สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ทุกท่านนะครับ วันนี้พบกับ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ หน้าปก หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2567 ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 ซึ่งเพื่อนๆ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดนำไปศึกษาและนำไปเป็นแนวทางในการจัดทำ หน้าปก หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2567 ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 ได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ หน้าปก หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2567 ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 ตามรายละเอียดดังนี้ครับ
แจกปกฟรี แก้ไขได้ ชุด หน้าปก หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2567 ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 ไฟล์ Word แก้ไขได้ โดย โรงเรียนบ้านดอนยาว

หลักสูตรปฐมวัย 2567 ต่อยอดรากฐานจากปี 2560 เตรียมเด็กสู่โลกอนาคต
การศึกษาปฐมวัยเปรียบเสมือนการวางรากฐานที่แข็งแกร่งที่สุดให้กับชีวิตของมนุษย์คนหนึ่ง ช่วงเวลาทองของพัฒนาการที่สมองเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุด การบ่มเพาะทักษะ ความรู้ และทัศนคติที่ถูกต้องในวัยนี้ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต ประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนานี้มาโดยตลอด โดยมี “หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560” เป็นเข็มทิศนำทางให้กับสถานศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาปฐมวัยทั่วประเทศ และในวันนี้ เพื่อให้ก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลงของโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว การต่อยอดและปรับมุมมองสู่ “หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2567” จึงได้ถือกำเนิดขึ้น โดยยังคงยึดมั่นในแก่นปรัชญาและหลักการที่ดีงามของหลักสูตรปี 2560 ไว้อย่างครบถ้วน แต่เพิ่มเติมมุมมองและทักษะที่จำเป็นสำหรับเด็กในศตวรรษที่ 21 ให้เฉียบคมและชัดเจนยิ่งขึ้น
บทความนี้จะพาคุณครู ผู้บริหารสถานศึกษา และผู้ปกครองทุกท่าน ไปเจาะลึกถึงทุกมิติของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยฉบับใหม่นี้ ว่ามีสิ่งใดที่ยังคงเดิม สิ่งใดที่เพิ่มเติมเข้ามา และเราจะร่วมมือกันสร้างสรรค์ประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดีที่สุดเพื่อเด็กๆ ของเราได้อย่างไร
ทบทวนหัวใจสำคัญของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560
ก่อนจะก้าวไปข้างหน้า เราต้องทำความเข้าใจรากฐานที่มั่นคงของหลักสูตรปี 2560 เสียก่อน เพราะนี่คือโครงสร้างหลักที่หลักสูตรปี 2567 ยังคงยึดถือเป็นแนวทางสำคัญ ปรัชญาและหลักการสำคัญของหลักสูตรนี้คือการเชื่อมั่นในศักยภาพของเด็กทุกคน และเน้นการเรียนรู้ที่ยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง (Child-Centered) อย่างแท้จริง
หัวใจหลักของหลักสูตรปี 2560 ประกอบด้วย
- หลักการที่ยืดหยุ่น เคารพในความแตกต่างระหว่างบุคคลของเด็กแต่ละคน ทั้งในด้านพัฒนาการ ความสนใจ และวิถีชีวิต
- การเรียนรู้ผ่านการเล่น (Learn Through Play) เชื่อว่าการเล่นคือวิธีการเรียนรู้ที่ดีที่สุดตามธรรมชาติของเด็ก เด็กจะได้ลงมือทำ สัมผัส คิดแก้ปัญหา และสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ด้วยตนเองผ่านกิจกรรมการเล่นที่หลากหลาย
- บูรณาการการเรียนรู้ เนื้อหาและกิจกรรมจะไม่ได้แยกส่วนเป็นรายวิชา แต่จะสอดแทรกทักษะและสาระการเรียนรู้ต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันในกิจกรรมเดียวอย่างมีความหมาย
- ความร่วมมือจากทุกฝ่าย เน้นการทำงานร่วมกันระหว่างบ้าน โรงเรียน และชุมชน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และพัฒนาการของเด็กอย่างรอบด้าน
หลักสูตรปี 2560 ได้กำหนดจุดหมายที่ชัดเจนในการพัฒนาเด็กให้มีพัฒนาการสมวัยครบทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ จิตใจ ด้านสังคม และด้านสติปัญญา โดยมีมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ 12 ประการเป็นเป้าหมายสูงสุดในการพัฒนาเด็กให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ
ก้าวสู่การเปลี่ยนแปลง หลักสูตรปฐมวัย 2567 เพิ่มเติมอะไรเข้ามา
โลกในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างมหาศาล เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในทุกมิติของชีวิต ข้อมูลข่าวสารที่ท่วมท้น และความท้าทายใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้ทักษะที่จำเป็นสำหรับเด็กในวันนี้และอนาคตต้องเปลี่ยนแปลงไป หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2567 จึงไม่ได้เป็นการ “รื้อ” หลักสูตรเดิม แต่เป็นการ “ต่อยอด” และ “เพิ่มเติม” สิ่งที่จำเป็นให้สอดคล้องกับบริบทของโลกยุคใหม่ โดยเน้นย้ำในประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้
1 การเน้นย้ำทักษะสมองส่วนหน้า Executive Functions (EF)
นี่คือหัวใจสำคัญที่สุดที่ถูกเน้นย้ำในหลักสูตรฉบับปรับปรุง EF คือกลุ่มทักษะการคิดขั้นสูงของสมองส่วนหน้าที่ช่วยให้เรากำกับความคิด อารมณ์ และการกระทำของตนเองเพื่อไปให้ถึงเปรียบหมาย เปรียบเสมือน “ซีอีโอ” ของสมองที่คอยบริหารจัดการชีวิตให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการเรียนรู้และการใช้ชีวิตในโลกที่ซับซ้อน EF ประกอบด้วย 3 ทักษะหลัก
- ความจำเพื่อใช้งาน (Working Memory) คือความสามารถในการเก็บข้อมูลไว้ในใจชั่วครู่และนำออกมาใช้ เช่น การจำคำสั่งของคุณครูเพื่อทำตาม การจำขั้นตอนการล้างมือ
- การยับยั้งชั่งใจ (Inhibitory Control) คือความสามารถในการควบคุมความต้องการและแรงกระตุ้นของตนเอง คิดก่อนทำ เช่น การอดทนรอคอยในแถว การหยุดเล่นเมื่อหมดเวลา การควบคุมอารมณ์โกรธไม่ให้ทำร้ายเพื่อน
- การยืดหยุ่นความคิด (Cognitive Flexibility) คือความสามารถในการปรับเปลี่ยนความคิด ปรับตัวเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป และมองเห็นมุมมองของผู้อื่น เช่น การยอมรับกติกาใหม่ๆ การหาทางแก้ไขปัญหาด้วยวิธีอื่นเมื่อวิธีเดิมไม่ได้ผล
หลักสูตรปี 2567 จะส่งเสริมให้ครูจัดประสบการณ์ที่สอดแทรกการพัฒนา EF ในทุกกิจกรรม ตั้งแต่การเล่นอิสระ การทำกิจวัตรประจำวัน ไปจนถึงกิจกรรมกลุ่ม เพื่อให้เด็กได้ฝึกฝนทักษะเหล่านี้จนกลายเป็นนิสัย
2 ความฉลาดทางดิจิทัล (Digital Literacy)
ในยุคที่เด็กๆ เติบโตมาพร้อมกับหน้าจอ หลักสูตรใหม่ไม่ได้มองว่าเทคโนโลยีคือผู้ร้าย แต่คือเครื่องมือที่ต้องสอนให้เด็กรู้จักใช้อย่างชาญฉลาดและปลอดภัย การพัฒนาความฉลาดทางดิจิทัลในเด็กปฐมวัยไม่ได้หมายถึงการสอนเขียนโค้ดที่ซับซ้อน แต่เป็นการปูพื้นฐานสำคัญ เช่น
- การรู้จักแยกแยะระหว่างโลกจริงกับโลกออนไลน์
- การรู้เท่าทันสื่อ รู้ว่าสิ่งไหนควรเชื่อหรือไม่ควรเชื่อเบื้องต้น
- การเข้าใจเรื่องเวลาหน้าจอที่เหมาะสม (Screen Time)
- การใช้อุปกรณ์ดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้และสร้างสรรค์ ไม่ใช่แค่เพื่อความบันเทิงเพียงอย่างเดียว เช่น การใช้แท็บเล็ตวาดรูป การค้นหาภาพสัตว์ที่สนใจร่วมกับผู้ปกครอง
3 การเรียนรู้แบบเรียนรวม (Inclusive Education)
หลักสูตร 2567 ให้ความสำคัญกับการออกแบบการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อเด็กทุกคนในห้องเรียน ไม่ว่าเด็กคนนั้นจะมีความต้องการพิเศษ มีความแตกต่างทางวัฒนธรรม หรือมีพื้นฐานครอบครัวที่หลากหลาย คุณครูจะได้รับการส่งเสริมให้มีทักษะในการสังเกตและออกแบบกิจกรรมที่ยืดหยุ่นพอที่เด็กทุกคนจะสามารถเข้ามามีส่วนร่วมและเรียนรู้ได้อย่างมีความสุขและเต็มศักยภาพของตนเอง
4 การบูรณาการ STEAM Education
เป็นการนำแนวคิดการเรียนรู้ที่ผสมผสานวิทยาศาสตร์ (Science) เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) ศิลปะ (Art) และคณิตศาสตร์ (Mathematics) เข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืนในกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้เด็กเกิดทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ และมีความคิดสร้างสรรค์ ตัวอย่างเช่น
- กิจกรรมสร้างบ้านจากกล่อง : เด็กจะได้ใช้ทักษะวิศวกรรม (การออกแบบโครงสร้าง) คณิตศาสตร์ (การนับจำนวนกล่อง การวัดขนาด) และศิลปะ (การตกแต่งบ้าน)
- กิจกรรมปลูกถั่วงอก : เด็กจะได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ (การเติบโตของพืช) ใช้เทคโนโลยี (การถ่ายภาพบันทึกการเจริญเติบโต) และคณิตศาสตร์ (การวัดความสูงของต้น)
โครงสร้างและสาระการเรียนรู้ที่ปรับมุมมองใหม่
หลักสูตรปี 2567 ยังคงโครงสร้างสาระการเรียนรู้หลัก 4 เรื่องราวเช่นเดิม แต่ได้เพิ่มเติมมุมมองและรายละเอียดให้สอดคล้องกับทักษะที่เน้นย้ำมากขึ้น
ด้านร่างกาย
- เดิม : เน้นการพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ มัดเล็ก การประสานสัมพันธ์ของอวัยวะ และการดูแลสุขภาพอนามัย
- เพิ่มเติม : เพิ่มความตระหนักรู้ในเรื่อง สุขภาวะทางดิจิทัล (Digital Wellness) เช่น การพักสายตาจากการมองจอ การรู้จักขยับร่างกายหลังจากนั่งนิ่งๆ รวมถึงการตระหนักรู้และป้องกันตนเองจากภัยอันตรายรูปแบบใหม่ๆ ทั้งในโลกจริงและโลกออนไลน์
ด้านอารมณ์ จิตใจ
- เดิม : เน้นการรู้จักอารมณ์ตนเอง การแสดงออกอย่างเหมาะสม ความเมตตากรุณา
- เพิ่มเติม : เจาะลึกไปที่ การจัดการอารมณ์เชิงรุก (Emotional Regulation) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ EF การสอนให้เด็กรู้จักวิธีสงบสติอารมณ์ของตนเองเมื่อโกรธหรือเสียใจ เช่น การฝึกหายใจ การเดินไปหามุมสงบ รวมถึงการสร้าง ความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่น (Empathy) อย่างเป็นรูปธรรมผ่านสถานการณ์จำลองและนิทาน
ด้านสังคม
- เดิม : เน้นการปฏิบัติตามข้อตกลง การเล่นและทำงานร่วมกับผู้อื่น การแบ่งปัน
- เพิ่มเติม : ขยายขอบเขตสู่การเป็น พลเมืองดิจิทัลรุ่นเยาว์ (Young Digital Citizen) การเข้าใจมารยาทเบื้องต้นในการสื่อสารออนไลน์ (ภายใต้การดูแลของผู้ใหญ่) การเรียนรู้เรื่องความหลากหลายทางวัฒนธรรม และการทำงานร่วมกันเป็นทีมเพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อนมากขึ้น
ด้านสติปัญญา
- เดิม : เน้นทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษา การคิดรวบยอด
- เพิ่มเติม : เน้นกระบวนการคิดที่ซับซ้อนขึ้นอย่างชัดเจน คือ การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) การตั้งคำถาม “ทำไม” “อย่างไร” การคิดแก้ปัญหา (Problem Solving) และ ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบ Active Learning และ Project-Based Learning ที่ให้เด็กๆ ได้ลงมือค้นคว้าและหาคำตอบในสิ่งที่ตนเองสนใจ
บทบาทของครูและผู้ปกครองที่ต้องปรับเปลี่ยนเพื่ออนาคตของเด็ก
การขับเคลื่อนหลักสูตรใหม่นี้ให้เกิดผลสำเร็จได้จริง จำเป็นต้องอาศัยความเข้าใจและความร่วมมือจากทั้งครูและผู้ปกครองในบทบาทที่ต้องปรับเปลี่ยนไป
บทบาทครูปฐมวัยยุค 2567 จะเป็นมากกว่าผู้สอน แต่คือ “ผู้อำนวยการการเรียนรู้” (Learning Facilitator) และ “นักออกแบบประสบการณ์” (Experience Designer)
- เป็นนักสังเกตอย่างละเอียด : เพื่อให้เข้าใจพัฒนาการและความสนใจของเด็กแต่ละคนอย่างแท้จริง
- เป็นนักตั้งคำถามชั้นยอด : ใช้คำถามปลายเปิดกระตุ้นให้เด็กคิดต่อยอด ไม่ใช่แค่การบอกคำตอบ
- เป็นนักจัดสิ่งแวดล้อมที่สร้างสรรค์ : จัดเตรียมสื่อและพื้นที่ที่ท้าทายและเอื้อให้เกิดการเรียนรู้ผ่านการเล่น
- เป็นผู้ที่เรียนรู้ตลอดชีวิต : เปิดรับความรู้ใหม่ๆ โดยเฉพาะเรื่องพัฒนาการสมอง EF และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา
บทบาทผู้ปกครองยุค 2567 จะเป็นมากกว่าผู้สนับสนุน แต่คือ “หุ้นส่วนการเรียนรู้” (Learning Partner)
- สื่อสารกับโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ : แลกเปลี่ยนข้อมูลพัฒนาการของลูกเพื่อจะได้ส่งเสริมไปในทิศทางเดียวกัน
- สร้างวินัยเชิงบวกที่บ้าน : ฝึกฝนทักษะ EF ผ่านกิจวัตรประจำวัน เช่น การให้ลูกช่วยทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ การฝึกให้รอคอย การตรงต่อเวลา
- เป็นต้นแบบที่ดีในการใช้เทคโนโลยี : กำหนดเวลาหน้าจอที่ชัดเจน เลือกสื่อที่มีคุณภาพ และใช้เวลากับเทคโนโลยีร่วมกับลูก
- ให้เวลาคุณภาพกับการเล่น : เล่นกับลูกอย่างเต็มที่ เพราะการเล่นคือการลงทุนที่ดีที่สุดสำหรับพัฒนาการของเขา
หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2567 ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่น่ากังวล แต่เป็นวิวัฒนาการที่จำเป็นเพื่อเตรียมความพร้อมให้เด็กไทยมีภูมิคุ้มกันและทักษะที่แข็งแกร่งพอที่จะเติบโตและใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขในโลกอนาคตที่คาดเดาได้ยาก โดยยังคงรักษาแก่นแท้ของการพัฒนาเด็กอย่างรอบด้านผ่านการเล่นที่เปี่ยมด้วยความสุขเอาไว้ดังเดิม การเดินทางครั้งนี้ต้องอาศัยพลังจากทุกฝ่าย ทั้งผู้กำหนดนโยบาย สถานศึกษา คุณครู และที่สำคัญที่สุดคือครอบครัว เพื่อร่วมกันสร้างรากฐานที่มั่นคงที่สุดให้กับทรัพยากรที่มีค่าที่สุดของชาติ นั่นก็คือเด็กๆ ของเราทุกคนนั่นเอง
ตัวอย่างไฟล์ หน้าปก หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2567 ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560
