สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิกทุกท่านครับ วันนี้ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ขอนำเสนอ ร่วมกิจกรรมรับเกียรติบัตร เชิญชวนผู้สนใจทุกท่าน เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดย ห้องสมุดประชาชนอำเภอกุยบุรี
ร่วมกิจกรรมรับเกียรติบัตร เชิญชวนผู้สนใจทุกท่าน ร่วมกิจกรรมและรับเกียรติบัตร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดย ห้องสมุดประชาชนอำเภอกุยบุรี

วันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันที่ประชาชนไทยระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ
วันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันที่มีความหมายอย่างลึกซึ้งสำหรับประชาชนชาวไทยทุกคน เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของพสกนิกรชาวไทย ซึ่งได้เสด็จสู่สวรรคาลัยเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2560 หลังจากทรงครองราชย์มานาน 70 ปี เป็นระยะเวลาที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของราชวงศ์จักรี
พระองค์ท่านทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงอุทิศพระองค์เพื่อประชาชนและการพัฒนาประเทศชาติอย่างไม่เหนื่อยหน่าย ตลอดรัชสมัยที่ทรงครองราชย์ พระองค์ได้ทรงริเริ่มโครงการพัฒนาต่างๆ มากมายที่มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรและผู้ที่อาศัยในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ได้ส่องแสงสว่างให้แก่ผู้คนนับล้านชีวิต และยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนไทยจนถึงทุกวันนี้
พระราชประวัติและการเสด็จขึ้นครองราชย์
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 ณ โรงพยาบาลเมานต์ออเบิร์น นครแคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
การเสด็จขึ้นครองราชย์ของพระองค์เกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ซึ่งเป็นพระราชพี่ได้เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ขณะที่พระองค์ยังทรงพระชนมายุเพียง 18 พรรษา และกำลังทรงศึกษาอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แต่ด้วยความมุ่งมั่นในพระราชกรณียกิจและความรักที่มีต่อประเทศชาติ พระองค์จึงทรงตัดสินพระทัยเสด็จกลับมายังประเทศไทยเพื่อทรงรับภาระหน้าที่อันหนักหนาสาคัญนี้
วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 เป็นวันแห่งความสุขและความปิติยินดีของประชาชนชาวไทย เมื่อพระองค์ทรงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์อย่างเป็นทางการตามพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง โดยได้ทรงเถลิงถวัลยราชสมบัติและเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ตั้งแต่บัดดล พระองค์ได้ทรงอุทิศพระองค์อย่างเต็มเปี่ยมเพื่อประชาชนและประเทศชาติ โดยไม่เคยทรงรู้จักคำว่าเหนื่อยหรือท้อแท้
พระราชกรณียกิจและโครงการพัฒนา
ตลอดระยะเวลา 70 ปีแห่งรัชกาล พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้ทรงดำเนินพระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาประเทศอย่างไม่เหนื่อยหน่าย โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในทุกระดับ ทั้งการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา สาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม
โครงการตามพระราชดำริที่เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับทั่วโลก คือ โครงการเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งพระองค์ทรงพัฒนาปรัชญาและแนวคิดนี้ขึ้นมาจากการศึกษาและสังเกตการณ์ความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรในชนบท หลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเน้นความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ไม่ว่าจะเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงใดๆ
นอกจากนี้ยังมีโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำภาคเหนือ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาดิน โครงการฝนหลวง โครงการปลูกป่าถาวร โครงการพัฒนาดอยตุง และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอีกมากมาย ซึ่งล้วนแต่มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ด้อยโอกาสและผู้ที่อาศัยในพื้นที่ห่างไกล
การดำเนินโครงการเหล่านี้ พระองค์ทรงใช้หลักการทำงานที่เน้นการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนดำเนินการ การทดลองในพื้นที่เล็กก่อนขยายผลไปยังพื้นที่ใหญ่ และการติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลักการทำงานนี้ได้กลายเป็นแบบอย่างสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนไม่เพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังได้รับการยอมรับและนำไปประยุกต์ใช้ในหลายประเทศทั่วโลก
ความรักและความผูกพันระหว่างพระมหากษัตริย์กับประชาชน
สิ่งที่ทำให้พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเป็นที่รักและเคารพนบถือของประชาชนไทยอย่างล้นเหลือ คือ ความใกล้ชิดและความเข้าใจในความเป็นอยู่ของประชาชน พระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปยังทุกภูมิภาคของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ราบลุ่ม ภูเขาสูง หรือเกาะแก่งต่างๆ เพื่อพบปะและรับทราบปัญหาต่างๆ โดยตรงจากประชาชน
พระราชจริยวัตรที่แสดงออกถึงความเรียบง่าย ความอ่อนน้อมถ่อมตน และความเมตตากรุณาต่อประชาชน ทำให้พระองค์ทรงกลายเป็นพ่อที่แท้จริงของประชาชนทุกคน การที่พระองค์ทรงยืนใต้สายฝนเพื่อพบปะกับประชาชน ทรงนั่งคุกเข่าเพื่อพูดคุยกับเด็กน้อยและผู้สูงอายุ และทรงแสดงความห่วงใยต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในทุกโอกาส ล้วนเป็นภาพที่ฝังแน่นในความทรงจำของคนไทยทุกคน
ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างพระองค์กับประชาชนไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่เป็นผลมาจากการที่พระองค์ทรงอุทิศพระองค์อย่างไม่หยุดยั้งตลอดระยะเวลา 70 ปี การที่พระองค์ทรงใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเสด็จพระราชดำเนินไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทย เพื่อพบปะกับประชาชนและติดตามความก้าวหน้าของโครงการต่างๆ ทำให้ประชาชนได้สัมผัสถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างแท้จริง
การรับรองและการยอมรับระหว่างประเทศ
ผลงานและพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไม่เพียงแต่ได้รับการยกย่องจากประชาชนไทยเท่านั้น แต่ยังได้รับการยอมรับและเชิดชูจากประชาคมโลกอีกด้วย องค์การสหประชาชาติได้ทรงรับรางวัล Human Development Lifetime Achievement Award จากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ในปี พ.ศ. 2549 เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของโลกที่ได้รับรางวัลนี้
นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงได้รับรางวัล World Food Prize จากมูลนิธิ World Food Prize ในปี พ.ศ. 2550 ซึ่งเป็นรางวัลที่มีเกียรติสูงสุดในด้านการพัฒนาอาหารและการเกษตรของโลก และทรงได้รับเหรียญทองแห่งเกียรติยศจากองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) อีกหลายครั้ง
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่พระองค์ทรงริเริ่มขึ้น ได้รับการศึกษาและนำไปประยุกต์ใช้ในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาที่ต้องการแนวทางการพัฒนาที่เหมาะสมและยั่งยืน องค์การสหประชาชาติได้รับรองปรัชญานี้เป็นแนวทางการพัฒนาที่สามารถนำไปสู่ความยั่งยืนได้ และได้มีการจัดทำเป็นหลักสูตรการเรียนการสอนในหลายสถาบันการศึกษาทั่วโลก
พระราชธรรมนูญและการปกครองระบบประชาธิปไตย
ตลอดรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ประเทศไทยได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหลายครั้ง แต่พระองค์ทรงดำรงพระองค์อย่างเหนือพรรคเหนือพวก และทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นเอกภาพของชาติ พระองค์ทรงยึดมั่นในหลักการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และทรงใช้พระราชอำนาจตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
พระราชดำรัสในพิธีเปิดรัฐสภาและโอกาสสำคัญต่างๆ ของพระองค์ มักจะเน้นย้ำถึงความสำคัญของความสามัคคี ความรักชาติ และการทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชน พระองค์ทรงเป็นแกนกลางที่รวมใจของคนไทยทุกสีผิว ทุกเชื้อชาติ และทุกความเชื่อให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
การที่พระองค์ทรงดำรงพระองค์เหนือการเมืองพรรคพวก แต่ทรงใส่พระราชหฤทัยในผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก ทำให้พระองค์ทรงเป็นที่เคารพนับถือของนักการเมืองทุกฝ่าย และประชาชนมั่นใจว่าพระองค์จะทรงดำเนินพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์ส่วนรวมเสมอ
พระราชกรรมด้านศิลปะและวัฒนธรรม
นอกเหนือจากการพัฒนาประเทศด้านเศรษฐกิจและสังคมแล้ว พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ยังทรงมีพระราชกรรมด้านศิลปะและวัฒนธรรมอย่างมากมาย พระองค์ทรงเป็นนักดนตรีที่มีฝีพระหัตถ์สูง โดยเฉพาะการเล่นแซกโซโฟน และได้ทรงประพันธ์เพลงมากมาย เช่น เพลงสายฝน เพลงความฝัน เพลงยามเย็น และอีกหลายเพลงที่ได้รับความนิยมและคุ้นหูกับคนไทยทุกคน
พระองค์ทรงส่งเสริมการอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมไทย ทั้งด้านศิลปกรรม หัตถกรรม การแสดง และดนตรีไทย พระราชดำริในการส่งเสริมให้ประชาชนรักษาและสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น ทำให้เกิดการฟื้นฟูวัฒนธรรมและประเพณีไทยที่กำลังจะสูญหายไปในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
การทรงส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ในด้านต่างๆ โดยพระองค์ทรงตั้งมูลนิธิอันเนื่องมาจากพระราชดำริหลายมูลนิธิ เพื่อดำเนินงานในด้านการศึกษา การพัฒนาเด็กและเยาวชน การส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม และการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ด้อยโอกาส ซึ่งมูลนิธิเหล่านี้ยังคงดำเนินงานต่อไปเพื่อสืบสานพระราชปณิธานและพระมหากรุณาธิคุณ
คำชี้แจง ร่วมกิจกรรมและรับเกียรติบัตร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
๑๓ ตุลาคม วันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ขอเชิญร่วมลงนามถวายอาลัย และเชิญชมสารคดีและนิทรรศการเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
13 ตุลาคม เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พสกนิกรชาวไทยร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
โดย : ห้องสมุดประชาชนอำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ Tel. ๐๓๒ ๖๘๑๙๖๐
หมายเหตุ
1. ระบบเต็มหรือจำกัดจำนวนต่อวัน แนะนำให้ทำช่วงเช้า
2. ใส่อีเมล์ผิดต้องใช้ gmail เท่านั้น
3. คะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
4. ต้องใช้เวลาในการตอบกลับอีเมล์ อาจนานถึง 1วัน
5. อาจอยู่ในเมล์ขยะ
6. บางเพจจำกัด gmail และให้ทำได้เพียงครั้งเดียว
7. บางเกียรติบัตรไม่ส่งทางอีเมล์ต้องดาวโหลดจากเว็บไซต์
ตัวอย่างเกียรติบัตร
