สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ทุกท่านนะครับ วันนี้พบกับ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ วิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาการเรียนรู้และแก้ไขปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่องภัยธรรมชาติและปรากฏการณ์เรือนกระจก โดยใช้การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(5E) ร่วมกับการส่งเสริมการสร้างองค์ความรู้และถ่ายทอดความรู้ผ่านการจัดทำหนังสือเล่มเล็ก ซึ่งเพื่อนๆ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดนำไปศึกษาและนำไปเป็นแนวทางในการดำเนินการจัดทำวิจัยในชั้นเรียน ตามบริบทของห้องเรียน ได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ วิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาการเรียนรู้และแก้ไขปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่องภัยธรรมชาติและปรากฏการณ์เรือนกระจก โดยใช้การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(5E) ร่วมกับการส่งเสริมการสร้างองค์ความรู้และถ่ายทอดความรู้ผ่านการจัดทำหนังสือเล่มเล็ก ตามรายละเอียดดังนี้ครับ

เผยแพร่ วิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาการเรียนรู้และแก้ไขปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่องภัยธรรมชาติและปรากฏการณ์เรือนกระจก โดยใช้การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(5E) ร่วมกับการส่งเสริมการสร้างองค์ความรู้และถ่ายทอดความรู้ผ่านการจัดทำหนังสือเล่มเล็ก โดยคุณครูพรพรรณ ปิ่นเงิน

การยกระดับการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ผ่านการวิจัยในชั้นเรียน แนวทางใหม่สู่การแก้ไขปัญหาผลสัมฤทธิ์ด้วยการสอนแบบ 5E และการสร้างองค์ความรู้

การศึกษาในศตวรรษที่ 21 ต้องการการปฏิรูปการเรียนการสอนที่สามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีความสามารถในการคิดอย่างเป็นระบบ การแก้ปัญหา และการสร้างองค์ความรู้ใหม่ โดยเฉพาะในวิชาวิทยาศาสตร์ที่เป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศ การวิจัยในชั้นเรียนจึงเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการยกระดับคุณภาพการเรียนการสอนและแก้ไขปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ต่ำกว่าเกณฑ์

ความสำคัญของการวิจัยในชั้นเรียนสำหรับการศึกษาวิทยาศาสตร์

การวิจัยในชั้นเรียนเป็นกระบวนการที่ครูผู้สอนใช้ในการศึกษา วิเคราะห์ และแก้ไขปัญหาการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะในวิชาวิทยาศาสตร์ที่ต้องการความเข้าใจเชิงแนวคิดและความสามารถในการปฏิบัติ การวิจัยในชั้นเรียนช่วยให้ครูสามารถวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาการเรียนรู้และออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับผู้เรียน

สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 การเรียนเรื่องภัยธรรมชาติและปรากฏการณ์เรือนกระจกถือเป็นเนื้อหาที่มีความซับซ้อนและต้องการความเข้าใจเชิงระบบ เนื้อหานี้เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ผู้เรียนไม่สามารถสังเกตหรือทดลองได้โดยตรง จึงต้องการวิธีการสอนที่สามารถช่วยให้ผู้เรียนสร้างความเข้าใจผ่านการสำรวจ การสืบเสาะ และการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง

การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E แนวทางสู่การเรียนรู้ที่ยั่งยืน

การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เป็นรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นจากแนวคิดของการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์ ประกอบด้วย 5 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ การจูงใจ (Engage) การสำรวจ (Explore) การอธิบาย (Explain) การขยายความรู้ (Elaborate) และการประเมินผล (Evaluate) รูปแบบนี้เน้นให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้และสามารถสร้างความรู้ด้วยตนเองผ่านการปฏิบัติจริง

ขั้นตอนการจูงใจ (Engage)

ขั้นตอนแรกของการสอนแบบ 5E เป็นการสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ โดยการนำเสนอสถานการณ์หรือปรากฏการณ์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับภัยธรรมชาติและปรากฏการณ์เรือนกระจก เช่น การแสดงวิดีโอเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในประเทศไทย การจำลองปรากฏการณ์เรือนกระจกด้วยขวดพลาสติก หรือการนำเสนอข่าวสารเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ในขั้นตอนนี้ ครูผู้สอนจะใช้คำถามเปิดเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นและประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับภัยธรรมชาติที่เคยพบเห็น เช่น “ใครเคยประสบกับน้ำท่วมหรือแผ่นดินไหวบ้าง” “ทำไมโลกถึงร้อนขึ้นเรื่อยๆ” คำถามเหล่านี้จะช่วยให้ครูเข้าใจความรู้เดิมของนักเรียนและสามารถออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม

ขั้นตอนการสำรวจ (Explore)

หลังจากที่นักเรียนมีความสนใจในหัวข้อที่เรียนแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการให้นักเรียนได้สำรวจและค้นพบความรู้ด้วยตนเอง ในเรื่องภัยธรรมชาติและปรากฏการณ์เรือนกระจก ครูสามารถจัดกิจกรรมการทดลองง่ายๆ เช่น การสร้างแบบจำลองเรือนกระจกจากขวดแก้วและเทอร์โมมิเตอร์ การสร้างแบบจำลองการเกิดแผ่นดินไหวด้วยเจลาติน หรือการสังเกตการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิในสภาพแวดล้OMม่างต่าง

กิจกรรมการสำรวจจะให้นักเรียนได้ปฏิบัติด้วยตนเอง บันทึกการสังเกต และอภิปรายผลที่ได้ร่วมกัน ครูจะทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำเมื่อจำเป็น แต่ไม่ให้คำตอบโดยตรง เพื่อให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาด้วยตนเอง

ขั้นตอนการอธิบาย (Explain)

หลังจากการสำรวจ นักเรียนจะได้นำเสนอผลการสังเกตและข้อสรุปที่ได้จากการทดลอง ในขั้นตอนนี้ ครูจะช่วยเชื่อมโยงความรู้ที่นักเรียนค้นพบกับแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้อง อธิบายกลไกการเกิดภัยธรรมชาติต่างๆ สาเหตุของปรากฏการณ์เรือนกระจก และความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมของมนุษย์กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ครูจะใช้วิธีการถามตอบและการอภิปรายเพื่อให้นักเรียนได้แสดงความเข้าใจและปรับแก้ความเข้าผิดที่อาจเกิดขึ้น การใช้แผนภูมิ แผนผัง หรือสื่อมัลติมีเดียจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจแนวคิดที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้น

ขั้นตอนการขยายความรู้ (Elaborate)

ในขั้นตอนนี้ นักเรียนจะได้นำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในสถานการณ์ใหม่หรือขยายไปสู่แนวคิดที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลสถิติการเกิดภัยธรรมชาติในประเทศไทยย้อนหลัง 10 ปี การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการตัดไผ่ป่าไม้กับการเกิดน้ำท่วมและดินถล่ม หรือการคิดแนวทางการลดก๊าซเรือนกระจกในชุมชน

กิจกรรมในขั้นตอนนี้จะเน้นให้นักเรียนได้แสดงความคิดสร้างสรรค์และคิดเชิงนวัตกรรม เช่น การออกแบบบ้านที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การคิดโครงการรณรงค์ประหยัดพลังงานในโรงเรียน หรือการสร้างแบบจำลองเครื่องมือวัดสภาพอากาศอย่างง่าย

ขั้นตอนการประเมินผล (Evaluate)

ขั้นตอนสุดท้ายเป็นการประเมินความเข้าใจและการเรียนรู้ของนักเรียน ซึ่งไม่ได้หมายถึงการสอบเขียนเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการประเมินกระบวนการคิด ทักษะการปฏิบัติ และทัศนคติต่อการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ครูสามารถใช้วิธีการประเมินที่หลากหลาย เช่น การสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ การประเมินชิ้นงาน การทำแผนที่ความคิด หรือการนำเสนอโครงงาน

การส่งเสริมการสร้างองค์ความรู้ผ่านการจัดทำหนังสือเล่มเล็ก

หนึ่งในวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมให้นักเรียนสร้างองค์ความรู้และถ่ายทอดความรู้คือการจัดทำหนังสือเล่มเล็ก หรือที่เรียกว่า Little Book กิจกรรมนี้จะให้นักเรียนได้รวบรวมความรู้ที่ได้รับจากการเรียนรู้แบบ 5E มาสร้างเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาสาระและภาพประกอบที่นักเรียนสร้างขึ้นเอง

ประเด็นสำคัญของการจัดทำหนังสือเล่มเล็ก

การจัดทำหนังสือเล่มเล็กมีจุดมุ่งหมายหลายประการ ประการแรก เป็นการให้นักเรียนได้ทบทวนและจัดระเบียบความรู้ที่ได้รับ เมื่อนักเรียนต้องเขียนอธิบายแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ด้วยภาษาของตนเอง จะช่วยให้เกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งและแท้จริง ประการที่สอง เป็นการพัฒนาทักษะการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งรวมถึงการเขียน การวาดภาพ และการนำเสนอข้อมูลอย่างมีระเบียบ

ประการที่สาม การจัดทำหนังสือเล่มเล็กช่วยพัฒนาทักษะการคิดสร้างสรรค์ เพราะนักเรียนต้องคิดวิธีการนำเสนอเนื้อหาที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่าย ใช้สีสัน รูปภาพ และการจัดวางที่น่าสนใจ ประการสุดท้าย เป็นการสร้างความภาคภูมิใจในผลงานของตนเองและเป็นแรงจูงใจในการเรียนรู้ต่อไป

ขั้นตอนการจัดทำหนังสือเล่มเล็ก

การจัดทำหนังสือเล่มเล็กเรื่องภัยธรรมชาติและปรากฏการณ์เรือนกระจกสามารถแบ่งเป็นขั้นตอนดังนี้ ขั้นตอนแรกคือการวางแผนเนื้อหา นักเรียนจะได้ระดมสมองเกี่ยวกับหัวข้อที่ต้องการนำเสนอ เช่น ชนิดของภัยธรรมชาติ สาเหตุของปรากฏการณ์เรือนกระจก ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และวิธีการป้องกันหรือลดผลกระทบ

ขั้นตอนที่สองคือการรวบรวมข้อมูลและสร้างเนื้อหา นักเรียนจะได้ใช้ความรู้จากการเรียนในชั้นเรียน ร่วมกับการค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งต่างๆ เพื่อให้เนื้อหาในหนังสือมีความครบถ้วนและถูกต้อง ครูจะคอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้และวิธีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล

ขั้นตอนที่สามคือการออกแบบและจัดทำหนังสือ นักเรียนจะได้วางแผนรูปแบบการนำเสนอ สร้างภาพประกอบ และเขียนเนื้อหาอย่างเป็นระบบ ในขั้นตอนนี้ นักเรียนจะได้พัฒนาทักษะด้านศิลปะ การออกแบบ และการใช้เทคโนโลยี หากมีการใช้คอมพิวเตอร์ในการจัดทำ

ขั้นตอนสุดท้ายคือการนำเสนอและแบ่งปันความรู้ นักเรียนจะได้นำหนังสือที่สร้างขึ้นมาแสดงให้เพื่อนๆ ในชั้นเรียน และอาจรวมถึงนักเรียนในระดับชั้นอื่นๆ หรือผู้ปกครอง การนำเสนอจะช่วยให้นักเรียนได้ฝึกทักษะการสื่อสาร ความมั่นใจ และการตอบคำถาม

การบูรณาการการสอน 5E กับการสร้างหนังสือเล่มเล็ก

การนำการสอนแบบ 5E มาใช้ร่วมกับการสร้างหนังสือเล่มเล็กจะสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่สมบูรณ์และยั่งยืน ในขั้นตอนการจูงใจ นักเรียนจะได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างหนังสือจากการพบเจอสถานการณ์จริงเกี่ยวกับภัยธรรมชาติ ในขั้นตอนการสำรวจ ข้อมูลและประสบการณ์ที่ได้รับจะกลายเป็นเนื้อหาสำหรับหนังสือ

ในขั้นตอนการอธิบาย การสร้างเนื้อหาหนังสือจะช่วยให้นักเรียนได้ทบทวนและจัดระเบียบความรู้ ส่วนขั้นตอนการขยายความรู้จะเป็นการนำความรู้ไปใช้ในการสร้างสรรค์ผลงาน และขั้นตอนการประเมินผลจะใช้หนังสือเล่มเล็กเป็นหนึ่งในเครื่องมือวัดความเข้าใจของนักเรียน

ผลกระทบเชิงบวกต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

การใช้การสอนแบบ 5E ร่วมกับการสร้างหนังสือเล่มเล็กมีผลกระทบเชิงบวกต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลายด้าน ด้านแรกคือการพัฒนาความเข้าใจเชิงแนวคิด นักเรียนจะเข้าใจสาเหตุและผลกระทบของภัยธรรมชาติและปรากฏการณ์เรือนกระจกได้ลึกซึ้งมากขึ้น เพราะได้ผ่านกระบวนการสร้างความรู้ด้วยตนเอง

ด้านที่สองคือการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ นักเรียนจะมีความสามารถในการสังเกต การตั้งสมมติฐาน การทดลอง การวิเคราะห์ข้อมูล และการสรุปผลได้ดีขึ้น ทักษะเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีประโยชน์ในการเรียนวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปใช้ในการเรียนรู้วิชาอื่นๆ และการใช้ชีวิตประจำวันได้

ด้านที่สามคือการพัฒนาทักษะการสื่อสาร การสร้างหนังสือเล่มเล็กจะช่วยให้นักเรียนได้ฝึกการเขียน การวาดภาพ และการนำเสนออย่างเป็นระบบ ทักษะเหล่านี้เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเรียนรู้ในอนาคตและการทำงานในศตวรรษที่ 21

ด้านที่สี่คือการพัฒนาทัศนคติที่ดีต่อการเรียนวิทยาศาสตร์ เมื่อนักเรียนได้มีส่วนร่วมในการสร้างความรู้และสร้างผลงานด้วยตนเอง จะเกิดความภาคภูมิใจและความมั่นใจในความสามารถของตนเอง ส่งผลให้มีแรงจูงใจในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์มากขึ้น

การดำเนินการวิจัยในชั้นเรียนอย่างเป็นระบบ

การดำเนินการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนต้องมีขั้นตอนที่ชัดเจนและเป็นระบบ ขั้นตอนแรกคือการศึกษาสภาพปัญหา ครูต้องวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน สำรวจสาเหตุของปัญหา และกำหนดเป้าหมายในการแก้ไขที่ชัดเจนและวัดได้

ขั้นตอนที่สองคือการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ครูต้องศึกษาทฤษฎีการเรียนรู้ วิธีการสอนที่มีประสิทธิภาพ และผลการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการสอนแบบ 5E และการใช้หนังสือเล่มเล็กในการเรียนการสอน เพื่อให้มีฐานความรู้ที่มั่นคงในการออกแบบการวิจัย

ตัวอย่างไฟล์ วิจัยในชั้นเรียน การพัฒนาการเรียนรู้และแก้ไขปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรื่องภัยธรรมชาติและปรากฏการณ์เรือนกระจก โดยใช้การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(5E) ร่วมกับการส่งเสริมการสร้างองค์ความรู้และถ่ายทอดความรู้ผ่านการจัดทำหนังสือเล่มเล็ก


เอกสารเป็นไฟล์ PDF

ดาวน์โหลดไฟล์เอกสารจากลิงก์ด้านล่างนี้ นะครับ

ขอบคุณแหล่งที่มา : คุณครูพรพรรณ ปิ่นเงิน 

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ห้ามพลาด