สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ทุกท่านนะครับ วันนี้พบกับ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ คู่มือการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ ซึ่งเพื่อนๆ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดนำไปศึกษาและนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติตามคู่มือการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ ตามบริบทของสถานศึกษา ได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ คู่มือการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ ตามรายละเอียดดังนี้ครับ

ดาวน์โหลด คู่มือการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ


คู่มือการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ เส้นทางสู่การศึกษาที่มีคุณภาพในศตวรรษที่ 21

กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษาฐานสมรรถนะที่มีเป้าหมายในการพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียนที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (Learner Center) เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตามความสนใจ ความถนัด และก้าวหน้าไปตามความสามารถของตนโดยมีเป้าหมายให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะหลักที่จำเป็นสำหรับการทำงาน การแก้ปัญหา และการดำรงชีวิต จึงได้ร่างกรอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานขึ้น ซึ่งได้มีการนำร่างดกรอบหลักสูตรดังกล่าว ไปการทดลองใช้กับสถานศึกษานำร่องในพื้นที่นวัตกรรม 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ กาญจนบุรี ศรีสะเกษ ระยอง ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล

สำนักงานบริหารพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา  คณะอนุกรรมการด้านส่งเสริมการบริหารวิชาการในคณะกรรมการนโยบายพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา มูลนิธิสยามกัมมาจลและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้จัดทำคู่มือการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะฉบับนี้ขึ้น เพื่อนำเสนอแนวทางและตัวอย่างการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ โดยประกอบด้วยองค์ความรู้ที่ผ่านการวิจัยศึกษาผลการพิจารณากลั่นกรองหลักสูตร กระบวนการและผลการดำเนินงานพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะของสถานศึกษานำร่องในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา โดยมีเนื้อหาสำคัญ ดังนี้

  1. มารู้จักหลักสูตรฐานสมรรถนะกันเถิด: ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับหลักสูตรฐานสมรรถนะ
  2. (ร่าง) กรอบหลักสูตรฆการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช….ระดับประถมศึกษา: ข้อมูลเกี่ยวกับองค์ประกอบและข้อมูลของ (ร่าง) กรอบหลักสูตรฯ ที่นำมาใช้เป็นกรอบในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ
  3. เราจะพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะได้อย่างไร: อธิบายความสัมพันธ์ขององค์ประกอบหลักสูตรแต่ละด้าน ขั้นตอนในการดำเนินการพัฒนาหลักสูตรแต่ละส่วน รวมทั้งสิ่งที่ต้องคำนึงถึงและตัวอย่างในการจัดทำแต่ละส่วน
  4. ตัวอย่างการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ: ตัวอย่างการพัฒนาหลักสูตรที่องค์ประกอบแต่ละส่วนมีความสัมพันธ์กัน

โดยคู่มือการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะจะเป็นแนวทางการดำเนินงานสำหรับสถานศึกษานำร่องในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาและผู้ที่สนใจนำไปพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะได้มีประสิทธิภาพอย่างสูงสุดสำหรับผู้เรียนในสถานศึกษาเพื่อให้เกิดสมรรถนะ เพื่อให้เกิดการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ

เอกสาร “คู่มือการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ” จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ สำหรับคณะอนุกรรมการด้านวิชาการ โค้ช/พี่เลี้ยง สถาบันอุดมศึกษา และคณะทำงานกลั่นกรองหลักสูตรในระดับพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ครอบคลุมเนื้อหา 4 ส่วนหลัก ได้แก่:

  1. ทำความรู้จักหลักสูตรฐานสมรรถนะ: อธิบายพื้นฐานของหลักสูตรฐานสมรรถนะ (Competency-Based Curriculum: CBC) การจัดการเรียนการสอนฐานสมรรถนะ (Competency-Based Instruction: CBI) และการประเมินฐานสมรรถนะ (Competency-Based Assessment: CBA) รวมถึงลักษณะสำคัญและประเภทของสมรรถนะหลักและสมรรถนะเฉพาะ
  2. (ร่าง) กรอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช….: นำเสนอแนวคิดพื้นฐาน วิสัยทัศน์ หลักการสำคัญ จุดมุ่งหมาย คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสมรรถนะหลัก 6 ด้าน (การจัดการตนเอง, การคิดขั้นสูง, การสื่อสาร, การรวมพลังทำงานเป็นทีม, การเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง, การอยู่ร่วมกับธรรมชาติและวิทยาการอย่างยั่งยืน) พร้อมตัวอย่างระดับสมรรถนะ การจัดช่วงชั้น (ประถมศึกษาปีที่ 1-3 และ 4-6) แนวทางการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ (สาระสำคัญ, ความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถนะหลักและเฉพาะ, ผลลัพธ์การเรียนรู้เมื่อจบช่วงชั้น) โครงสร้างเวลาเรียน การบริหารจัดการหลักสูตร และแนวทางการประเมินการเรียนรู้
  3. แนวทางการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ: อธิบายองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของหลักสูตร 7 ด้าน ได้แก่ แนวคิด/ข้อมูลพื้นฐาน/กระบวนการ, เป้าหมายและพันธกิจของสถานศึกษา, แบบแผนของหลักสูตร, แนวทางการจัดการเรียนรู้, แนวทางการประเมินการเรียนรู้, แนวทางการบริหารจัดการหลักสูตร และหลักสูตรระดับชั้นเรียน
  4. ตัวอย่างการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ: นำเสนอสรุปภาพรวมและตัวอย่างการกำหนดรายละเอียดแต่ละส่วนของหลักสูตรที่มีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กันจากโรงเรียนนำร่อง 2 แห่ง (โรงเรียนเกษตรหรรษา และโรงเรียนภูผาร่าเริง)

คู่มือนี้เน้นการนำเสนอรายละเอียดที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องสามารถพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะได้อย่างมั่นใจ โดยยึดหลักการที่ว่าการจัดการศึกษาฐานสมรรถนะเป็นการศึกษาที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เกิดสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับการทำงาน การแก้ปัญหา และการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21

การจัดการศึกษาในยุคปัจจุบันต้องเผชิญกับความท้าทายที่หลากหลาย ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การแข่งขันในตลาดแรงงานโลก และความต้องการทักษะใหม่ที่จำเป็นสำหรับอนาคต หลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะจึงกลายเป็นแนวทางการจัดการศึกษาที่ตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการพัฒนาความสามารถของผู้เรียนในการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริง

หลักสูตรฐานสมรรถนะไม่ได้เป็นแค่การส่งผ่านความรู้จากครูไปยังนักเรียนเท่านั้น แต่เป็นกระบวนการที่เน้นการพัฒนาทักษะ ความรู้ และเจตคติที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตและการทำงานในอนาคต การจัดทำหลักสูตรประเภทนี้ต้องอาศัยความเข้าใจที่ถ่องแท้เกี่ยวกับหลักการและวิธีการที่เหมาะสม

ความสำคัญของหลักสูตรฐานสมรรถนะในปัจจุบันเกิดขึ้นจากการตระหนักว่าการศึกษาแบบดั้งเดิมที่เน้นการจดจำและท่องจำไม่เพียงพอต่อการเตรียมความพร้อมของผู้เรียนสำหรับโลกการทำงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 จำเป็นต้องมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การแก้ไขปัญหา การทำงานร่วมกับผู้อื่น และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง

ความหมายและแนวคิดของหลักสูตรฐานสมรรถนะ

หลักสูตรฐานสมรรถนะหมายถึงกรอบการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียนให้สามารถปฏิบัติงานหรือจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สมรรถนะในที่นี้ประกอบด้วยความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะที่ผู้เรียนจำเป็นต้องมีเพื่อความสำเร็จในการดำรงชีวิตและการทำงาน

แนวคิดหลักของหลักสูตรฐานสมรรถนะคือการเชื่อมโยงการเรียนรู้กับการปฏิบัติจริง โดยผู้เรียนจะได้รับการพัฒนาทั้งในด้านความรู้เชิงทฤษฎีและการประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริง กระบวนการเรียนรู้จึงเป็นแบบองค์รวมที่ผสมผสานระหว่างการคิด การปฏิบัติ และการสะท้อนผลการเรียนรู้

การออกแบบหลักสูตรฐานสมรรถนะต้องเริ่มต้นจากการวิเคราะห์ความต้องการของสังคม ชุมชน และตลาดแรงงาน เพื่อกำหนดสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับผู้เรียนในแต่ละระดับการศึกษา จากนั้นจึงออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้และการประเมินผลที่สอดคล้องกับสมรรถนะเป้าหมายเหล่านั้น

หลักสูตรประเภทนี้มีความยืดหยุ่นในการปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละสถานศึกษา โดยสามารถนำเอาภูมิปัญญาท้องถิ่น วัฒนธรรม และความต้องการของชุมชนมาบูรณาการในกระบวนการเรียนรู้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ

องค์ประกอบหลักของสมรรถนะ

สมรรถนะประกอบด้วยสามองค์ประกอบหลักที่เชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่น ได้แก่ ความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะ การพัฒนาสมรรถนะที่สมบูรณ์จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับทั้งสามองค์ประกอบอย่างเท่าเทียมกัน

ความรู้ในที่นี้หมายถึงเนื้อหาสาระที่ผู้เรียนจำเป็นต้องเรียนรู้และเข้าใจ ทั้งความรู้เชิงทฤษฎีและความรู้เชิงปฏิบัติ ความรู้ไม่ได้หมายถึงการจดจำข้อมูลเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงความเข้าใจในหลักการ แนวคิด และความสัมพันธ์ระหว่างเนื้อหาต่างๆ ด้วย

ทักษะหมายถึงความสามารถในการปฏิบัติหรือดำเนินการต่างๆ ทั้งทักษะเฉพาะด้านและทักษะทั่วไปที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตและการทำงาน เช่น ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการสื่อสาร ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น และทักษะการใช้เทคโนโลยี

คุณลักษณะประกอบด้วยเจตคติ ค่านิยม และพฤติกรรมที่แสดงออกในการปฏิบัติงานหรือการจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ คุณลักษณะที่สำคัญได้แก่ ความรับผิดชอบ ความซื่อสัตย์ ความมีระเบียบวินัย ความคิดสร้างสรรค์ และความมีจิตสำนึกในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง

ขั้นตอนการวิเคราะห์ความต้องการและกำหนดสมรรถนะ

การจัดทำหลักสูตรฐานสมรรถนะเริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์ความต้องการอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าหลักสูตรที่พัฒนาขึ้นจะสอดคล้องกับความต้องการจริงของสังคมและตลาดแรงงาน ขั้นตอนนี้ถือเป็นรากฐานสำคัญที่จะกำหนดทิศทางของหลักสูตรทั้งหมด

ขั้นตอนแรกคือการศึกษาและวิเคราะห์บริบทของสถานศึกษา ชุมชน และสังคม โดยรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เช่น การสำรวจความคิดเห็นของผู้ปกครอง การสัมภาษณ์ผู้ประกอบการ การศึกษาแนวโน้มตลาดแรงงาน และการวิเคราะห์นโยบายการศึกษาของประเทศ

การระบุกลุ่มเป้าหมายและวิเคราะห์ลักษณะของผู้เรียนเป็นขั้นตอนที่สำคัญไม่แพ้กัน ต้องพิจารณาถึงระดับการศึกษา อายุ ประสบการณ์เดิม และความแตกต่างระหว่างบุคคล เพื่อออกแบบหลักสูตรให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย

การกำหนดสมรรถนะต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งครู ผู้บริหาร ผู้ปกครอง ตัวแทนจากภาคธุรกิจ และผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้อง การระดมสมองและการสนทนากลุ่มจะช่วยให้ได้สมรรถนะที่สะท้อนความต้องการที่แท้จริง

การจัดลำดับความสำคัญของสมรรถนะต่างๆ เป็นขั้นตอนที่จำเป็น เนื่องจากเวลาและทรัพยากรมีจำกัด การจัดลำดับจะช่วยให้สามารถมุ่งเน้นไปที่สมรรถนะหลักที่สำคัญที่สุดก่อน โดยพิจารณาจากความจำเป็นในการดำรงชีวิต ความต้องการของตลาดแรงงาน และศักยภาพของผู้เรียน

การออกแบบโครงสร้างหลักสูตร

โครงสร้างหลักสูตรฐานสมรรถนะต้องได้รับการออกแบบให้มีความสมดุลระหว่างการพัฒนาสมรรถนะหลักและสมรรถนะสนับสนุน โดยคำนึงถึงการเชื่อมโยงระหว่างสมรรถนะต่างๆ และลำดับการพัฒนาที่เหมาะสม

การจัดกลุ่มสมรรถนะเป็นโมดูลหรือหน่วยการเรียนรู้ช่วยให้การจัดการเรียนการสอนมีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ละโมดูลควรมีความเป็นอิสระในระดับหนึ่ง แต่ยังคงเชื่อมโยงกับโมดูลอื่นๆ อย่างมีความหมาย

การกำหนดเวลาเรียนสำหรับแต่ละสมรรถนะต้องพิจารณาจากความซับซ้อนของสมรรถนะ ประสบการณ์เดิมของผู้เรียน และความสำคัญของสมรรถนะนั้นๆ สมรรถนะที่ซับซ้อนหรือใหม่สำหรับผู้เรียนอาจต้องใช้เวลามากกว่า

การบูรณาการระหว่างสมรรถนะต่างๆ เป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบโครงสร้างหลักสูตร ควรหาโอกาสในการเชื่อมโยงและเสริมสร้างกันระหว่างสมรรถนะต่างๆ เพื่อให้ผู้เรียนเห็นภาพรวมและความเชื่อมโยงอย่างเป็นระบบ

วิธีการจัดการเรียนการสอน

การจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรฐานสมรรถนะต้องเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางและส่งเสริมการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ วิธีการสอนแบบดั้งเดิมที่เน้นการบรรยายและการจดจำไม่เพียงพอต่อการพัฒนาสมรรถนะที่ซับซ้อน

การเรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติเป็นแนวทางหลักที่จะช่วยให้ผู้เรียนได้สัมผัสกับสถานการณ์จริงหรือใกล้เคียงกับความจริง การจำลองสถานการณ์ การศึกษาดูงาน การฝึกปฏิบัติ และการทำโปรเจ็กต์ เป็นตัวอย่างของกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ลักษณะนี้

การเรียนรู้แบบร่วมมือและทำงานเป็นทีมเป็นทักษะสำคัญในศตวรรษที่ 21 ครูควรออกแบบกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนได้ทำงานร่วมกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเรียนรู้จากกันและกัน การทำงานร่วมกันยังช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารและความเป็นผู้นำตาม

การใช้เทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในปัจจุบัน ไม่ใช่แค่การใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการนำเสนอเท่านั้น แต่ต้องใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการคิด การวิเคราะห์ การสร้างสรรค์ และการแก้ไขปัญหา

การเรียนรู้ที่ปรับให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลเป็นหลักการสำคัญ ผู้เรียนแต่ละคนมีจุดแข็ง จุดอ่อน และรูปแบบการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน ครูจำเป็นต้องปรับวิธีการสอนให้เหมาะสมกับลักษณะของผู้เรียนแต่ละคน

การให้ข้อมูลป้อนกลับที่สร้างสรรค์และทันเวลาช่วยให้ผู้เรียนสามารถปรับปรุงและพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง ข้อมูลป้อนกลับควรเจาะจงเฉพาะเจาะจง ให้แนวทางในการปรับปรุง และส่งเสริมกำลังใจ

การประเมินผลตามสมรรถนะ

การประเมินผลในหลักสูตรฐานสมรรถนะต้องสอดคล้องกับลักษณะของสมรรถนะที่ต้องการพัฒนา การประเมินแบบดั้งเดิมที่เน้นการทดสอบความจำไม่สามารถวัดสมรรถนะที่ซับซ้อนได้อย่างแท้จริง

การประเมินตามสภาพจริงเป็นแนวทางหลักที่ควรนำมาใช้ ซึ่งหมายถึงการประเมินผู้เรียนในสถานการณ์หรืองานที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่สุด การจำลองสถานการณ์ การนำเสนองาน การแก้ไขปัญหาจริง เป็นตัวอย่างของการประเมินตามสภาพจริง

การใช้เครื่องมือการประเมินที่หลากหลายช่วยให้ได้ภาพรวมที่สมบูรณ์ของสมรรถนะผู้เรียน เช่น การสังเกต การสัมภาษณ์ การให้ผู้เรียนนำเสนอผลงาน การประเมินจากเพื่อน และการประเมินตนเอง

การใช้รูบริกในการประเมินช่วยให้การประเมินมีความเป็นระบบและมีเกณฑ์ที่ชัดเจน รูบริกควรระบุระดับสมรรถนะตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับเชี่ยวชาญ พร้อมกับคำอธิบายลักษณะของแต่ละระดับอย่างชัดเจน

การประเมินระหว่างเรียนและหลังเรียนควรได้รับความสำคัญเท่าเทียมกัน การประเมินระหว่างเรียนช่วยให้สามารถปรับปรุงการเรียนการสอนได้ทันท่วงที ในขณะที่การประเมินหลังเรียนแสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ของการเรียนรู้

การพัฒนาครูและบุคลากร

ความสำเร็จของหลักสูตรฐานสมรรถนะขึ้นอยู่กับความพร้อมและความสามารถของครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นสำคัญ ครูต้องได้รับการพัฒนาอย่างเป็นระบบเพื่อให้สามารถจัดการเรียนการสอนตามแนวคิดใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเปลี่ยนบทบาทจากการเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ไปเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้เป็นความท้าทายสำคัญสำหรับครู ครูต้องเรียนรู้วิธีการสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนสำรวจ ค้นคว้า และสร้างความรู้ด้วยตนเอง

การพัฒนาทักษะการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นสมรรถนะเป็นสิ่งจำเป็น ครูต้องสามารถออกแบบกิจกรรมที่ท้าทายและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เรียนใช้ความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะในการแก้ไขปัญหาหรือทำงานต่างๆ

การฝึกอบรมด้านการประเมินตามสมรรถนะเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน ครูต้องเข้าใจหลักการและวิธีการประเมินที่หลากหลาย สามารถสร้างเครื่องมือการประเมินที่เหมาะสม และใช้ข้อมูลจากการประเมินในการปรับปรุงการเรียนการสอน

การสร้างชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพในหมู่ครูช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และการเรียนรู้ร่วมกัน การประชุมระดมสมอง การสังเกตการสอนของกันและกัน และการสะท้อนผลการปฏิบัติเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการพัฒนาวิชาชีพ

การสนับสนุนจากผู้บริหารและนโยบายของสถานศึกษาเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างแรงจูงใจและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาครู ผู้บริหารต้องให้การสนับสนุนทั้งในด้านทรัพยากร เวลา และกำลังใจ


เอกสารเป็นไฟล์ PDF

ดาวน์โหลดไฟล์เอกสารจากลิงก์ด้านล่างนี้ นะครับ

ขอบคุณแหล่งที่มา : พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ห้ามพลาด