โครงการอาหารกลางวันในสถานศึกษาถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาลไทยที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสุขภาพของเด็กนักเรียนทั่วประเทศ การดำเนินงานโครงการนี้ในปีงงบประมาณ พ.ศ.2568 มีการปรับปรุงแนวทางและกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้นักเรียนได้รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ปลอดภัย และเหมาะสมกับวัย

การจัดทำคู่มือการดำเนินงานโครงการอาหารกลางวันฉบับนี้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้รับผิดชอบ และบุคลากรที่เกี่ยวข้องในการจัดการโครงการให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด โดยครอบคลุมตั้งแต่การวางแผน การจัดซื้อจัดจ้าง การประกอบอาหาร การจัดเสิร์ฟ ไปจนถึงการประเมินผลและติดตามผลการดำเนินงาน

วัตถุประสงค์หลักของโครงการอาหารกลางวันในปี พ.ศ.2568 มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพและโภชนาการของนักเรียน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กวัยเรียนที่อยู่ในช่วงการเจริญเติบโต การได้รับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพียงพอจะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ พัฒนาการทางสมอง และสร้างนิสัยการบริโภคอาหารที่ดี นอกจากนี้ยังเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองและสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เท่าเทียมกันมากขึ้น

การเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มดำเนินโครงการถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะส่งผลต่อความสำเร็จของการดำเนินงานทั้งหมด สถานศึกษาจำเป็นต้องมีการสำรวจและประเมินความต้องการของนักเรียน รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานต่างๆ เช่น จำนวนนักเรียนที่จะเข้าร่วมโครงการ ความต้องการพิเศษทางโภชนาการ ข้อจำกัดทางศาสนาหรือวัฒนธรรม และสภาพแวดล้อมของสถานศึกษา

คณะกรรมการดำเนินงานโครงการอาหารกลางวันในสถานศึกษาควรประกอบด้วยตำแหน่งสำคัญต่างๆ ได้แก่ ผู้อำนวยการสถานศึกษาในฐานะประธานกรรมการ รองผู้อำนวยการหรือรองหัวหน้าสถานศึกษาเป็นรองประธาน ครูผู้รับผิดชอบโครงการอาหารกลางวันเป็นเลขานุการ และกรรมการจากตำแหน่งต่างๆ เช่น หัวหน้างานวิชาการ หัวหน้างานบริหารทั่วไป ครูประจำชั้น ตัวแทนผู้ปกครอง และตัวแทนชุมชน การมีคณะกรรมการที่หลากหลายจะช่วยให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพและโปร่งใสมากยิ่งขึ้น

การวางแผนการดำเนินงานเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความรอบคอบและมีการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ สถานศึกษาจำเป็นต้องจัดทำแผนการดำเนินงานประจำปีที่ระบุกิจกรรมต่างๆ อย่างชัดเจน รวมถึงกำหนดเวลาในการดำเนินการแต่ละขั้นตอน การกำหนดผู้รับผิดชอบ และการจัดสรรงงบประมาณอย่างเหมาะสม แผนการดำเนินงานควรมีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะปรับเปลี่ยนได้เมื่อเกิดสถานการณ์ไม่คาดคิด

งบประมาณสำหรับโครงการอาหารกลางวันในปี พ.ศ.2568 มีการจัดสรรจากหลายแหล่งทุน ได้แก่ งบประมาณแผ่นดินจากกระทรวงศึกษาธิการ งงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเงินสมทบจากผู้ปกครองหรือชุมชน การบริหารจัดการงงบประมาณต้องดำเนินการตามระเบียบการเงินการคลังของทางราชการอย่างเคร่งครัด มีการบันทึกรายรับรายจ่ายอย่างถูกต้อง และจัดทำรายงานการใช้งบประมาณเป็นระยะสม่ำเสมอ

การจัดซื้อจัดจ้างในโครงการอาหารกลางวันต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ และระเบียบที่เกี่ยวข้อง กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างควรเริ่มจากการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะของสินค้าหรือบริการที่ต้องการ การประกาศเชิญชวน การพิจารณาข้อเสนอ การตัดสินใจเลือกผู้ขาย และการทำสัญญา ทุกขั้นตอนต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นธรรมต่อผู้เข้าร่วมการจัดซื้อจัดจ้าง

มาตรฐานคุณภาพอาหารและโภชนาการเป็นหัวใจสำคัญของโครงการอาหารกลางวัน อาหารที่จัดให้นักเรียนต้องมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนตามหลัก 5 หมู่ ได้แก่ หมู่ที่ 1 ข้าวและแป้ง หมู่ที่ 2 เนื้อสัตว์และถั่วเมล็ดแห้ง หมู่ที่ 3 นมและผลิตภัณฑ์จากนม หมู่ที่ 4 ผักและผลไม้ และหมู่ที่ 5 น้ำมันและไขมัน การจัดเมนูอาหารควรมีความหลากหลาย มีรสชาติที่เด็กชอบ และคำนึงถึงความเหมาะสมกับช่วงวัยของนักเรียน

ความปลอดภัยด้านอาหารเป็นประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง สถานศึกษาต้องมีมาตรการควบคุมคุณภาพอาหารตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกซื้อวัตถุดิบ การเก็บรักษา การประกอบอาหาร การจัดเสิร์ฟ ไปจนถึงการทำความสะอาด บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำอาหารต้องผ่านการตรวจสุขภาพ มีใบรับรองสุขภาพที่ถูกต้อง และปฏิบัติตามหลักสุขอนามัยในการจัดทำอาหารอย่างเคร่งครัด ห้องครัวและอุปกรณ์การประกอบอาหารต้องสะอาด ถูกสุขลักษณะ และได้มาตรฐาน

การจัดทำเมนูอาหารกลางวันควรมีการวางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน โดยคำนึงถึงความหลากหลายของอาหาร คุณค่าทางโภชนาการ ความชอบของนักเรียน และงงบประมาณที่มีอยู่ เมนูอาหารควรหมุนเวียนไม่ซ้ำกันในระยะเวลาที่เหมาะสม มีการผสมผสานอาหารท้องถิ่นและอาหารที่หาได้ง่ายในแต่ละฤดูกาล การจัดทำเมนูควรมีส่วนร่วมจากนักโภชนาการ ครูประจำชั้น และตัวแทนนักเรียนเพื่อให้ได้เมนูที่เหมาะสมและเป็นที่ยอมรับ

กระบวนการประกอบอาหารต้องเริ่มจากการเตรียมวัตถุดิบที่สดสะอาด ปลอดภัย การล้างทำความสะอาดวัตถุดิบให้ถูกวิธี การหั่น การเตรียมเครื่องปรุงรส และการปรุงอาหารด้วยวิธีการที่ถูกสุขลักษณะ อุณหภูมิในการประกอบอาหารต้องเหมาะสม เพื่อให้อาหารสุกทั่วและปลอดภัยจากเชื้อโรค การปรุงรสต้องพอเหมาะ ไม่หวานจัด เค็มจัด หรือเผ็ดจัดเกินไป และควรลดการใช้ผงชูรสหรือสารปรุงแต่งรสสังเคราะห์

การจัดเสิร์ฟอาหารกลางวันควรมีระบบและขั้นตอนที่ชัดเจน มีการกำหนดเวลาในการจัดเสิร์ฟที่เหมาะสมกับตารางเรียนของนักเรียน การจัดลำดับการรับประทานอาหารของนักเรียนแต่ละระดับชั้น การจัดเตรียมอุปกรณ์การรับประทานอาหารที่สะอาดและเพียงพอ รวมถึงการจัดสถานที่รับประทานอาหารที่เหมาะสม ปลอดภัย และสร้างบรรยากาศที่ดีในการรับประทานอาหาร นักเรียนควรได้รับการปลูกฝังมารยาทในการรับประทานอาหาร การรักษาความสะอาด และการประหยัดอาหาร

การส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ดีเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอาหารกลางวันที่มีความสำคัญไม่น้อยกว่าการจัดหาอาหารที่มีคุณภาพ สถานศึกษาควรจัดกิจกรรมให้ความรู้ด้านโภชนาการแก่นักเรียน การสอนให้รู้จักคุณค่าของอาหารแต่ละประเภท การฝึกนิสัยการรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ การดูแลสุขภาพช่องปาก การออกกำลังกาย และการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้นักเรียนมีความรู้และเจตคติที่ดีต่อการดูแลสุขภาพตนเอง

ระบบการติดตามและประเมินผลเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยให้การดำเนินงานโครงการอาหารกลางวันมีประสิทธิภาพและบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ การติดตามผลควรดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มโครงการ โดยมีการเก็บรวบรวมข้อมูลด้านต่างๆ เช่น จำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ ความพึงพอใจของนักเรียนต่ออาหารที่ได้รับ การเปลี่ยนแปลงสภาวะทางโภชนาการของนักเรียน ผลการเรียนของนักเรียน และปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน

การจัดทำรายงานเป็นส่วนสำคัญของการดำเนินงานโครงการอาหารกลางวัน สถานศึกษาต้องจัดทำรายงานหลายประเภท ได้แก่ รายงานรายเดือนที่แสดงจำนวนนักเรียนที่ได้รับอาหารกลางวัน รายการอาหารที่จัดให้ การใช้งบประมาณ และปัญหาที่เกิดขึ้น รายงานรายไตรมาสที่สรุปผลการดำเนินงานและการประเมินผล รายงานประจำปีที่แสดงผลสำเร็จของโครงการ และข้อเสนอแนะสำหรับการพัฒนาในปีต่อไป รายงานทุกประเภทต้องมีข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นปัจจุบัน

ปัญหาและอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นในการดำเนินงานโครงการอาหารกลางวันมีหลายประการ เช่น การล่าช้าของการจัดสรรงงบประมาณ ความผันผวนของราคาวัตถุดิบอาหาร การขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ด้านการจัดทำอาหาร การเปลี่ยนแปลงของนโยบายหรือระเบียบปฏิบัติ ปัญหาสภาพอากาศที่ส่งผลต่อการจัดหาวัตถุดิบ และการยอมรับของนักเรียนต่ออาหารที่จัดให้ สถานศึกษาควรมีแผนรองรับและวิธีการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ไว้ล่วงหน้า

แนวทางการแก้ไขปัญหาควรเริ่มจากการวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาอย่างถ่องแท้ การหาทางเลือกในการแก้ไขที่หลากหลาย การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ และการปรับปรุงระบบการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การแก้ไขปัญหาควรดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อนักเรียนและการเรียนการสอน

การสร้างเครือข่ายความร่วมมือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้การดำเนินงานโครงการอาหารกลางวันประสบความสำเร็จ สถานศึกษาควรสร้างความร่วมมือกับผู้ปกครอง ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานราชการ เอกชน และองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง การมีเครือข่ายที่แข็งแกร่งจะช่วยในการระดมทรัพยากร การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การแก้ไขปัญหา และการพัฒนาโครงการให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

การพัฒนาบุคลากรเป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จในการดำเนินงานโครงการอาหารกลางวัน สถานศึกษาควรจัดให้มีการอบรมพัฒนาความรู้และทักษะของบุคลากรที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอ เนื้อหาการอบรมควรครอบคลุมด้านโภชนาการ สุขอนามัยอาหาร การจัดการโครงการ การบริหารงงบประมาณ และเทคนิคการประกอบอาหารที่ถูกต้อง การได้รับความรู้ใหม่ๆ จะช่วยให้บุคลากรสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อการเปลี่ยนแปลง

เทคโนโลยีและนวัตกรรมสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาระบบการจัดการโครงการอาหารกลางวันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการจัดทำเมนูอาหาร การคำนวณคุณค่าทางโภชนาการ การจัดการข้อมูลนักเรียน การติดตามการใช้งบประมาณ การสื่อสารกับผู้ปกครอง และการจัดทำรายงานต่างๆ การนำเทคโนโลยีมาใช้จะช่วยลดเวลาในการทำงาน เพิ่มความแม่นยำของข้อมูล และสร้างความสะดวกในการบริหารจัดการ

ความยั่งยืนของโครงการอาหารกลางวันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ การมีนโยบายที่ชัดเจนและต่อเนื่องจากรัฐบาล การจัดสรรงบประมาณที่เพียงพอและสม่ำเสมอ การมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ การสนับสนุนจากชุมชนและผู้ปกครอง และการปรับปรุงพัฒนาระบบการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง สถานศึกษาควรมีแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวสำหรับการดำเนินงานโครงการ และมีการทบทวนปรับปรุงแผนดังกล่าวเป็นระยะ

การสื่อสารและประชาสัมพันธ์เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความเข้าใจและการยอมรับจากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย สถานศึกษาควรมีช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย เช่น การประชุมผู้ปกครอง จดหมายข่าว เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และสื่อท้องถิ่น เนื้อหาที่สื่อสารควรรวมถึงวัตถุประสงค์ของโครงการ ผลประโยชน์ที่นักเรียนจะได้รับ กิจกรรมและความก้าวหน้าของโครงการ และการขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย

สาระสำคัญของคู่มือ

  • ที่มาและความสำคัญ : โครงการอาหารกลางวันเป็นนโยบายสาธารณะที่รัฐจัดสวัสดิการให้เด็กวัยเรียนตั้งแต่ระดับเด็กเล็กถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อแก้ไขปัญหาภาวะทุพโภชนาการและส่งเสริมให้นักเรียนได้รับสารอาหารครบถ้วน มีความพร้อมในการเรียนรู้
  • อัตราค่าอาหารกลางวัน : กำหนดอัตราต่อคนต่อวันแบ่งตามขนาดโรงเรียน ได้แก่ 36 บาท (นักเรียน 1-40 คน), 27 บาท (นักเรียน 41-100 คน), 24 บาท (นักเรียน 101-120 คน) และ 22 บาท (นักเรียน 121 คนขึ้นไป) จำนวน 200 วันต่อปีการศึกษา
  • เจตนารมณ์และวัตถุประสงค์ : เพื่อพัฒนาคนไทยให้สมบูรณ์ทั้งร่างกายและสติปัญญา ส่งเสริมให้นักเรียนมีสุขภาพอนามัยแข็งแรง และเพื่อให้โรงเรียนมีแนวทางในการจัดอาหารที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานตามหลักโภชนาการ และดำเนินงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
  • บทบาทของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง : ระบุบทบาทหน้าที่ของ สพฐ., สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา, โรงเรียน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดำเนินงานโครงการ
  • แนวปฏิบัติในการบริหารจัดการงบประมาณ:
    • การขอรับงบประมาณ : โรงเรียนเสนอโครงการต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยแจ้งจำนวนนักเรียนตามช่วงเวลาที่กำหนด
    • รูปแบบการบริหารจัดการอาหารกลางวัน 3 วิธี
      1. การจัดซื้อวัตถุดิบเพื่อประกอบอาหาร : แบ่งตามวงเงิน (ไม่เกิน 500,000 บาท และเกินกว่า 500,000 บาท) โดยมีขั้นตอนการจัดทำรายการอาหาร, ประมาณการวัตถุดิบ, รายงานขอซื้อ/ใบสั่งซื้อ และการตรวจรับพัสดุ
      2. การจ้างบุคคลเพื่อประกอบอาหาร: ดำเนินการจัดจ้างด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง กำหนดคุณสมบัติผู้รับจ้าง/TOR และมีขั้นตอนการตรวจรับพัสดุ
      3. การจ้างเหมาประกอบอาหาร (ปรุงสำเร็จ) : แบ่งตามวงเงิน (ไม่เกิน 500,000 บาท และเกินกว่า 500,000 บาท) มีขั้นตอนการแต่งตั้งคณะกรรมการ, กำหนดคุณลักษณะ/TOR, รายงานขอจ้าง/ใบสั่งจ้าง และการตรวจรับพัสดุ รวมถึงการกำหนดค่าปรับในสัญญา
    • การรายงานผล : โรงเรียนต้องรายงานผลการดำเนินงานภายใน 30 วันหลังสิ้นสุดโครงการ และส่งคืนเงินเหลือจ่าย (ถ้ามี)
  • แนวทางการจัดอาหารกลางวันที่มีคุณภาพ
    • มาตรฐานอาหารกลางวัน : แนะนำการวางแผนเมนูอาหารล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน โดยคำนึงถึงปริมาณและความถี่ของกลุ่มอาหารต่างๆ (ข้าว, ผัก, ผลไม้, เนื้อสัตว์, ไข่, ตับ, เต้าหู้, ปลาเล็กปลาน้อย, เผือก-มัน, น้ำมัน, นม, น้ำดื่ม) และการใช้เกลือเสริมไอโอดีน
    • การประเมินแผนการจัดอาหาร : ใช้ระบบ Thai School Lunch (TSL) เพื่อประเมินคุณภาพอาหาร และมีแบบประเมินแผนการจัดการสำรับอาหารประจำสัปดาห์
    • มาตรฐานปริมาณวัตถุดิบอาหาร : กำหนดปริมาณวัตถุดิบโดยเฉลี่ยต่อคนต่อสัปดาห์สำหรับนักเรียนแต่ละวัย
    • ความปลอดภัยอาหาร: เน้นการเลือกซื้อวัตถุดิบที่สะอาด ปลอดภัย การเก็บรักษา การล้าง การปรุงประกอบอาหารที่ถูกสุขลักษณะ และการประเมินสุขาภิบาลอาหารตามเกณฑ์ SAN “โรงอาหารในสถานศึกษา”
  • แนวทางการตักอาหารกลางวัน : กำหนดปริมาณและสัดส่วนที่เหมาะสมกับวัยของนักเรียนแต่ละระดับชั้น เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่เท่ากัน และมีข้อแนะนำในการหั่นชิ้นอาหารสำหรับเด็กเล็ก รวมถึงมาตรการแก้ไขกรณีนักเรียนไม่รับประทานอาหาร

คู่มือนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้โรงเรียนและผู้เกี่ยวข้องสามารถดำเนินงานโครงการอาหารกลางวันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบ และหลักโภชนาการ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียน

ตัวอย่างไฟล์เอกสาร

เอกสารเป็นไฟล์ PDF

ดาวน์โหลดไฟล์เอกสารจากลิงก์นี้นะครับ

ขอบคุณแหล่งที่มา : ศูนย์ส่งเสริมและประสานงานกิจการนักเรียน สำนักอำนวยการ สพฐ.

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ห้ามพลาด