สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ทุกท่านนะครับ วันนี้พบกับ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ รายงานผลการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ร่วมกับแอปพลิเคชัน ThingLink วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่องระบบนิเวศป่าชายเลน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและจริยธรรมด้านสิ่งแวดล้อม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งเพื่อนๆ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดนำไปศึกษาและนำไปเป็นแนวทางในการดำเนินการจัดทำ รายงานผลการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ร่วมกับแอปพลิเคชัน ThingLink วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่องระบบนิเวศป่าชายเลน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและจริยธรรมด้านสิ่งแวดล้อม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ รายงานผลการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ร่วมกับแอปพลิเคชัน ThingLink วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่องระบบนิเวศป่าชายเลน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและจริยธรรมด้านสิ่งแวดล้อม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามรายละเอียดดังนี้ครับ
เผยแพร่ผลงานวิชาการ รายงานผลการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ร่วมกับแอปพลิเคชัน ThingLink วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่องระบบนิเวศป่าชายเลน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและจริยธรรมด้านสิ่งแวดล้อม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดย คุณครูเขมจิรา สุนทร

การจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ผ่าน ThingLink วิชาวิทยาศาสตร์เรื่องระบบนิเวศป่าชายเลน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์และจริยธรรมสิ่งแวดล้อมของนักเรียนม.3
ในยุคศตวรรษที่ 21 การจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ต้องปรับเปลี่ยนจากรูปแบบดั้งเดิมที่เน้นการท่องจำไปสู่การเรียนรู้เชิงประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้สัมผัสและค้นพบความรู้ด้วยตนเอง เทคโนโลยีสารสนเทศกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่หลากหลายและน่าสนใจ โดยเฉพาะการใช้แอปพลิเคชัน ThingLink ซึ่งเป็นเครื่องมือการสร้างสื่อโต้ตอบที่ช่วยให้การเรียนการสอนมีความน่าสนใจและเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น
การศึกษาเรื่องระบบนิเวศป่าชายเลนมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักเรียนไทย เนื่องจากประเทศไทยมีแนวชายฝั่งทะเลที่ยาวและมีพื้นที่ป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ การเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้นักเรียนเข้าใจความสำคัญของสิ่งแวดล้อม แต่ยังปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์ธรรมชาติและสร้างจริยธรรมด้านสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
บทความนี้เป็นรายงานผลการดำเนินโครงการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ร่วมกับแอปพลิเคชัน ThingLink ในวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่องระบบนิเวศป่าชายเลน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการพัฒนาจริยธรรมด้านสิ่งแวดล้อมของผู้เรียน โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงทดลองที่มีการเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ก่อนและหลังการใช้นวัตกรรมทางการศึกษาดังกล่าว
ความสำคัญและที่มาของปัญหา
ระบบนิเวศป่าชายเลนเป็นระบบนิเวศที่มีความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นอย่างมาก ป่าชายเลนทำหน้าที่เป็นกำแพงธรรมชาติในการป้องกันคลื่นลมแรงและพายุ เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ และช่วยกรองน้ำเสียจากชุมชน อย่างไรก็ตาม พื้นที่ป่าชายเลนของไทยมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องจากการรุกล้ำเพื่อการพัฒนาและกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ สถานการณ์นี้ทำให้การศึกษาและปลูกฝังความตระหนักเกี่ยวกับความสำคัญของระบบนิเวศป่าชายเลนในกลุ่มเยาวชนมีความจำเป็นเร่งด่วน
การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์แบบดั้งเดิมมักเน้นการนำเสนอเนื้อหาผ่านตำราเรียนและการบรรยาย ซึ่งอาจทำให้นักเรียนขาดความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับความซับซ้อนและความเชื่อมโยงของระบบนิเวศ การขาดประสบการณ์ตรงในการสำรวจและสังเกตระบบนิเวศจริงยังส่งผลให้นักเรียนไม่สามารถเข้าใจความสำคัญของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้อย่างแท้จริง
จากการสำรวจผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในหัวข้อเรื่องระบบนิเวศ พบว่านักเรียนส่วนใหญ่มีคะแนนอยู่ในระดับปานกลาง และมีความเข้าใจเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิตในระบบนิเวศอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ การสำรวจจริยธรรมด้านสิ่งแวดล้อมของนักเรียนยังพบว่าผู้เรียนขาดจิตสำนึกในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและมีพฤติกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในระดับต่ำ
การใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอนจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ แอปพลิเคชัน ThingLink เป็นเครื่องมือดิจิทัลที่ช่วยให้ผู้สอนสามารถสร้างเนื้อหาโต้ตอบที่มีความน่าสนใจ โดยสามารถเชื่อมโยงข้อมูล วิดีโอ เสียง และภาพต่างๆ เข้าด้วยกันในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ทำให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีส่วนร่วมและสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่แตกต่างจากการเรียนแบบดั้งเดิม
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อศึกษาผลการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ร่วมกับแอปพลิเคชัน ThingLink ในวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่องระบบนิเวศป่าชายเลน ต่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและจริยธรรมด้านสิ่งแวดล้อมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยแบ่งออกเป็นวัตถุประสงค์เฉพาะดังนี้
วัตถุประสงค์แรกคือการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่องระบบนิเวศป่าชายเลน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังการใช้การจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ร่วมกับแอปพลิเคชัน ThingLink การวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจะครอบคลุมความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับองค์ประกอบของระบบนิเวศป่าชายเลน ความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม และความสามารถในการวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับระบบนิเวศ
วัตถุประสงค์ที่สองคือการศึกษาการพัฒนาจริยธรรมด้านสิ่งแวดล้อมของนักเรียนหลังจากเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ การประเมินจริยธรรมด้านสิ่งแวดล้อมจะเน้นไปที่ความตระหนักในคุณค่าของสิ่งแวดล้อม ทัศนคติที่ดีต่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ และความตั้งใจที่จะมีพฤติกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
วัตถุประสงค์ที่สามคือการวิเคราะห์ความคิดเห็นและความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้แอปพลิเคชัน ThingLink ในการเรียนรู้ การรับฟังเสียงของผู้เรียนจะช่วยให้เข้าใจถึงจุดแข็งและข้อจำกัดของนวัตกรรมการเรียนการสอนนี้ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงและพัฒนาต่อไป
วัตถุประสงค์สุดท้ายคือการศึกษาความเป็นไปได้ในการนำการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ร่วมกับแอปพลิเคชัน ThingLink ไปใช้ในการสอนหัวข้ออื่นๆ ในวิชาวิทยาศาสตร์ การวิเคราะห์นี้จะช่วยให้ทราบถึงศักยภาพในการขยายผลและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีนี้ในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น
ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
การจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์มีรากฐานมาจากทฤษฎีการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ของ Jean Piaget และทฤษฎีการเรียนรู้เชิงสังคมของ Lev Vygotsky ทฤษฎีเหล่านี้เน้นย้ำว่าการเรียนรู้เกิดขึ้นได้ดีที่สุดเมื่อผู้เรียนมีส่วนร่วมในการสร้างความรู้ด้วยตนเอง ผ่านการปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมและบุคคลอื่น การเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์จึงเป็นวิธีการที่ช่วยให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ตรงและสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
David Kolb ได้เสนอแนวคิดเรื่องวงจรการเรียนรู้จากประสบการณ์ (Experiential Learning Cycle) ที่ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ ประสบการณ์ตรง (Concrete Experience) การสะท้อนคิด (Reflective Observation) การสรุปและสร้างแนวคิดใหม่ (Abstract Conceptualization) และการทดลองใช้แนวคิดใหม่ (Active Experimentation) แนวคิดนี้เป็นพื้นฐานสำคัญในการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนได้ผ่านประสบการณ์ครบทุกขั้นตอน
การใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอนมีทฤษฎีสนับสนุนจาก Technology Acceptance Model (TAM) ของ Fred Davis ซึ่งอธิบายปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการยอมรับเทคโนโลยีของผู้ใช้ โดยเน้นที่ความรู้สึกว่าเทคโนโลยีนั้นมีประโยชน์ (Perceived Usefulness) และความรู้สึกว่าใช้งานง่าย (Perceived Ease of Use) การออกแบบการใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอนจึงต้องคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้เพื่อให้ได้รับการยอมรับและใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ
งานวิจัยของ Johnson และ Adams (2019) ได้ศึกษาการใช้สื่อโต้ตอบในการสอนวิทยาศาสตร์และพบว่านักเรียนที่เรียนด้วยสื่อโต้ตอบมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่านักเรียนที่เรียนด้วยวิธีการแบบดั้งเดิมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ นอกจากนี้ นักเรียนยังแสดงความสนใจและมีแรงจูงใจในการเรียนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
การศึกษาของ Rodriguez และคณะ (2020) เกี่ยวกับการใช้ ThingLink ในการสอนระบบนิเวศพบว่า แอปพลิเคชันนี้ช่วยให้นักเรียนเข้าใจความซับซ้อนของระบบนิเวศได้ดีขึ้น และสามารถเชื่อมโยงความรู้จากแหล่งข้อมูลต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักเรียนยังสามารถจำข้อมูลได้นานขึ้นและนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ใหม่ได้ดีกว่า
ในด้านการพัฒนาจริยธรรมด้านสิ่งแวดล้อม งานวิจัยของ Thompson และ Wilson (2021) ชี้ให้เห็นว่าการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรงและการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมสามารถช่วยปลูกฝังจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมในกลุ่มเยาวชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อผู้เรียนได้สัมผัสกับปัญหาสิ่งแวดล้อมผ่านสื่อที่น่าสนใจ พวกเขาจะเกิดความเข้าใจและต้องการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเพิ่มขึ้น
การศึกษาในประเทศไทยของอรอุมา สิงห์โต และคณะ (2022) ได้ทดลองใช้เทคโนโลジีดิจิทัลในการสอนเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมให้กับนักเรียนมัธยมศึกษา ผลการวิจัยพบว่านักเรียนมีความเข้าใจเรื่องสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น และมีทัศนคติที่ดีขึ้นต่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ การใช้เทคโนโลยียังช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของนักเรียนในกิจกรรมการเรียนการสอน
งานวิจัยของสุรัตน์ เจริญสุข (2023) ได้ศึกษาการใช้แอปพลิเคชัน ThingLink ในการสอนวิทยาศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาในประเทศไทย พบว่าการใช้แอปพลิเคชันนี้ช่วยเพิ่มความสนใจและความเข้าใจของนักเรียนในเนื้อหาวิทยาศาสตร์ นักเรียนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบและมีโอกาสเรียนรู้ตามความสนใจและความสามารถของตนเอง
จากการทบทวนวรรณกรรมดังกล่าว จึงเป็นที่คาดหวังว่าการใช้การจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ร่วมกับแอปพลิเคชัน ThingLink ในการสอนเรื่องระบบนิเวศป่าชายเลนจะสามารถพัฒนาทั้งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและจริยธรรมด้านสิ่งแวดล้อมของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีดำเนินการวิจัย
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research) แบบ One Group Pretest-Posttest Design โดยใช้กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 30 คน จากโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีระบบนิเวศป่าชายเลนอยู่ใกล้เคียง การเลือกกลุ่มตัวอย่างใช้วิธีการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) โดยเลือกนักเรียนที่มีความสามารถทางวิชาการในระดับปานกลางและมีพื้นฐานการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบวัดจริยธรรมด้านสิ่งแวดล้อม และแบบสอบถามความคิดเห็นต่อการใช้แอปพลิเคชัน ThingLink แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์เป็นข้อสอบแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ครอบคลุมเนื้อหาเกี่ยวกับระบบนิเวศป่าชายเลนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เครื่องมือนี้ผ่านการตรวจสอบความเที่ยงตรงของเนื้อหา (Content Validity) โดยผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน และมีค่าความเชื่อมั่น (Reliability) เท่ากับ 0.85
แบบวัดจริยธรรมด้านสิ่งแวดล้อมเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 25 ข้อ วัดในด้านความตระหนักในคุณค่าของสิ่งแวดล้อม ทัศนคติต่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ และความตั้งใจในการมีพฤติกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เครื่องมือนี้ได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการศึกษาและมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.90
การดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะก่อนการทดลอง ระยะการทดลอง และระยะหลังการทดลอง ในระยะก่อนการทดลอง ผู้วิจัยได้ดำเนินการทดสอบก่อนเรียน (Pretest) ด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์และแบบวัดจริยธรรมด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง นอกจากนี้ยังได้ให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการใช้แอปพลิเคชัน ThingLink แก่นักเรียนเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างไฟล์ รายงานผลการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์ร่วมกับแอปพลิเคชัน ThingLink วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่องระบบนิเวศป่าชายเลน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและจริยธรรมด้านสิ่งแวดล้อม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3


