สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิก สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม ทุกท่านนะครับ วันนี้พบกับ สื่อฟรีออนไลน์ดอทคอม เช่นเคยครับ วันนี้แอดมินมีไฟล์มาแนะนำให้เพื่อนๆ สมาชิกได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน เป็นไฟล์ คู่มือการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ซึ่งเพื่อนๆ สมาชิกสามารถดาวน์โหลดนำไปศึกษาและนำไปเป็นแนวทางในการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ตามบริบทของสถานศึกษา ได้ครับ แอดมินขอแนะนำไฟล์ คู่มือการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ตามรายละเอียดดังนี้ครับ
ดาวน์โหลด คู่มือการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ

คู่มือการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ สำหรับเจ้าหน้าที่และประชาชนทั่วไป
การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐถือเป็นกระบวนการที่สำคัญยิ่งในการบริหารงานของหน่วยงานราชการทุกระดับ ตั้งแต่ส่วนกลางไปจนถึงส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น เพราะเป็นกลไกหลักในการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติ การทำความเข้าใจในระเบียบและขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร เจ้าหน้าที่พัสดุ หัวหน้าหน่วยงาน หรือแม้แต่ประชาชนที่ต้องการเข้าใจกระบวนการทำงานของภาครัฐ
ระบบการจัดซื้อจัดจ้างของไทยได้มีการพัฒนาและปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการออกกฎหมายและระเบียบใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและเพื่อเพิ่มความโปร่งใสในการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐ กฎหมายหลักที่ใช้บังคับในปัจจุบันคือ พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ซึ่งมีผลบังคับใช้แทนระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กฎหมายฉบับใหม่นี้ได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้มากขึ้น โดยเฉพาะระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์หรือ e-Government Procurement ที่ช่วยให้การดำเนินงานมีความรวดเร็ว โปร่งใส และตรวจสอบได้ง่ายขึ้น
หลักการสำคัญของการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
หลักการพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐคือความโปร่งใสและความสามารถในการตรวจสอบได้ หน่วยงานของรัฐทุกแห่งจะต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างภายใต้หลักการที่ว่าต้องเป็นไปอย่างเปิดเผย เที่ยงธรรม และมีการแข่งขันอย่างเสรี ไม่มีการกีดกันผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเข้ามาแข่งขันได้ นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าของเงินที่ใช้ไป โดยพิจารณาทั้งราคา คุณภาพ และประโยชน์ที่จะได้รับในระยะยาว
หลักการประหยัดเป็นอีกหนึ่งเสาหลักสำคัญ หน่วยงานต้องจัดซื้อจัดจ้างเฉพาะสิ่งที่จำเป็นและเหมาะสมกับความต้องการจริง ไม่สุรุ่ยสุร่ายหรือฟุ่มเฟือย โดยต้องมีการวางแผนงานและงบประมาณให้ดีล่วงหน้า มีการสำรวจราคากลางจากท้องตลาดอย่างละเอียด และเลือกวิธีการจัดซื้อจัดจ้างที่เหมาะสมกับลักษณะและมูลค่าของงาน การดำเนินการทุกขั้นตอนต้องมีเอกสารหรือหลักฐานรองรับอย่างชัดเจน เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นไปตามระเบียบและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการ
วิธีการจัดซื้อจัดจ้างตามกฎหมาย
กฎหมายกำหนดวิธีการจัดซื้อจัดจ้างไว้หลายวิธี แต่ละวิธีมีเงื่อนไขและขั้นตอนที่แตกต่างกันไปตามมูลค่าและลักษณะของงาน วิธีหลักที่ใช้กันมากที่สุดคือวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป ซึ่งเป็นวิธีที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทั่วไปสามารถเข้ามายื่นข้อเสนอได้อย่างเสรี หน่วยงานจะต้องประกาศเชิญชวนล่วงหน้าในระบบอิเล็กทรอนิกส์และหนังสือพิมพ์ตามที่กำหนด โดยระบุรายละเอียดของงานที่ต้องการจัดซื้อจัดจ้าง คุณสมบัติของผู้เสนอราคา หลักเกณฑ์การพิจารณา และวัน เวลา สถานที่ในการยื่นข้อเสนอและการเปิดซองใบเสนอราคาอย่างชัดเจน
วิธีคัดเลือกเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้ในกรณีที่เป็นงานที่มีผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจำนวนจำกัด หรือเป็นงานที่ต้องการความชำนาญเฉพาะทาง หน่วยงานจะคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติเหมาะสมอย่างน้อยสามรายมาเสนอราคา โดยพิจารณาจากผลงานที่ผ่านมา ความสามารถทางเทคนิค ฐานะทางการเงิน และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง วิธีนี้ช่วยให้ได้ผู้รับจ้างที่มีคุณภาพและความน่าเชื่อถือ แต่ยังคงมีการแข่งขันด้านราคาอยู่บ้าง
วิธีเฉพาะเจาะจงเป็นวิธีที่หน่วยงานสามารถติดต่อกับผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่งโดยตรงโดยไม่ต้องมีการแข่งขัน แต่วิธีนี้สามารถใช้ได้เฉพาะในกรณีที่มีเหตุผลความจำเป็นพิเศษเท่านั้น เช่น เป็นงานที่มีผู้ประกอบการที่สามารถผลิตหรือจำหน่ายได้เพียงรายเดียว เป็นงานที่ต้องการความเร่งด่วนเพื่อป้องกันหรือบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น หรือเป็นการซื้อพัสดุเพิ่มเติมจากผู้ขายเดิมเพื่อความเหมาะสมในด้านประสิทธิภาพการใช้งานหรือการบำรุงรักษา การใช้วิธีเฉพาะเจาะจงต้องมีการบันทึกเหตุผลความจำเป็นไว้เป็นหลักฐาน และผู้มีอำนาจต้องให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการ
ขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างแบบละเอียด
การเริ่มต้นกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างจะเริ่มจากการวางแผนและจัดทำแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปี หน่วยงานต้องพิจารณาความจำเป็นและความต้องการใช้พัสดุหรือบริการต่างๆ ในปีงบประมาณนั้น โดยสำรวจจากหน่วยงานย่อยหรือผู้ใช้งานทุกส่วน นำมารวบรวมและจัดลำดับความสำคัญ จากนั้นจึงจัดทำแผนการจัดซื้อจัดจ้างโดยระบุรายการพัสดุหรือบริการ ปริมาณ งบประมาณ กำหนดเวลาที่ต้องการ และวิธีการจัดซื้อจัดจ้าง แผนดังกล่าวจะต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้บริหารและประกาศเผยแพร่ในระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้ผู้ประกอบการทราบล่วงหน้า
เมื่อมีความจำเป็นต้องจัดซื้อจัดจ้างตามแผนที่กำหนดไว้ หน่วยงานจะต้องจัดทำรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุหรือขอบเขตของงานที่ต้องการให้ชัดเจน โดยระบุเฉพาะสิ่งที่จำเป็นต่อการใช้งานจริงเท่านั้น ไม่กำหนดเงื่อนไขที่เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่งโดยเฉพาะ จากนั้นต้องสำรวจราคากลางโดยรวบรวมข้อมูลราคาจากแหล่งต่างๆ อย่างน้อยสามแหล่ง อาจเป็นราคาจากท้องตลาด ราคาที่หน่วยงานอื่นซื้อหรือจ้าง ราคาที่ได้มาจากระบบราคากลางอิเล็กทรอนิกส์ หรือราคาจากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่าย แล้วนำมาพิจารณากำหนดราคากลางที่เหมาะสม
ขั้นตอนต่อมาคือการจัดทำเอกสารประกวดราคาหรือเอกสารเชิญชวน ซึ่งประกอบด้วยรายละเอียดต่างๆ เช่น หลักเกณฑ์การพิจารณาผลการประกวดราคา คุณสมบัติของผู้เสนอราคา แบบรูปรายการละเอียด เงื่อนไขการจ่ายเงิน การรับประกันผลงาน และข้อกำหนดอื่นๆ ที่จำเป็น เอกสารเหล่านี้ต้องผ่านการตรวจสอบความถูกต้องจากเจ้าหน้าที่พัสดุและผู้มีอำนาจอนุมัติก่อนนำไปประกาศเชิญชวน การประกาศเชิญชวนต้องดำเนินการล่วงหน้าตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดเพื่อให้ผู้ประกอบการมีเวลาเตรียมเอกสารและยื่นข้อเสนออย่างเพียงพอ
เมื่อถึงวันเปิดซองใบเสนอราคา จะมีคณะกรรมการเปิดซองสอบราคาที่ได้รับการแต่งตั้งทำหน้าที่เปิดซองต่อหน้าผู้เสนอราคาหรือผู้แทนที่มาร่วมสังเกตการณ์ โดยจะตรวจสอบเอกสารทางเทคนิค หลักฐานการวางหลักประกันซองใบเสนอราคา และราคาที่เสนอของแต่ละราย จากนั้นคณะกรรมการจะจัดทำบัญชีผู้เสนอราคาและอ่านราคาที่เสนอต่อที่ประชุมให้ทุกคนทราบ หลังจากนั้นคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาจะทำหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เสนอราคาว่าเป็นไปตามที่กำหนดไว้หรือไม่ พิจารณาเอกสารทางเทคนิคว่าตรงตามคุณลักษณะเฉพาะที่ต้องการหรือไม่ และเปรียบเทียบราคาที่เสนอกับราคากลาง
หลักเกณฑ์การพิจารณาผู้ชนะการประกวดราคา
การพิจารณาผู้ชนะการประกวดราคาจะยึดหลักราคาต่ำสุดเป็นหลัก แต่ต้องเป็นผู้เสนอราคาที่มีคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วน เสนอรายละเอียดทางเทคนิคที่ตรงตามความต้องการ และเสนอราคาที่ไม่สูงกว่าราคากลางที่หน่วยงานกำหนดไว้ หากผู้เสนอราคาต่ำสุดมีรายละเอียดบางประการที่ไม่ครบถ้วนหรือไม่ชัดเจน คณะกรรมการอาจให้โอกาสชี้แจงหรือแก้ไขเพิ่มเติมได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่ต้องไม่เป็นการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของข้อเสนอ
ในบางกรณีที่เป็นงานซับซ้อนหรือต้องการคุณภาพเป็นพิเศษ หน่วยงานอาจกำหนดให้พิจารณาตามเกณฑ์ราคาและคุณภาพรวมกัน โดยกำหนดน้ำหนักคะแนนให้กับปัจจัยต่างๆ เช่น ราคา ผลงานที่ผ่านมา ศักยภาพของบริษัท แผนการดำเนินงาน และอื่นๆ ผู้ที่ได้คะแนนรวมสูงสุดจะเป็นผู้ชนะการประกวดราคา วิธีนี้ช่วยให้หน่วยงานสามารถคัดเลือกผู้รับจ้างที่มีความสามารถและประสบการณ์เหมาะสมกับงาน ไม่ใช่เลือกเพียงแค่ราคาถูกที่สุดเท่านั้น
เมื่อคณะกรรมการพิจารณาเสร็จแล้วจะเสนอผลการพิจารณาต่อหัวหน้าหน่วยงานหรือผู้มีอำนาจอนุมัติผลการจัดซื้อจัดจ้าง หากผู้มีอำนาจเห็นชอบ หน่วยงานจะประกาศผลการจัดซื้อจัดจ้างและแจ้งให้ผู้ชนะการประกวดราคาทราบเพื่อเข้ามาทำสัญญา ผู้ที่ไม่ชนะการประกวดราคาสามารถตรวจดูเอกสารและอุทธรณ์คำสั่งผลการจัดซื้อจัดจ้างได้หากเห็นว่ามีความไม่เป็นธรรมหรือผิดพลาดไปจากระเบียบ การอุทธรณ์ต้องทำภายในระยะเวลาที่กำหนดและมีเหตุผลสนับสนุนที่ชัดเจน
การทำสัญญาและการบริหารสัญญา
การทำสัญญาเป็นขั้นตอนสำคัญที่ทำให้ข้อตกลงระหว่างหน่วยงานและผู้ขายหรือผู้รับจ้างมีผลผูกพันทางกฎหมาย สัญญาต้องจัดทำเป็นหลักฐานลายลักษณ์อักษรและลงนามโดยผู้มีอำนาจของทั้งสองฝ่าย รายละเอียดในสัญญาต้องครอบคลุมเรื่องสำคัญทุกประการ เช่น วัตถุประสงค์ของการจัดซื้อจัดจ้าง ราคาและเงื่อนไขการชำระเงิน กำหนดเวลาส่งมอบ คุณภาพของพัสดุหรือผลงาน การรับประกันคุณภาพและการแก้ไขข้อบอกพร่อง บทลงโทษในกรณีผิดสัญญา และเงื่อนไขอื่นๆ ที่จำเป็น
ก่อนลงนามในสัญญา ผู้ชนะการประกวดราคาต้องวางหลักประกันสัญญาตามอัตราที่กำหนด ซึ่งอาจเป็นเงินสด หนังสือค้ำประกันของธนาคาร พันธบัตรรัฐบาล หรือหลักทรัพย์อื่นที่หน่วยงานยอมรับ หลักประกันนี้มีไว้เพื่อเป็นหลักฐานแสดงความจริงจังในการปฏิบัติตามสัญญา และจะใช้เป็นค่าปรับหรือค่าเสียหายในกรณีที่ผู้รับจ้างไม่ปฏิบัติตามสัญญา นอกจากนี้ในบางกรณีอาจมีการกำหนดให้วางหลักประกันอื่นเพิ่มเติม เช่น หลักประกันการรับเงินค่าจ้างล่วงหน้า หรือหลักประกันการบำรุงรักษา
ระหว่างระยะเวลาการปฏิบัติตามสัญญา หน่วยงานต้องมีการบริหารสัญญาอย่างใกล้ชิด โดยแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจรับพัสดุหรือคณะกรรมการควบคุมงานตามลักษณะของงาน คณะกรรมการเหล่านี้มีหน้าที่ติดตามความคืบหน้าของงาน ตรวจสอบคุณภาพและปริมาณของพัสดุหรือผลงานที่ส่งมอบ แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติงาน และประสานงานระหว่างหน่วยงานกับผู้รับจ้าง หากมีเหตุจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงรายละเอียดหรือเงื่อนไขในสัญญา ต้องทำเป็นหลักฐานลายลักษณ์อักษรโดยได้รับความเห็นชอบจากผู้มีอำนาจก่อน
ตัวอย่างไฟล์ คู่มือการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ



