สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ทุกท่านนะครับ วันนี้พบกับ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ ตัวอย่างผังมโนทัศน์โครงงานคุณธรรมขั้นต้น โดยพระอาจารย์วชิระ สุปภาโส ทั้งหมด 34 ตัวอย่าง ซึ่งเพื่อนๆ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดนำไปศึกษาและนำไปเป็นแนวทางในการจัดทำผังมโนทัศน์โครงงานคุณธรรมขั้นต้น ตามบริบทของห้องเรียน ได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ตัวอย่างผังมโนทัศน์โครงงานคุณธรรมขั้นต้น โดยพระอาจารย์วชิระ สุปภาโส ทั้งหมด 34 ตัวอย่าง ตามรายละเอียดดังนี้ครับ

แบ่งปัน ตัวอย่างผังมโนทัศน์โครงงานคุณธรรมขั้นต้น โดยพระอาจารย์วชิระ สุปภาโส ทั้งหมด 34 ตัวอย่าง

ผังมโนทัศน์โครงงานคุณธรรมขั้นต้น คู่มือสร้างโครงงานเพื่อปลูกฝังคุณธรรมในเด็กและเยาวชน

การสร้างโครงงานคุณธรรมสำหรับเด็กและเยาวชนในระดับขั้นต้นถือเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยพัฒนาคุณลักษณะที่ดีงามให้กับผู้เรียนตั้งแต่วัยเยาว์ ผังมโนทัศน์โครงงานคุณธรรมจึงเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวางแผนและออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่จะปลูกฝังคุณค่าและความดีงามให้แก่เด็กนักเรียนอย่างเป็นระบบและมีทิศทาง บทความนี้จะนำเสนอแนวทางการสร้างผังมโนทัศน์สำหรับโครงงานคุณธรรมที่เหมาะสมกับผู้เรียนในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น พร้อมทั้งยกตัวอย่างการนำไปใช้จริงในห้องเรียนและชุมชน

เด็กนักเรียนไทยร่วมกันทำกิจกรรมปลูกฝังคุณธรรม

ความหมายและความสำคัญของผังมโนทัศน์โครงงานคุณธรรม

ผังมโนทัศน์หรือที่เรียกอีกอย่างว่าแผนผังความคิดเป็นเครื่องมือทางการศึกษาที่ช่วยให้ผู้เรียนและครูอาจารย์สามารถจัดระเบียบความคิดและข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ โดยการนำเสนอความสัมพันธ์ระหว่างแนวคิดหลักและแนวคิดรองในรูปแบบของภาพหรือแผนภาพที่เข้าใจง่าย สำหรับโครงงานคุณธรรมในระดับขั้นต้นนั้น ผังมโนทัศน์จะช่วยให้ผู้สอนสามารถวางโครงสร้างของโครงงานได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่การกำหนดวัตถุประสงค์ เนื้อหาคุณธรรมที่ต้องการปลูกฝัง กิจกรรมการเรียนรู้ ไปจนถึงการประเมินผล การใช้ผังมโนทัศน์ในการวางแผนโครงงานคุณธรรมยังช่วยให้มองเห็นภาพรวมของโครงงานได้ทั้งหมดในครั้งเดียว ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนและพัฒนาโครงงานได้ตามความเหมาะสม

ความสำคัญของการใช้ผังมโนทัศน์ในโครงงานคุณธรรมขั้นต้นนั้นมีหลายประการ ประการแรกคือช่วยให้ครูผู้สอนสามารถวางแผนการสอนได้อย่างเป็นระบบและมีทิศทาง โดยสามารถเชื่อมโยงเนื้อหาคุณธรรมต่างๆ เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว ประการที่สองคือช่วยให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาและกิจกรรมได้ง่ายขึ้น เนื่องจากสามารถมองเห็นความเชื่อมโยงระหว่างคุณธรรมแต่ละด้านได้อย่างชัดเจน ประการที่สามคือช่วยในการติดตามและประเมินผลการเรียนรู้ เพราะผังมโนทัศน์ทำให้เห็นจุดเริ่มต้นและเป้าหมายของโครงงานอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการคิดเชิงสร้างสรรค์ของทั้งครูและนักเรียนในการออกแบบกิจกรรมที่หลากหลายและน่าสนใจ

หลักการสร้างผังมโนทัศน์โครงงานคุณธรรมสำหรับเด็กขั้นต้น

การสร้างผังมโนทัศน์โครงงานคุณธรรมสำหรับเด็กในระดับขั้นต้นต้องคำนึงถึงหลักการพื้นฐานหลายประการเพื่อให้โครงงานมีความเหมาะสมและบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ หลักการแรกคือความเรียบง่ายและเข้าใจง่าย เนื่องจากเด็กในระดับประถมศึกษามีความสามารถในการคิดเชิงนามธรรมที่จำกัด จึงควรใช้แนวคิดและภาษาที่เข้าใจง่าย หลักการที่สองคือความเกี่ยวข้องกับชีวิตจริง โครงงานคุณธรรมควรเชื่อมโยงกับประสบการณ์และสถานการณ์ที่เด็กพบเจอในชีวิตประจำวัน เช่น การเล่นกับเพื่อน การอยู่ร่วมกันในครอบครัว หรือการใช้ชีวิตในโรงเรียน หลักการที่สามคือการมีส่วนร่วม ผังมโนทัศน์ควรเปิดโอกาสให้เด็กได้มีส่วนร่วมในการคิดและลงมือปฏิบัติจริง ไม่ใช่แค่รับฟังหรือจดจำเพียงอย่างเดียว

ครูกำลังอธิบายแนวคิดคุณธรรมให้นักเรียนฟัง

นอกจากหลักการพื้นฐานแล้ว ยังต้องคำนึงถึงองค์ประกอบสำคัญที่ต้องมีในผังมโนทัศน์ ได้แก่ แนวคิดหลักหรือคุณธรรมที่ต้องการปลูกฝัง เช่น ความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ ความมีน้ำใจ หรือความอดทน แนวคิดรองที่สนับสนุนแนวคิดหลัก เช่น พฤติกรรมที่แสดงออกถึงคุณธรรมนั้นๆ กิจกรรมการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับวัยและน่าสนใจ สื่อการเรียนการสอนที่จะใช้ และวิธีการประเมินผลที่วัดได้จริง การจัดองค์ประกอบเหล่านี้ในผังมโนทัศน์ควรทำอย่างเป็นระบบ โดยเริ่มจากแนวคิดหลักอยู่ตรงกลางหรือด้านบน แล้วแตกแขนงออกไปสู่แนวคิดรองและรายละเอียดต่างๆ อย่างชัดเจน

คุณธรรมพื้นฐานที่เหมาะสมสำหรับโครงงานขั้นต้น

การเลือกคุณธรรมที่จะนำมาใช้ในโครงงานคุณธรรมขั้นต้นเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะส่งผลต่อความสำเร็จของโครงงาน คุณธรรมที่เหมาะสมสำหรับเด็กในระดับนี้ควรเป็นคุณธรรมพื้นฐานที่เด็กสามารถเข้าใจและปฏิบัติได้จริงในชีวิตประจำวัน คุณธรรมประการแรกที่สำคัญคือความซื่อสัตย์ ซึ่งหมายถึงการพูดความจริง ไม่โกหก ไม่ลอกการบ้านของเพื่อน และกล้ายอมรับผิดเมื่อทำผิด การปลูกฝังความซื่อสัตย์สามารถทำได้ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การเล่านิทาน การสวมบทบาทสมมติ หรือการสนทนากลุ่มเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ต้องเลือกระหว่างการโกหกและพูดความจริง

คุณธรรมประการที่สองคือความรับผิดชอบ ซึ่งรวมถึงการทำหน้าที่ของตนเองให้สำเร็จ การดูแลของใช้ส่วนตัว และการช่วยเหลืองานบ้านตามกำลัง เด็กที่มีความรับผิดชอบจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีวินัยและเชื่อถือได้ กิจกรรมที่ส่งเสริมความรับผิดชอบอาจเป็นการมอบหมายหน้าที่ในชั้นเรียน เช่น เป็นหัวหน้าแถว เก็บของเล่น หรือรดน้ำต้นไม้ คุณธรรมประการที่สามคือความมีน้ำใจและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การสอนให้เด็กมีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่น แบ่งปันของขบเคี้ยว และให้กำลังใจเพื่อนที่เศร้า จะช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นในห้องเรียนและสังคม กิจกรรมที่เหมาะสมได้แก่ การทำกิจกรรมจิตอาสา การบริจาคของเล่นเก่า หรือการเขียนการ์ดให้กำลังใจเพื่อนที่ป่วย

คุณธรรมประการที่สี่คือความอดทนและความพากเพียร การสอนให้เด็กรู้จักการรอคอยและพยายามทำสิ่งต่างๆ จนสำเร็จแม้จะเจอความยากลำบาก จะช่วยพัฒนาความเข้มแข็งทางจิตใจ กิจกรรมที่ใช้ได้ เช่น การปลูกต้นไม้และดูแลจนเติบโต การฝึกทักษะที่ต้องใช้เวลา เช่น การผูกเชือกรองเท้าหรือการพับกระดาษ คุณธรรมประการที่หกคือความเคารพผู้อื่น การสอนให้เด็กเคารพครู พ่อแม่ ผู้ใหญ่ และเพื่อนฝูง รวมถึงการรู้จักใช้คำพูดที่สุภาพและฟังความคิดเห็นของผู้อื่น กิจกรรมที่เสริมสร้างความเคารพได้แก่ การไหว้ทักทาย การใช้คำขอบคุณและขอโทษ และการตั้งใจฟังเมื่อผู้อื่นพูด คุณธรรมเหล่านี้เป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยให้เด็กเติบโตเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม

ขั้นตอนการออกแบบผังมโนทัศน์โครงงานคุณธรรม

การออกแบบผังมโนทัศน์โครงงานคุณธรรมมีขั้นตอนที่ชัดเจนซึ่งครูและผู้ปกครองสามารถนำไปปรับใช้ได้ ขั้นตอนแรกคือการกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของโครงงาน ว่าต้องการปลูกฝังคุณธรรมใดเป็นหลัก และคาดหวังให้เด็กมีพฤติกรรมหรือทัศนคติอย่างไรหลังจากเข้าร่วมโครงงาน การตั้งเป้าหมายควรมีความชัดเจนและวัดผลได้ เช่น หลังจากโครงงานนี้ นักเรียนจะสามารถแสดงพฤติกรรมความซื่อสัตย์ในชีวิตประจำวันได้อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือนักเรียนจะสามารถอธิบายความหมายของความรับผิดชอบและยกตัวอย่างได้อย่างน้อย 3 ตัวอย่าง การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้การออกแบบกิจกรรมและการประเมินผลมีทิศทางที่แน่นอน

นักเรียนร่วมกันวางแผนและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

ขั้นตอนที่สองคือการวิเคราะห์และเลือกเนื้อหาคุณธรรมที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงอายุและระดับพัฒนาการของเด็ก ความสนใจและความต้องการของเด็ก รวมถึงบริบททางสังคมและวัฒนธรรมของชุมชน การเลือกเนื้อหาควรเริ่มจากคุณธรรมที่เด็กคุ้นเคยและสัมผัสได้ในชีวิตประจำวันก่อน แล้วค่อยขยายไปสู่คุณธรรมที่กว้างขึ้น ตัวอย่างเช่น หากเป็นเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-2 อาจเริ่มจากความซื่อสัตย์ในการไม่เอาของเพื่อนโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนเด็กที่โตกว่าอาจขยายไปถึงความซื่อสัตย์ในการไม่ลอกการบ้านและการพูดความจริงแม้จะต้องรับผิดชอบ

ขั้นตอนที่สามคือการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายและเหมาะสมกับเนื้อหาคุณธรรมที่เลือก กิจกรรมควรมีทั้งกิจกรรมที่เป็นทฤษฎีและปฏิบัติ มีทั้งกิจกรรมเดี่ยวและกิจกรรมกลุ่ม เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ที่หลากหลาย กิจกรรมที่นิยมใช้ในโครงงานคุณธรรมได้แก่ การเล่านิทานสอนใจ การสวมบทบาทสมมติ การทำโครงงานกลุ่ม การเล่นเกม การทำกิจกรรมจิตอาสา และการสนทนากลุ่ม แต่ละกิจกรรมควรมีความชัดเจนในเป้าหมายและวิธีการดำเนินงาน พร้อมทั้งระบุระยะเวลาและสื่ออุปกรณ์ที่ต้องใช้ ครูควรเตรียมแผนสำรองสำหรับกิจกรรมที่อาจไม่เป็นไปตามแผน และพร้อมปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์จริง

ขั้นตอนที่สี่คือการจัดทำผังมโนทัศน์อย่างเป็นรูปธรรม โดยนำเนื้อหาและกิจกรรมที่ออกแบบไว้มาจัดระเบียบในรูปแบบของแผนภาพ การจัดทำผังอาจเริ่มจากการวาดวงกลมหรือสี่เหลี่ยมตรงกลางกระดาษ แล้วเขียนชื่อโครงงานหรือคุณธรรมหลักลงไป จากนั้นแตกกิ่งออกไปเป็นหัวข้อย่อยต่างๆ เช่น วัตถุประสงค์ เนื้อหา กิจกรรม สื่อ และการประเมินผล แต่ละหัวข้อย่อยอาจแตกกิ่งย่อยออกไปอีกตามความจำเป็น การใช้สีสันและรูปภาพประกอบจะช่วยให้ผังน่าสนใจและจดจำได้ง่ายขึ้น ในปัจจุบันมีโปรแกรมคอมพิวเตอร์หลายตัวที่ช่วยในการสร้างผังมโนทัศน์ เช่น MindMeister, XMind หรือ Coggle ซึ่งทำให้การสร้างและแก้ไขผังทำได้สะดวกยิ่งขึ้น

ขั้นตอนสุดท้ายคือการทบทวนและปรับปรุงผังมโนทัศน์ หลังจากสร้างผังเสร็จแล้ว ควรกลับมาตรวจสอบอีกครั้งว่าทุกส่วนเชื่อมโยงกันอย่างสมเหตุสมผลหรือไม่ กิจกรรมที่วางแผนไว้สนับสนุนเป้าหมายของโครงงานหรือไม่ และมีความเหมาะสมกับวัยของเด็กหรือไม่ การปรึกษาหารือกับเพื่อนครูหรือผู้มีประสบการณ์จะช่วยให้ได้มุมมองที่หลากหลายและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ นอกจากนี้ควรนำผังมโนทัศน์ไปทดลองใช้จริงและประเมินผลเพื่อนำข้อมูลกลับมาปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น การทบทวนและปรับปรุงเป็นกระบวนการต่อเนื่องที่จะทำให้โครงงานมีคุณภาพและตรงตามความต้องการของผู้เรียนมากขึ้น

รายละเอียด ผังมโนทัศน์โครงงานคุณธรรมขั้นต้น

คุณธรรม หมายถึง

สำหรับความหมายของคำว่าคุณธรรม มีผู้ให้นิยามความหมายไว้ ดังนี้   

พจนานุกรมไทยฉบับราชบัณฑิตสถาน 2542ได้ให้ความหมายไว้ว่า คุณธรรม หมายถึง สภาพคุณงามความดี เป็นสภาพคุณงามความดีทางความ ประพฤติและจิตใจ ซึ่งสามารถแยกออกเป็น 2 ความหมาย ได้แก่

  1. ความประพฤติดีงาม เพื่อประโยชน์แก่ตนและสังคม ซึ่งมีพื้นฐานมาจากหลักศีลธรรมทางศาสนา ค่านิยมทางวัฒนธรรม ประเพณี หลักกฎหมาย จรรยาบรรณวิชาชีพ
  2. การรู้จักไตร่ตรองว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ และอาจกล่าวได้ว่าคุณธรรม คือ จริยธรรมที่นำมาปฏิบัติจนเป็นนิสัย เช่น การเป็นคนซื่อสัตย์ เสียสละ และ มีความรับผิดชอบ

 ส่วนคำว่า ธรรม มีความหมาย 4 อย่าง คือ

  1. ธรรมะ คือ ธรรมชาติ
  2. ธรรมะ คือ กฎของธรรมชาติที่เรามีหน้าที่ต้องเรียนรู้
  3. ธรรมะ คือ หน้าที่ตามกฎของธรรมชาติ เรามีหน้าที่ต้องปฏิบัติ
  4. ธรรมะ คือ ผลจากการปฏิบัติหน้าที่นั้น เรามีหน้าที่จะต้องมี หรือใช้มันอย่างถูกต้อง

สรุป คุณธรรม หมายถึง หลักของความดีความงาม ความถูกต้อง ซึ่งจะแสดงออกมาโดยการกระทำ  ทางกาย   วาจาและจิตใจของแต่ละบุคคล ซึ่งเป็นหลักประจำใจในการประพฤติปฏิบัติจนเกิดเป็นนิสัยเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อตนเองผู้อื่น และสังคมให้เกิดความรักสามัคคี ความอบอุ่นมั่นคงในชีวิต

ผังมโนทัศน์โครงงานคุณธรรมโครงงานคุณธรรมคืออะไร

โครงงานคุณธรรม หรือโครงงานความดี เป็นนวัตกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการทำความดีมีคุณธรรม
แบบเชิงรุก โดย ให้ผู้เรียนที่เป็นเด็กและเยาวชนเกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของกิจกรรมการเรียนรู้นี้เอง ผ่านเทคนิควิธีการเรียนรู้แบบโครงงาน (Project Approach) โดยประเด็นที่เลือกทำโครงงานนั้นเกิดขึ้นมาจากความสนใจและความคิดริเริ่มของผู้เรียนเอง เน้นการเรียนรู้ผ่านกระบวนการกลุ่มที่ลงมือปฏิบัติงานจริง
ด้วยความพากเพียรพยายามอย่างจดจ่อต่อเนื่องในช่วงระยะเวลาที่ยาวนานพอสมควร
(ต้องทำงานจริงไม่น้อยกว่า ๒ เดือน) ในลักษณะวิจัยปฏิบัติการ (action research)
นำไปสู่การแก้ไขปัญหาด้านความเสื่อมทรามทางศีลธรรม และส่งเสริมการบ่มเพาะความดีมีคุณธรรมอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นระบบ รวมทั้งการขยายความมีส่วนร่วมไปสู่บุคคลต่างๆ ในสถานศึกษาและชุมชนของตนเองหรือชุมชนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ตัวอย่างไฟล์ โครงการเยี่ยมบ้านเด็กนักเรียน (ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน)


ตัวอย่างผังมโนทัศน์โครงงานคุณธรรมขั้นต้น โดยพระอาจารย์วชิระ สุปภาโส ทั้งหมด 34 ตัวอย่าง
ตัวอย่างผังมโนทัศน์โครงงานคุณธรรมขั้นต้น โดยพระอาจารย์วชิระ สุปภาโส ทั้งหมด 34 ตัวอย่าง
ตัวอย่างผังมโนทัศน์โครงงานคุณธรรมขั้นต้น โดยพระอาจารย์วชิระ สุปภาโส ทั้งหมด 34 ตัวอย่าง
ตัวอย่างผังมโนทัศน์โครงงานคุณธรรมขั้นต้น โดยพระอาจารย์วชิระ สุปภาโส ทั้งหมด 34 ตัวอย่าง

เอกสารเป็นไฟล์ภาพ

ดาวน์โหลดไฟล์เอกสารจากลิงก์ด้านล่างนี้ นะครับ

ขอบคุณแหล่งที่มา : ครูมาแล้ว

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ห้ามพลาด