันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 คำว่า “ปิยมหาราช” มีความหมายว่า “พระราชาผู้เป็นที่รักยิ่ง” หรือ “พระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักของประชาชน” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความรักความผูกพันที่ประชาชนชาวไทยมีต่อพระองค์ท่าน

การที่ประชาชนเรียกพระองค์ว่า “ปิยมหาราช” นั้น เกิดจากพระมหากรุณาธิคุณและพระราชกรณียกิจมากมายที่พระองค์ทรงทำเพื่อประเทศชาติและประชาชน พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงใกล้ชิดกับประชาชน ทรงเข้าใจปัญหาและความต้องการของพสกนิกรเป็นอย่างดี และทรงมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง

วันปิยมหาราชจึงไม่ใช่เพียงแค่วันระลึกถึงการสวรรคตของพระมหากษัตริย์องค์หนึ่งเท่านั้น แต่เป็นวันที่เราได้ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระราชกรณียกิจ และแนวพระราชดำริที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ท่าน เป็นวันที่เราได้เรียนรู้และสืบทอดคุณค่าที่ดีงามที่พระองค์ทรงสร้างไว้ให้กับประเทศไทย

พระราชประวัติโดยสังเขปของรัชกาลที่ 5

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระนามเดิมว่า พระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจุลจอมเกล้า ประสูติเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2396 ณ พระราชวังเก่า เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 9 ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และสมเด็จพระเทพสิรินธราบพิตร

พระองค์ทรงได้รับการศึกษาอันดีเลิศทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ทรงศึกษาหลักการปกครองแบบสมัยใหม่ และทรงสนใจในการปฏิรูปประเทศให้ทันสมัยตั้งแต่พระชนมายุยังน้อย เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 2411 พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์ในพระชนมายุเพียง 15 พรรษา แต่ด้วยพระปรีชาสามารถและความมุ่งมั่นสูง พระองค์ทรงสามารถปกครองประเทศได้อย่างยอดเยี่ยม

ตลอดระยะเวลา 42 ปีแห่งการครองราชย์ พระองค์ทรงได้ดำเนินการปฏิรูปประเทศไทยอย่างเป็นระบบและกว้างขวาง ทั้งในด้านการปกครong การศึกษา การสาธารณสุข การคมนาคม และด้านอื่นๆ อีกมากมาย พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงรักประชาชนและทรงทุ่มเทพระวรกายและพระวรจิตเพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศ

พระองค์ทรงสวรรคตด้วยโรคไตวายเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 ในพระชนมายุ 58 พรรษา ด้วยพระราชกรณียกิจที่ยิ่งใหญ่และพระมหากรุณาธิคุณที่ประชาชนสัมผัสได้จริง จึงทำให้ประชาชนทั่วประเทศเศร้าโศกอย่างลึกซึ้ง และเรียกขานพระองค์ด้วยความรักและเคารพว่า “ปิยมหาราช” ตั้งแต่บัดนั้นมา

พระราชกรณียกิจด้านการปฏิรูปการปกครอง

การปฏิรูปการปกครองในสมัยรัชกาลที่ 5 ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย พระองค์ทรงเห็นความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนระบบการปกครองจากแบบเก่าที่ใช้มาหลายร้อยปีให้เป็นระบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพและทันสมัยมากขึ้น เพื่อให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันและอยู่รอดได้ในยุคที่ประเทศมหาอำนาจตะวันตกกำลังขยายอำนาจเข้ามาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

พระองค์ทรงริเริ่มการปฏิรูปการปกครองแบบกระทรวง-ทบวง-กรม โดยการจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินใหม่ การสร้างกระทรวงต่างๆ ขึ้นมาเพื่อรับผิดชอบงานเฉพาะด้าน การแต่งตั้งข้าราชการที่มีความรู้ความสามารถมาดำรงตำแหน่งสำคัญต่างๆ และการกำหนดอำนาจหน้าที่ของแต่ละตำแหน่งให้ชัดเจน

การปฏิรูปการปกครองท้องถิ่นก็เป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ พระองค์ทรงยุบระบบเมืองประเทศราช และจัดตั้งระบบมณฑลเทศาภิบาลขึ้นแทน โดยแบ่งประเทศออกเป็น 18 มณฑล แต่ละมณฑลมีข้าหลวงใหญ่ประจำมณฑลเป็นผู้ปกครอง การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้การปกครองมีเอกภาพมากขึ้น สามารถควบคุมดูแลได้ทั่วถึง และลดความเป็นเอกเทศของผู้ปกครองท้องถิ่น

นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงปฏิรูประบบกฎหมาย โดยการจัดทำประมวลกฎหมายใหม่ที่ทันสมัยและเป็นธรรมมากขึ้น การสร้างระบบศาลยุติธรรมที่เป็นอิสระ และการฝึกอบรมผู้พิพากษาให้มีความรู้ความเข้าใจในกฎหมายอย่างลึกซึ้ง การปฏิรูปเหล่านี้ช่วยให้ประเทศไทยมีระบบการปกครองที่เข้มแข็งและเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ

การยกเลิกทาส ความก้าวหน้าทางสังคม

หนึ่งในพระราชกรณียกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของรัชกาลที่ 5 คือ การยกเลิกทาส ซึ่งถือเป็นการปฏิรูปทางสังคมที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย พระองค์ทรงเห็นว่าการมีทาสนั้นเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมและขัดกับหลักมนุษยธรรม แม้ว่าการยกเลิกทาสจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมในขณะนั้น แต่พระองค์ทรงมุ่งมั่นที่จะดำเนินการให้สำเร็จ

พระองค์ทรงประกาศยกเลิกทาสอย่างค่อยเป็นค่อยไป เริ่มต้นจากการห้ามการค้าทาส การลดจำนวนทาสในพระราชสำนักและราชการ และการให้ทาสสามารถไถ่ตัวเป็นอิสระได้ง่ายขึ้น กระบวนการนี้ใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะสำเร็จสมบูรณ์ แต่ผลที่ได้คือการปลดปล่อยคนไทยนับแสนคนให้เป็นอิสระและมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างเต็มที่

การยกเลิกทาสไม่เพียงแต่ทำให้สังคมไทยมีความเท่าเทียมมากขึ้น แต่ยังช่วยกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจ เพราะคนที่เคยเป็นทาสจะกลายเป็นแรงงานจ้างที่มีสิทธิเสรีภาพ มีแรงจูงใจในการทำงาน และสามารถเลือกอาชีพที่เหมาะสมกับตนเองได้ นอกจากนี้ การยกเลิกทาสยังทำให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากนานาประเทศว่าเป็นประเทศที่เจริญและมีอารยธรรม

พระองค์ยังทรงส่งเสริมการศึกษาสำหรับประชาชนทั่วไป โดยการสร้างโรงเรียนเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ การฝึกอบรมครูผู้สอน และการจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนที่เหมาะสม การให้การศึกษาแก่ประชาชนจะช่วยให้คนไทยมีความรู้ความสามารถมากขึ้น สามารถประกอบอาชีพที่หลากหลายและมีรายได้ที่ดีขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศในระยะยาว

การพัฒนาระบบการศึกษา

การปฏิรูปการศึกษาเป็นอีกหนึ่งพระราชกรณียกิจที่สำคัญของรัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงเห็นว่าการศึกษาเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศ หากประชาชนมีการศึกษาที่ดี จะสามารถนำประเทศไปสู่ความเจริญได้อย่างยั่งยืน พระองค์จึงทรงริเริ่มการปฏิรูปการศึกษาอย่างครอบคลุมทั้งระบบ

พระองค์ทรงจัดตั้งกระทรวงธรรมการ (ปัจจุบันคือกระทรวงศึกษาธิการ) ขึ้นในปี พ.ศ. 2435 เพื่อรับผิดชอบงานด้านการศึกษาโดยเฉพาะ การมีหน่วยงานกลางที่ดูแลการศึกษาทำให้สามารถวางแผนและดำเนินนโยบายการศึกษาได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ

พระองค์ทรงสถาปนาโรงเรียนต่างๆ มากมาย เช่น โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนมาเตอร์เดอี โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ และโรงเรียนอื่นๆ อีกหลายสิบแห่ง การสร้างโรงเรียนเหล่านี้มีเป้าหมายให้ประชาชนทุกชนชั้นได้รับการศึกษา ไม่ใช่เฉพาะชนชั้นสูงเท่านั้น

การปฏิรูปหลักสูตรการเรียนการสอนก็เป็นสิ่งสำคัญ พระองค์ทรงเพิ่มวิชาสมัยใหม่เข้าไปในหลักสูตร เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ ภูมิศาสตร์ และประวัติศาสตร์ นอกจากวิชาดั้งเดิมอย่างภาษาไทย ศาสนา และศิลปะ การเรียนการสอนจึงมีความสมดุลระหว่างภูมิปัญญาไทยกับความรู้สมัยใหม่

พระองค์ยังทรงส่งเสริมการศึกษาต่อในต่างประเทศ โดยส่งเยาวชนไทยที่มีความสามารถไปศึกษาในยุโรปและอเมริกา เพื่อนำความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ กลับมาพัฒนาประเทศ บุคลากรเหล่านี้จะกลายเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ

การพัฒนาระบบคมนาคมและการสื่อสาร

การพัฒนาระบบคมนาคมและการสื่อสารเป็นอีกหนึ่งด้านที่รัชกาลที่ 5 ทรงให้ความสำคัญอย่างมาก พระองค์ทรงเห็นว่าการคมนาคมที่สะดวกรวดเร็วจะช่วยส่งเสริมการค้าขาย การติดต่อสื่อสาร และการปกครองประเทศให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

โครงการสำคัญที่สุดคือการสร้างทางรถไฟ พระองค์ทรงริเริ่มการก่อสร้างทางรถไฟสายเหนือ เชื่อมกรุงเทพฯ กับเชียงใหม่ ทางรถไฟสายใต้ เชื่อมกรุงเทพฯ กับสงขลา และทางรถไฟสายตะวันออก เชื่อมกรุงเทพฯ กับจันทบุรี การมีทางรถไฟทำให้การเดินทางสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้า และเชื่อมโยงเศรษฐกิจของภูมิภาคต่างๆ เข้าด้วยกัน

การพัฒนาระบบโทรเลขก็เป็นนวัตกรรมสำคัญในสมัยนั้น พระองค์ทรงให้ติดตั้งสายโทรเลขเชื่อมระหว่างกรุงเทพฯ กับหัวเมืองต่างๆ และเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน การมีระบบโทรเลขทำให้การติดต่อสื่อสารระหว่างส่วนกลางกับส่วนภูมิภาครวดเร็วขึ้นมาก ข้าราชการสามารถรายงานสถานการณ์และรับคำสั่งได้ทันที

คำชี้แจง แบบทดสอบออนไลน์ เรื่อง วันปิยมหาราช

ทำแบบทดสอบรับเกียรติบัตร ขอเชิญคุณครูและผู้สนใจทุกท่าน

ทำแบบทดสอบออนไลน์ เรื่อง วันปิยมหาราช

จัดทำโดย โรงเรียนบ้านเพชรมงคล

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 2

หมายเหตุ

1. ระบบเต็มหรือจำกัดจำนวนต่อวัน แนะนำให้ทำช่วงเช้า
2. ใส่อีเมล์ผิดต้องใช้ gmail เท่านั้น
3. คะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
4. ต้องใช้เวลาในการตอบกลับอีเมล์ อาจนานถึง 1วัน
5. อาจอยู่ในเมล์ขยะ
6. บางเพจจำกัด gmail และให้ทำได้เพียงครั้งเดียว
7. บางเกียรติบัตรไม่ส่งทางอีเมล์ต้องดาวโหลดจากเว็บไซต์

ตัวอย่างเกียรติบัตร

ทำแบบทดสอบรับเกียรติบัตร ขอเชิญคุณครูและผู้สนใจทุกท่าน ทำแบบทดสอบออนไลน์ เรื่อง วันปิยมหาราช

ลิงก์สำหรับเข้าทำแบบทดสอบออนไลน์

ขอบคุณแหล่งที่มา : โรงเรียนบ้านเพชรมงคล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 2

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ห้ามพลาด