สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิกทุกท่านครับ วันนี้ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ขอนำเสนอ ทำแบบทดสอบรับเกียรติบัตร ขอเชิญคุณครูและผู้สนใจทุกท่าน ทำแบบทดสอบออนไลน์ แบบทดสอบออนไลน์ เรื่อง เปิดตำนาน 7 นางสงกรานต์ ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด รับเกียรติบัตรทาง E-mail จัดทำโดย ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอแม่แตง

ทำแบบทดสอบรับเกียรติบัตร ขอเชิญคุณครูและผู้สนใจทุกท่าน ทำแบบทดสอบออนไลน์ แบบทดสอบออนไลน์ เรื่อง เปิดตำนาน 7 นางสงกรานต์ ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด รับเกียรติบัตรทาง E-mail จัดทำโดย ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอแม่แตง

เปิดตำนาน 7 นางสงกรานต์ ความลึกลับแห่งเทพธิดาผู้ครองเวลาในประเพณีไทยโบราณ

วันสงกรานต์หรือปีใหม่ไทยเป็นหนึ่งในเทศกาลที่สำคัญและมีความหมายลึกซึ้งที่สุดในวัฒนธรรมไทย แต่มีกี่คนที่รู้จักเรื่องราวของ 7 นางสงกรานต์ผู้เป็นเทพธิดาครองเวลาในตำนานโบราณ ความเชื่อเรื่องนางสงกรานต์นั้นมีรากฐานมาจากพุทธศาสนาและฮินดูศาสนา โดยเชื่อกันว่านางทั้งเจ็ดเป็นบุตรสาวของเทพยดา ผู้มีหน้าที่คอยดูแลและจัดการเรื่องเวลาวันในแต่ละปี

นางสงกรานต์แต่ละองค์จะมาปรากฏตัวในแต่ละวัน เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ไปจนถึงวันศุกร์ตามลำดับ แต่ละนางจะมีลักษณะเฉพาะตัว สีประจำตัว สัตว์ประจำตัว และสิ่งที่ถืออยู่ในมือแตกต่างกันออกไป การรู้จักนางสงกรานต์แต่ละองค์จะช่วยให้เราเข้าใจความหมายและคุณค่าของประเพณีสงกรานต์ได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ตำนานกำเนิดของ 7 นางสงกรานต์

ตามตำนานที่ถ่ายทอดสืบต่อกันมาในหลายชั่วอายุคน เล่ากันว่าในสมัยพุทธกาลมีเศรษฐีคนหนึ่งชื่อกบิลพรหมมีบุตรชายที่ฉลาดหลักแหลมเป็นพิเศษ เด็กชายคนนี้สามารถเรียนรู้ภาษานกได้ และมีความรู้ความสามารถในด้านต่างๆ มากมาย เมื่อเติบโตขึ้นเขาได้ออกเดินทางไปแสวงหาความรู้และได้พบกับเทพยดาผู้ทรงฤทธิ์

เทพยดาองค์นี้ได้ทดสอบความรู้ของเด็กชายด้วยการถามปริศนา 3 ข้อ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสุขของมนุษย์ในตอนเช้า เที่ยง และเย็น หากตอบไม่ได้เทพยดาจะตัดหัวเด็กชาย แต่หากตอบได้เทพยดาจะยอมตัดหัวตัวเอง เด็กชายสามารถตอบปริศนาได้อย่างถูกต้องทั้งหมด ทำให้เทพยดาต้องยอมตัดหัวตนเองตามสัญญา

แต่เนื่องจากศีรษะของเทพยดามีพลังวิเศษ หากตกลงสู่พื้นดินจะทำให้เกิดภัยพิบัติต่างๆ หากยกขึ้นไปบนฟ้าจะทำให้เกิดความแห้งแล้งทั่วโลก และหากทิ้งลงในทะเลจะทำให้น้ำทะเลเดือด จึงได้เรียกบุตรสาวทั้งเจ็ดคนของเทพยดามาช่วยดูแล โดยให้ผลัดเปลี่ยนกันมาถือศีรษะของพ่อและอาบน้ำให้เป็นประจำทุกปี

ทุงษะ นางสงกรานต์วันเสาร์

นางทุงษะเป็นนางสงกรานต์องค์แรกที่ปรากฏในวันเสาร์ ชื่อของนางมีความหมายว่า “ผู้ที่มีความเสียหาย” หรือ “ผู้ที่ถูกทำลาย” นางทุงษะมีผิวสีแดง ผมสีดำยาวประบ่า ใส่เสื้อสีแดงสด และมีดาบเป็นอาวุธประจำตัว นางจะประทับอยู่บนหลังควาย สัตว์ประจำตัวที่แสดงถึงความอดทนและความแข็งแรง

การที่นางทุงษะปรากฏในวันเสาร์มีความหมายเชื่อมโยงกับดาวเสาร์ที่ถือเป็นดาวแห่งการทดสอบและอุปสรรค ลักษณะของนางที่ถือดาบแสดงถึงการตัดขาดสิ่งที่ไม่ดี และการเริ่มต้นใหม่ ชาวบ้านที่เกิดในวันเสาร์จะถือว่านางทุงษะเป็นเทพธิดาคุ้มครอง และจะทำพิธีกรรมเฉพาะเพื่อขอพรจากนางในวันสงกรานต์

นางทุงษะมีบทบาทสำคัญในการขับไล่สิ่งชั่วร้ายและให้การปกป้องคุ้มครองผู้ที่มีใจศรี งา และนางยังเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ในปีใหม่ไทย ชาวไทยโบราณเชื่อว่าการสักการะนางทุงษะด้วยความเคารพจะช่วยให้ปีใหม่เป็นไปด้วยความเป็นสิริมงคลและปราศจากอันตราย

โกรธะ นางสงกรานต์วันอาทิตย์

นางโกรธะเป็นเทพธิดาประจำวันอาทิตย์ ชื่อของนางแปลว่า “ความโกรธ” แต่ความโกรธของนางเป็นความโกรธที่ชอบธรรม เพื่อปกป้องสิ่งดีและทำลายสิ่งชั่ว นางโกรธะมีสีประจำตัวคือสีทอง ผิวสีทอง ผมสีทองแวววาว สวมเสื้อสีทอง และถือกริชเป็นอาวุธประจำตัว นางจะประทับอยู่บนหลังราชสีห์หรือสิงโตทอง

ราชสีห์ที่เป็นสัตว์ประจำตัวของนางโกรธะเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ อำนาจ และความเป็นผู้นำ ซึ่งสอดคล้องกับวันอาทิตย์ที่เป็นวันแห่งพระอาทิตย์ที่ให้แสงสว่างและพลังงานแก่โลกใบนี้ นางโกรธะจึงเป็นเทพธิดาแห่งความยุติธรรมและความเป็นผู้นำที่ดี

ผู้ที่เกิดในวันอาทิตย์จะได้รับการคุ้มครองจากนางโกรธะ และมักจะมีลักษณะเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ มีความกล้าหาญในการต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง การบูชานางโกรธะในวันสงกรานต์จะช่วยเสริมบารมีและให้ความคุ้มครองแก่ผู้ที่ประกอบอาชีพที่ต้องการความกล้าหาญและความเป็นผู้นำ

รากษส นางสงกรานต์วันจันทร์

นางรากษสเป็นเทพธิดาประจำวันจันทร์ ชื่อของนางหมายถึง “ผู้คุ้มครอง” หรือ “ผู้ปกป้อง” นางรากษสมีผิวสีขาวอมเหลือง ผมสีเหลืองทอง สวมเสื้อสีขาว และถือตรีศูลเป็นอาวุธประจำตัว สัตว์ประจำตัวของนางคือเสือ ซึ่งแสดงถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการปกป้องคุ้มครอง

เสือในฐานะสัตว์ประจำตัวของนางรากษสเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญและความแข็งแกร่งในการปกป้องสิ่งที่ตนรัก วันจันทร์ที่เป็นวันแห่งพระจันทร์มีความเชื่อมโยงกับความอ่อนโยน การปกป้อง และความเมตตากรุณา ลักษณะเหล่านี้สะท้อนให้เห็นในตัวของนางรากษสที่เป็นเทพธิดาแห่งการคุ้มครอง

ผู้ที่เกิดในวันจันทร์จะได้รับการปกป้องจากนางรากษส และมักจะมีใจเมตตา รักการดูแลผู้อื่น และมีสัญชาตญาณในการปกป้องคุ้มครองผู้ที่อ่อนแอกว่า การสักการะนางรากษสจะช่วยให้ได้รับความคุ้มครองและช่วยเสริมความเข้มแข็งทางด้านจิตใจ

มณฑา นางสงกรานต์วันอังคาร

นางมณฑาเป็นเทพธิดาประจำวันอังคาร ชื่อของนางหมายถึง “ความประดับประดา” หรือ “ความงาม” นางมณฑามีผิวสีแดงอมชมพู ผมสีแดงสด สวมเสื้อสีชมพูอ่อน และถือปืนใหญ่หรือปืนโบราณเป็นอาวุธประจำตัว สัตว์ประจำตัวของนางคือลิง ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีความว่องไวและฉลาดเฉลียว

ลิงในฐานะสัตว์ประจำตัวของนางมณฑาเป็นสัญลักษณ์ของความรวดเร็ว ความเฉลียวฉลาด และความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ วันอังคารที่เป็นวันแห่งดาวอังคารมีความเชื่อมโยงกับพลังงาน ความกระตือรือร้น และการปฏิบัติการ ลักษณะเหล่านี้ปรากฏในตัวของนางมณฑาที่เป็นเทพธิดาแห่งการตกแต่งและความงาม

ผู้ที่เกิดในวันอังคารจะได้รับการคุ้มครองจากนางมณฑา และมักจะมีรสนิยมที่ดี รักความสวยงาม มีพลังในการทำงาน และความคิดสร้างสรรค์ การบูชานางมณฑาจะช่วยเสริมความงามทั้งภายในและภายนอก รวมถึงช่วยในเรื่องของการงานที่เกี่ยวข้องกับศิลปะและความคิดสร้างสรรค์

ปุรณา นางสงกรานต์วันพุธ

นางปุรณาเป็นเทพธิดาประจำวันพุธ ชื่อของนางหมายถึง “ความสมบูรณ์” หรือ “ความครบถ้วน” นางปุรณามีผิวสีเขียว ผมสีเขียวมรกต สวมเสื้อสีเขียวสด และถือไม้พายหรือคันชักเป็นอาวุธประจำตัว สัตว์ประจำตัวของนางคือลา ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีความอดทนและความขยันหมั่นเพียร

ลาในฐานะสัตว์ประจำตัวของนางปุรณาเป็นสัญลักษณ์ของความอดทน ความขยันหมั่นเพียร และความมั่นคง วันพุธที่เป็นวันแห่งดาวพุธมีความเชื่อมโยงกับการสื่อสาร ความรู้ และการเรียนรู้ ลักษณะเหล่านี้สะท้อนในตัวของนางปุรณาที่เป็นเทพธิดาแห่งความสมบูรณ์และความครบถ้วน

ผู้ที่เกิดในวันพุธจะได้รับการคุ้มครองจากนางปุรณา และมักจะมีความอดทน มีความรู้กว้างขวาง รักการเรียนรู้ และมีความสามารถในการสื่อสาร การสักการะนางปุรณาจะช่วยเสริมสติปัญญา ความรู้ และช่วยให้การงานเป็นไปอย่างสมบูรณ์

เกณียา นางสงกรานต์วันพฤหัสบดี

นางเกณียาเป็นเทพธิดาประจำวันพฤหัสบดี ชื่อของนางมาจากคำว่า “กัณหา” แปลว่า “สีดำ” หรือ “ความมืดมิด” แต่ความมืดมิดของนางไม่ใช่ความชั่วร้าย แต่เป็นความลึกลับและความลี้ลับของธรรมชาติ นางเกณียามีผิวสีดำอมเขียว ผมสีดำ สวมเสื้อสีเขียวเข้ม และถือคทาหรือกำปั่นเป็นอาวุธประจำตัว สัตว์ประจำตัวของนางคือช้าง

ช้างในฐานะสัตว์ประจำตัวของนางเกณียาเป็นสัญลักษณ์ของปัญญา ความทรงจำ ความมั่นคง และความโชคดี วันพฤหัสบดีที่เป็นวันแห่งดาวพฤหัสบดีมีความเชื่อมโยงกับปัญญา ความรู้ ความยุติธรรม และความเจริญรุ่งเรือง ลักษณะเหล่านี้ปรากฏในตัวของนางเกณียาที่เป็นเทพธิดาแห่งปัญญาและความเจริญรุ่งเรือง

ผู้ที่เกิดในวันพฤหัสบดีจะได้รับการคุ้มครองจากนางเกณียา และมักจะมีปัญญาดี มีความยุติธรรม รักในความถูกต้อง และมีโชคลาภในชีวิต การบูชานางเกณียาจะช่วยเสริมปัญญา เพิ่มโชคลาภ และช่วยให้ประสบความสำเร็จในการงานและการศึกษา

มโหธร นางสงกรานต์วันศุกร์

นางมโหธรเป็นเทพธิดาองค์สุดท้ายประจำวันศุกร์ ชื่อของนางหมายถึง “ผู้ที่ยิ่งใหญ่” หรือ “ผู้ที่มีคุณธรรมสูงส่ง” นางมโหธรมีผิวสีฟ้าใส ผมสีน้ำเงิน สวมเสื้อสีฟ้าอ่อน และถือศิลาหรือหินเป็นอาวุธประจำตัว สัตว์ประจำตัวของนางคือหมู ซึ่งแม้จะดูธรรมดา แต่เป็นสัตว์ที่มีความฉลาดและมีคุณประโยชน์มาก

หมูในฐานะสัตว์ประจำตัวของนางมโหธรเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ความมั่งคั่ง และความอยู่เย็นเป็นสุข วันศุกร์ที่เป็นวันแห่งดาวศุกร์มีความเชื่อมโยงกับความรัก ความสวยงาม ศิลปะ และความสุขสันต์ ลักษณะเหล่านี้สะท้อนในตัวของนางมโหธรที่เป็นเทพธิดาแห่งความมั่งคั่งและความสุข

ผู้ที่เกิดในวันศุกร์จะได้รับการคุ้มครองจากนางมโหธร และมักจะมีความรัก มีเสน่ห์ รักในศิลปะและความงาม และมีโชคในเรื่องการเงิน การสักการะนางมโหธรจะช่วยเสริมเสน่ห์ เพิ่มความมั่งคั่ง และช่วยให้ชีวิตเป็นสุขเจริญรุ่งเรือง

การนับถือและพิธีกรรม 7 นางสงกรานต์

การนับถือ 7 นางสงกรานต์มีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันของคนไทยมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชาวบ้านจะจัดพิธีกรรมต่างๆ เพื่อสักการะนางสงกรานต์ในวันสงกรานต์ของแต่ละปี พิธีกรรมเหล่านี้มีทั้งการทำบุญที่วัด การสรงน้ำพระ การปล่อยนก ปล่อยปลา และการแต่งตัวให้สอดคล้องกับสีประจำตัวของนางสงกรานต์ที่มาเยือนในปีนั้น

ประเพณีการแต่งกายตามสีของนางสงกรานต์เป็นสิ่งที่น่าสนใจ หากปีใดปีหนึ่งนางองค์ใดมาเยือน ชาวบ้านจะนิยมแต่งกายด้วยสีที่เป็นสีประจำตัวของนางองค์นั้น เพื่อเป็นการแสดงความเคารพและขอพรจากนางสงกรานต์ นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงทางวัฒนธรรมที่เล่าเรื่องราวของนางสงกรานต์แต่ละองค์ให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้และสืบทอดต่อไป

การคำนวณว่าปีใดนางสงกรานต์องค์ใดจะมาเยือนนั้นใช้วิธีการคำนวณตามปฏิทินจันทรคติ โดยการนับวันที่ 1 ของเดือน 5 ตามปฏิทินไทยโบราณ ซึ่งตรงกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ แล้วดูว่าวันนั้นตรงกับวันใดในสัปดาห์ นางสงกรานต์ที่สอดคล้องกับวันนั้นจะเป็นนางที่มาประจำปีนั้น

อิทธิพลของ 7 นางสงกรานต์ต่อวัฒนธรรมไทย

เรื่องราวของ 7 นางสงกรานต์มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมไทยในหลายมิติ ทั้งด้านศิลปกรรม วรรณกรรม และประเพณีวิถีชีวิต ในด้านศิลปกรรม เราจะพบภาพเขียนและประติมากรรมที่แสดงถึงนางสงกรานต์ทั้งเจ็ดองค์ในวัดและพิพิธภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงงานศิลปกรรมร่วมสมัยที่นำเอาแรงบันดาลใจจากตำนานนี้มาสร้างสรรคงาน

ในด้านวรรณกรรม เรื่องราวของ 7 นางสงกรานต์ปรากฏในวรรณกรรมไทยโบราณหลายเรื่อง และยังคงถูกดัดแปลงเป็นวรรณกรรมร่วมสมัยอย่างต่อเนื่อง การเล่าเรื่องและการแสดงพื้นบ้านที่เกี่ยวข้องกับนางสงกรานต์ก็เป็นอีกหนึ่งมรดกทางวัฒนธรรมที่มีค่าและควรอนุรักษ์ไว้

การศึกษาเรื่อง 7 นางสงกรานต์ยังช่วยให้เราเข้าใจความเชื่อและวิธีคิดของคนไทยโบราณได้ดีขึ้น การเชื่อมโยงระหว่างธรรมชาติ เวลา และเทพธิดา แสดงให้เห็นถึงปัญญาของบรรพบุรุษที่สร้างระบบความเชื่อที่ช่วยให้ผู้คนมีความหวังและกำลังใจในการดำเนินชีวิต

คำชี้แจง แบบทดสอบออนไลน์ เรื่อง เปิดตำนาน 7 นางสงกรานต์

ทำแบบทดสอบรับเกียรติบัตร

ขอเชิญคุณครูและผู้สนใจทุกท่าน

ทำแบบทดสอบออนไลน์

แบบทดสอบออนไลน์ เรื่อง เปิดตำนาน 7 นางสงกรานต์ 

ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด รับเกียรติบัตรทาง E-mail 

จัดทำโดย ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอแม่แตง

หมายเหตุ

1. ระบบเต็มหรือจำกัดจำนวนต่อวัน แนะนำให้ทำช่วงเช้า
2. ใส่อีเมล์ผิดต้องใช้ gmail เท่านั้น
3. คะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
4. ต้องใช้เวลาในการตอบกลับอีเมล์ อาจนานถึง 1 วัน
5. อาจอยู่ในเมล์ขยะ
6. บางเพจจำกัด gmail และให้ทำได้เพียงครั้งเดียว
7. บางเกียรติบัตรไม่ส่งทางอีเมล์ต้องดาวน์โหลดจากเว็บไซต์

ตัวอย่างเกียรติบัตร แบบทดสอบออนไลน์ เรื่อง เปิดตำนาน 7 นางสงกรานต์

ลิงก์สำหรับเข้าทำแบบทดสอบออนไลน์

ขอบคุณแหล่งที่มา : ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอแม่แตง