สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิกทุกท่านครับ วันนี้ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ขอนำเสนอ ทำแบบทดสอบรับเกียรติบัตร ขอเชิญคุณครูและผู้สนใจทุกท่าน ทำแบบทดสอบออนไลน์ แบบทดสอบกิจกรรมวันตรุษจีน-เวียดนาม-เกาหลีออนไลน์ ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด รับเกียรติบัตรทาง E-mail จัดทำโดย โรงเรียนธาตุนารายณ์วิทยา

ทำแบบทดสอบรับเกียรติบัตร ขอเชิญคุณครูและผู้สนใจทุกท่าน ทำแบบทดสอบออนไลน์ แบบทดสอบกิจกรรมวันตรุษจีน-เวียดนาม-เกาหลีออนไลน์ ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด รับเกียรติบัตรทาง E-mail จัดทำโดย โรงเรียนธาตุนารายณ์วิทยา

แบบทดสอบออนไลน์ กิจกรรมวันตรุษจีน-เวียดนาม-เกาหลีออนไลน์

วันตรุษจีน เวียดนาม เกาหลี ความหมายและประเพณีที่คนไทยควรรู้ในยุคโลกาภิวัตน์

วันตรุษจีนหรือเทศกาลตรุษจีนเป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญที่สุดของโลก ที่มีผู้คนนับพันล้านคนทั่วโลกเฉลิมฉลองร่วมกัน ไม่เพียงแต่ในประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประเทศเวียดนาม เกาหลีใต้ และชุมชนชาวจีนในประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทยด้วย เทศกาลนี้มีความสำคัญทางวัฒนธรรม ประเพณี และเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ซึ่งในยุคปัจจุบันที่โลกมีความเชื่อมโยงกันมากขึ้น การเข้าใจวัฒนธรรมและประเพณีของเพื่อนบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนไทยที่ต้องการขยายวิสัยทัศน์และสร้างความเข้าใจระหว่างวัฒนธรรม

ประวัติความเป็นมาและความสำคัญของวันตรุษจีน

วันตรุษจีนมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากว่า 4,000 ปี โดยเริ่มต้นจากการเฉลิมฉลองการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิและการเริ่มต้นปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติจีน เทศกาลนี้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ” หรือ “Spring Festival” ในภาษาอังกฤษ ซึ่งสะท้อนถึงความหมายดั้งเดิมของเทศกาลที่เป็นการต้อนรับฤดูกาลใหม่และความหวังใหม่

ตามตำนานจีนโบราณ เล่าว่ามีสัตว์ประหลาดชื่อ “เนียน” ที่จะออกมาทำร้ายผู้คนในคืนสิ้นปี แต่สัตว์ตัวนี้จะกลัวเสียงดัง สีแดง และแสงสว่าง ดังนั้นผู้คนจึงใช้ดอกไม้ไฟ เสื้อผ้าสีแดง และโคมไฟต่างๆ เพื่อไล่ “เนียน” ให้หนีไป ซึ่งประเพณีเหล่านี้ได้สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

การเฉลิมฉลองตรุษจีนมีความสำคัญในฐานะเป็นเวลาแห่งการพบปะครอบครัว การแสดงความเคารพต่อบรรพบุรุษ และการขอพรให้ปีใหม่เป็นปีที่เจริญรุ่งเรือง ในสังคมจีนดั้งเดิม นี่เป็นช่วงเวลาเดียวในรอบปีที่สมาชิกครอบครัวที่อยู่ห่างไกลจะกลับมารวมตัวกัน ทำให้เทศกาลนี้มีความหมายทางจิตใจและอารมณ์อย่างลึกซึ้ง

วันตรุษจีนในประเทศจีน ประเพณีและพิธีกรรม

ในประเทศจีน การเฉลิมฉลองตรุษจีนเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดของปี โดยการเฉลิมฉลองจะเริ่มต้นจากวันแรกของเดือนแรกตามปฏิทินจันทรคติ และดำเนินต่อไปเป็นเวลา 15 วัน จนถึงเทศกาลโคมไฟ ซึ่งถือเป็นการปิดท้ายเทศกาลตรุษจีนอย่างเป็นทางการ

ก่อนวันตรุษจีน ผู้คนจะทำความสะอาดบ้านอย่างละเอียด เรียกว่า “ล้างบ้าน” เพื่อกำจัดความโชคร้ายของปีเก่าออกไป จากนั้นจะตกแต่งบ้านด้วยโคมไฟสีแดง ดอกท้อทองคำ และกระดาษสีแดงที่เขียนคำอวยพรต่างๆ ที่เรียกว่า “ฟ่าย” หรือ “ชุนเหลียน” การตกแต่งสีแดงมีความเชื่อว่าจะนำมาซึ่งโชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง

อาหารในวันตรุษจีนมีความสำคัญเป็นพิเศษ โดยแต่ละจานจะมีความหมายเป็นมงคล เช่น ปลาที่มีความหมายว่า “ปีแล้วปีเล่ามีเหลือใช้” เส้นหมี่ยาวที่หมายถึงอายุยืน เกี้ยวที่มีรูปร่างคล้ายทองคำโบราณหมายถึงความมั่งคั่ง และส้มที่หมายถึงโชคดี การรับประทานอาหารร่วมกันเป็นครอบครัวในคืนสิ้นปี เรียกว่า “เหนียนเย่อฟาน” ถือเป็นประเพณีที่สำคัญที่สุด

ในระหว่างเทศกาล เด็กๆ จะได้รับ “อั่งเปา” หรือซองแดงที่ใส่เงินจากผู้ใหญ่ เป็นการให้พรและความปรารถนาดี การให้อั่งเปามีหลักการคือต้องเป็นธนบัตรใหม่ จำนวนเป็นเลขคู่ และต้องไม่เปิดดูตรงหน้าผู้ให้

วันตรุษเวียดนาม “เต๊ต” วัฒนธรรมที่คล้ายคลึงแต่มีเอกลักษณ์

ในประเทศเวียดนาม วันตรุษจีนเรียกว่า “เต๊ต” (Tết) หรือ “เต๊ต เหงียน ดาน” ซึ่งเป็นเทศกาลสำคัญที่สุดของชาวเวียดนาม แม้ว่าจะมีรากฐานมาจากวัฒนธรรมจีน แต่เวียดนามได้ปรับประเพณีให้เข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นของตนเองจนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

การเตรียมตัวสำหรับเต๊ตของชาวเวียดนามเริ่มต้นประมาณ 1 เดือนก่อนเทศกาล โดยผู้คนจะเริ่มซื้อของขวัญ เสื้อผ้าใหม่ และอาหารต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการเฉลิมฉลอง การทำความสะอาดบ้านก็เป็นประเพณีสำคัญเช่นเดียวกับจีน แต่เวียดนามเรียกว่า “ทอน ทา”

อาหารประจำวันเต๊ตที่โดดเด่นที่สุดคือ “บาน จุง” ซึ่งเป็นข้าวต้มที่ห่อด้วยใบตอง มีไส้หมูและถั่วเขียว มีตำนานเล่าว่าเป็นอาหารที่ลูกชายของกษัตริย์ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อแสดงความกตัญญูต่อพ่อ นอกจากนี้ยังมี “มุท เหม” ซึ่งเป็นผลไม้และขนมต่างๆ ที่จัดเรียงบนถาดเป็นชุด รวมถึง “ดอกไม้เหลือง” ที่เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรือง

ประเพณีเฉพาะของเวียดนามคือการ “ลี ซี” หรือการเยี่ยมเยือนบ้านคนอื่นในวันแรกของปีใหม่ ผู้คนเชื่อว่าคนแรกที่เข้าบ้านในปีใหม่จะส่งผลต่อโชคชะตาของครอบครัวตลอดปี ดังนั้นจึงมีการเลือกคนที่มีดวงดีหรือประสบความสำเร็จมาเป็นผู้ “เสี่ยงทาย” เข้าบ้านก่อน

การสักการะบรรพบุรุษในวันเต๊ตเป็นประเพณีที่สำคัญมาก โดยครอบครัวจะจัดโต๊ะสักการะด้วยอาหาร ดอกไม้ ธูป และเงินกระดาษ เพื่อเชิญวิญญาณบรรพบุรุษมาร่วมฉลองปีใหม่กับลูกหลาน นี่เป็นการแสดงความเคารพและความกตัญญูต่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว

วันตรุษเกาหลี “ซอลลาล” การผสมผสานระหว่างดั้งเดิมและสมัยใหม่

ในประเทศเกาหลีใต้ วันตรุษจีนเรียกว่า “ซอลลาล” (설날) ซึ่งเป็นวันหยุดยาวที่สำคัญที่สุดของปี การเฉลิมฉลองซอลลาลจะยาวนาน 3 วัน ประกอบด้วยวันก่อนตรุษ วันตรุษ และวันหลังตรุษ ในช่วงนี้คนเกาหลีส่วนใหญ่จะเดินทางกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัว ทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายประชากรครั้งใหญ่ที่เรียกว่า “ประชากรผันแปร”

ประเพณีสำคัญของซอลลาลคือ “เจซา” (제사) ซึ่งเป็นพิธีสักการะบรรพบุรุษ โดยครอบครัวจะตื่นเช้ามาจัดโต๊ะสักการะด้วยอาหารต่างๆ ตามธรรมเนียมปฏิบัติ หลังจากพิธีเสร็จแล้ว สมาชิกครอบครัวจะทำ “เซเบ” (세배) ซึ่งเป็นการกราบไหว้ผู้อาวุโส โดยเด็กๆ และหลานๆ จะกราบผู้ใหญ่เพื่อขอพรปีใหม่ และจะได้รับ “เซเบ โดน” ซึ่งเป็นเงินทิปเป็นของขวัญ

อาหารประจำซอลลาลที่โดดเด่นคือ “ทก” (떡) ซึ่งเป็นเค้กข้าวเกาหลี และ “ทกกุก” (떡국) ซึ่งเป็นซุปข้าวเกี้ยวที่เชื่อกันว่าการกินในวันตรุษจะทำให้อายุเพิ่มขึ้นหนึ่งปี นอกจากนี้ยังมีอาหารเกาหลีแบบดั้งเดิมอื่นๆ เช่น จาปแช กิมจิ บูลโกกิ และขนมต่างๆ

ในยุคปัจจุบัน การเฉลิมฉลองซอลลาลของเกาหลีใต้ได้ผสมผสานระหว่างประเพณีเก่าและเทคโนโลยีใหม่ เช่น การใช้แอปพลิเคชันในการส่งคำอวยพรปีใหม่ การซื้อของขวัญออนไลน์ และการใช้โซเชียลมีเดียในการแชร์ช่วงเวลาแห่งความสุขกับคนที่ไม่สามารถพบปะได้ แต่แกนหลักของเทศกาล ซึ่งคือการรวมตัวกันของครอบครัวและการเคารพบรรพบุรุษ ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ประเพณีเกมส์ “ยุด โนริ” (윷놀이) ซึ่งเป็นเกมโบราณของเกาหลีที่เล่นด้วยไม้ 4 ท่อน ยังคงเป็นกิจกรรมยอดนิยมในวันซอลลาล ครอบครัวจะรวมตัวกันเล่นเกมนี้เพื่อความสนุกสนานและเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว

ความเหมือนและความแตกต่างของประเพณีตรุษในสามวัฒนธรรม

แม้ว่าตรุษจีน เต๊ตเวียดนาม และซอลลาลเกาหลี จะมีรากฐานทางวัฒนธรรมร่วมกัน แต่แต่ละประเทศได้พัฒนาประเพณีให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ความเหมือนที่ชัดเจนคือการให้ความสำคัญกับครอบครัว การสักการะบรรพบุรุษ การใช้สีแดงเป็นสีมงคล และการเชื่อในโชคลางต่างๆ

อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างก็มีอยู่หลายประการ ในด้านอาหาร จีนมีเกี้ยว ปลา และเส้นหมี่ยาว เวียดนาม มีบานจุง และมุทเหม เกาหลีมีทกกุก และทก ในด้านเครื่องแต่งกาย จีนใช้เฉียวซิป สีแดง เวียดนามใช้อ่าวด่าย เกาหลีใช้ฮันบก ในด้านกิจกรรม จีนมีการเต้นรำสิงโต เวียดนามมีลีซี เกาหลีมียุดโนริ

การให้ของขวัญก็แตกต่างกัน จีนให้อั่งเปา เวียดนามให้ “ลีซี เมน” (เงินปีใหม่) เกาหลีให้ “เซเบโดน” วิธีการสักการะบรรพบุรุษก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกันตามความเชื่อและประเพณีของแต่ละประเทศ

ในยุคโลกาภิวัตน์ ความแตกต่างเหล่านี้กลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจและเป็นจุดเรียนรู้ระหว่างวัฒนธรรม มากกว่าจะเป็นอุปสรรคในการเข้าใจกัน การที่คนไทยได้เรียนรู้และเข้าใจประเพณีเหล่านี้ จะช่วยให้สามารถสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก

ผลกระทบทางเศรษฐกิจของเทศกาลตรุษในยุคปัจจุบัน

เทศกาลตรุษจีน เต๊ต และซอลลาล ไม่ได้มีความสำคัญเพียงทางวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ในประเทศจีน การเฉลิมฉลองตรุษจีนสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การขนส่ง อาหาร เครื่องแต่งกาย ของขวัญ และความบันเทิง

การย้ายถิ่นฐานชั่วคราวในช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่เรียกว่า “ชุนยุน” ถือเป็นการเคลื่อนย้ายมวลมนุษย์ครั้งใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีผู้คนเดินทางมากกว่า 3 พันล้านคน-ครั้ง ในช่วงเทศกาล 40 วัน สิ่งนี้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการขนส่งทั้งทางเครื่องบิน รถไฟ และรถโดยสาร

ในประเทศเวียดนาม เต๊ตเป็นช่วงเวลาที่ธุรกิจต่างๆ ทำกำไรมากที่สุดของปี โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ดอกไม้ เสื้อผ้า และของตกแต่งบ้าน การท่องเที่ยวภายในประเทศก็เติบโตอย่างมาก เนื่องจากคนเวียดนามหลายคนเลือกที่จะเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว

ในเกาหลีใต้ ซอลลาลสร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างมาก โดยเฉพาะการขาย “เซโบ พ็อกซอท” หรือชุดของขวัญสำหรับปีใหม่ ซึ่งมีมูลค่าหลายพันล้านวอน อุตสาหกรรมเกมและความบันเทิงออนไลน์ก็ได้ประโยชน์จากการที่ผู้คนใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้น

สำหรับประเทศไทย การเฉลิมฉลองตรุษจีนในย่านเยาวราชกรุงเทพมหานครและพื้นที่อื่นๆ ที่มีชุมชนจีนหนาแน่น ก็สร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวและการค้าไม่น้อย นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมาเที่ยวชมการเฉลิมฉลอง ซื้อของฝาก และลิ้มรสอาหารจีนแท้ๆ สิ่งนี้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น

การฉลองตรุษในประเทศไทยและผลกระทบต่อสังคมไทย

ในประเทศไทย การเฉลิมฉลองตรุษจีนมีความสำคัญมาตั้งแต่สมัยก่อน เนื่องจากมีชุมชนไทยเชื้อสายจีนจำนวนมากที่ได้นำประเพณีนี้มาปฏิบัติสืบทอดกันมา โดยเฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพมहานคร เช่น ย่านเยาวราช สัมพันธวงศ์ และพื้นที่อื่นๆ ที่มีชุมชนจีนตั้งถิ่นฐาน

ย่านเยาวราชถือเป็นใจกลางของการเฉลิมฉลองตรุษจีนในประเทศไทย ในช่วงเทศกาลจะมีการตกแต่งถนนด้วยโคมไฟสีแดง ป้ายอวยพร การแสดงต่างๆ เช่น การเต้นรำสิงโต มังกร และการแสดงดนตรีจีน ร้านค้าต่างๆ จะเปิดขายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเทศกาล เช่น โคมไฟ ของตกแต่ง อาหารจีน และขนมต่างๆ

นอกจากกรุงเทพมหานครแล้ว จังหวัดอื่นๆ ที่มีชุมชนจีนก็มีการเฉลิมฉลองตรุษจีนเช่นกัน เช่น ภูเก็ต สงขลา นครศรีธรรมราช ชลบุรี และสมุทรปราการ แต่ละพื้นที่จะมีการปรับประเพณีให้เข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่น สร้างเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละภูมิภาค

การที่รัฐบาลไทยประกาศให้วันตรุษจีนเป็นวันหยุดราชการ ตั้งแต่ปี 2003 แสดงให้เห็นถึงการยอมรับและเคารพต่อความหลากหลายทางวัฒนธรรมในสังคมไทย สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ชาวไทยเชื้อสายจีนรู้สึกได้รับการยอมรับ แต่ยังเป็นการส่งเสริมความเข้าใจและความสามัคคีระหว่างคนไทยทุกเชื้อชาติ

คำชี้แจง แบบทดสอบออนไลน์ กิจกรรมวันตรุษจีน-เวียดนาม-เกาหลีออนไลน์

ทำแบบทดสอบรับเกียรติบัตร

ขอเชิญคุณครูและผู้สนใจทุกท่าน

ทำแบบทดสอบออนไลน์

แบบทดสอบกิจกรรมวันตรุษจีน-เวียดนาม-เกาหลีออนไลน์

ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด รับเกียรติบัตรทาง E-mail 

จัดทำโดย โรงเรียนธาตุนารายณ์วิทยา

หมายเหตุ

1. ระบบเต็มหรือจำกัดจำนวนต่อวัน แนะนำให้ทำช่วงเช้า
2. ใส่อีเมล์ผิดต้องใช้ gmail เท่านั้น
3. คะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
4. ต้องใช้เวลาในการตอบกลับอีเมล์ อาจนานถึง 1 วัน
5. อาจอยู่ในเมล์ขยะ
6. บางเพจจำกัด gmail และให้ทำได้เพียงครั้งเดียว
7. บางเกียรติบัตรไม่ส่งทางอีเมล์ต้องดาวโหลดจากเว็บไซต์

ตัวอย่างเกียรติบัตร

ตัวอย่างเกียรติบัตร กิจกรรมวันตรุษจีน-เวียดนาม-เกาหลีออนไลน์

ลิงก์สำหรับเข้าทำแบบทดสอบออนไลน์

ขอบคุณแหล่งที่มา : โรงเรียนธาตุนารายณ์วิทยา

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ห้ามพลาด