
บทความนี้ สื่อฟรีออนไลน์.com
ขอแนะนำไฟล์ การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้
ประเด็นท้าทาย PA
เครดิต : คุณครูนิชรา พรมประไพ
เป็นไฟล์ Word แก้ไขได้
สรุปรายละเอียดได้ดังนี้ครับ
๒๔ เทคนิคการสอนอ่านที่ครูไทยทุกคนควรรู้ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านของนักเรียนอย่างครบวงจร
การอ่านเป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในการเรียนรู้ เป็นประตูสู่โลกแห่งความรู้และจินตนาการ ครูนิชรา พรมประไพ จากโรงเรียนวชิรปราการวิทยาคม จังหวัดกำแพงเพชร ได้พัฒนาเทคนิคการสอนอ่านที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมตั้งแต่การอ่านออกเสียงพื้นฐานไปจนถึงการวิเคราะห์และสร้างสรรค์งานเขียน กิจกรรมทั้ง ๒๔ ข้อนี้จะช่วยให้นักเรียนพัฒนาทักษะการอ่านอย่างเป็นระบบและสนุกสนาน
การฝึกอ่านออกเสียงให้ถูกต้องชัดเจน
การอ่านออกเสียงเป็นรากฐานสำคัญของการอ่าน กิจกรรมแรกคือการฝึกอ่านออกเสียงตามฐานกรณ์ ซึ่งเป็นการทำความเข้าใจว่าเสียงพยัญชนะแต่ละตัวเกิดจากการใช้อวัยวะในช่องปากอย่างไร ฐานที่เกิดเสียงมี ๕ ฐาน ได้แก่ คอ เพดาน ปุ่มเหงือก ฟัน และปาก การเข้าใจตำแหน่งการออกเสียงจะช่วยให้ออกเสียงได้ชัดเจนและถูกต้อง
กิจกรรมที่สองเป็นการนำเอาหลักฐานกรณ์มาประยุกต์ใช้ในการร้องเพลงระบำ ก ไก่ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นจากตำบลไตรตรึงษ์ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร การใช้เพลงประกอบการเรียนรู้ทำให้นักเรียนจดจำและฝึกออกเสียงได้อย่างสนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ และสามารถแก้ไขปัญหาการออกเสียงที่ไม่ถูกต้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การอ่านคำยาก บาลี สมาส เป็นอีกหนึ่งความท้าทายสำหรับผู้เรียนภาษาไทย คำเหล่านี้มีหลักการอ่านที่แตกต่างจากคำไทยทั่วไป บางคำอ่านตามอักขรวิธีเดิม บางคำอ่านแบบมีตัวสะกด และบางคำอ่านแบบอักษรนำ การฝึกฝนและจดจำจะช่วยให้อ่านได้คล่องและถูกต้อง
การเรียนรู้กฎเกณฑ์พิเศษของภาษาไทย
คำที่ใช้พยัญชนะ ฑ เป็นพยัญชนะต้นมักเป็นคำที่มาจากภาษาสันสกฤต สามารถออกเสียงได้สองแบบคือ เสียง ด และเสียง ท ส่วนคำที่มี ฤ ฤๅ ก็มีหลักการอ่านที่แน่นอน เช่น ฤ ที่ตามหลัง ก ต ท ป ศ ส จะอ่านว่า ริ แต่ถ้าตามหลัง ค น พ ม ห จะอ่านว่า รึ การเข้าใจหลักเกณฑ์เหล่านี้จะช่วยให้อ่านคำยากได้ถูกต้อง
คำที่ออกเสียง อัย อัน อำ สามารถสะกดได้หลายรูปแบบ เช่น คำที่ออกเสียง อัย สะกดได้ ๔ แบบคือ ใอ ไอ อัย ไอย คำที่ออกเสียง อัน ก็มีหลายรูปแบบเช่นกัน เช่น พัน พรร ภัณฑ์ พรรณ พันธ์ พรรค์ การฝึกฝนจะช่วยให้นักเรียนจำแนกและใช้ได้อย่างถูกต้อง
การฝึกอ่านคำลดรูปและไร้สระเป็นอีกหนึ่งทักษะที่สำคัญ คำไทยทุกคำมีเสียงสระแม้จะไม่ปรากฏรูปสระก็ตาม คำที่มาจากบาลีสันสกฤตมักมีเสียงสระ อะ อยู่โดยไม่มีรูป ส่วนคำไทยแท้ก็มีการลดรูปสระเช่นกัน การฝึกอ่านคำเหล่านี้จะช่วยให้อ่านได้คล่องขึ้น
การอ่านคำที่มี กระ ประ และคำที่มี ร ควบกล้ำต้องออกเสียงให้ชัดเจน พยัญชนะทั้งสองตัวต้องออกเสียงพร้อมกัน การออกเสียงได้ชัดเจนแสดงถึงภูมิรู้ด้านภาษาและทำให้เกิดความไพเราะของเสียงอีกด้วย การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้พัฒนาทักษะนี้ได้
อักษรนำเป็นคำที่มีพยัญชนะสองตัวเรียงกัน โดยเสียงพยัญชนะตัวหน้ามีอิทธิพลต่อพยางค์หลัง ทำให้ออกเสียงเหมือนมี ห นำ มีหลายแบบเช่น ห นำอักษรต่ำ อักษรสูงนำอักษรต่ำ และอักษรกลางนำอักษรต่ำ การเข้าใจและฝึกฝนจะช่วยให้อ่านได้ถูกต้อง
การอ่านคำที่มีรูปวรรณยุกต์ต้องเข้าใจว่าคำภาษาไทยมีรูปวรรณยุกต์ ๔ รูป ๕ เสียง เนื่องจากระดับเสียงของพยัญชนะไม่เท่ากัน มีเสียงกลาง เสียงสูง และเสียงต่ำ เมื่อเติมรูปวรรณยุกต์การผันเสียงจะต่างกันออกไป การสังเกตและฝึกฝนจะช่วยให้อ่านออกเสียงได้ถูกต้อง
การพัฒนาความเข้าใจในการอ่าน
การอ่านไม่ใช่แค่การออกเสียงให้ถูกต้องเท่านั้น แต่ต้องเข้าใจความหมายของศัพท์และสารที่ได้รับด้วย ภาษาสื่อความหมายผ่านคำและข้อความต่าง ๆ มีศัพท์เฉพาะมากมาย การอ่านบ่อย ๆ และแปลศัพท์เหล่านั้นจะช่วยให้เข้าใจสารที่ผู้เขียนต้องการสื่อและนำไปใช้ประโยชน์ได้
การอ่านจับใจความสำคัญเป็นทักษะที่จำเป็น ในแต่ละข้อความจะมีใจความสำคัญที่ผู้เขียนต้องการสื่อสาร และใจความรองที่ขยายใจความหลักให้ชัดเจน หลักการจับใจความสำคัญต้องตั้งจุดมุ่งหมายในการอ่านให้ชัดเจน อ่านอย่างคร่าว ๆ พอเข้าใจ เก็บใจความสำคัญของแต่ละย่อหน้า แล้วสรุปเรียบเรียงใหม่ด้วยสำนวนของตนเอง
การอ่านเพื่อศึกษาค้นคว้ามีความมุ่งหมายชัดเจนว่าจะศึกษาเรื่องอะไร จากนั้นจึงเลือกหาหนังสือที่จะค้นคว้า โดยพิจารณาจากประเภทของหนังสือ ส่วนประกอบที่สำคัญของหนังสือจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ค้นคว้าได้รวดเร็วขึ้น เช่น คำนำ สารบัญ บัญชีตารางและภาพ ภาคผนวก บรรณานุกรม และดัชนี
การอ่านประยุกต์นำไปใช้มีจุดมุ่งหมายหลัก ๓ ประเด็นคือ อ่านเพื่อรับความรู้ อ่านเพื่อความเพลิดเพลิน และอ่านเพื่อเป็นคติชีวิตและจรรโลงใจ การอ่านตามจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกันจะช่วยให้นำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย
การอ่านสื่อสมัยใหม่
การอ่านข่าวต้องเข้าใจว่าข่าวคือเหตุการณ์หรือเรื่องราวที่เกิดขึ้น มีความสำคัญและมีผลกระทบต่อประชาชน สาระสำคัญของข่าวประกอบด้วย เมื่อไร ใคร ทำอะไร ที่ไหน ทำไม อย่างไร โครงสร้างของข่าวมีพาดหัวข่าว ความนำ และเนื้อข่าว การเขียนข่าวมีเนื้อที่จำกัดจึงมักใช้อักษรย่อและคำที่เข้าใจกันโดยนัย
การคิดเติมต่อพาดหัวข่าวและเนื้อหาเป็นการฝึกทักษะการคาดการณ์และเข้าใจโครงสร้างของข่าว หากมีเวลาน้อยอาจอ่านเพียงพาดหัวข่าวหรือความนำก็สามารถจับใจความสำคัญได้แล้ว ทักษะนี้จะช่วยให้อ่านข่าวได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
การอ่านนิทานไม่เพียงแต่ได้รับความสนุกสนานและคติธรรมเท่านั้น ยังเป็นการส่งเสริมจินตนาการอีกด้วย นิทานพื้นบ้านของไทยมีหลายประเภท แต่ละเรื่องสะท้อนวิถีชีวิต ความเชื่อ และคติธรรมของสังคมไทย การอ่านนิทานจะช่วยให้เข้าใจวัฒนธรรมและสามารถนำไปสร้างสรรค์งานใหม่ได้
การอ่านโฆษณาต้องใช้วิจารณญาณ โฆษณาเป็นการโน้มน้าวใจให้ลูกค้าซื้อสินค้าด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น ใช้คนที่มีชื่อเสียง การใช้เหตุผลอย่างหนักแน่น การแสดงว่าเข้าใจลูกค้า การชี้ให้เห็นข้อดีข้อเสีย และการสร้างความหรรษา ผู้อ่านควรหาข้อมูลอย่างรอบด้านก่อนตัดสินใจ
การอ่านงานเขียนประเภทคำคม ข้อคิด ปรัชญา หรือสร้างแรงบันดาลใจจะทำให้ผู้อ่านรู้สึกมองโลกในแง่ดี เพราะจะให้คติในการดำเนินชีวิตและสามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้ได้ คำคมที่ดีต้องแสดงถึงการใช้ความคิดหรือแสดงให้เกิดความรู้สึกอย่างชัดเจนเพื่อให้ผู้อ่านเกิดความลึกซึ้ง
การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์
การอ่านแล้วฝึกจำแนกแยกแยะเป็นการวิเคราะห์รายละเอียด การวิเคราะห์หมายถึงการใคร่ครวญพิจารณาเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยการแยกแยะออกเป็นส่วน ๆ ว่ามีองค์ประกอบอะไรบ้างและมีความสัมพันธ์กันอย่างไร แล้วหาข้อสรุปเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ต่อไป
การวิเคราะห์ประกอบด้วยการดูรูปแบบของงานประพันธ์ แยกเนื้อเรื่องออกเป็นส่วน ๆ ให้เห็นว่าใครทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร เรื่องราวเป็นอย่างไร และการพิจารณาถ้อยคำสำนวนว่าใช้ถ้อยคำตรงไปตรงมาหรือใช้ถ้อยคำในเชิงเปรียบเทียบ เสียดสี อ่านแล้วเกิดความรู้สึกหรือเกิดภาพอย่างไร
การคิดวิเคราะห์หาเหตุผลจนเข้าใจเป็นกระบวนการทางสมองที่เกิดขึ้นเมื่อมีสิ่งเร้ามากระตุ้น การคิดอย่างมีเหตุผลต้องอาศัยหลักการหรือข้อเท็จจริงที่ถูกต้องสนับสนุนอย่างเพียงพอ จึงทำให้ผิดพลาดน้อย การแสดงความคิดที่มีเหตุผลต้องประกอบด้วยเหตุผลและข้อสรุปที่ได้มาจากเหตุผล
การพัฒนาทักษะการอ่านอย่างเป็นระบบ
บันได ๙ ขั้นในการพัฒนาทักษะการอ่านของถนอมวงศ์ ล้ำยอดมรรคผล เป็นแนวทางที่ดีในการฝึกอ่านให้เก่ง ได้แก่ มีสมองไว้คิด ทำจิตให้แจ่มใส สนใจอ่านทุกหนังสือ อย่าถือดิกเป็นคัมภีร์ อย่าอ่านจี้เป็นคำ ๆ ฝึกความจำย่อ ๆ รู้จักขอความช่วยเหลือ อ่านไม่เบื่อทุกวิชา และชีวิตมีค่าและประสบความสำเร็จ
การหัดแบ่งปันความรู้จากการอ่านเป็นการส่งเสริมให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้มาแบ่งปัน ซึ่งจะช่วยให้ผู้แบ่งปันเองก็จะยิ่งแม่นยำและเชี่ยวชาญมากขึ้น วิธีแบ่งปันมีหลายรูปแบบ เช่น การเขียนบรรณนิทัศน์ การพูดแนะนำหนังสือ การทำสื่อต่าง ๆ และการเผยแพร่ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก
การสร้างผลงานการอ่านสู่งานเขียนเป็นการพัฒนาทักษะสูงสุด การอ่านบ่อย ๆ จะช่วยให้ได้คำศัพท์ สำนวนภาษา และแนวทางในการเขียน วิธีการสร้างงานเขียนจากการอ่านมีหลายแบบ เช่น เขียนสรุปความรู้สั้น ๆ บันทึกการอ่านแบบย่อความ เขียนเล่าเรื่อง เขียนสร้างสรรค์ และเขียนเป็นงานประเภทร้อยกรอง
การอ่านทุกวันสร้างสรรค์ด้วยความเพียรเป็นการปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน ขั้นตอนการฝึกได้แก่ อ่านทุกวันเริ่มจากวันละนิดละหน่อย อ่านทุกอย่างที่ขวางหน้า อ่านจริงจังเริ่มจากสิ่งที่ชอบ และหาวิธีนำสิ่งที่อ่านไปใช้ประโยชน์ เมื่อทำอย่างสม่ำเสมอจะกลายเป็นนิสัยรักการอ่าน
การฝึกแลกเปลี่ยนประสบการณ์อ่านด้วยกันเป็นการขยายเครือข่ายด้านการอ่าน ผู้เรียนควรรู้จักวิธีการค้นคว้ารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน นำข้อมูลมาวิเคราะห์จุดเด่นจุดด้อย สร้างสรรค์กิจกรรมใหม่ วางแผนการขยายเครือข่าย และลงมือปฏิบัติตามแผน
เทคนิคการสอนอ่านทั้ง ๒๔ ข้อนี้เป็นแนวทางที่ครบวงจรในการพัฒนาทักษะการอ่านของนักเรียน เริ่มตั้งแต่การอ่านออกเสียงพื้นฐาน การเข้าใจความหมาย การวิเคราะห์ การประยุกต์ใช้ และการสร้างสรรค์งานใหม่ การนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้นักเรียนพัฒนาทักษะการอ่านอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งในการเรียนรู้ตลอดชีวิต
การพัฒนาทักษะการอ่านไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ในชั่วข้ามคืน แต่ต้องอาศัยความอดทนและความมุ่งมั่นทั้งจากครูผู้สอนและตัวนักเรียนเอง ครูควรสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมการอ่านและให้กำลังใจนักเรียนอยู่เสมอ การจัดกิจกรรมที่หลากหลายและสนุกสนานจะช่วยให้นักเรียนรักการอ่านและพัฒนาทักษะไปพร้อม ๆ กัน ผลที่ได้คือนักเรียนที่มีทักษะการอ่านที่ดี สามารถแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และเติบโตเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของสังคมต่อไป
ขอแนะนำไฟล์ การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้
เครดิต : คุณครูนิชรา พรมประไพ
เป็นไฟล์ Word แก้ไขได้