สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ทุกท่านนะครับ วันนี้พบกับ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ตัวอย่างปฏิทินการปฏิบัติงาน ปีการศึกษา 2566 พร้อมหน้าปก ซึ่งสามารถนำไปตัวอย่างและเป็นแนวทางในการวางแผนดำเนินการในฝ่ายวิชาการได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ไฟล์ตัวอย่างปฏิทินการปฏิบัติงาน ปีการศึกษา 2566 พร้อมหน้าปก ตามรายละเอียดดังนี้ครับ

ตัวอย่างปฏิทินการปฏิบัติงาน ปีการศึกษา 2566 พร้อมหน้าปก

ปฏิทินการปฏิบัติงาน ปีการศึกษา 2566 เพื่อการวางแผนที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักเรียน ผู้ปกครอง และคุณครู

เมื่อเสียงออดสุดท้ายของปีการศึกษาเก่าดังขึ้น นั่นคือสัญญาณของการเริ่มต้นใหม่ที่กำลังจะมาถึง ปีการศึกษา 2566 ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ความหวัง และโอกาสในการเรียนรู้และเติบโตของนักเรียนทุกคน การมี “ปฏิทินการปฏิบัติงาน” หรือ “ปฏิทินการศึกษา” ที่ชัดเจนเปรียบเสมือนแผนที่นำทางที่สำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่สำหรับนักเรียนที่จะได้วางแผนการเรียนและกิจกรรมของตนเอง แต่ยังรวมถึงผู้ปกครองที่จะได้เตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ และคุณครูที่จะได้วางแผนการสอนและการประเมินผลได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด บทความนี้จะทำการเจาะลึกรายละเอียดของปฏิทินการปฏิบัติงานตลอดทั้งปีการศึกษา 2566 อย่างละเอียดที่สุด เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางและเตรียมตัวสำหรับทุกเหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในรั้วโรงเรียนได้อย่างเต็มศักยภาพ

การเริ่มต้นปีการศึกษาใหม่มักจะมาพร้อมกับความตื่นเต้นเสมอ บรรยากาศของวันเปิดภาคเรียนที่หนึ่งในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนั้นเต็มไปด้วยชีวิตชีวา เด็กๆ ในชุดนักเรียนใหม่เอี่ยมที่ยังกรอบด้วยกลิ่นของความใหม่ รองเท้าขัดมันวาววับ และกระเป๋าเป้ใบใหม่ที่บรรจุสมุดหนังสือและอุปกรณ์การเรียนที่พร้อมใช้งาน เสียงพูดคุยจอแจของเพื่อนๆ ที่ไม่ได้เจอกันมานานในช่วงปิดเทอม ผสมผสานกับเสียงของคุณครูที่คอยต้อนรับนักเรียนด้วยรอยยิ้ม สำหรับผู้ปกครองแล้ว ช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายเล็กน้อยที่แฝงไปด้วยความสุข ตั้งแต่การปลุกลูกๆ ให้ตื่นแต่เช้า การเตรียมอาหารเช้าที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ไปจนถึงการฝ่าฟันการจราจรในตอนเช้าเพื่อไปส่งบุตรหลานให้ถึงโรงเรียนอย่างปลอดภัย นี่คือภาพสะท้อนของความร่วมมือระหว่างบ้านและโรงเรียนที่จะดำเนินต่อไปตลอดทั้งปีการศึกษา ดังนั้น การทำความเข้าใจภาพรวมของปฏิทินจึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญอย่างยิ่ง

โดยทั่วไปแล้ว ปีการศึกษา 2566 จะถูกแบ่งออกเป็นสองภาคเรียนหลัก คือ ภาคเรียนที่ 1 ซึ่งจะเริ่มต้นประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 2566 และไปสิ้นสุดในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2566 และภาคเรียนที่ 2 จะเริ่มต้นประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน 2566 และสิ้นสุดในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2567 ซึ่งระหว่างทางนั้นจะอัดแน่นไปด้วยกิจกรรมการเรียนการสอน การสอบวัดผล กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และวันหยุดต่างๆ มากมาย การทำความเข้าใจลำดับเวลาเหล่านี้จะช่วยลดความสับสนและช่วยให้การวางแผนต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่น

เริ่มต้นกันที่ ภาคเรียนที่ 1 (ประมาณ 16 พฤษภาคม 2566 – 10 ตุลาคม 2566) ช่วงเดือนแรกของการเปิดเทอม หรือ เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน จะเป็นช่วงเวลาของการปรับตัว นักเรียนจะต้องปรับตัวเข้ากับตารางสอนใหม่ คุณครูประจำชั้นหรือประจำวิชาคนใหม่ และอาจจะมีเพื่อนใหม่ร่วมห้องเรียน สัปดาห์แรกๆ โรงเรียนส่วนใหญ่มักจะเน้นไปที่กิจกรรมปฐมนิเทศ การแนะนำสถานที่ กฎระเบียบต่างๆ และการสร้างความสัมพันธ์อันดีในห้องเรียน กิจกรรมสำคัญที่มักจะจัดขึ้นในช่วงนี้คือ พิธีไหว้ครู ซึ่งโดยทั่วไปจะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่สองของเดือนมิถุนายน นี่เป็นประเพณีอันดีงามที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อคุณครูผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ บรรยากาศจะเต็มไปด้วยพานดอกไม้ธูปเทียนที่นักเรียนตั้งใจทำมาเพื่อคุณครู เป็นภาพที่น่าประทับใจและสร้างความผูกพันระหว่างศิษย์กับครูให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมวันสำคัญอื่นๆ เช่น วันสุนทรภู่ ที่โรงเรียนจะมีการประกวดแต่งกลอน วาดภาพ หรือจัดนิทรรศการเพื่อรำลึกถึงกวีเอกของไทย

เมื่อเข้าสู่ เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม การเรียนการสอนจะเริ่มเข้าสู่ความเข้มข้นอย่างเต็มรูปแบบ นักเรียนจะเริ่มคุ้นชินกับบทเรียนและภาระงานต่างๆ ที่ได้รับมอบหมาย ในช่วงเวลานี้ ผู้ปกครองควรให้ความใส่ใจบุตรหลานเป็นพิเศษในการทบทวนบทเรียนและทำการบ้านอย่างสม่ำเสมอ เดือนกรกฎาคมมักจะมีวันหยุดราชการต่อเนื่องเนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ซึ่งเป็นโอกาสดีที่ครอบครัวจะได้ทำกิจกรรมทางศาสนาร่วมกัน หลังจากนั้นไม่นาน บรรยากาศในโรงเรียนจะเริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย ความมุ่งมั่นตั้งใจในการอ่านหนังสือจะเพิ่มสูงขึ้น เพราะนั่นคือสัญญาณของการ สอบกลางภาคเรียนที่ 1 ซึ่งโดยทั่วไปจะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนสิงหาคม การสอบครั้งนี้เปรียบเสมือนการประเมินผลครึ่งทางเพื่อให้นักเรียนได้ทราบจุดแข็งและจุดที่ควรปรับปรุงของตนเอง และเพื่อให้คุณครูได้ปรับแผนการสอนให้เหมาะสมกับผู้เรียนมากขึ้น หลังจากผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งการสอบไปแล้ว ก็จะเข้าสู่กิจกรรมวันสำคัญอีกหนึ่งวันคือ วันแม่แห่งชาติ ในวันที่ 12 สิงหาคม โรงเรียนต่างๆ จะจัดกิจกรรมเพื่อให้ลูกๆ ได้แสดงความรักต่อแม่ เป็นอีกหนึ่งวันที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น

เข้าสู่ช่วงท้ายของภาคเรียนที่ 1 ใน เดือนกันยายน-ตุลาคม เนื้อหาการเรียนจะยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบปลายภาค นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยเฉพาะชั้น ม.6 จะต้องเริ่มให้ความสนใจกับการเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย หรือ TCAS ซึ่งจะมีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงภาคเรียนที่ 2 คุณครูจะเริ่มสรุปเนื้อหาสำคัญและอาจมีการจัดสอนเสริมเพื่อให้นักเรียนมีความพร้อมมากที่สุด จนกระทั่งถึงช่วงปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม ก็จะถึงเวลาของ การสอบปลายภาคเรียนที่ 1 ซึ่งเป็นการวัดผลการเรียนรู้ตลอดทั้งเทอม เมื่อการสอบสิ้นสุดลง คุณครูก็จะเข้าสู่กระบวนการตรวจข้อสอบและประเมินผลเพื่อออกสมุดพกหรือใบรายงานผลการเรียน ซึ่งมักจะมีการจัด วันประชุมผู้ปกครอง (Parent-Teacher Meeting) เพื่อให้ผู้ปกครองได้มารับผลการเรียนและปรึกษาหารือเกี่ยวกับพัฒนาการของบุตรหลานกับคุณครูโดยตรง การสื่อสารที่ดีในวันนี้จะสร้างประโยชน์อย่างมหาศาลต่อตัวนักเรียนเอง หลังจากนั้น โรงเรียนจะเริ่ม ปิดภาคเรียนที่ 1 ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนตุลาคมเป็นต้นไป เป็นช่วงเวลาให้นักเรียนได้พักผ่อนจากการเรียนอย่างเต็มที่

หลังจากหยุดพักผ่อนกันไประยะหนึ่ง ก็จะเข้าสู่ ภาคเรียนที่ 2 (ประมาณ 1 พฤศจิกายน 2566 – 1 เมษายน 2567) การเริ่มต้นในภาคเรียนนี้จะแตกต่างจากเทอมแรกเล็กน้อย เพราะนักเรียนและคุณครูต่างคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม จึงเป็นช่วงที่สามารถเข้าสู่โหมดการเรียนการสอนได้อย่างรวดเร็ว กิจกรรมสำคัญในช่วงต้นเทอมนี้คือ ประเพณีลอยกระทง ที่บางโรงเรียนอาจมีการจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้ประดิษฐ์กระทงจากวัสดุธรรมชาติ และเมื่อเข้าสู่เดือนธันวาคม ก็จะมีกิจกรรมเนื่องใน วันพ่อแห่งชาติ วันที่ 5 ธันวาคม และเมื่อถึงปลายเดือน บรรยากาศแห่งความสุขและการเฉลิมฉลองจะเข้ามาแทนที่ โรงเรียนส่วนใหญ่มักจะจัดกิจกรรมจับสลากของขวัญปีใหม่ก่อนที่จะหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่

เมื่อกลับมาเปิดเรียนอีกครั้งใน เดือนมกราคม เดือนนี้ถือเป็นเดือนของเด็กๆ อย่างแท้จริง เพราะมี วันเด็กแห่งชาติ ในวันเสาร์ที่สองของเดือน ซึ่งโรงเรียนต่างๆ มักจะจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองล่วงหน้าในวันศุกร์ โดยมีกิจกรรมการแสดง การเล่นเกม และการแจกของขวัญมากมายเพื่อสร้างความสุขให้กับนักเรียน ถัดมาไม่นานในวันที่ 16 มกราคม ก็คือ วันครู ซึ่งเป็นวันที่เปิดโอกาสให้สังคมได้ระลึกถึงพระคุณของคุณครูอีกครั้งหนึ่ง แต่ไฮไลท์สำคัญของภาคเรียนที่ 2 ที่นักเรียนทุกคนต่างรอคอยก็คือ กิจกรรมกีฬาสี ซึ่งมักจะจัดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมหรือมกราคม กีฬาสีไม่ใช่เป็นเพียงแค่การแข่งขันกีฬา แต่เป็นเทศกาลแห่งความสามัคคี การแสดงพลังของแต่ละสีผ่านขบวนพาเหรดที่สวยงามอลังการ การแข่งขันเชียร์ลีดเดอร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และเสียงเชียร์ที่ดังกึกก้องตลอดทั้งวัน เป็นกิจกรรมที่สร้างความทรงจำที่ดีและสอนให้นักเรียนรู้จักการทำงานเป็นทีม รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย

สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ช่วง เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตมัธยมปลาย เพราะเป็นช่วงเวลาของการสอบ TCAS ในรอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสอบ TGAT (Thai General Aptitude Test) และ TPAT (Thai Professional Aptitude Test) รวมถึงการยื่นสมัครในรอบ Portfolio และ Quota ความเครียดและความกดดันจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก บทบาทของคุณครูแนะแนวและผู้ปกครองในช่วงนี้จึงสำคัญอย่างยิ่งในการให้กำลังใจและคำปรึกษา ขณะเดียวกัน นักเรียนระดับชั้นอื่นๆ ก็ต้องเตรียมตัวสำหรับ การสอบปลายภาคเรียนที่ 2 ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคม สำหรับนักเรียนชั้น ป.6 และ ม.3 จะต้องเข้าสู่สนามสอบระดับชาติอย่าง O-NET (Ordinary National Educational Test) ซึ่งผลคะแนนจะถูกนำไปใช้ในวัตถุประสงค์ต่างๆ ต่อไป

เมื่อเดินทางมาถึง เดือนมีนาคม หลังจากสิ้นสุดการสอบปลายภาคทั้งหมดแล้ว บรรยากาศของการร่ำลาก็จะเริ่มเข้ามาแทนที่ โดยเฉพาะสำหรับนักเรียนชั้นสูงสุดของแต่ละช่วงชั้น เช่น ป.6, ม.3 และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ม.6 ที่จะต้องอำลาสถาบันเพื่อก้าวต่อไปในเส้นทางชีวิตของตนเอง โรงเรียนมักจะจัด งานปัจฉิมนิเทศ หรือ พิธีอำลาสถาบัน เพื่อแสดงความยินดีและอวยพรให้นักเรียนทุกคนประสบความสำเร็จในอนาคต เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความสุขและความผูกพัน หลังจากนั้นโรงเรียนจะเริ่มทยอยประกาศผลสอบและเปิดให้ผู้ปกครองมารับผลการเรียนเช่นเดียวกับเทอมแรก และแล้วก็มาถึงวันสุดท้ายของปีการศึกษา โรงเรียนจะเริ่ม ปิดภาคเรียนที่ 2 หรือปิดการศึกษาประจำปี ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคมหรือต้นเดือนเมษายน ไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นการปิดเทอมใหญ่ที่ยาวนานที่สุด เพื่อให้นักเรียนได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ก่อนจะกลับมาเริ่มต้นปีการศึกษาใหม่อีกครั้งหนึ่ง

การวางแผนตามปฏิทินการศึกษานี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง สำหรับนักเรียน การทราบล่วงหน้าว่าจะมีการสอบเมื่อใด มีกิจกรรมอะไรบ้าง จะช่วยให้สามารถแบ่งเวลาสำหรับการเรียน การทบทวนบทเรียน และการทำกิจกรรมได้อย่างสมดุล สามารถวางแผนอ่านหนังสือล่วงหน้าได้โดยไม่ต้องรอใกล้ถึงวันสอบ สำหรับผู้ปกครอง การทราบกำหนดการต่างๆ จะช่วยให้สามารถวางแผนเรื่องค่าใช้จ่ายทางการศึกษา การวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวของครอบครัวในช่วงวันหยุดยาวหรือช่วงปิดเทอมได้อย่างเหมาะสม และที่สำคัญคือสามารถติดตามและสนับสนุนการเรียนของบุตรหลานได้อย่างใกล้ชิด เช่น การช่วยจัดตารางอ่านหนังสือในช่วงใกล้สอบ หรือการให้กำลังใจในช่วงที่บุตรหลานต้องเผชิญกับความกดดัน สำหรับคุณครู ปฏิทินนี้คือหัวใจของการวางแผนการสอน การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ และการสร้างเครื่องมือวัดผลและประเมินผลให้สอดคล้องกับกรอบเวลาที่มีอยู่ ทำให้การจัดการเรียนการสอนตลอดทั้งปีเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด

สรุปแล้ว ปฏิทินการปฏิบัติงานปีการศึกษา 2566 เป็นมากกว่าแค่บัญชีรายชื่อของวันและกิจกรรม แต่มันคือเครื่องมือสำคัญที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วนในระบบการศึกษาเข้าด้วยกัน การทำความเข้าใจและใช้ประโยชน์จากปฏิทินนี้อย่างเต็มที่ จะนำไปสู่การวางแผนที่ดี การเตรียมความพร้อมที่สมบูรณ์ และท้ายที่สุดคือความสำเร็จทางการศึกษาของนักเรียนทุกคน ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดร่วมกันของทั้งนักเรียน ผู้ปกครอง และคณะครูทุกคน การเดินทางตลอดหนึ่งปีการศึกษาอาจมีอุปสรรคและความท้าทายบ้าง แต่ด้วยการวางแผนและความร่วมมือที่ดี ทุกคนจะสามารถก้าวผ่านมันไปได้อย่างสวยงามและเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน.

แนวทางและตัวอย่างปฏิทินการปฏิบัติงานสำหรับปีการศึกษา 2566

“ปฏิทินการปฏิบัติงาน ปีการศึกษา 2566” ที่สามารถนำไปใช้หรือดัดแปลงได้ตามความต้องการ

1. ตัวอย่างปฏิทินการปฏิบัติงานปีการศึกษา 2566 : การเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน

การเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนในปีการศึกษา 2566 ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อให้การดำเนินงานในโรงเรียนหรือสถานศึกษาต่าง ๆ สามารถเริ่มต้นได้อย่างราบรื่น โดยในปฏิทินการปฏิบัติงานจะเริ่มต้นตั้งแต่การเตรียมการจัดหาครูผู้สอน การเตรียมอุปกรณ์การเรียนการสอน รวมไปถึงการประชุมสัมมนาผู้ปกครองเพื่อสร้างความเข้าใจในนโยบายและหลักสูตรใหม่ ๆ

กิจกรรมที่สำคัญก่อนเปิดภาคเรียน

  • การประชุมวางแผนการเรียนการสอน: เดือนมิถุนายน – กรกฎาคม
  • การฝึกอบรมครู: กรกฎาคม
  • การเตรียมสถานที่เรียน: กรกฎาคม
  • การประชุมผู้ปกครอง: สิงหาคม
  • วันเปิดภาคเรียน: สิงหาคม

การปฏิบัติงานในช่วงนี้มีความสำคัญในการสร้างการตระหนักรู้และเตรียมความพร้อมสำหรับการเริ่มต้นการเรียนการสอนที่จะมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพสูงสุด

2. การติดตามและประเมินผลการเรียนการสอนในปีการศึกษา 2566

ในปีการศึกษา 2566 นี้ การติดตามและประเมินผลการเรียนการสอนจะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและปรับปรุงการจัดการศึกษาตามมาตรฐานและเป้าหมายที่วางไว้ เพื่อให้แน่ใจว่าผลการเรียนของนักเรียนทุกคนเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

กิจกรรมที่สำคัญในช่วงการประเมินผล:

  • การประเมินผลการเรียนของนักเรียน: พฤศจิกายน – มกราคม
  • การประเมินผลการสอนของครู: ธันวาคม
  • การประชุมเพื่อปรับปรุงการสอน: มกราคม

การประเมินผลการเรียนการสอนในปีการศึกษา 2566 จะดำเนินการอย่างมีระบบ เพื่อให้การเรียนการสอนมีคุณภาพและสอดคล้องกับการพัฒนาทักษะต่าง ๆ ของนักเรียนในทุก ๆ ด้าน

3. การวางแผนการเรียนการสอนในปีการศึกษา 2566 : นโยบายและกลยุทธ์

การวางแผนการเรียนการสอนในปีการศึกษา 2566 จะเน้นการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการเรียนการสอนให้ตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า เพื่อให้นักเรียนได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่ครอบคลุมทั้งทักษะทางวิชาการและทักษะชีวิต

กิจกรรมที่สำคัญในการวางแผนการเรียนการสอน:

  • การประชุมสรุปและวางแผนการเรียนการสอน: มิถุนายน
  • การอบรมการใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอน: มิถุนายน – กรกฎาคม
  • การจัดเตรียมแผนการสอนประจำปี: กรกฎาคม

โดยในปีการศึกษา 2566 นี้ โรงเรียนจะมุ่งเน้นการใช้สื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัย เช่น การใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อการเรียนรู้และการสอน ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนมีความเข้าใจในเนื้อหาวิชาได้มากขึ้นและสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างไฟล์เอกสาร


เอกสารเป็นไฟล์ Excel แก้ไขได้

ตัวอย่างไฟล์หน้าปก


เอกสารเป็นไฟล์ PPTX แก้ไขได้

ดาวน์โหลดไฟล์เอกสารจากลิงก์ด้านล่างนี้ นะครับ

ขอบคุณแหล่งที่มา : คุณครูอมลวรรณ ไชยบำรุง

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ห้ามพลาด