สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิกทุกท่านครับ วันนี้ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ขอนำเสนอ ทำแบบทดสอบรับเกียรติบัตร เชิญชวน ผู้สนใจทุกท่าน ทำแบบทดสอบออนไลน์ทดสอบวัดความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์รอบตัว เนื่องในสัปดาห์วันวิทยาศาสตร์ ประจำปีการศึกษา 2566 โดย คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
ทำแบบทดสอบรับเกียรติบัตร เชิญชวน ผู้สนใจทุกท่าน ทำแบบทดสอบออนไลน์ทดสอบวัดความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์รอบตัว เนื่องในสัปดาห์วันวิทยาศาสตร์ ประจำปีการศึกษา 2566 โดย คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

วิทยาศาสตร์รอบตัว ปรากฏการณ์อันน่าทึ่งที่เราพบเจอในชีวิตประจำวัน เนื่องในสัปดาห์วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
วิทยาศาสตร์ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องราวในห้องปฏิบัติการหรือหนังสือเรียนเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเราในทุกช่วงเวลาของชีวิตประจำวัน เมื่อเราตื่นขึ้นมาในตอนเช้าและเริ่มต้นกิจกรรมต่างๆ เราจะพบว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีหลักการทางวิทยาศาสตร์แฝงอยู่ ตั้งแต่การที่แสงแดดส่องผ่านหน้าต่างมาปลุกเรา การที่เราสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ รอบตัว ไปจนถึงการทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน
ในเนื่องในโอกาสสัปดาห์วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ เป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะมาทำความเข้าใจกับปรากฏการณ์วิทยาศาสตร์ที่น่าสนใจเหล่านี้ให้มากขึ้น เพื่อให้เราเห็นคุณค่าและความสำคัญของวิทยาศาสตร์ที่มีต่อชีวิตของเราอย่างแท้จริง การเข้าใจหลักการทางวิทยาศาสตร์เหล่านี้จะช่วยให้เรามีความรู้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งมากขึ้น และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาต่างๆ ในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แสงและการมองเห็น ปฏิกิริยาการเรียนรู้ที่เริ่มต้นด้วยตา
การมองเห็นเป็นหนึ่งในประสาทสัมผัสที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ และเป็นปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่น่าทึ่งมาก เมื่อแสงจากแหล่งกำเนิด เช่น ดวงอาทิตย์หรือหลอดไฟ ตกกระทบบนวัตถุต่างๆ วัตถุเหล่านั้นจะสะท้อนแสงบางส่วนกลับมา และแสงที่สะท้อนกลับมานี้จะเดินทางเข้าสู่ตาของเรา โดยผ่านกระจกตาซึ่งทำหน้าที่เหมือนเลนส์ที่โฟกัสแสงให้ตกกระทบบนจอประสาทตา
จอประสาทตามีเซลล์รับแสงที่เรียกว่าโรดและโคน โรดจะทำงานได้ดีในสภาวะแสงน้อย ช่วยให้เราสามารถมองเห็นในที่มืดได้ ในขณะที่โคนจะทำงานได้ดีในสภาวะแสงสว่าง และเป็นตัวที่ช่วยให้เราสามารถแยกแยะสีสันต่างๆ ได้ เมื่อแสงตกกระทบบนเซลล์เหล่านี้ จะเกิดสัญญาณไฟฟ้าที่ส่งไปยังสมองผ่านทางเส้นประสาทตา สมองจึงแปลความหมายของสัญญาณเหล่านี้และทำให้เราเกิดการรับรู้ภาพต่างๆ
สีสันที่เราเห็นนั้นเกิดจากการที่แสงขาวซึ่งประกอบด้วยแสงหลายสีผสมกัน เมื่อตกกระทบบนวัตถุแล้ว วัตถุนั้นจะดูดซับแสงบางสีไว้และสะท้อนแสงบางสีออกมา สีที่เราเห็นจึงเป็นสีของแสงที่สะท้อนออกมานั่นเอง ตัวอย่างเช่น ใบไม้มีสีเขียวเพราะใบไม้ดูดซับแสงสีอื่นๆ แต่สะท้อนแสงสีเขียวออกมา การทำความเข้าใจเรื่องแสงและการมองเห็นนี้จะช่วยให้เราเข้าใจถึงการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ เช่น กล้องถ่ายรูป กล้องจุลทรรศน์ และกล้องดูดาว
เสียงและการได้ยิน คลื่นแห่งการสื่อสาร
เสียงเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญในชีวิตประจำวัน เสียงเกิดจากการสั่นสะเทือนของวัตถุต่างๆ เมื่อวัตถุสั่นสะเทือน จะทำให้อนุภาคของอากาศที่อยู่รอบๆ สั่นสะเทือนไปด้วย การสั่นสะเทือนนี้จะแพร่กระจายออกไปในรูปแบบของคลื่นเสียง คลื่นเสียงจะเดินทางผ่านตัวกลางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอากาศ น้ำ หรือของแข็ง และเมื่อคลื่นเสียงเดินทางมาถึงหูของเรา จะทำให้แก้วหูสั่นสะเทือน
การสั่นสะเทือนของแก้วหูจะถ่ายทอดไปยังกระดูกเล็กๆ สามชิ้นในหูกลาง ได้แก่ กระดูกค้อน กระดูกทั่ว และกระดูกโกลน กระดูกเหล่านี้จะขยายแรงการสั่นสะเทือนและส่งต่อไปยังหูใน ในหูในจะมีอวัยวะที่เรียกว่าหอยทากซึ่งเต็มไปด้วยของเหลว เมื่อการสั่นสะเทือนเข้าไปในหอยทาก จะทำให้เซลล์ขนเล็กๆ ในหอยทากเกิดการสั่นสะเทือน และเปลี่ยนเป็นสัญญาณไฟฟ้าส่งไปยังสมอง
ความสูงต่ำของเสียงขึ้นอยู่กับความถี่ของคลื่นเสียง เสียงที่มีความถี่สูงจะได้ยินเป็นเสียงแหลม ส่วนเสียงที่มีความถี่ต่ำจะได้ยินเป็นเสียงหนา ความดังของเสียงขึ้นอยู่กับแอมพลิจูดของคลื่น ยิ่งแอมพลิจูดมากเสียงก็จะยิ่งดัง มนุษย์สามารถได้ยินเสียงที่มีความถี่ตั้งแต่ประมาณ 20 เฮิร์ตซ์ ถึง 20000 เฮิร์ตซ์ เสียงที่มีความถี่สูงกว่านี้เรียกว่าอัลตราโซนิก ส่วนเสียงที่มีความถี่ต่ำกว่านี้เรียกว่าอินฟราโซนิก
การทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีในฝ่ามือ
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตร์ โทรทัศน์ ตู้เย็น และเครื่องปรับอากาศ ล้วนแล้วแต่มีหลักการทำงานที่อิงกับกฎของฟิสิกส์และเคมี การทำงานพื้นฐานของอุปกرณ์อิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวข้องกับการไหลของกระแสไฟฟ้า ซึ่งเป็นการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนผ่านวัสดุนำไฟฟ้า
ในโทรศัพท์มือถือ การทำงานจะอาศัยหลักการของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เมื่อเราพูดไปที่ไมโครโฟน เสียงจะถูกแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้า สัญญาณนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นคลื่นวิทยุและส่งออกไปผ่านเสาอากาศ คลื่นวิทยุจะเดินทางไปยังเสาสัญญาณ และถูกส่งต่อไปยังโทรศัพท์ปลายทาง ที่โทรศัพท์ปลายทาง คลื่นวิทยุจะถูกแปลงกลับเป็นสัญญาณไฟฟ้า และสุดท้ายแปลงเป็นเสียงผ่านลำโพง
คอมพิวเตร์ทำงานโดยอาศัยหลักการของระบบเลขฐานสอง ซึ่งใช้เพียงสองสถานะคือ 0 และ 1 ทุกข้อมูลและคำสั่งจะถูกแปลงเป็นรหัสไบนารีที่ประกอบด้วยเลข 0 และ 1 เท่านั้น ทรานซิสเตอร์ซึ่งเป็นส่วนประกอบพื้นฐานของไมโครโปรเซสเซอร์ จะทำหน้าที่เป็นสวิตช์ที่สามารถเปิดหรือปิดได้ การเปิดปิดของทรานซิสเตอร์หลายล้านตัวในเวลาเพียงเศษเสี้ยววินาทีนี้เองที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถประมวลผลข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
ตู้เย็นทำงานโดยใช้หลักการของเทอร์โมไดนามิกส์และการเปลี่ยนสถานะของสาร สารทำความเย็นจะถูกอัดให้เป็นของเหลวที่ความดันสูง จากนั้นจะผ่านเข้าไปในคอยล์ระเหยซึ่งอยู่ภายในตู้เย็น ที่นี่สารทำความเย็นจะระเหยกลายเป็นแก๊ส และในกระบวนการระเหยนี้จะดูดความร้อนจากภายในตู้เย็น ทำให้อุณหภูมิภายในลดลง แก๊สสารทำความเย็นจะถูกดูดไปที่คอมเพรสเซอร์เพื่อทำการอัดและเริ่มวัฏจักรใหม่
อาหารและโภชนาการ เคมีของการดำรงชีวิต
การบริโภคอาหารและการย่อยอาหารเป็นกระบวนการทางชีวเคมีที่ซับซ้อนและน่าทึ่ง อาหารที่เรารับประทานประกอบด้วยสารอาหารหลักสี่ประเภท ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน และวิตามิน รวมทั้งแร่ธาตุและน้ำ สารอาหารเหล่านี้จะถูกย่อยสลายโดยเอนไซม์ต่างๆ ในระบบทางเดินอาหารให้เป็นโมเลกุลขนาดเล็กที่สามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้
คาร์โบไฮเดรตซึ่งพบในอาหารประเภทข้าว แป้ง และน้ำตาล จะถูกย่อยให้เป็นกลูโคส กลูโคสเป็นแหล่งพลังงานหลักของเซลล์ในร่างกาย ในเซลล์ กลูโคสจะผ่านกระบวนการหายใจของเซลล์เพื่อผลิต ATP ซึ่งเป็นสกุลเงินพลังงานของเซลล์ กระบวนการนี้จำเป็นต้องใช้ออกซิเจนและจะผลิตคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำเป็นผลพลอยได้
โปรตีนจากเนื้อสัตว์ ถั่วเมล็ดแห้ง และไข่ จะถูกย่อยให้เป็นกรดอะมิโน กรดอะมิโนเป็นหน่วยพื้นฐานของโปรตีน และเป็นวัตถุดิบสำหรับสร้างโปรตีนใหม่ในร่างกาย เช่น เอนไซม์ ฮอร์โมน และโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบของกล้ามเนื้อ ไขมันจะถูกย่อยเป็นกรดไขมันและไกลเซอรอล ไขมันให้พลังงานสูงกว่าคาร์โบไฮเดรตถึงสองเท่า นอกจากนี้ยังเป็นตัวทำละลายสำหรับวิตามินชนิดที่ละลายในไขมัน
วิตามินและแร่ธาตุแม้ว่าจะต้องการในปริมาณน้อย แต่มีบทบาทสำคัญในการทำงานของเอนไซม์และกระบวนการเมแทบอลิซึมต่างๆ ตัวอย่างเช่น วิตามินซีช่วยในการสร้างคอลลาเจน เหล็กเป็นส่วนประกอบของเฮโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง และแคลเซียมสำคัญต่อความแข็งแรงของกระดูกและฟัน การเข้าใจเรื่องโภชนาการจะช่วยให้เราเลือกรับประทานอาหารได้อย่างเหมาะสมเพื่อสุขภาพที่ดี
สภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศน์ที่เชื่อมโยงกัน
สภาพอากาศที่เราพบเจอในแต่ละวันเป็นผลมาจากปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างองค์ประกอบต่างๆ ของระบบภูมิอากาศโลก แสงแดดที่ส่องมาจากดวงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานหลักที่ขับเคลื่อนระบบสภาพอากาศทั้งหมด เมื่อแสงแดดส่องลงมายังพื้นผิวโลก จะทำให้น้ำในมหาสมุทร แม่น้ำ และแหล่งน้ำต่างๆ ระเหยกลายเป็นไอน้ำขึ้นสู่บรรยากาศ
ไอน้ำที่ขึ้นสู่บรรยากาศจะลอยขึ้นไปสูง และเมื่อพบกับอากาศเย็นจะควบแน่นกลายเป็นเมฆ กระบวนการนี้เรียกว่าการกลั่นตัว เมื่อหยดน้ำในเมฆมีขนาดใหญ่เพียงพอ จะตกลงมาเป็นฝนหรือหิมะ น้ำฝนจะไหลลงสู่แม่น้ำลำธารและกลับสู่มหาสมุทร เริ่มวงจรน้ำใหม่อีกครั้ง วงจรน้ำนี้เป็นกระบวนการที่สำคัญมากต่อชีวิตบนโลก
ลมเกิดจากการที่อากาศในบริเวณต่างๆ มีอุณหภูมิและความดันที่แตกต่างกัน อากาศร้อนจะมีความหนาแน่นน้อยกว่าอากาศเย็น จึงลอยขึ้นสู่ที่สูง ในขณะที่อากาศเย็นจะไหลมาแทนที่ การเคลื่อนไหวของอากาศนี้เองที่เราเรียกว่าลม ลมมีบทบาทสำคัญในการกระจายความร้อนและความชื้นไปทั่วโลก ช่วยสร้างสมดุลทางสภาพอากาศ
การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในปัจจุบันเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์ โดยเฉพาะการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล ได้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นในบรรยากาศ ก๊าซเหล่านี้ดักจับความร้อนไว้ในบรรยากาศ ทำให้อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้น การเข้าใจกระบวนการเหล่านี้จะช่วยให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
พืชและการสังเคราะห์แสง โรงงานผลิตอาหารธรรมชาติ
พืชเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความสามารถพิศดารในการผลิตอาหารได้ด้วยตนเอง ผ่านกระบวนการที่เรียกว่าการสังเคราะห์แสง กระบวนการนี้เกิดขึ้นในคลอโรพลาสต์ของเซลล์พืช โดยใช้แสงแดด คาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศ และน้ำจากรากเป็นวัตถุดิบ เพื่อผลิตกลูโคสและปล่อยออกซิเจนออกมาเป็นผลพลอยได้
คลอโรฟิลล์ซึ่งเป็นสารสีเขียวในใบไม้ มีหน้าที่ดูดซับแสงแดดและเปลี่ยนพลังงานแสงให้เป็นพลังงานเคมี กระบวนการสังเคราะห์แสงแบ่งออกเป็นสองขั้นตอน ขั้นตอนแรกเรียกว่าปฏิกิริยาที่ต้องใช้แสง เกิดขึ้นในไทลาคอยด์ของคลอโรพลาสต์ ในขั้นตอนนี้พลังงานแสงจะถูกใช้ในการแยกโมเลกุลของน้ำ ผลิต ATP และ NADPH รวมทั้งปล่อยออกซิเจน
ขั้นตอนที่สองเรียกว่าปฏิกิริยาที่ไม่ต้องใช้แสงหรือวงจรคาลวิน เกิดขึ้นในสโตรมาของคลอโรพลาสต์ ในขั้นตอนนี้ ATP และ NADPH ที่ผลิตได้จากขั้นตอนแรกจะถูกใช้ในการนำคาร์บอนไดออกไซด์มาสร้างเป็นกลูโคส กระบวนการสังเคราะห์แสงนี้ไม่เพียงแต่ผลิตอาหารให้กับพืชเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งอาหารและออกซิเจนสำหรับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ บนโลกด้วย
นอกจากการสังเคราะห์แสงแล้ว พืชยังมีความสามารถในการปรับตัวต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างน่าทึ่ง ตัวอย่างเช่น รากของพืชจะเจริญไปหาแหล่งน้ำและธาตุอาหาร ลำต้นและใบจะเจริญไปหาแสงแดด ดอกไม้บางชนิดจะเปิดปิดตามเวลา และพืชบางชนิดสามารถปิดใบเมื่อถูกสัมผัส การศึกษาพืชจะช่วยให้เราเข้าใจถึงความสำคัญของพืชต่อสิ่งแวดล้อมและการดำรงชีวิตของเรา
การเคลื่อนที่และแรง กลศาสตร์ในชีวิตประจำวัน
การเคลื่อนที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ตั้งแต่การเดิน วิ่ง ขี่จักรยาน ไปจนถึงการเดินทางโดยรถยนต์หรือเครื่องบิน ทุกการเคลื่อนไหวเหล่านี้ล้วนเป็นไปตามกฎของนิวตันทั้งสามข้อ กฎข้อแรกของนิวตันหรือกฎความเฉื่อย ระบุว่าวัตถุที่อยู่นิ่งจะอยู่นิ่งต่อไป และวัตถุที่เคลื่อนที่จะเคลื่อนที่ต่อไปด้วยความเร็วคงที่ เว้นแต่จะมีแรงภายนอกมากระทำ
คำชี้แจง การทดสอบวัดความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์รอบตัว เนื่องในสัปดาห์วันวิทยาศาสตร์ ประจำปีการศึกษา 2566
แบบทดสอบการความรู้ทั่วไปทางวิทยาศาสตร์เนื่องในสัปดาห์วิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
– ข้อมูลส่วนตัวของผู้ตอบแบบทดสอบ จะเก็บเป็นความลับ ไม่มีการเผยแพร่ใดๆทั้งสิ้น
– ขอให้ท่านตรวจสอบชื่อ นามสกุล และ e-mail ให้ถูกต้อง เนื่องจากเป็นข้อมูลสำคัญที่ใช้ในการออกเกียรติบัตร ซึ่งดำเนินการด้วยระบบอัตโนมัติที่ไม่สามารถแก้ไขได้ในภายหลัง
หมายเหตุ
1. ระบบเต็มหรือจำกัดจำนวนต่อวัน แนะนำให้ทำช่วงเช้า
2. ใส่อีเมล์ผิดต้องใช้ gmail เท่านั้น
3. คะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
4. ต้องใช้เวลาในการตอบกลับอีเมล์ อาจนานถึง 1วัน
5. อาจอยู่ในเมล์ขยะ
6. บางเพจจำกัด gmail และให้ทำได้เพียงครั้งเดียว
7. บางเกียรติบัตรไม่ส่งทางอีเมล์ต้องดาวโหลดจากเว็บไซต์
ตัวอย่างเกียรติบัตร
